"ย่านสุขุมวิทก็เป็นหนึ่งในย่านที่ถูกจัดให้เป็นแหล่งรวมร้าน     อาหารเก๋ๆ ชิลๆ น่านั่งไว้มากมาย และเมื่อเอ่ยถึงร้าน Ifitis ร้านนี้ก็ถูกจัดให้เป็นหนึ่งในร้านสุดแนว ที่หลายคนไปมาก็บอกต่อๆกันว่าบรรยากาศชิลมากเหมาะแก่การพบปะสังสรร"

ตัวร้านตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท38 ร้านอยู่ซ้ายมือถ้าเดินจากปากซอยก็นับว่าไกลนิดนึงค่ะ ส่วนใครขับรถไปต้องจอดตามริมถนน แว๊บแรกที่เห็นรู้สึกว่าร้านนี้เก๋ดีแฮะด้านนอกมีโต๊ะให้นั่งชิลด้วยชอบบรรยากาศแบบนี้มากอยากที่จะเดินเข้าไปดูว่าภายในจะเป็นอย่างไร

เราจะเปิดประตูบานนี้เข้าไปล่ะนะ

พอเปิดประตูปุ๊บ ซ้ายมือจะเป็นมุมกล่องน้ำหอ มขวามือมีลาวแขวนเสื้อผ้า ความรู้สึกเหมือนมาเยี่ยมบ้านเพื่อนเลย

ร้านนี้พึ่งมีการปรับโฉมร้านใหม่ ในร้านเน้นโทนสีสันแดงส้ม ผนังเพ้นลายดอกไม้ ใช้ไฟสลัวๆ ดูอาร์ทๆแต่อบอุ่น ทุกมุมมีดีเทลในการตกแต่งมากค่ะพอได้รู้ว่าเจ้าของร้านทำงานด้านศิลปะจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไม concept ของร้านนี้ถึงมีสไตล์เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองมาก

เดินบันไดเล็กๆขึ้นมาชั้นสองของร้านเป็นโต๊ะแบบนั่งพื้นมีหมอนอิงลายไทยและพรมนุ่มๆวางเรียงรายอยู่บนพื้นจะคนละแนวกับด้านล่างแปลกตาดีค่ะ

เมนูที่นี่เก๋ดีค่ะตอนแรกไม่รู้ว่านี่คือเมนูเห็นเป็นกระดานไม้ๆแต่พนักงานบอกว่าลองพลิกชิ้นไม้ทุกชิ้นก็กลายเป็นเมนูแล้วค่ะ

มาเริ่มด้วยเครื่องดื่มแนะนำของทางร้านWhite Sangria (แก้วละ 250 บาท)

Sangriaใส่มาในแก้วสีดำลายจุดส่วนตัวแล้วเป็นคนไม่ถนัดเรื่องแอลกอฮอร์แอบจิบไปนิดนึง ออกหอมๆแต่แรงอยู่เหมือนกันนะเพื่อนที่ไปด้วยบอกว่าอร่อยค่ะ

แก้วนี้ถ้าจำไม่ผิดคือแชงเกีย แต่ไม่ได้ชิมค่ะ แก้วสวยดี

สตอเบอรี่ปั่นโยเกิร์ตอร่อยค่ะ ไม่หวานมาก รสชาติกำลังดี เปรี้ยวนิดๆ 

ขนมกินเล่นเป็นโรตีอบกรอบกินคู่กับดิฟรสหมูเผ็ด สังเกตุเห็นว่าบนตัวแพคเกจเขียนว่าอร่อยง่าย แต่หยุดยาก พอได้ลองชิมดิฟ อร่อยจริงๆนะ รสกลมกล่อม มันๆ และมีรสเผ็ดมาแก้เลี่ยน กินแล้วเพลิน ส่วนตัวแล้วชอบรสนี้มากค่ะ

เมนูแรกมาแล้วหมี่กรอบหน้าไก่ (140บาท)

อาหารเสริฟมาในชามถ้วยสีดำด้านบนวางด้วยช้อนและส้อมไม้ดูแล้วน่ารัก ตัวเส้นหมี่เป็นแบบกรอบตัวน้ำราดรสกำลังดีไม่เลี่ยนและมีกลิ่นหอมไก่นุ่มค่ะชอบตรงที่น้ำราดทำมาแบบคลุกคลิกตัวเส้นอมน้ำกำลังดีส่วนตัวชอบแบบนี้

ตับหวานผัดกระเทียม(150บาท)

จานนี้ขอยกให้เป็นเมนูโปรดเลยค่ะตับสุกกำลังดี ไม่แห้งและไม่เละชิ้นใหญ่พอดีคำ ผัดมาคลุกคลิกไม่แฉะเกินไป ให้กระเทียมมาเยอะทำให้ไม่เลี่ยนมาก รสเค็มหวานกำลังดี เล็กว่าเมนูนี้เป็นเมนูง่ายๆแต่ถ้าทำอร่อยก็เป็นเมนูที่กินได้ไม่เบื่อ

ต่อด้วยเมนูใหม่ The Masterpiece เล็กชอบการนำเสนออาหารของร้านนี้นะ แม้แต่การเสริฟหรือตัวอาหารเองก็แฝงด้วยศิลปะโดยที่แต่ละคำจะถูกแทนชื่อด้วยชื่อภาพ และเสริฟมาในกรอบรูป ตาม concept ของเมนูที่ต้องการนำเสนอผลงานชิ้นเอก

เล็กได้ลอง The Last Supper (คำละ65บาท)

ด้านล่างจะเป็นเหมือนแผ่นเกี๊ยวกรอบประกอบด้วย เนื้อ ไข่นกกระทาดิบ กระเทียม และซอสที่ร้านทำเอง รวมๆแล้วมันเข้ากันมาก เป็นรสเค็มๆมันๆอารมณ์คล้ายๆเหมือนกินขนมโตเกียวทรงเครื่องแต่เปลี่ยนเป็นแป้งเกี๊ยวและมีซอสเค็มๆ รสชาติคงไม่ใช่รสที่แปลกใหม่มาก แต่ด้วยการนำเสนอที่น่าสนใจเลยทำให้เมนุนี้มีเอกลักษณ์มากค่ะ

ต่อด้วย French Fries Dip แบบ Beginnerพร้อมดิฟ 3รส (240บาท)

เฟร้นฟรายชิ้นใหญ่มาก ทอดมากรอบนอกนุ่มใน เล็กว่าคนที่ชอบกินแนว Potato Wedges น่าจะชอบเมนูนี้

 เฟร้นฟรายเสริฟมาในจานรองสี พร้อมกับผักสลัดสดและเบบี้แครอท แต่เล็กชอบใช้ผักดิฟมากกว่าเพราะอ้วนน้อยกว่า กินได้เรื่อยๆ ดิฟที่นี่อร่อยจริงค่ะ เล็กชอบหมูเผ็ด กับ แกงกะหรี่ญี่ปุ่น

ด้วยความติดใจในดิฟเลยสั่งผักมาเพิ่ม จัดมาสวยงามเหมือนกระถางต้นไม้เล็กๆ

คอหมูย่างพร้อมดิฟครีมชีสและโรตี

คอหมูย่างนิ่มมากจิ้มกับครีมชีสเข้ากันค่ะมันๆและกลมกล่อม แต่อันนี้ขอชิมนิดนึงพอ เพราะดูแล้วอ้วนไม่ใช่น้อยและไม่ใช่คนชอบกินหมูเท่าไหร่นัก

มาถึงตอนนี้ก็เริ่่มไม่ไหวแล้วค่ะอิ่มมาก แต่เรายังเหลือพื้นที่ท้องให้กับของหวาน เราเลือกลองเป็น Let’s Go to Bed Set (360บาท)

ตอนแรกที่พนักงานเดินมาเสริฟแอบตื่นเต้นกับกล่องเตียงยักษ์กล่องใหญ่มากค่ะ วางทีแทบมิดโต๊ะบนเตียงมีผู้หญิงนอนอยู่

พอเปิดกล่องเตียงขึ้นมาก็เจอเซทแพนเค้ก เสริฟมาพร้อมกับดิฟต่างๆและไอศกรีมพร้อมแก้วนมเล็กๆสามแก้ว ไอเดียเก๋มาก ตอนแรกที่ชิมแพนเค้กเนื้อสัมผัสโอเคค่ะนุ่มและเนียน แต่แอบงงว่าทำไมไม่ค่อยมีรสชาติและไม่ค่อยมีกลิ่นเนยแต่พอเห็นแก้วเนยที่ละลายมาให้ใส่แยกเลยเข้าใจว่าใครชอบแบบไหนและชอบดิฟอะไรก็ผสมกันเองตามใจชอบ

ส่วนตัวแล้วรสชาติไม่ได้โดดเด่นมากแต่เล็กว่ามันสนุกและตื่นเต้นกับวิธีกินมากค่ะคุ้มแก่การลองค่ะแนะนำให้สั่งมาแบ่งกันหลายๆคนเพราะว่าเซทค่อนข้างใหญ่อาจจะหนักไปสำหรับหลังมื้ออาหารค่ะ

สรุปภาพรวม เล็กว่าเล็กชอบบรรยากาศร้านที่ตกแต่งได้เก๋มีสไตล์และมีเอกลักษณ์ของตัวเองแต่ข้อเสียอาจจะติดตรงที่ขนาดของร้านค่อนข้างเล็กอาจจะเสียงดังไปนิดและพื้นที่ในร้านค่อนข้างจำกัด เรื่องรสชาติเล็กว่า ด้วยตัวอาหารเป็นแบบฟิวชั่นและไม่ได้ซับซ้อน จึงเป็นรสที่กินง่าย อร่อยได้มาตรฐานของเมนูประมาณนี้ การนำเสนอแปลกใหม่และน่าตื่นเต้นเลยทำให้มื้อนี้ประทับใจมากค่ะหากใครกำลังมองหาร้านเก๋ๆนั่งชิลๆ ร้านนี้ก็เป็นอีกประสบการณ์ที่ดีค่ะ