สร้างมาจากนิยายวัยรุ่นชุดขายดีชื่อดังของ
เจมส์ แดชเนอร์ ที่หยิบเอาเล่มแรกในชุดมาสร้าง (
The Maze Runner, The Scorch Trials, The Death Cure และเล่มล่าสุดที่เป็นภาคก่อน
The Kill Order) กำกับโดยผู้กำกับหน้าใหม่
เวส บอลล์ นำแสดงด้วยทีมนักแสดงวัยรุ่นอย่าง
ดีแลน โอเบรียน, คาย่า สโคเดลาริโอ, ไค ฮอง ลี, โธมัส โบรดี้-แซงสเตอร์, เอมล์ อามีน, วิลล์ โพลเตอร์, เบลค คูเปอร์ และ
แพทริเซีย คลาร์กสันโธมัส (ดีแลน โอเบรียน) ตื่นขึ้นมาในลิฟต์ที่กำลังเคลื่อนที่ขึ้นไปด้านบนช้าๆ เมื่อกรงขนส่งหยุดและประตูเปิดออก เขาพบว่าตัวเองอยู่ท่ามกลางกลุ่มชายฉกรรจ์ที่รอต้อนรับเขาสู่ทุ่ง พื้นที่เปิดกว้างขนาดใหญ่ที่ถูกล้อมไปด้วยกำแพงคอนกรีตขนาดมหึมา ในสมองของโธมัสมีแต่ความว่างเปล่า เขาไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน ไม่รู้ว่ามาจากที่ใด และจำพ่อแม่ เรื่องราวในอดีต หรือแม้แต่ชื่อของตัวเองไม่ได้ด้วย
โธมัสกับเพื่อน
ชาวทุ่ง ของเขาไม่รู้ว่าทำไมหรือเพราะอะไรพวกเขาถึงมาอยู่ที่ทุ่งได้ พวกเขารู้แต่เพียงในทุกๆ เช้าประตูคอนกรีตขนาดยักษ์ที่พาไปสู่เขาวงกตจะเปิดออก ทุกคืนเมื่อตะวันตกดินประตูจะปิดตัวลง และทุก 30 วันจะมีเด็กผู้ชายหน้าใหม่อยู่ในลิฟต์ ลักษณะของเขาวงกตที่พอจับทางได้ทำให้โธมัสเริ่มมีความหวัง แต่ที่คาดไม่ถึงคือกล่องโผล่ขึ้นมาอีกครั้งในช่วงไม่ถึง 1 อาทิตย์ต่อมา ซึ่งนั่นเป็นการมาเยือนของ
เทเรซ่า (คาย่า สโคเดลาริโอ) ผู้หญิงคนแรกที่ได้มาเหยียบทุ่ง..
โธมัสได้เรียนรู้ว่าผู้อาศัยที่ทุ่งแต่ละรายจะต้องมีหน้าที่ ตั้งแต่การจัดสวน ก่อสร้าง เป็นหนึ่งในสุดยอดนักวิ่งที่ทำแผนที่กำแพงของเขาวงกตเพื่อกันพวกเขาหนี และเปลี่ยนรูปร่างหน้าตาของเขาวงกตทุกคน
นักวิ่ง (Runners) ต้องแข่งกับเวลาเพื่อการครอบคลุมพื้นที่มากที่สุด ให้ได้มากที่สุดก่อนจะสิ้นสุดวันนั้น เมื่อเขาวงกตปิดตัวลงและ
โศกาจักรกล (Grievers) ชีวภาพที่น่ากลัวจะเดินเร่ตามทางเดินของสิ่งก่อสร้างคอนกรีต
แม้จะเป็นสมาชิกหน้าใหม่หรือ กรีนนี่ โธมัสไม่รู้สึกไม่ค่อยสบายใจกับเรื่องทุ่งและเขาวงกตเลย มันน่าจะมีบางอย่างที่ล้างความทรงจำของเขาไป และมันน่าจะเป็นกุญแจในการไขปริศนาเขาวงกตและน่าจะเกินขอบเขตโลกของเราด้วย ซ้ำก็เป็นได้!!
(ขอบคุณเรื่องย่อจาก nangdee.com)พูดได้คำเดียวว่า.. สนุกเกินคาด เนื่องด้วยก่อนดูไม่ได้คาดหวังอะไรไว้ อาจเป็นเพราะตัวอย่างหนังมันไม่ค่อยดึงดูดสักเท่าไร แถมปีนี้ยังมีหนังที่สร้างมาจากนิยายวัยรุ่นอยู่หลายเรื่องที่ทำออกมาแล้วไม่สนุก เลยทำให้รู้สึกเฉยๆ เข้าไปดูแบบไม่ได้คาดหวังอะไร
แต่แล้วกลับพบว่า
The Maze Runner เป็นหนังแอ็คชั่นไซ-ไฟแนวเอาตัวรอดที่ดูสนุกตั้งแต่ต้นจนจบ ชอบตรงที่หนังเล่าเรื่องแบบให้คนดูได้รับรู้ความจริงไปพร้อมๆ กับตัวละคร ซึ่งตรงนี้มันทำให้เราคนดูมีอารมณ์ร่วมและยังทำให้หนังดูน่าติดตาม (แต่อาจทำให้บางคนที่ไม่เคยอ่านหนังสือหรือเรื่องย่อเกิดอาการงงได้)
กับเนื้อเรื่องที่เล่าถึงในโลกอนาคตยุคดิสโทเปียนั้นก็แดกดันได้อย่างเจ็บแสบผ่านคำพูดของผู้ใหญ่ที่ว่า..
"โลกนี้มันโหดร้าย" ได้อย่างแสนจริง
เจ๋งตรงที่เปรียบการหาทางออกจากเขาวงกตของนักวิ่ง(Runners) เหมือนการตามหาอิสระของมนุษย์!! ปกติก็ชอบอยู่แล้วกับหนังที่เล่นกับสถานที่แคบๆ แบบนี้ ซึ่งกับฉากแอ็คชั่นนั้นก็ทำได้ถึง (แม้จะไม่ได้มีมากมายอะไรนัก)
ยิ่งช่วงที่ตัวเอกต้องไปวิ่งอยู่ในเขาวงกตด้วยแล้วก็ทำออกมาได้ตื่นเต้นและโคตรลุ้นระทึกดี โดยเฉพาะเจ้าสัตว์ประหลาด
'กรีฟเวอร์' นั้นก็ดูน่ากลัวจริงอะไรจริง!!
ด้านการแสดงขอบอกเลยว่าฟินมากๆ เพราะเต็มไปด้วยหนุ่มๆ กับดีแลนพระเอกของเรื่องก็ทำได้ดีในบทของตัวเอง ส่วนสาวคาย่าหนึ่งเดียวในเรื่องบอกได้คำเดียวว่าดับสนิท ถูกฟีโรโมนหนุ่มๆ กลบซะมิด
ส่วนคนที่โดดเด้งที่สุดคงต้องยกให้ 2 หนุ่ม ไค ฮอง ลี (มินโฮ) กับ โธมัส (นิวท์) ที่หล่อ/น่ารักโดนใจแบบขโมยซีนมากๆในส่วนของตอนจบกับบทหักมุมสุดท้ายนั้นถือว่ายอมรับได้และยังอธิบายพร้อมไขข้อข้องใจที่สงสัยได้เป็นอย่างดี (บอกไม่ได้เดี๋ยวเป็นการสปอยล์หนังต้องไปดูกันเอาเอง)
แต่เสียอยู่หน่อยตรงที่จบแบบค้างคาอย่างนี้ยิ่งทำให้อยากดูภาค 2 ต่อไวๆสรุป The Maze Runner เป็นหนังแอ็คชั่นไซ-ไฟแนวเอาตัวรอดที่สนุกเกินคาดและฟินมากๆกับบรรดาพวกหนุ่มๆ
ขนาดได้รับคำชมจากไอซ์ ยังได้ไม่ถึง 8 เลยนะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ปีศาจความฝัน Movie Blog ดู Blog