"เวลาตีสาม... ไม่ได้มีแค่คืนเดียว!!" คือคำขายของหนังผีภาคต่อเรื่องนี้(โดยเนื้อหาไม่ได้เกี่ยวข้องกับภาคแรกแต่อย่างใด แค่อาศัยคอนเซปต์เดียวกันแค่นั้น) ที่ขอกลับมาหลอนลึกระทึกยกกำลังสามแบบ 3 เรื่อง 3 รส และ 3 มิติ..
เปิดเรื่องด้วย
คืนสาม กำกับโดย
พุฒิพงศ์ สายศรีแก้ว (
ลองของ, ขอบคุณที่รักกัน)
รู้หรือยัง
พี่หรั่งตายแล้ว
เรื่องเริ่มต้นที่งานศพของ
พี่หรั่ง(เรย์ แม็คโดแนลด์) ขาใหญ่แก๊งมอเตอร์ไซด์ที่เปิดร้านสัก ได้เกิดอุบัติเหตุรถมอเตอร์ไซด์คว่ำตาย แต่จะเป็นไปได้ยังไงที่คนอย่างหรั่งจะตายด้วยเรื่องแบบนี้ แต่ถึงอย่างนั้น หรั่งก็ตายแล้ว
ก้อย(แพ็ตตี้ เพตี้อิ โฮการิ) แฟนของพี่หรั่งเดินเข้ามาในงานศพพร้อมกับ
โบโซ่(อินดี้ อินทัช เหลียวรักวงศ์) ลูกน้องคนสนิท ท่ามกลางเสียงซุบซิบนินทา เพราะหรั่งตายเพียงแค่ 3 วัน ทั้งคู่ก็คบกันอย่างเปิดเผย
ไม่เพียงแค่นั้น ยังมีเสียงลือกันว่า
หลายคนในแก๊งอยากให้หรั่งตาย เพื่อเก็บเงินก้อนใหญ่ไว้โดยไม่ต้องแบ่งหรั่ง รูปถ่ายของหรั่งตั้งอยู่หน้าโลง สายตาเหมือนโกรธแค้นอะไรบางอย่าง
หรือว่าเคียดแค้นใครบางคน
เขาว่ากันว่า
คนตายจะกลับมาในคืนที่ 3 เพื่อสะสางเรื่องที่ยังค้างคาใจให้หมดไป
คืนนี้ หรั่งจะกลับมา และจะเป็นคืนหลอนที่ยาวนานไม่อาจลืม!!
***อาจเปิดเผยเนื้อหาสำคัญในบางส่วน***ชอบตรงที่หนังหยิบเอาความเชื่อเรื่องผีของคนไทยอย่างเรื่องที่ว่าวิญญาณมักจะกลับมาภายใน 3 วันมาเป็นแกนหลักได้เป็นอย่างดี แต่กลับน่าเสียดายตรงการเล่าเรื่องที่ผู้กำกับไม่สามารถทำออกมาให้มันสมจริงได้สักเท่าไร? เพราะกับบางเรื่องบางการกระทำนั้นมันช่างดูไร้เหตุผลและชวนหงุดหงิดเสียเหลือเกิน แถมฉากผีหลอกบางฉากก็ดันดูหลอกตาสุดๆ และยิ่งกับฉากจบด้วยแล้วก็ดันไม่ผิดจากที่เดาไว้ตั้งแต่แรก?
สุดท้ายมันก็เลยกลายเป็นเรื่องที่ดูจะอ่อนและน่าเบื่อที่สุดใน 3 เรื่องแล้ว!!
เรื่องที่ 2
คอนแวนต์ กำกับโดย
กิรติ นาคอินทนนท์ (
ตีสาม ตอน เรือนหอคนตาย, รักสุดท้ายป้ายหน้า)
ว่าด้วยเรื่องราวของกลุ่มเด็กสาวคอนแวนต์(
ติ๊นา ศุภนาฏ จิตตลีลา, เทวี ฤาชนก มีแสง, พิม หทัยชัช เอื้อกิตติโรจน์) ที่อยากรู้ที่มาของตำนานเสียงเปียโนตอนตีสามที่บรรเลงโดย ซิสเตอร์หัวขาด ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่!!
***อาจเปิดเผยเนื้อหาสำคัญในบางส่วน***เก๋ตรงที่หยิบเอาตำนานผีๆ(ที่ดูออกจะสากล) มาเล่าได้ดี ชอบตรงที่แฝงข้อคิดในเรื่องราวความรักได้อย่างเจ็บแสบ แถมผู้กำกับยังกล้าพอที่จะเล่นกับประเด็นความรักของหญิงรักหญิงซึ่งตรงนี้ก็ทำออกมาให้เราได้อินใช้ได้ โดยรวมแล้วบรรยากาศและฉากสยองก็หลอนได้ใจอยู่ ส่วนกับตอนจบนั้นก็ไม่ได้หักมุมอะไรสักเท่าไหร่?
แต่ที่ขัดใจที่สุดคงเป็นฉากซีจีและฉากสามมิติทั้งหลาย(โดยเฉพาะผีแม่ชีหัวขาด) ที่ทำออกมาได้หลอกตามากๆไม่ได้ดูเนียนสมจริงสักเท่าไหร่มันเลยพลอยทำให้อารมณ์น่ากลัวๆของหนังแอบสะดุดอยู่ไม่น้อย..
และเรื่องสุดท้าย
กงเต๊ก กำกับโดย
อิสรา นาดี (
ตีสาม ตอน Overtime, ลองของ, 407 เที่ยวบินผี)
ในเวลาค่ำคืนอันยาวนานในบรรยากาศร้านกงเต๊ก ที่เมื่อรู้ว่า
เจ๊จู(นก สินจัย เปล่งพานิช) เจ้าของร้านตาย ทั้ง
เฮีย(อาวอ จิราวัฒน์ วชิรศรัณย์ภัทร) และเหล่าลูกจ้างในร้าน(
เอิร์ธ ธวัช พรรัตนประเสริฐ และ ฟลุ๊ค พงศธร ศรีปิ่นตา) จะเอาตัวรอดให้ผ่านพ้นคืนนี้ไปได้ยังไง?!
***อาจเปิดเผยเนื้อหาสำคัญในบางส่วน***เป็นเรื่องที่ชอบมากที่สุด เพราะหนังทั้งสนุก ทั้งตลก ทั้งแอบหลอน แถมไคลแมกซ์ก็ยังหักมุมซ้ำแล้วซ้ำอีก เรื่องที่คิดอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่คิด?! นักแสดงนำทั้ง 4 ก็เล่นได้อย่างไหลลื่นเป็นธรรมชาติ
แต่ที่โดดเด่นและขโมยซีนที่สุดคงต้องยกให้เป็นตัวแม่อย่าง นก สินจัย ที่แสดงได้ฮาหน้าตายมากๆแบบในระดับเดียวกันกับ มาช่า ใน 5 แพร่ง และ ใหม่ เจริญปุระ ใน ตายโหง เคยทำไว้..
สรุปว่านี่เป็นหนังผีหลากรสที่คุณภาพโดยรวมอาจจะดูขาดๆเกินๆ แม้จะชอบเป็นพิเศษตรงที่หนังมีจุดเชื่อมโยงให้ทั้ง 3 เรื่องมาอยู่ในเรื่องเดียวกันได้
แต่ก็หงุดหงิดเหลือเกินที่ไม่รู้จะทำออกมาเป็น 3 มิติเพื่ออะไร? ในเมื่อฉากสามมิติที่ว่ามันแทบไม่มีคุณค่าหรือตื่นตาตื่นใจอะไรเลย..
งานยุ่งมากเลยล่ะครับ