1 2 3 4
5 6 7 8 9 10 11
12 13 14 15 16 17 18
19 20 21 22 23 24 25
26 27 28 29 30 31
Milan Schultz
มิลาน ชูลทส์ (Milan Schultz) นักวิทยาศาสตร์จากประเทศสาธารณรัฐเชคเล่าถึงหนทางสู่อิสลามของเขาในการประชุมเรื่องข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์ที่ปรากฏในอัล-กุรอานและซุนนะฮ์ครั้งที่ 8 (The Eight International Conference on the Scientific Signs in the Qur’an and Sunnah) ที่ประเทศคูเวตช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2006 มิลานบอกว่าหลังจากที่เขาได้พินิจพิจารณาเรื่องจักรวาลทำให้เขาเปลี่ยนจากผู้ไม่เชื่อในพระเจ้ามาเป็นผู้ที่ศรัทธาเมื่อ 25 ปีก่อน “แต่ผมไม่ได้มองหาศาสนาอะไรหรอกนะ เพราะผมเชื่อว่าทุกศาสนานั้นผิดหมด” เขากล่าว “และโดยเฉพาะกับศาสนาอิสลามแล้ว มีแต่ภาพพจน์ในแง่ลบ” ต่อมาเขาได้อ่านอัล-กุรอานและในนั้นเขาเจอข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์ที่นักวิทยาศาสตร์เพิ่งจะค้นพบเมื่อไม่นานมานี้ และนี่เองที่นำเขาไปสู่การรับอิสลาม ถอดความจากวีดิโอ...แปลและเรียบเรียงโดย วาริษาฮ์ อัมรีล อัสลามุอลัยกุม, ผมมีเรื่องราวสั้นๆ จะเล่าให้ฟัง... มีคนชอบถามว่าทำไมผมถึงหันมาเป็นมุสลิม ผมบอกพวกเขาว่าก็เพราะพระเจ้าแสดงให้ผมเห็นว่าทำไมผมถึงต้องเป็นมุสลิมนะสิ! ในช่วง 35 ปีแรกของชีวิต ผมเป็นผู้ไม่ศรัทธาในพระเจ้า ผมรู้ว่าไม่มีพระเจ้า ผมไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องมีพระเจ้า และผมก็ไม่ศรัทธาในพระเจ้า ผมสนใจวิทยาศาสตร์ตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ผมมีความรู้ทางวิทยาศาสตร์เพิ่มมากขึ้น และเมื่อ 25 ปีก่อน มันสว่างวาบในใจผมขึ้นมาเลย ผมสรุปได้ว่า จักรวาลของเราถูกสร้างมาอย่างสมบูรณ์แบบ อย่างเป็นระเบียบดีมาก ทุกอย่างลงตัวไปหมด ดังนั้นต้องมีพระเจ้าแน่ๆ ในวินาทีนั้น ผมเปลี่ยนความคิดแบบ 180 องศา คือ เปลี่ยนจากที่มั่นใจสุดๆ ว่าไม่มีพระเจ้า ไปยังความคิดที่มั่นใจแบบสุดๆ เช่นกันว่า ‘ต้องมีพระเจ้าแน่ๆ’ และพระเจ้าต้องมีเพียงหนึ่งเดียว (อัลลอฮุอักบาร – อัลลอฮทรงเกรียงไกร) ผมยอมรับว่าต้องมีพระเจ้าแน่ๆ นั่นคือผมกำลังบอกว่า ‘อัชฮาดุอัลลาอิลาฮาอิลลัลลอฮ’ (ฉันเชื่อว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮ) แต่ผมไม่ได้มองหาศาสนานะ ผมเชื่อว่าศาสนาทุกศาสนาผิดหมด ศาสนาคริสต์บอกว่าพระเจ้ามีหนึ่งเดียว ศาสนายูดายบอกว่าชาวยิวเป็นกลุ่มชนที่พระเจ้าเลือก (chosen people) และหากคุณไม่ใช่ชาวยิว คุณก็มิใช่คนที่พระเจ้าเลือก ในขณะที่ศาสนาอิสลามนั้น ผมเจอแต่ข่าวในแง่ลบ แต่ผมก็ไม่อยากจะเป็นคนเมินเฉย ไม่แยแสในศาสนา ดังนั้นผมก็เลยบอกว่าโอเค งั้นผมจะเริ่มอ่านไบเบิล ในไบเบิล ผมเจอหลายส่วนที่รู้เลยว่าเป็นพระวจนะที่มาจากพระเจ้า ซึ่งคุณรู้สึกได้จากหัวใจของคุณเอง และคุณจะเห็นว่ามีหลายส่วนในไบเบิลอีกเช่นกันที่มิได้มาจากพระเจ้า แต่มาจากการเขียนขึ้นโดยมนุษย์ เพราะข้อความในบางหน้าของคัมภีร์ขัดแย้งกับข้อความในอีกหน้าหนึ่ง ผมเลยรู้ว่าไบเบิลเขียนขึ้นโดยมนุษย์หลายปีหลังพระเยซูจากโลกนี้ไปแล้ว จากนั้นผมก็ซื้ออัล-กุรอานมาอ่าน เป็นอัล-กุรอานฉบับแปลภาษาอังกฤษ ตอนที่ผมเริ่มอ่านคัมภีร์เล่มนี้ ผมเริ่มต้นด้วยความรู้สึกเดียวกับที่อ่านไบเบิล คือผมคิดว่าหนังสือเล่มนี้ก็ต้องเขียนขึ้นมาโดยมนุษย์เช่นกัน ต่างกันเพียงแค่อัล-กุรอานนี้ เรารู้ชื่อผู้เขียน คือ มุฮัมมัด หลังจากผมอ่านอัล-กุรอานไปได้ 1 ใน 3 ส่วนของเล่มแล้ว ผมจำได้ว่าผมบอกกับภรรยาผมว่า ‘เธอรู้มั้ย, ผู้ชายคนนี้, มุฮัมมัดนี่เขาต้องเป็นผู้ชายที่ฉลาด อัจฉริยะมากๆ เพราะหนังสือที่เขาเขียนช่างแจ่มแจ้งชัดเจน มีตรรกะเหตุผลมากๆ อ่านง่าย และที่สำคัญที่สุดคือทั้งเล่มไม่มีข้อความที่ขัดแย้งกันเลย’ และเมื่อผมอ่านต่อไปอีก ทันใดนั้นผมก็เจอเข้ากับข้อความที่เป็นข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์ที่ผมรู้ว่าเพิ่งถูกค้นพบโดยนักวิทยาศาสตร์ในยุคเราคือในศตวรรษที่ 20 นี่เอง ดังนั้นผมจึงพบว่า มุฮัมมัดมิใช่ผู้เขียนอัล-กุรอานแน่ๆ แต่เขาเป็นเพียงศาสนฑูตที่ถูกส่งลงมาจากพระผู้เป็นเจ้าเพื่อนำอัล-กุรอานมาให้มนุษยชาติ ผมเจอว่า มาชาอัลลอฮ มุฮัมมาดัลรอซูลุลลอฮ (มุฮัมมัดเป็นศาสนฑูตของพระเจ้า) ดังนั้นผมเลยพูดว่า มาชาอัลลอฮ ผมเป็นมุสลิม แล้วก็มีคนถามว่า คุณมีปฏิกิริยาอย่างไร ก็คุณเคยบอกว่าคุณเคยได้ยินแต่เรื่องราวไม่ดีเกี่ยวกับมุสลิม คุณรู้สึกอย่างไรล่ะ? คุณอยากจะเป็นมุสลิมหรือ? ผมเลยบอกว่า ผมไม่มีทางเลือก เพราะตอนผมเกิดมา ยังเป็นทารก ผมไม่รู้หรอกว่าผมแตกต่างจากแม่ของผม พอโตขึ้นหน่อยผมจะร้องไห้เมื่อแม่ไม่อยู่ ผมกลัวว่าเธอจะไปแล้วไปลับ ผมก็ยังไม่รู้ว่าผมคือใคร แล้ววันหนึ่งผมก็พบว่า มาชาอัลลอฮ ผมเป็นเด็กผู้ชาย แล้วก็ไม่มีใครมาถามหรอกว่าผมอยากเป็นเด็กผู้ชายหรือเปล่า ไม่มีหรอก เพราะเราไม่มีทางเลือก พระเจ้าสร้างเรามาแบบนี้ ผมมีชีวิตครอบครัวที่ดีมากๆ มีภรรยาที่แสนดีและลูกที่น่ารัก แต่พรที่วิเศษสุดในชีวิตของผมก็คือการที่พระเจ้าได้ให้ทางนำแก่ผม และเมื่อผมละหมาด ผมขอดุอา (ขอพร) ว่า เมื่อไหร่ที่ผมเสียชีวิตก็ขอให้ผมเสียชีวิตในสภาพของผู้ที่ศรัทธาในพระเจ้าเถิด อย่าให้ผมกลายเป็นผู้ไม่ศรัทธาเหมือนในอดีต เมื่อสักครู่นี้ผมได้ยินใครบางคนในนี้ติงว่า ไม่แน่นะ ข้อความที่ปรากฏในอัล-กุรอานอาจจะไม่ตรงกับหลักวิทยาศาสตร์ก็ได้ เราไม่ควรบอกว่าวิทยาศาสตร์นั้นถูกต้องเสมอไป แต่คุณรู้มั้ย พระเจ้าได้บอกไว้ในอัล-กุรอานว่า ‘เราได้แสดงความมหัศจรรย์ของเราแก่ผู้ที่ต้องการความแน่นอน’ ดังนั้นคำตอบของผมก็คือ หากคุณมีศรัทธาที่เข้มแข็ง และมีความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เมื่อคุณเห็นข้อความที่เป็นข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์ในอัล-กุรอาน คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเลยว่ามันจะผิดหรือถูกตามหลักวิทยาศาสตร์ มันกระโดดออกมาเอง จะโดนใจคุณเลย จนคุณต้องร้องออกมา มาชาอัลลอฮ นี่เป็นสัญญาณจากพระผู้เป็นเจ้า คุณจะไม่มีข้อสงสัยเลยและจะรู้สึกว่าต้องถ่อมตัว เพราะคุณรู้ว่าในคัมภีร์เล่มนี้มีแต่ความจริง ไม่มีความเท็จเลยแม้แต่น้อย หนังสือเล่มนี้ไม่มีข้อผิดพลาดเพราะเป็นหนังสือที่มาจากพระวจนะของพระผู้เป็นเจ้า และพระองค์ไม่ได้บอกอะไรที่ผิดไปจากข้อเท็จจริงเลย ท้ายที่สุดนี้ ผมขอขอบคุณผู้จัดงานประชุมที่จัดได้วิเศษมาก อัสลามุอลัยกุม.
Create Date : 21 สิงหาคม 2550
Last Update : 21 สิงหาคม 2550 22:23:33 น.
2 comments
Counter : 575 Pageviews.
โดย: นะ(รก) วันที่: 21 สิงหาคม 2550 เวลา:23:02:51 น.
โดย: Aisha วันที่: 24 สิงหาคม 2550 เวลา:18:30:30 น.
อัลฮัมดุลิลลาฮฺ จากที่เห็นส่วนมากจะเป้นนักวิทยาศาตร์เสียแยะที่เข้ารับอิสลาม
ด้วยความเคารพค่ะ
วัสสลาม