Bloggang.com : ปีศาจความฝัน : 2012 : สิ้นสุด สิ้นโลก ไม่สิ้นหวัง

2012 : สิ้นสุด สิ้นโลก ไม่สิ้นหวัง

กลับมาอีกครั้งกับหนังเรื่องล่าสุดของเจ้าพ่อหนังหายนะ โรแลนด์ เอ็มเมอร์ริช (Roland Emmerich) เจ้าของผลงานอย่าง Independence Day, The Day After Tomorrow, Godzilla และ 10,000 BC ที่ครั้งนี้ขอเอาใจผู้ชมด้วยหนังหายนะภัยพิบัติอลังการงานสร้างตามความถนัดเรื่อง 2012

เปิดเรื่องด้วยปี 2009 เมื่อเอเดรียน (ไชวีเทล อีจัวเฟอร์) มาเยี่ยมซัตนัม (จิมี่ มิสทรี) เพื่อนรักทีอินเดียและได้ทราบถึงปัญหาความผิดปกติต่างๆที่มีผลกระทบต่อโลก ไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิใต้โลกที่ร้อนจัด การเคลื่อนตัวของแกนโลกที่ผิดปกติ หรือการปะทุของเปลวดวงอาทิตย์ที่ใกล้โลกมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า ซึ่งซัตนัมเพื่อนรักของเขาเป็นคนค้นพบ โดยที่ทั้งคู่ต่างสงสัยและเห็นพ้องต้องกันว่าครั้งนี้คงเกินการเยียวยา โลกคงพบกับหายนะครั้งใหญ่เป็นแน่แท้ แต่ทั้งคู่ก็ไม่ทราบแน่ชัดว่ามันจะเกิดขึ้นตอนไหนและเมื่อไหร่? เอเดรียนจึงรีบบินกลับไปพบเสนาธิการคาร์ล (โอลิเวอร์ แพลตต์)ที่ทำเนียบขาวเพื่อชี้แจงรายละเอียดพร้อมทั้งให้ไปแจ้งข่าวนี้แก่ประธานาธิบดีโธมัส (แดนนี่ โกลเวอร์) เพื่อเตรียมตัวรับมือกับเหตุการณ์เลวร้ายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต...

ตัดภาพมาปี 2012 แจ็คสัน (จอห์น คูแซค) นักเขียนหนุ่มตกอับที่วันนี้มีนัดรับลูกๆทั้ง 2 คน โนอาห์ (เลียม เจมส์) และ ลิลลี่ (มอร์แกน ไลลี) ไปแคมป์ปิ้งที่อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน ที่นั่นพวกเขาได้เห็นถึงความผิดปกติของธรรมชาติจนทำให้เขาได้พบกับเอเดรียนที่ดูเหมือนว่ากำลังมีความลับอะไรบางอย่าง แถมยังได้รู้จักกับชาร์ลี (วู๊ดดี้ ฮาร์เรลสัน) ชายที่ดูเหมือนจะหมกมุ่นเป็นพิเศษกับโครงการลับของรัฐบาลและทฤษฎีวันสิ้นโลก แต่แล้ววันหยุดพักผ่อนอันแสนสุขก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเคต (อแมนด้า พีต) อดีตภรรยากับกอร์ดอน (โธมัส แมคคาร์ธี่) แฟนใหม่ต้องเจอกับเหตุการณ์แปลกประหลาดแผ่นดินแยกต่อหน้าต่อตา ด้วยเหตุนี้แจ็คสันจึงต้องส่งลูกทั้ง 2 กลับไปบ้านก่อนกำหนด วันต่อมาแจ็คสันต้องรีบไปทำงานพิเศษคือ การรับส่งลูกเศรษฐีฝาแฝด 2 คนให้ทันเครื่องบินส่วนตัวเที่ยวนี้ก่อนที่ทุกอย่างจะสายไป ซึ่งนั่นทำให้แจ็คสันได้รับรู้ว่าสิ่งที่เขากลัวมาตลอด มันกำลังจะเกิดขึ้นจริงในวันนี้ แจ็คสันจึงรีบขับรถกลับไปรับลูกๆและอดีตภรรยาของเขา รวมทั้งแฟนใหม่ของเธอเพื่อหนีออกจากลอส แองเจอลิสให้ทัน เนื่องจากที่นี่คือที่แรกที่หายนะร้ายจะมาเยือน การเอาตัวรอดจากภัยพิบัติครั้งใหญ่ของพวกเขาจึงเริ่มต้นขึ้น...

หนังเรื่องนี้ผู้กำกับและคนเขียนบทอ้างอิงถึงคำทำนายของชนเผ่ามายาที่ทำนายไว้ว่าในวันที่ 22 ธันวาคม 2012 ( พ.ศ. 2555 ) นั้นจะเป็นวันสิ้นโลก เพราะว่ามันเป็นวันสุดท้ายในปฏิทินของชนเผ่ามายา ซึ่งทางผู้กำกับได้นำเอาประเด็นนี้มาเขียนเป็นพล็อตหลักของหนังเรื่องนี้ โดยที่ผมได้ลองไปหาข้อมูลอ้างอิงเพิ่มเติมจนได้เจอกับข้อมูลที่น่าสนใจของนายแพทย์ท่านหนึ่งซึ่งเขียนไว้ว่า...

“...ทศวรรษที่ 2010 โดยเฉพาะปี 2012 จะเป็นปีที่สรุปรวบยอดของสภาวะความพินาศระดับโลกแห่งชรวิตที่เรียกว่าความล่มสลายระดับโลก (mass extinction or spasm) อีกครั้งหนึ่งซึ่งจะเป็นครั้งที่ 6 ในประวัติศาสตร์ของโลกกายภาพหลังกำเนิดการของสิ่งมีชีวิต แต่ที่ผู้เขียนระบุว่าปี 2012 คือปีที่โลกแห่งชีวิตรวมทั้งมนุษยชาติและอารยธรรมจะถึงกาลล่มสลายอย่างใหญ่หลวงจนเสี่ยงต่อการสิ้นสูญของเผ่าพันธุ์นั้น ผู้เขียนคำนวณจากอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นกว่าที่ไอพีซีซี (IPCC-UN) เคยคาดการณ์ให้ไว้ (โปรดเทียบข้อมูลที่ให้ไว้ครั้งแรกในปี 1995 กับรายงานครั้งหลังสุดเมื่อปีที่แล้ว) โดยเฉพาะอุณหภูมิที่ขั้วโลก กรีนแลนด์ และยอดภูเขาสูง นั่นคือการคำนวณปริมาณของน้ำแข็งที่ละลายกลายเป็นน้ำที่อาจก่ออุทกภัยและทำให้น้ำทะเลมีระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ยกตัวอย่าง น้ำแข็งจากยอดเขาสูงเช่นหิมาลัยแห่งเดียวได้ละลายกลายเป็นน้ำถึงวันละกว่าหนึ่งล้านตัน และอย่าลืมว่าเมื่อน้ำแข็งละลายถึงจุดวิกฤติ ก้อนน้ำแข็งจะแตกออกทำให้การละลายเพิ่มอัตราความเร็วเป็นทวีคูณโดยมาตรทางเรขาคณิต นอกเหนือการละลายของน้ำแข็งจากโลกร้อน ผู้เขียนยังคำนวณจากประเด็นอื่นๆ เช่น ปริมาณของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศ อัตราความถี่ของการย้ายแผ่นหินเปลือกโลกและแผ่นดินไหวกับภูเขาไฟระเบิด การย้ายสถานที่ของประชากรแมลง และประเด็นทางภูมิดาราศาสตร์อื่นๆ ทั้งหมดบังเอิญมาตรงกับคำทำนายของปฏิทินของชาวมายาที่ชาวนิวเอจแทบทุกคนเชื่อ ปฏิทินที่มาจบฉบับสุดท้ายไว้ที่ปี 2012 พอดี (the crash of 2012!)...”

-นพ.ประสาน ต่างใจ-

เครดิตจาก //www.amulet.in.th

ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามันเป็นความบังเอิญหรืออย่างไร? เพราะว่าถ้ามันเกิดขึ้นจริงตามนี้ โลกของเราคงได้ถึงกาลอวสานแน่นอน...

กับความสนุกที่หนังมีให้ก็มีให้กันอย่างเต็มที่ ทั้งฉากหายนะภัยพิบัติทั้งหลายที่มีมากมายหลายอย่าง จนบางครั้งก็ดูมากเกินไปจนทำให้ความน่าเชื่อถือลดน้อยลง อีกทั้งภาพซีจีในฉากหายนะทั้งหลายนั้นก็ดูหลอกตายังไงก็ไม่รู้ในความรู้สึกผม จนทำให้ผมอดแอบเปรียบเทียบกับผลงานเรื่องก่อนๆหน้าอย่าง The Day After Tomorrow และ Independence Day ไม่ได้ว่าทั้ง 2 เรื่องนี้ยังจะมันส์และสนุกกว่าซะอีก

ที่น่าขำในสายตาคนดูปากร้ายอย่างผมก็คือ การขับรถเอาตัวรอดของพระเอกที่ต่อให้ขับรถเก่งขนาดไหนก็ตาม ถ้าเป็นรถยนต์สปอร์ตรุ่นอื่นๆก็พอยังทำใจให้เชื่อได้ แต่นี่กลับใช้รถลีมูซีนที่ทั้งใหญ่และยาวขับหนีภัยพิบัติเนี่ยนะ มันดูจะเกินความจริงเยอะไปหน่อย จนทำให้ผมอดใจไม่อยู่ต้องหันไปบ่นกับนายตัวร้ายที่ไปดูด้วยกันไม่ได้ว่า “อะไรมันจะเว่อร์ได้ขนาดนี้”

กับประเด็นหนักๆที่อยากพูดถึงในหนังเรื่องนี้ก็คือ สุดท้ายแล้วก็คงมีแค่พวกคนรวยเท่านั้นล่ะมั้งที่จะมีชีวิตรอดถ้าเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นจริง เพราะว่ามันชัดเจนและเป็นจริงอยู่แล้วว่าสุดท้ายยังไงเงินก็ยังเป็น ‘พระเจ้า ‘ อยู่ดี

ส่วนสารที่มักได้รับสำหรับหนังแนวนี้ก็คือ อย่าเห็นว่ามันเป็นเรื่องไกลตัวและไม่มีวันจะเกิดขึ้นตอนนี้ เลยไม่คิดจะช่วย ‘ดูแล’ ‘รักษา’ ‘ปกป้อง’ หรือ ‘แก้ไข’ เพราะถ้าหากพวกเราไม่ช่วยกันรักษ์ ‘ธรรมชาติ’ และ 'โลก' ของเราแล้ว แล้วใครหรือตัวอะไรหน้าไหน??มันจะมาช่วยกันเล่า หรือต้องให้ไม่มีอาหารให้กิน ไม่มีอากาศให้หายใจ หรือไม่มีโลกให้อยู่เสียก่อน ถึงจะได้รู้สึกกัน ถ้าอย่างนั้นก็อดใจรออีก 3 ปีก่อน คราวนี้ล่ะจะได้รู้กันว่ามันจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่จริง?

ความน่าดู 7/10 ก็แค่ดูได้เพลินๆ ไม่มีอะไรให้จดจำ เพราะหนังเน้นแต่ฉากอลังการงานสร้างครับผม

Create Date : 28 พฤศจิกายน 2552

Last Update : 28 พฤศจิกายน 2552 14:56:53 น.

24 comments

Counter : 4039 Pageviews.

น่าดูนะ
พี่ก๋าอยากดูมากเลยครับ

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 28 พฤศจิกายน 2552 เวลา:15:45:41 น.

ดูตัวอย่างแล้วอ่าค่ะ น่าดูนะ ถึงได้ 7 เต็ม 10 ก้อเหอะ แต่เข้าไปดูฉากหายนะตามที่ฝีมือคนนี้สร้างก้อน่าจะคุ้มแระ อิอิ
ยังจำได้จาก the day after tomorrow ได้ เรือ่งน้นยังติดอยุ่ในความทรงจำอยู่เลย มิมิ

แต่ก้อแปลก เห็นว่าหนังแนวเดียวกันนี้ ที่คนไทยสร้าง กลับเจ๊งบ๊งไม่เป็ฯท่า จนคนสร้างแทบจะค่าตัวตาย จริงเท็จไงไม่รู้นะคะ เพราะเค้าอ้าง เค้าเล่าว่างั้นอ่า แฮ่ๆๆๆ

อะไรเอ่ย ทั้งน่ากลัว ทั้งเหม็น ทั้งอร่อย

เฉลย...
"ยักษ์กินขนมในส้วม" ค่ะ
อิอิ

นี่อยู่ในหนังสือโต๊ะโตะจังนะ...

ฉัตรมะได้คิดเองเน้อออ คิกๆๆ

โดย: ณ ปลายฉัตร

วันที่: 28 พฤศจิกายน 2552 เวลา:16:08:14 น.

ไอซ์คุงหวัดดียามเย็นค่ะ...
วันหยุดแต่สมองไม่ค่อยได้หยุด

สมองตึง ๆ แบบนี้ต้องไปออกกำลังกายคลายเครียด
ว่าแล้วก็กำลังจะออกไปวิ่งจร้า

*หนังเรื่องนี้ไปดูมาแล้วฉากกราฟฟิกสนุกดีค่ะ
ถึงแม้เนื้อเรื่องจะเวอร์ไปนิด
ก็แผ่นดินถล่มแต่มือถือยังใช้ได้เลยอ่ะ 555

โดย: aenew

วันที่: 28 พฤศจิกายน 2552 เวลา:16:22:13 น.

chiangmai zoo
รับช้างสักเชือกไหมคะ

ดูแล้ว ก็ชอบฉากมากๆ ทำได้น่าคิดเลยล่ะ

โดย: scimovie

วันที่: 28 พฤศจิกายน 2552 เวลา:17:38:59 น.

ยังไม่ได้ไปดูเลยค่ะ
สงสัยต้องรอดูหนังแผ่น
ระบบที่บ้านก็สะเทือนเลื่อนลั่น พอใช้ได้ค่ะ
.....
วันนี้สบายมากถึงมากที่สุด
เคยได้ยินชื่อตัวกินนรมั๊ยไอซ์
....
ที่นี่มีเป็นฝูง ตัวกินนอนน่ะ อิ อิ

แอมอร

โดย: peeamp

วันที่: 28 พฤศจิกายน 2552 เวลา:21:43:29 น.

สวัสดียามเช้าครับ

วันนี้พี่ก๋าจะไปเดินดูหนังสือที่ มช.ครับ อิอิอิ

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 29 พฤศจิกายน 2552 เวลา:7:05:46 น.

สวัสดีครับน้องไอ๊ซ์

ใช่ครับ คนเราเกิดมาแล้ว ไม่ควรที่จะสิ้นหวัง เพราะความหวัง ความฝัน จะเป็นพลังชีวิตให้เราขับเคลื่อนไปได้...

พี่เองไม่เคยเล่นเกมเลยครับ ดูแต่ในหนังน่ะครับ เห็นว่าน่ารักดี ก็เลยนะ...เอาซะหน่อย ทุกวันนี้พี่จะกลายเป็นเฒ่าทารกไปแล้วครับ ฮะฮะฮะ

รักษาสุขภาพด้วยเช่นเดียวกันนะครับไอ๊ซ์

โดย: เพลงดาบกระบี่เดียวดาย

วันที่: 29 พฤศจิกายน 2552 เวลา:7:51:36 น.

เรื่องนี้ยังไม่ได้ดูเลยอ่ะ ขออ่านแบบคร่าวๆ แล้วกันเนาะ ไม่รู้ใกล้ลาโรงรึยัง กว่าจะว่างไปดูก็เกือบกลางเดือนธ.ค.โน่นแน่ะ

ถ้าคำทำนายเกิดจริงขึ้นมามันก็อดใจหายไม่ได้เหมือนกัน นี่เราจะมีชีวิตอีกแค่ 3 ปีหรือนี่

แต่ถ้าไม่จริงเหมือนคำทำนายที่เคยว่าในปี 2000 ล่ะ คราวนี้คงต้องมีการชำระความกันยกใหญ่เลยอ่ะ

เรื่องแบบนี้ 50/50 วันนี้เราก็ทำชีวิตให้ดีที่สุดละกัน จริงป่ะน้องไอซ์คุง

* * * * * * * * * *

ไปปายสนุกมั้ยหรอ?? อืม..ปนๆ กันไปมากกว่าน่ะจ่ะ ถ้าจะไปพี่แนะนำไปเครื่องบินดีกว่านะครึ่งชั่วโมงถึง ขึ้นเครื่องที่เชียงใหม่นั่นล่ะ ถ้าไปแบบพี่อาจมีมึนงงได้

โดย: ส้มแช่อิ่ม

วันที่: 29 พฤศจิกายน 2552 เวลา:9:28:23 น.

"จนทำให้ผมอดใจไม่อยู่ต้องหันไปบ่นกับนายตัวร้ายที่ไปดูด้วยกันไม่ได้ว่า “อะไรมันจะเว่อร์ได้ขนาดนี้"

คริคริคริ ไปดูกับนายตัวร้ายด้วย

ด้วยความที่ไม่ค่อยเป็นคอหนังสักเท่าไหร่ เลย อะแฮ่ม...ไม่เคยดูเลยซักกะเรื่องที่ยกมา

แม้แต่ The Day after 2mr ห้าๆๆๆ

เมื่อวานก็ได้เมล์เรื่องปี 2012 เหมือนกันครับ แต่เป็นเรื่องดาวเคราะห์ดวงที่ 12 อะไรก็ไม่รู้ ชื่อน่ารักๆเหมือนของกิน

เพื่อนฟอร์เวิร์ดมาให้ อ่านไปแล้วก็ลืมไปแล้ว

ไม่เห็นต้องทำนายเลย อีกสามปีเดี๋ยวก็รู้นิ

โดย: Unravel

วันที่: 29 พฤศจิกายน 2552 เวลา:17:51:19 น.

สวัสดีค่ะคุณไอซ์ ไม่ได้มาทักหลายวัน

สบายดีหรือเปล่าค่ะ...

เป็นหนังอีกเรื่องค่ะ ที่อยากดู แต่ก็คงไม่มีโอกาศได้ดูในโรงหนัง

สงสัยคงต้องรอ ตอนที่หนังลงแผ่น

โดย: กล้วยน้ำ

วันที่: 29 พฤศจิกายน 2552 เวลา:20:16:55 น.

สวัสดีคร๊าพี่ไอซ์
อัพบล็อกแระน๊า อิอิ
ฝนยังไม่ได้ไปดูเรื่องนี้เลย เพราะเกือบสิ้นชีพอยู่ห้องแลป คืนนี้ฝันดีคร๊า

โดย: น้ำเคียงดิน

วันที่: 29 พฤศจิกายน 2552 เวลา:20:21:48 น.

เพื่อนเราที่ไปดูเรื่องนี้เค้าบอกว่าดูแล้วเราจะรักโลกเลยอ่ะ แบบน่ากลัวอ่ะค่ะ

โดย: น้องข้าวเหนียวกะพี่หมูปิ้ง (MooBamBam

) วันที่: 29 พฤศจิกายน 2552 เวลา:22:42:18 น.

แวะมาทักทายกันวันจันทร์สุดท้ายของเดือนจ้า
วรรณกรรมชุด ทไวไลท์นี้เค้าเขียนได้ละเมียดละไมในอารมณ์ดีนะจะบอกให้

โดย: หอมกร

วันที่: 30 พฤศจิกายน 2552 เวลา:7:00:31 น.

สวัสดียามเช้าครับไอซ์คุง

เมื่อวานคนไม่ค่อยเยอะ
พี่ก๋าได้หนังสือมา 10 เล่มครับ อิอิอิ

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 30 พฤศจิกายน 2552 เวลา:7:55:04 น.

อยากบอกว่าที่แวะเข้ามาทักทาย ส่วนหนึ่งก็มาจากหัวบล็อกของคุณนี่แหละค่ะ
ชอบประโยคที่ว่า "กำลังใช้ชีวิต - i just living life"
เคยฟังเพลงนี้ของวง Coldplay ไหม ชื่อเพลง Life is for living เป็นเพลงที่ฉันชอบมาก ลองไปหาฟังดูนะ ท่อนนึงในเพลงนั้นบอกว่า "...But, life is for living,We all know
And I don't wanna live it alone."