ถือว่าเป็นการกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งระหว่างผู้กำกับ
เอ็ดการ์ ไรท์ (Edgar Wright) และสองนักแสดง
ไซมอน เพ็กก์ (Simon Pegg) และ
นิค ฟรอสท์ (Nick Frost) หลังจากภาพยนตร์ฮิตเรื่อง
Shaun of the Dead และ
Hot Fuzz นอกจาก 2 นักแสดงนำคู่ใจแล้วใน
The Worlds End นี้ยังได้
มาร์ติน ฟรีแมน (Martin Freeman),แพ็ดดี้ คอนซิไดน์ (Paddy Considine), เอ็ดดี้ มาร์สัน (Eddie Marsan), โรซามุนด์ ไพค์ (Rosamund Pike) และ
เพียร์ซ บรอสแนน (Pierce Brosnan) มานำแสดงอีกด้วย
เรื่องราวของ
The Worlds End เริ่มต้นขึ้นในวันที่ 22 มิถุนายน ปี 1990 ในเมืองนิวตัน ฮาเวน ที่อยู่ย่านชานเมืองของอังกฤษ เด็กหนุ่มห้าคนที่กำลังจะก้าวเข้าสู่วัยรุ่น ได้เฉลิมฉลองวันเรียนจบด้วยการพยายามจะสรรค์สร้างตำนานการบุกตะลุยผับด้วยกัน แม้ว่าพวกเขาจะกระตือรือร้นและกระดกเบียร์ไปมากแค่ไหน พวกเขากลับไม่ประสบความสำเร็จดังความตั้งใจเพราะพวกเขาไม่สามารถไปถึง
เดอะ เวิลด์ส เอนด์ ซึ่งเป็นผับสุดท้ายในลิสต์ของพวกเขาได้
ประมาณกว่ายี่สิบปีให้หลัง
"ห้าทหารเสือ" ต่างคนต่างก็จากบ้านเกิดไปคนละทิศละทาง และตอนนี้ พวกเขาก็เป็นสามี เป็นพ่อ เป็นชายผู้เจริญในหน้าที่การงาน ทุกคนประสบความสำเร็จด้วยดี เว้นแต่
แกรี่ คิง (ไซมอน เพ็กก์) อดีตหัวโจกผู้พูดจาคล่องแคล่วของพวกเขา ตอนนี้เขาเป็นชายวัย 40 ปีที่ยังคงมีความหลังฝังใจกับวัยรุ่นของตัวเอง แกรี่ ผู้เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น รับรู้ถึงความห่างเหินระหว่างเขาและ
แอนดี้ (นิค ฟรอสท์) ผู้เคยเป็นเพื่อนสนิทหมายเลขหนึ่งของเขา เขาก็เลยดึงดันที่จะกลับไปสู่การดื่มมาราธอน
"เดอะ โกลเดน ไมล์" อีกครั้ง เขาเกลี้ยกล่อมแอนดี้,
สตีเวน (แพ็ดดี้ คอนซิไดน์), โอลิเวอร์ (มาร์ติน ฟรีแมน) และ
ปีเตอร์ (เอ็ดดี้ มาร์สัน) ให้ปฏิบัติภารกิจนี้อีกครั้ง และบ่ายวันศุกร์วันหนึ่ง พวกเขาก็กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง แกรี่รู้สึกเหมือนปลากระดี่ได้น้ำ กฎที่ถูกตั้งเอาไว้ก็คือ เวลาหนึ่งคืน ชายห้าคน ผับสิบสองแห่ง และพวกเขาก็ต้องดื่มเบียร์อย่างน้อยหนึ่งไพน์ต่อหนึ่งผับ เมื่อไปถึงนิวตัน ฮาเวน พวกเขาได้พบกับ
แซม (โรซามุนด์ ไพค์) น้องสาวของโอลิเวอร์ ที่ทั้งแกรี่และสตีเวนต่างก็ยังแอบมีใจให้อยู่
ขณะที่พวกเขาพยายามที่จะประสานเรื่องในอดีตและปัจจุบันเข้าด้วยกัน การได้พบกับสถานที่เก่า ๆ และคนที่พวกเขาเคยรู้จัก ที่ทั้งอันตรายและเพี้ยนมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็ทำให้พวกเขาตระหนักได้ว่า การที่พวกเขาฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ เหล่านี้ก็เพื่ออนาคต แต่ไม่ใช่อนาคตของพวกเขาเท่านั้น มันยังเป็นอนาคตของมนุษยชาติด้วย และการไปให้ถึง
เดอะ เวิลด์ส เอนด์ อาจเป็นสิ่งที่น่ากังวลน้อยที่สุดก็เป็นได้...
(ขอบคุณเรื่องย่อจาก kapook.com)ตอนแรกเหมือนดูจะเป็นแค่หนังตลกเอาฮาธรรมดา แต่ไปๆมาๆกลับกลายเป็นหนังแอ็คชั่นผสมไซไฟไปซะยังงั้น?! ซึ่งระดับความสนุกก็อยู่ในขั้นพอดูได้เพลินๆ
ชอบเป็นพิเศษก็คงเป็นตรงพล็อตเรื่องที่หยิบเอาเรื่องราวภารกิจการกินเบียร์ของกลุ่มเพื่อนซี้มาผสมกับความเป็นไซไฟเอเลี่ยนช่วยกู้โลกได้เป็นอย่างดี แถมยังมีประเด็นเรื่องมิตรภาพระหว่างเพื่อนที่ยังไงเพื่อนแท้ก็ตัดกันไม่ขาดแทรกไว้อีกด้วย!!
ด้านฉากแอ็คชั่นไล่ล่านั้นก็พอมันส์เป็นพิธีอยู่ ซึ่งกับฉากซีจีทั้งหลายที่รวมถึงบรรดาเอเลี่ยนหุ่นยนต์นั้นก็ทำออกมาได้เนียนใช้ได้ กับมุกตลกนั้นฮาสุดคงเป็นมุกเมาแล้วป่วนของแกงค์เพื่อนซี้ก๊วนนี้ ส่วนด้านการแสดงนั้นโดดเด่นหน่อยก็คงเป็นเพ็กก์กับฟรอสท์ นอกนั้นก็ไม่มีอะไรให้พูดถึง
และกับตอนจบหักมุมของหนังนั้นแอบขำในความดันทุรังของพวกพระเอกที่ถึงขนาดทำให้เหล่ามนุษย์ต่างดาวยังต้องยอมแพ้!!
สรุปว่านี่เป็นหนังแอ็คชั่นผสมตลกร้ายบวกไซไฟที่พอดูได้เพลินๆ แม้จะไม่ได้สนุกหรือมันส์แบบขึ้นหิ้ง แต่ก็ดูได้ชิวๆตั้งแต่ต้นจนจบ
ชอบหนังที่มีเรื่องเพื่อน มิตรภาพอะไรแบบนี้จ้ะ ยิ่งในวัยที่มากๆ ขึ้น คงรู้สึกมากยิ่งขึ้น อย่างเห็นได้ชัด ยังไงเพื่อนก็ตัดกันไม่ขาดเนาะ
เกี่ยวกับหนังหรือเปล่าเนี่ย พี่ก็เพ้อๆ ไป
ไลค์ 1 ค่ะ