อีกหนึ่งหนังหลังหายนะโลกโดยฝีมือผู้กำกับชาวเกาหลี
บอง จุน โฮ (Joon-ho Bong) เจ้าของผลงานชั้นเยี่ยมอย่าง
The Host และ
Mother หนังสร้างมาจากหนังสือการ์ตูนฝรั่งเศส
Le Transperceneige ของ
ฌาคส์ ล็อบ (Jacques Lob) และ
ฌอง-มาร์ค โรเช็ตต์ (Jean-Marc Rochette) โดยยังได้นักแสดงฝีมือดีทั้งฝั่งฮอลลีวู้ดและเอเชียมาร่วมแสดงอย่างคับคั่ง อาทิ
คริส อีแวนส์ (Chris Evans), เจมี่ เบลล์ (Jamie Bell), ทิลด้า สวินตัน (Tilda Swinton), อ็อคตาเวีย สเปนเซอร์ (Octavia Spencer), จอห์น เฮิร์ต (John Hurt), ซองคังโฮ (Kang-ho Song), โคอาซุง (Ah-sung Ko) และ
เอ็ด แฮร์ริส (Ed Harris)เรื่องราวของ
Snowpiercer เกิดขึ้นในปีคริสตศักราช 2031 หลังจากความพยายามในการหยุดยั้งวิกฤตโลกร้อนประสบความล้มเหลว ทำให้โลกเข้าสู่ยุคน้ำแข็งอีกครั้งและทำลายสิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลก เหลือแต่เพียงรถไฟหัวจักรที่ชื่อว่า
"สโนว์เพียซเซอร์" ซึ่งออกเดินทางรอบโลกอย่างไร้จุดหมาย โดยใช้พลังงาน
เครื่องจักรนิรันดร์ ขับเคลื่อนไปท่ามกลางสภาพอากาศที่ปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง จนไม่มีสิ่งมีชีวิตใดสามารถอาศัยอยู่ข้างนอกได้ อย่างไรก็ตามภายในขบวนรถไฟก็เกิดเป็นสังคมใหม่ ที่มีการแบ่งแยกชนชั้นและริดรอนสิทธิของมนุษย์ และนั่นเองก็ทำให้การปฏิวัติจากชนชั้นล่างกำลังจะอุบัติขึ้น!!
(ขอบคุณเรื่องย่อจาก kapook.com)จัดว่าเป็นหนังแอ็คชั่นทริลเลอร์ไซ-ไฟแนวหลังหายนะในโลกอนาคตที่เล่นกับเรื่องสิทธิมนุษยชนและระบอบชนชั้นได้อย่างดีเยี่ยม โดยมีแกนหลักอยู่ที่การปฎิวัติเพื่อเรียกร้องความเสมอภาคทางสังคมให้เท่าเทียมกันของ
พวกคนท้ายขบวน (ผู้ถูกกดขี่) ต่อ
พวกคนหัวขบวน (ผู้ปกครอง) !!
ชอบเป็นพิเศษตรงที่หนังเล่าเรื่องราวภายในที่แคบๆอย่างรถไฟได้อย่างไหลลื่นและดูสนุก แม้จะดูอึดอัดและกดดันไปบ้าง แต่ผู้กำกับก็สามารถพาหนังและคนดูเคลื่อนผ่านแต่ละตู้โบกี้ไปได้อย่าง ตื่นเต้นและระทึก ด้านความดราม่านั้นก็จัดหนักจัดเต็มผ่านการกระทำเลวร้ายต่างๆของพวกคนหัวขบวนที่มีต่อพวกคนท้ายขบวนที่ช่างชวนหดหู่และน่าสงสารยิ่งนัก แถมยังตอกย้ำให้ชอกช้ำหนักไปอีกเมื่อพวกพระเอกได้ไปพบเจอกับความจริงที่เหลื่อมล้ำผ่านตู้โบกี้ต่างๆที่เต็มไปด้วยความหรูหราสะดวกสบายและไฮโซของพวกคนหัวขบวนนั่นเอง!!
ด้านฉากแอ็คชั่นนั้นก็มันส์หยด เถื่อน ดิบ โหด และเลือดสาดสะใจคอหนังโรคจิตจริงๆ ส่วนกับบทหักมุมนั้นก็พอมีอะไรให้ได้อึ้ง ทึ่งอยู่บ้าง แต่ก็แอบมีขัดใจอยู่บ้างกับบทสรุปสุดท้ายของหนังที่จบง่ายและไร้ทางออกเกินไป!! และกับด้านการแสดงนั้นเหล่าทีมนักแสดงทุกคนต่างก็แสดงกันได้ดี สมจริง และทำให้อินเว่อร์
แต่ที่โดดเด่นโดดเด้งที่สุดคงต้องยกให้เจ๊สวินตันที่ช่างแสดงเป็นหัวหน้าชนชั้นสูงได้อย่างบ้าอำนาจและน่าชิงชังเสียเหลือเกิน!!Snowpiercer นอกจากจะตีแผ่เรื่องความเหลื่อมล้ำของสถานะทางสังคมและการปฏิวัติเพื่อความเสมอภาคได้อย่างเจ็บแสบแล้ว หนังยังแฝงเรื่องการเมืองการปกครองและภาวะผู้นำได้อย่างเจ็บจี้ดถึงกึ๋นและช่างเหมาะเหม็งตรงกันกับสถานการณ์บ้านเมืองเราในตอนนี้เสียจริงๆ..
+