|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
25 มกราคม 2551
|
|
|
|
คิดถึง
รถกระบะสีขาวซึ่งถูกดัดแปลงให้เป็นร้านกาแฟขนาดย่อมชลอความเร็ว และจอดสนิทข้างรั้วสีขาวของสนามหญ้าแห่งนั้น หญิงสาววางมือจากภาพเจดีย์เก่าบนผืนผ้าใบเบื้องหน้าและมองมาทาง ชายหนุ่มซึ่งกำลังจัดการแปลงร่างรถกระบะคันนั้นให้เป็นร้านกาแฟสด ด้วยท่าทางคล่องแคล่ว กลิ่นกาแฟหอมๆลอยมาแตะจมูกทำให้หญิงสาว รู้สึก"หิว" กาแฟขึ้นมาทันที จนต้องวางพู่กันลงกับจานสีก่อนที่จะมายืน เข้าคิวรอซื้อกาแฟต่อจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติหลายคน
"ได้แล้วครับ คาปูชิโนสองแก้ว" ชายหนุ่มบอกนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นเป็น ภาษาอังกฤษชัดถ้อยชัดคำ
"ถ้าดื่มหมดแล้ว มีถังขยะอยู่มุมโน้นนะครับหรือจะมาทิ้งที่นี่ก็ได้" ชาย หนุ่มอธิบายและชี้ไปยังถังขยะที่อยู่ข้างรถและยิ้มให้เมื่อเห็นว่านักท่อง เที่ยวทั้งสองพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจ
"คุณผู้หญิงรับอะไรครับ" เขายังคงถามเป็นภาษาอังกฤษเมื่อเห็นว่าหญิง สาวตรงหน้านั้นมีผิวขาวจัดและหน้าตาส่อว่าคงมีเชื้อจีนอยู่ไม่น้อย
"ขอลาเต้ค่ะ "
คำตอบทำเอาชายหนุ่มหยุดชะงักไปก่อนจะพูดแก้เก้อ "อ้าวคนไทยหรือครับนึกว่าฮ่องกงหรือใต้หวันเสียอีก"
"ค่ะ มีคนเข้าใจแบบคุณเยอะเลยค่ะ"
"คุณเป็นศิลปินหรือครับ" เขาถามและมองไปยังผืนผ้าใบที่เธอยังวาด ไม่เสร็จ
"ทำนองนั้นค่ะ"
"ไม่เคยเห็นคุณที่นี่มาก่อน"
"ดิฉันย้ายไปเรื่อยๆน่ะค่ะ "
"ดีจังที่มีกาแฟ" เธอพูดยิ้มๆเมื่อได้กลิ่นกาแฟนมหอมฉุย
"ผมเองก็เพิ่งจะมาขายเหมือนกันครับ" เขาบอก
"เป็นคนขายกาแฟที่ภาษาอังกฤษดีมาก"
"ผมไปเรียนมัคคุเทศน์สมัครเล่นมาด้วยน่ะครับ" ชายหนุ่มตอบ
"ถ้าสนใจไกด์นำเที่ยวติดต่อได้นะครับ"
"แล้วไม่ต้องขายกาแฟหรือคะ"
"อันนี้อาชีพเสริมครับ" เขาพูดยิ้มๆ
"สงสาร ลูกค้าขาประจำคุณจัง เอ๊ะ ต้องไปแล้วค่ะ " หญิงสาวบอกเมื่อเห็น ชาวต่างชาติสองคนยืนมองภาพที่เธอวาดไว้อย่างสนใจพร้อมกับจ่ายเงิน ค่ากาแฟให้เขา ก่อนจะทิ้งให้ชายหนุ่มมองตามหญิงสาวที่กำลังขายภาพ เขียนที่เสร็จแล้วของเธอให้กับนักท่องเที่ยว
...............................................
กว่าที่หญิงสาวจะหาที่จอดสำหรับรถเก๋งคันเล็กของเธอได้และกลับมาที่ ร้านก๋วยเตี๋ยวขาไก่ชื่อดังประจำย่านนั้นได้ โต๊ะตัวสุดท้ายก็ถูกจับจองจน เจ้าตัวต้องทำหน้ามุ่ย คุณยายเจ้าของร้านถึงกับขำเมื่อเห็นท่าทางของเธอ ทำให้ชายหนุ่มที่นั่งรอก๋วยเตี๋ยวอยู่ต้องหันมามองข้างหลัง "อ้าว "ชายหนุ่มร้องทักเพราะจำได้ว่าเธอคือศิลปินสาวเมื่อช่วงเย็น
"นี่ผมนั่งโต๊ะจองของคุณหรือเปล่า" เขาถามเมื่อเห็นหน้ามุ่ยๆของเธอ
"เปล่าค่ะ แต่ขับรถผ่านมาเมื่อตะกี้เห็นมันยังว่างอยู่"
"อ้อ ช่วงหัวค่ำคนเยอะครับร้านนี้ ถ้าไม่รังเกียจขอผมนั่งด้วยคนนะ" ชายหนุ่มพูดยิ้มๆ
"ดิฉันต้องเป็นคนพูดต่างหาก" เธอบอกพร้อมทั้งนั่งลงและกล่าวคำขอบคุณ ก่อนจะหันไปสั่งก๋วยเตี๋ยวและมองซ้ายมองขวาจนชายหนุ่มแปลกใจ
"คุณจะจองที่ให้ดิฉันสักประเดี๋ยวได้ไหมคะ"
"อ้อ ครับ " ชายหนุ่มตอบแบบงงๆ ในขณะที่หญิงสาวหยิบกล้องถ่ายรูป ออกจากเป้ใบเล็กและเดินข้ามถนนไปอีกฝั่งเพื่อถ่ายรูปร้านจากมุมนั้น มุมนี้จนพอใจ ก่อนที่จะวิ่งกลับมา
"ผมนึกว่าคุณเป็นจิตรกร ไม่นึกว่าจะเป็นช่างภาพด้วย" ชายหนุ่มถามเมื่อ เธอนั่งลงอีกครั้ง
"เป็นหลายอย่างค่ะ เพื่อปากท้อง" เธอตอบยิ้มๆก่อนจะตักเครื่องปรุงใส่ ก๋วยเตี๋ยวในชามกระเบื้อง
"มัคคุเทศน์ยังขายกาแฟได้เลย" เธอพูดพลางหัวเราะ ชายหนุ่มหัวเราะตามก่อนจะตอบ
"นั่นสิ สมัยนี้ต้องทำทุกอย่างจริงๆ"
"แล้วคุณจะอยู่ที่นี่นานไหม" เขาถามต่อ
"พรุ่งนี้อีกวันค่ะ"
"ตกลงคุณเป็นมัคคุเทศจริงๆหรือเปล่า" เธอถามต่อ
"อ้าว จริงสิคุณ ผมผ่านการอบรมแล้วนะ ถึงจะเป็นหลักสูตรเบื้องต้นก็ เถอะ" ชายหนุ่มตอบพร้อมทั้งหยิบบัตรประจำตัวมัคคุเทศส่งให้เธอ
"ค่านำเที่ยวแพงมั้ย"หญิงสาวถามก่อนจะจดชื่อเขาลงในสมุดโน้ตเล่มเล็ก
"กันไว้ก่อน เผื่อมีอะไร" เธอบอกเมื่อเห็นสายตาขำๆของเขา
"ไปกี่คน"
"คนเดียว" เธอตอบ
"สี่สิบ"
"หือ"
"สี่สิบ ค่าก๋วยเตี่ยว" ชายหนุ่มตอบก่อนจะพูดต่อ
"ผมกำลังเบื่อๆ ถ้าคุณยอมเลี้ยงมื้อนี้ผม ผมจะพาไปดู ไนท์ไลท์"
หญิงสาวหัวเราะ "พูดจริงเหรอคะ"
"เอ้า จริงสิ" ชายหนุ่มตอบ
"แต่ค่าก๋วยเตี๋ยวยี่สิบเองนี่" เธอถาม
"ใจคอจะเลี้ยงผมแค่ชามเดียวหรือไง"
หญิงสาวหลุดขำแต่พยักหน้ายอมให้ชายหนุ่มสั่งก๋วยเตี๋ยวมาอีกชาม
..........................................
สถานที่ที่ชายหนุ่มมัคคุเทศฝึกหัดพาเธอมาคือสถานที่เดียวกับที่เธอมา วาดรูปตอนเย็นนั่นเอง เพียงแต่กลางคืนมีการเปิดไฟสปอตไลท์ ทำให้เกิด แสงเงาดูแปลกตา
"สวยไปอีกแบบ" เธอบอกก่อนจะพูดต่อ
"น่าเสียดายนะ ที่ถูกทิ้งร้าง"
"ร้างที่ไหนกันคุณ วัดพระศรีสรรเพชญ์นี่ออกจะดัง"
"ฉันหมายถึงไม่มีพระสงฆ์มาจำพรรษาต่างหาก เลยกลายเป็นวัดร้าง"
"ไม่ใช่หรอกคุณ" ชายหนุ่มพูดก่อนจะอธิบายต่อ
"วัดพระศรีสรรเพชณ์นี่เป็นวัดที่ถูกสร้างมาเพื่อเป็นวัดประจำพระราชวังใน สมัยอยุธยาเป็นราชธานี เพื่อใช้ประกอบพิธีสำคัญต่างๆของบ้านเมือง ก็เลยไม่มีพระสงฆ์จำพรรษาและเป็นต้นแบบของวัดของวัดพระศรีรัตน ศาสดารามหรือวัดพระแก้วที่กรุงเทพนั่นละ ที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา เหมือนกัน"
"อะไรคุณ " ชายหนุ่มถามเมื่อเห็นสายตาทึ่งๆของหญิงสาว
"ไม่นึกว่ารู้ละเอียดนะเนี่ย"
"อ้าว"
"คุณช่วยฉันถ่ายรูปหน่อยนะ " หญิงสาวบอก พร้อมกับยื่นขาตั้งกล้องให้
"ตกลงคุณอยากได้คนนำเที่ยวหรือลูกมือกันแน่" ชายหนุ่มถาม
"ก็ทั้งสองอย่างนั่นล่ะค่ะ เอาล่ะ ทำงานกันดีกว่าให้คุ้มค่าก๋วยเตี๋ยวหน่อย" หญิงสาวพูดยิ้มๆ ในขณะที่ชายหนุ่มแบกขาตั้งกล้องตามเธอไป
"ขากลับแวะไปดูตลาดเปิดท้ายหน่อยนะ"
"อยู่ใกล้ๆเกสท์เฮ้าส์ที่ฉันพักอยู่" เธอพูดต่อ
ชายหนุ่มพยักหน้าอย่างอารมณ์ดี ตกลงไม่รู้ว่าใครนำเที่ยวซะแล้วสิเขาคิด
..........................
"เลี้ยวซ้ายข้างหน้านะ" หญิงสาวบอกเมื่อชายหนุ่มขับรถพาเธอมาใกล้ สี่แยกไฟแดงใกล้กับตลาดที่เธอต้องการไป
"อ้าว คุณ! " หญิงสาวร้องเมื่อเห็นว่าเขาเลี้ยวมาอีกทาง
"จะไปไหนน่ะ เราต้องเลี้ยวซ้าย" เธอบอก
"ผมแยกขวาซ้ายไม่ออกน่ะ" ชายหนุ่มสารภาพเสียงอ่อยๆ
"ก็คุณบอกกระทันหันคิดไม่ทัน แต่เดี๋ยวเราวนกลับมาใหม่ได้"
"พิลึกคน" หญิงสาวพูดพร้อมกับมองหน้าเขาและต้องหลุดขำเมื่อเห็นว่า เขาทำหน้าเหมือนเด็กโดนครูดุ
"ยิ้มได้แล้ว โดนดุนิดเดียวเอง" หญิงสาวบอก ทำให้ชายหนุ่มยิ้มออกมาได้ ก่อนจะวนรถกลับมาและเลี้ยวไปในทางที่ถูกต้อง
ตลาดแห่งนั้นก็เหมือนกับตลาดนัดทั่วไปมีเสื้อผ้า อาหารและข้าวของเครื่อง ใช้วางขายอยู่เต็มไปหมด รวมถึงเครื่องประดับและของที่ระลึกซึ่งหญิงสาว เลือกซื้อติดมือมาสองสามชิ้น
"โรคแยกขวาซ้ายไม่ออกนี่เป็นมานานหรือยัง" เธอถาม
"ตั้งแต่เด็กแล้ว"
หญิงสาวมองที่ข้อมือของชายหนุ่มก่อนที่จะถามต่อ "ไม่ใส่นาฬิกาล่ะ จะได้จำได้ว่าข้างที่ใส่นาฟิกาคือข้างไหน"
"ไม่ล่ะ หนัก ไม่ถนัดด้วย ผมดูเวลาจากนี่" เขาบอกพร้อมทั้งหยิบ โทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง
"คุณเป็นมัคคุเทศที่แปลกจริงๆล่ะ"เธอบอก
"มีแฟนหรือยัง" เธอถาม
"หือ" ชายหนุ่มทำตาโตเพราะไม่คิดว่าหญิงสาวจะถาม
"ไม่ได้จะจีบหรอกน่า" หญิงสาวพูดต่อโดยที่สายตายังมองที่แผงขาย เครื่องประดับ
"ยัง" ชายหนุ่มตอบ หญิงสาวพยักหน้าก่อนจะจับมือชายหนุ่มขึ้นพลิก ไปมา
"ขอดูวงนี้ค่ะ" เธอชี้บอกคนขายแหวนเงินที่แผงเครื่องประดับ ก่อนจะรับ มาและสวมเข้าที่นิ้วนางของชายหนุ่ม
"เฮ้ย" ชายหนุ่มร้องด้วยความเขิน
"พอดีเลยเห็นมั้ย" หญิงสาวบอกพร้อมกับจับมือชายหนุ่มพลิกไปมา
"ทีนี้ก็จำไว้นะว่าข้างที่ใส่แหวนคือข้างซ้าย" เธอบอกพร้อมกับยักคิ้วให้ และหัวเราะเมื่อเห็นว่าใบหน้าชายหนุ่มนั้นแดงด้วยความเขิน
"กลับบ้านเองได้ใช่ไหม" เธอถาม
ชายหนุ่มพยักหน้า
"นี่มันถิ่นผมนะ" เขาบอก
"ขอบคุณนะคะสำหรับการนำเที่ยว" หญิงสาวพูดและโบกมือให้
ชายหนุ่มรู้สึกใจหายเมื่อรู้สึกว่าเธอกำลังจะจากไป "แล้วผมจะได้เจอคุณอีกไหม" เขาตะโกนถามเมื่อเธอเดินห่างออกไป
"ไม่รู้สิ" เธอหันกลับมาตอบและโบกมือให้อีกครั้งก่อนที่จะหายไปกับ ฝูงชนที่เดินไปมาในตลาดนัด .......................................
ชายหนุ่มนั่งมองแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายนั้นและอดยิ้มไม่ได้ หญิงสาว ที่เจอกันเพียงวันเดียว แต่กลับสร้างความอบอุ่นในใจและทำให้เขา คิดถึงทุกครั้งที่มองแหวนวงนี้ ไม่รู้ว่าป่านนี้เธอจะอยู่ที่ไหนและเป็น อย่างไร และ เธอจะคิดถึงเขาบ้างไหม..และเขา...จะได้พบเธออีกไหม..
นิตยสารท่องเที่ยวฉบับหนึ่งถูกวางลงบนโต๊ะ ทำให้ชายหนุ่มต้องรีบเอามือ ลงและยิ้มแก้เขิน
"ขอบคุณครับ คุณวิไล" ชายหนุ่มบอกเลขานุการก่อนจะหยิบนิตยสาร นั้นไปวางที่ชั้นด้านหลัง
"หัวหน้าจะไม่เปิดอ่านก่อนเหรอคะ" เลขานุการสาวบอกผู้จัดการบริษัท นำเที่ยวของเธอ
"ไว้ ว่างๆก่อน" ชายหนุ่มบอกและทำท่ายุ่งกับงานแก้เขินเมื่อสังเกตว่า เธอมองแหวนที่นิ้วของเขา
"ไม่รู้ว่าหัวหน้าไปเป็นแบบด้วย" เธอพูด
ชายหนุ่มเลิกคิ้วและมองหน้าเธอด้วยความแปลกใจ "แบบอะไร"
"ก็รถกาแฟของหัวหน้าที่แอบไปขายทุกเย็นนั่นไงคะ มีอยู่ในหนังสือด้วย" เธอบอก
ชายหนุ่มเอื้อมมือไปหยิบนิตยสารฉบับนั้นขึ้นมาก่อนจะเปิดผ่านๆและ มาหยุดที่หน้าหนึ่งซึ่งเป็นภาพเขียนสีน้ำสดใส ภาพวาดนั้นเป็นภาพเจดีย์เก่าที่วัดพระศรีสรรเพชญ์ แต่ที่แปลกคือมีรูป รถขายกาแฟของเขาจอดอยู่ใกล้ๆกับเจดีย์ด้วย ชายหนุ่มพยายามอ่าน ชื่อของจิตรกรที่มุมขวาของรูปซึ่งเป็นเพียงตัวหนังสือเล็กๆ
"คิดถึง"
ความอบอุ่นแล่นเข้าสู่หัวใจของชายหนุ่มอย่างรวดเร็วและมากที่สุดเท่าที่ เขาเคยจำความได้
"คุณวิไล" เขาเรียกเลขาสาวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นจนเธอตกใจ
"คะ"
"คุณติดต่อบรรณาธิการแล้วขอเบอร์ติดต่อคนวาดภาพนี้ให้ผมด่วนเลยนะ"
เลขาสาวทำท่างงๆก่อนจะถามหัวหน้าของเธอ "หัวหน้าจะทำอะไรหรือคะ"
"เปล่า"
"อ้าว" "แล้วให้ติดต่อเรื่องอะไรคะ"
ชายหนุ่มยิ้มเขินๆก่อนจะตอบ "พอดีเธอเป็นเจ้าของแหวนน่ะ"
เลขานุการสาวอ้าปากหวอก่อนจะยิ้มให้และทำท่าเข้าใจ "อ๋อ ค่ะ เดี๋ยววิไลติดต่อให้ด่วนเลยค่ะ" เลขาสาวพูดก่อนจะรีบเดินออก ไปโทรศัพท์และแอบหันไปดูผู้จัดการหนุ่มที่นั่งอมยิ้มอยู่คนเดียว..........
................................................................................
กลิ่นกาแฟ
Create Date : 25 มกราคม 2551 |
|
37 comments |
Last Update : 25 มกราคม 2551 22:49:11 น. |
Counter : 868 Pageviews. |
|
|
|
| |
โดย: อาคุงกล่อง (อาคุงกล่อง ) 25 มกราคม 2551 23:30:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: สิงห์อมบ๊วย IP: 61.7.133.28 25 มกราคม 2551 23:39:27 น. |
|
|
|
| |
โดย: ศิลป์ใจ (ศิลป์ใจ ) 26 มกราคม 2551 14:53:21 น. |
|
|
|
| |
โดย: ป้ามะลิกับลุงมะระ IP: 83.92.155.165 27 มกราคม 2551 7:26:49 น. |
|
|
|
| |
โดย: G_LoVeLy 28 มกราคม 2551 16:12:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: รวยระรินกลิ่นชา IP: 203.154.148.66 29 มกราคม 2551 18:45:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: เด็กหญิงแอน IP: 202.12.73.4 30 มกราคม 2551 9:27:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: กลิ่นกาแฟ IP: 202.139.223.18 3 กุมภาพันธ์ 2551 8:20:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: นายแจม 6 กุมภาพันธ์ 2551 6:17:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: รวยระรินกลิ่นชา IP: 203.154.148.66 6 กุมภาพันธ์ 2551 11:55:35 น. |
|
|
|
| |
โดย: นายแจม 6 กุมภาพันธ์ 2551 12:09:39 น. |
|
|
|
| |
โดย: สีน้ำฟ้า IP: 119.42.71.115 7 กุมภาพันธ์ 2551 22:34:19 น. |
|
|
|
| |
โดย: โยเกิตมะนาว IP: 203.113.50.9 10 กุมภาพันธ์ 2551 15:02:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: yoda IP: 161.246.1.32 13 กุมภาพันธ์ 2551 12:42:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: ข้าวโพด IP: 202.47.154.102 29 กุมภาพันธ์ 2551 11:37:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: คนตัวดำ ผมหยิก IP: 125.25.190.190 4 มีนาคม 2551 12:42:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: mangotip IP: 118.173.239.244 25 มีนาคม 2551 23:50:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: toon-krub IP: 125.25.79.176 26 มกราคม 2552 0:21:52 น. |
|
|
|
| |
โดย: กลิ่นกาแฟ IP: 125.25.37.91 13 พฤษภาคม 2552 0:59:22 น. |
|
|
|
| |
|
|
กลิ่นกาแฟครับ |
|
|
|
Location :
ปราจีนบุรี Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]
|
กาแฟหอมๆสักแก้วมั้ยครับ
หากเพื่อนๆต้องการเผยแพร่งานเขียน ของนายกลิ่นรบกวนทำลิ้งมานะครับ หรือไม่ก็ช่วยลงเครดิตให้กับผู้แต่ง หน่อยนะครับ
|
|
|
กำลังซึ้งเลย จบตอนแล้วเหรอครับ? แล้วตอนต่อไปจะเอามาลงให้อ่านอีกเมื่อไหร่ครับ? แบบว่าใจร้อน อยากรู้ตอนต่อนะ ผมนั่งรอหน้าเครื่องคอมเลยได้ไหมครับ? อยากอ่านให้ถึงตอนจบครับ
+++++++++++++++++++++
จะบอกว่าพยายามตามหาคุณกลิ่นกาแฟมานานแล้ว ที่ผมลิงค์ไว้มันเข้าไม่ได้นะครับ เพิ่งได้เจอตอนอัพบล็อคใหม่เนี่ยเองครับ
จะบอกว่า ... ไอ้คอลัมน์แรกบนสุด เป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นทันทีหลังจากอ่านบรรทัดสุดท้ายของเรื่องในตอนนี้จบ เลยรีบเม้นท์ต่อว่าก่อนเลยครับ
ผมชอบนะครับ ผมชอบอ่านเรื่องรัก นิยายที่เกี่ยวกับรักที่สดใส เรื่องรักหวานแหวว ... อาจจะเป็นเพราะผมไม่มีความรักก็ได้ครับ ทุกครั้งที่อ่านเรื่องพวกนี้ เลยพยายามจินตนาการตามว่า ตัวผมเองเป็นพระเอกของเรื่อง เลยอ่านด้วยความรู้สึกที่อยากติดตามต่อให้จบแบบแฮบปี้แอนด์ดิ้งครับ
แต่ไม่รู้ว่าทำไม ... ทำไมผมเขียนเรื่องรักเหมือนแบบที่คนอื่นเขียนไม่ได้สักที พยายามเขียนหลายครั้งแล้วแต่ก็เขียนไม่ได้ ไม่สำเร็จสักครั้ง .... ต่างจากงานเขียนของคุณมาก ที่เขียนออกมาได้หวานแหว๋วและประทับใจมากครับ
ผมขออนุญาตเม้นท์ยาวสักนิดนะครับ เพราะผมเห็นว่ามันน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้เขียน ได้รับรู้ความรู้สึกและความคิดเห็นจากผู้อ่าน (ผมยังอยากให้เพื่อน ๆ อ่านงานเขียนของผมแล้วคอมเม้นท์วิจารณ์แบบนี้บ้างจังเลยครับ)
อิอิ
ปล.อย่าลืมมาบอกนะครับว่า ตอนต่อไปจะลงวันไหน?
อิอิ