รีวิวนี้ได้รับเชิญจากห้องอาหาร No. 43 Italian Bistro โรงแรมเคปเฮ้าส์ หลังสวน ให้ไปลิ้มลองเมนูพิเศษแบบ6 คอร์ส ในช่วง เทศกาลอาหาร ‘ล็อบสเตอร์เจ้าสมุทร’ โดยมีเชฟเซบาสเตียน ชไนเดอร์ เป็นเชฟผู้รังสรรค์ความอร่อยให้กับเมนูล็อปเตอร์แต่ละจานค่ะ

ด้านหน้าทางเข้าห้องห้องอาหารจะมีขายเบเกอรี่ด้วย เล็กได้ลองชิมครัวซองเนยสดที่นำเข้าจากฝรั่งเศส เนยฉ่ำๆ หอมๆ อร่อยดีนะคะที่สำคัญราคาไม่แพงค่ะ ชิ้นละ 25 บาท

บรรยากาศภายในห้องอาหารจะกว้างๆ อบอุ่น ไม่หรูหราจนอึดอัด ออกแนวนั่งสบายๆ เท่าที่สังเกตุ แขกส่วนมากจะเป็นชาวต่างชาติค่ะ

ทางโรงแรมแจ้งว่าเมนูขึ้นชื่อของห้องคือพิซซ่าแบบโฮมเมด ทำถาดต่อถาด และเป็นแบบ original แป้งบางแห้ง ชีสชุ่มฉ่ำ ส่วนตัวเล็กชอบพิซซ่าแบบนี้มากๆกินได้เรื่อยๆแป้งไม่หนาเลี่ยน

ถาดนึงรอไม่นานค่ะ แป๊บเดียวก็ได้กินแล้ว ออกมาแล้ว หน้าพิซซ่าจัดเต็ม

smoked salmon จะออกเค็มค่ะ กินคู่กับชีสจะให้รสเค็มๆมันๆ แบบว่าชีสฉ่ำมากเท่าที่ได้ลองเล็กชอบหน้านี้ เป็นผักโขมกับกุ้ง ส่วนตัวชอบกินผักโขมอบชีสเพราะรู้สึกว่ามันเข้ากันมากๆ ใครชอบเมนูนี้เล็กว่าน่าจะถูกใจหน้านี้ กุ้งตัวใหญ่ เนื้อแน่นดีค่ะมาเริ่ม 6 course menu ของเรากันค่ะ 

เริ่มจาก LOBSTER AND AVOCADO CONE กรวยสีดำที่เห็นนั่นคือกรวยหมึกค่ะ เนื้อสัมผัสกรอบๆคล้ายๆโคนวาฟเฟิล รสหวานนิดๆ ด้านล่างมีอะโวคาโดบดด้านบนเป็นเนื้อล็อบสเตอร์ผสมกับน้ำมันมะกอก และปรุงรสด้วยน้ำมะนาวและผักชีสับ รสชาติจะเบาๆ กลิ่นผักชีไม่ชัดมากนะคะ

จานที่สอง LOBSTER, TOMATO AND MOZZARELLA PLATE

จานนี้เป็นเนื้อจากหางและก้ามล็อบสเตอร์ เสริฟมาพร้อมกับมะเขือเทศและชีสมอสซาเรลล่า และใบวอเตอร์เคสค่ะ

แนะนำให้กินพร้อมกับมะเขือเทศองุ่นและชีสมอสซาเรลล่าทีเดียวทั้งคำเลยค่ะ มันเข้ากันมากๆ จุดแดงๆที่เห็นคือน้ำมะเขือเทศ และราดด้วยน้ำมันล็อบสเตอร์ ด้วยตัวส่วนผสมแต่ละอย่างที่นำมาปรุงมีรสชาติอ่อน เน้นที่รสชาติและความสดของวัตถุดิบ ออกแนวสดชื่น เป็นการเริ่มมื้อที่ดีนะคะ

เนื้อกุ้งชิ้นใหญ่เนื้อเน่น สดมากๆเนื้อหวานค่ะ ให้ดูความแน่นของกุ้งจานที่สามคือ LOBSTER RAVIOLI IN FLAVORFUL CONSOMME

ราวีโอลี่แบบโฮมเมด ไส้ด้านในเป็นเนื้อส่วนหางของล็อบสเตอร์ ตัวซุปเป็นแบบน้ำใสที่เคี่ยวกับกุ้งล็อบสเตอร์และน้ำมะเขือเทศเข้มข้น 

ซุปรสออกเค็มนำ ออกแนวเข้มข้นจากการ concentrated ค่ะ ไม่ใช่เข้มแบบปรุงเยอะไปนะคะ มีกลิ่นคาวอ่อนๆของล็อบสเตอร์ แต่หากคนไม่ถนัดแนว lobster bisque อาจจะไม่ถูกปากค่ะ ส่วนตัวคิดว่ารสเป็นมาตรฐานที่ดีของเมนูประมาณนี้จานนี้ มีชื่อว่า LOBSTER GRATIN IN A SHELL

ล็อบสเตอร์กราแตงเสริฟมาในเปลือกล็อบสเตอร์ ด้านบนราดด้วยซอสฮอลแลนไดส์ที่มีส่วนผสมของเครื่องแกง ตัวซอสรสชาติกลมกล่อม ออกแนวครีมมี่ มันๆเค็มๆ มีกลิ่นเครื่องแกงอ่อนๆ เข้ากันได้ดีกับล็อบสเตอร์นะคะด้านล่างของเนื้อกุ้งจะมีผักโขม

อาหารความจานสุดท้ายแล้ว LOBSTER , GREEN PEA MOUSSELINE AND CHORIZO

จานนี้ใช้เนื้อจากหางและก้ามล็อบสเตอร์เช่นกันค่ะ ราดด้วยน้ำเกรวี่ล็อบสเตอร์และโฟมจากซุปข้นของล็อบสเตอร์ โรยด้วยเมล็ดถั่วลันเตา ด้านล่างมีมูสเซลีนถั่วลันเตารสอ่อนๆ ที่คงรสชาติหวานนิดๆของถั่วไว้ อร่อยมากค่ะ ที่น่าแปลกคือใส่ไส้กรอกโชริโซ่ด้วย ตัวไส้กรอกไม่เปรี้ยวและมีกลิ่นแรงเกินไป เข้ากันได้ดีกับล็อบสเตอร์และถั่วลันเตา ลงตัวมากๆ ประทับใจค่ะ

จบมื้ออาหารด้วย โยเกิร์ตแช่แข็งกับสตรอเบอร์รี่และเมอแรงค์

ไอศกรีมโยเกิร์ต เสริฟมาพร้อมกับสตรอเบอร์รี่และแบล็คเบอรี่ออร์แกนิก ผลไม้สด หวานคุณภาพดีมาก ด้านบนเป็นฟองมะนาว 

มีเมอแรงค์แห้งบริเป็นชิ้นๆเพิ่มความกรุบ มีกลิ่นของสมุนไพรและดอกไม้อ่อนๆ กินแล้วสดชื่น จบมื้อแบบสบายท้อง ชอบมากค่ะ

สรุปภาพรวมอาหารมื้อนี้ ประทับใจมากๆค่ะ เชฟมีการไล่ระดับความหนักของรสชาติของแต่ละเมนูได้ดีนะคะ และปริมาณกำลังดี ทำให้กินได้เรื่อยๆ แต่ละจานให้เนื้อล็อบสเตอร์ในปริมาณที่เหมาะสม คุณภาพดี ชิ้นใหญ่เนื้อเน่น สดมากๆ เทศกาลนี้มีจัดแค่ตั้งแต่วันที่ 27 – 31 พ.ค. 57 เวลา 18.30-23.00 น. ราคาอยู่ที่ 1,600++ บาท/คน หรือใครต้องการดื่มไวน์ ราคาอยู่ที่ 2,200++ บาท/คนหากใครสนใจ สามารถสำรองที่นั่งและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ห้องอาหาร โทร. 0-2658-7444 ต่อ 285