การกลับมาเป็นครั้งที่ 3 ของซูเปอร์ฮีโร่เกราะเหล็ก
ไอออน แมน (Iron man) ที่ยังคงได้
โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ (Robert Downey Jr.) พระเอกจาก 2 ภาคที่แล้ว(พ่วงด้วย
The Avengers อีกหนึ่งเรื่อง) กลับมารับบทนำเหมือนเคย โดยภาคนี้หนังได้ผู้กำกับ
เชน แบล็ค (Shane Black) แห่ง
Kiss Kiss Bang Bang มากำกับความมันส์แทน..
ซึ่งภาค 3 นี้ถือว่าเป็นช่วงเวลาต่อจาก
The Avengers โดย
โทนี่ สตาร์ค หรือ
ไอออน แมน ของเราต้องเจอกับศึกหนัก เมื่อศัตรูร้ายรายที่ว่าดันเป็นผู้ก่อการร้ายขาโหดอย่าง
เดอะ แมนดาริน (เบ็น คิงส์ลีย์) ที่บุกเล่นงานสตาร์คถึงถิ่น จนพลอยทำให้
เป็ปเปอร์ พ็อตต์ส (กวินเนท พัลโทรว์) แฟนสวยของเขาเดือดร้อนไปด้วย แค้นนี้จึงต้องชำระเพื่อคนที่เขารัก.. เรื่องราวการต่อสู้และบททดสอบจิตใจของไอออน แมนจึงเริ่มต้นขึ้น!!
แม้ช่วงแรกๆ
Iron man 3 อาจจะยืดเยื้อเวิ่นเว้อมากไปหน่อย ด้วยความที่หนังเน้นดราม่าความสัมพันธ์มากเกินไป จึงอาจทำให้คนดูที่ต้องการความสนุกตั้งแต่ต้นรู้สึกสะดุดอยู่ไม่น้อย แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่นัก เมื่อช่วงกลางเรื่องเป็นต้นไปหนังเริ่มที่จะเพิ่มความสนุกแบบมาตามสูตรสำเร็จของหนังซัมเมอร์ที่แอ็คชั่นกระจาย ระเบิดกระเจิง และมันส์มากๆ สุดท้าย
Iron man 3 จึงกลายเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่โคตรจะมันส์ที่ดูสนุกอีกเรื่องหนึ่ง
มาว่ากันต่อที่นักแสดง เริ่มด้วย 4 นักแสดงหลักจากภาคก่อนๆ อย่าง
โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ (Robert Downey Jr.),
กวินเนท พัลโทรว์ (Gwyneth Paltrow),
ดอน ชีเดิล (Don Cheadle) ในบท
วอร์แมชชีนหรือพันเอกเจมส์เพื่อนพระเอก และ
จอน แฟว์โร (Jon Favreau) ในบท
แฮปปี้ โอแกน หัวหน้าบอดี้การ์ดส่วนตัวนั้น ต่างก็รับบทของตัวเองได้อย่างมีเสน่ห์เหมือนเคย ส่วนหน้าใหม่คนอื่นๆนั้น ทั้ง
กาย เพียสซ์ (Guy Pearce),
รีเบคก้า ฮอลล์ (Rebecca Hall) และ
เบ็น คิงส์ลีย์ (Ben Kingsley) ก็แสดงได้อย่างไม่มีที่ติ โดยเฉพาะรายของคิงส์ลีย์นั้น ขอบอกได้เลยว่านี่จัดเป็นตัวร้ายที่มีสีสันตัวหนึ่งในโลกภาพยนตร์เลยก็ว่าได้!!
นอกจากหนังจะเน้นที่ดราม่าความสัมพันธ์แล้ว (พระเอก-นางเอก, พระเอก-เพื่อน, พระเอก-ผู้ร้าย) หนังยังเล่นประเด็นเกี่ยวกับแผลในใจของพระเอกอีกด้วย นั่นก็คือ
"ความกลัว" โดยปัญหาที่ว่ามีผลข้างเคียงมาจากศึกใหญ่กลางเมืองนิวยอร์คใน
The Avengers นั่นเอง! ชอบมากตรงที่คนเขียนบทเลือกหยิบเอาตัวละครเด็กผู้ชายที่มีปัญหาครอบครัวมาเป็นตัวช่วยรักษาหรือคนบรรเทาแผลในใจของสตาร์คที่ดูเหมือนจะแฝงมาในแบบความสัมพันธ์ฉันท์พ่อลูกตามสไตล์เกรียนๆของสตาร์คก็ตามที แต่หนังก็จับจุดใส่เข้ามารวมกันในหนังเรื่องนี้ได้และถือว่าเป็นเสน่ห์เล็กๆอย่างหนึ่งของภาคนี้เลยทีเดียว
กับฉากแอ็คชั่นนั้นก็ทำได้มันส์ถึงใจสุดๆ ระเบิดระเบ้อตามสไตล์หนังซูเปอร์ฮีโร่ ชอบมากกับฉากที่สตาร์คเรียกเกราะเหล็กไอออนแมนมาใส่ทีละส่วนที่ดูไป ลุ้นไป และขำไป แต่ที่ฟินที่สุดก็คงเป็นฉากรวมหุ่นเกราะเหล็กนับสิบตัวที่มาแบบจัดหนักจัดเต็มซึ่งคาดว่าน่าจะถูกอกถูกใจบรรดาแฟนพันธุ์แท้ไอออนแมนเป็นแน่แท้..
และข้อคิดดีๆที่ผมได้จาก
Iron man 3 ก็คือ ทุกความกลัวมันเกิดขึ้นเพราะใจเราเอง และทุกความกล้ามันก็เกิดขึ้นเพราะใจเราเองด้วยเหมือนกัน!!