รู้จักกันก่อนและสมุดเยี่ยม Guestbook เฟซบุ๊ค ชะเอมหวาน รวมเวปหาทุนและแหล่งทุน Scholarship เรียนโทสองประเทศในปีเดียว
หาตัวเองให้เจอ
Group Blog
 
<<
เมษายน 2554
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
23 เมษายน 2554
 
All Blogs
 
เงินทองของใคร ไหลมาเทมา


เชื่อไหมครับ ว่า เงินทองจำนวนมหาศาล “ไหลมา” กองรวมกันจำนวนมากมาย โดยไม่มีใครรู้ว่าเป็นทรัพย์สินเงินทองของผู้ใด

และไม่รู้ว่าจะเอาไปคืนให้ใครที่ไหน เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่ฟังราวกับนิยาย และเป็นที่ฮือฮาขึ้น มาเมื่อก่อนสงกรานต์ นี่เอง

เรื่องของเรื่องก็คือ มีผู้พบตู้นิรภัยจำนวนมาก (ซึ่งข้างในน่าจะบรรจุเงินสดและเพชรนิลจินดา) รวมทั้ง เงินสดอีกจำนวนมากเช่นกัน (ที่ไม่ทราบว่าเป็นของผู้ใด) วางอยู่เกลื่อนกลาดในพื้นที่ต่างๆ จึงได้นำไปมอบให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่สถานีตำรวจแห่งหนึ่ง เดิมทีเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เก็บตู้นิรภัยเหล่านี้ ไว้บนสถานีตำรวจ แต่ปรากฏว่ามีผู้นำมามอบให้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนนับเป็นร้อยๆ ตู้ ในที่สุดพื้นที่บนสถานีตำรวจก็ไม่เพียงพอที่จะเก็บทรัพย์สินเหล่านี้ จึงต้องเปิดพื้นที่บนลานจอดรถหน้าสถานีตำรวจ ให้เป็นที่กองตู้นิรภัย

ผมกำลังพูดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่ เมืองโอฟูนาโตะ เมืองชายทะเลแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น เหตุก็เพราะเมืองนี้ได้ถูกสึนามิทำลาย และ กวาดบ้านเรือน รวมทั้งอาคารที่ทำการธุรกิจ ต่างๆ หายวับไปกับตา ในเวลาเพียงไม่กี่นาที ซึ่งในจำนวนนั้น มีอาคารสาขาของพาณิชย์ หลายแห่งรวมอยู่ด้วย แน่นอนว่าในบรรดาสิ่งของ ที่ท้องทะเลหฤโหดได้กวาดไปนั้น ก็คือ เงินสด และตู้นิรภัย ที่อยู่ในที่ทำการของธนาคารต่างๆ รวมทั้ง ตู้นิรภัยจากบ้านเรือนต่างๆ จำนวนมากอีกด้วย เพราะชาวญี่ปุ่นสูงอายุนิยมเก็บเงินออม และทรัพย์สินไว้ที่บ้านของตนเอง

“เงินสด” ซึ่งชาวญี่ปุ่นสูงวัยจำนวนมาก ไม่ยอมฝากไว้กับธนาคาร แต่เก็บไว้ที่บ้าน นั้น ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า “ตันสุ โยคิน” (tansu yoking) ซึ่งแปลตรงๆ ว่า “เงินออมในตู้เสื้อผ้า” ทั้งนี้ ไม่มีใครทราบว่าทั้งประเทศญี่ปุ่น มีเงินที่เก็บ “นิ่งเฉย” ไว้ที่บ้าน เป็นจำนวนเท่าใด แต่ก็มีรายงานหนึ่งแจ้งว่า เงินเยนที่ไม่มีการเคลื่อนไหว ในระบบเศรษฐกิจของญี่ปุ่นนั้น มีมูลค่ารวมกันประมาณสูงถึง 350 พันล้านดอลลาร์

เมื่อมีทรัพย์สินเงินทองจำนวนมากมาย ไหลมากองอยู่ที่เดียวกัน ที่สถานีตำรวจโอฟูนาโตะ (ผมเชื่อว่า เมืองชายทะเลอื่นๆ ในประเทศญี่ปุ่นซึ่งโดนสึนามิ ก็คงมีตู้นิรภัยถูกกวาดไปในลักษณะเดียวกันนี้ เช่นกัน) จึงเป็นเรื่องลำบากของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะจะต้องหาวิธีส่งทรัพย์สิน กลับคืนเจ้าของที่แท้จริง โดยจะต้องมีกระบวนการที่เหมาะสม วิธีหนึ่งที่เชื่อมั่นได้ก็คือ ผู้ที่อ้างว่าเป็นเจ้าของตู้นิรภัย จะต้องอธิบายได้ว่าข้างในตู้มีอะไรบ้าง รวมทั้งรู้รหัส และสามารถเปิดตู้นิรภัยนั้นได้ด้วย อย่างไรก็ตาม ปัญหาในทางปฏิบัติ คงมิได้ง่ายเช่นนั้น

เพราะว่าชาวญี่ปุ่นได้เสียชีวิตไปจากภัยพิบัติครั้งนี้เป็นจำนวนมาก ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้สูง ว่าเจ้าของตู้นิรภัยส่วนใหญ่นั้น ได้เสียชีวิตไปแล้ว นอกจากนั้น ตู้นิรภัย มิใช่สิ่งเดียว ที่เจ้าหน้าที่เก็บมาได้ เพราะยังมี ธนบัตร ที่เก็บได้ จากซากอาคารต่างๆ อีกด้วย เงินสดเหล่านี้ จะรู้ได้อย่างไรว่า ใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง

เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่า หนักใจมาก ตัวอย่างเช่น ถ้าหากเก็บธนบัตร ได้จากซากอาคารแห่งหนึ่ง สมมติว่า จำนวน 50,000 เยน และต่อมามีผู้มาแจ้งด้วยความสุจริตใจ ว่าเงินหายไป 50,000 เยน เช่นกัน อย่างนี้ จะรู้ได้อย่างไร ว่าธนบัตรที่เก็บได้นั้น เป็นของคนคนนั้นจริง หรือว่าเป็นของคนอื่น เพราะน้ำทะเลได้ซัดทุกอย่างกระจัดกระจาย ออกไปกองในที่ต่างๆ ทั่วไปหมด

หนึ่งเดือนกว่าแล้ว ที่สึนามิ ได้ทำลายชีวิตและทรัพย์สินของชาวญี่ปุ่นจำนวนมาก กฎหมายญี่ปุ่นได้กำหนดไว้ว่า ภายในสามเดือน หลังจากพบทรัพย์สินเหล่านั้น ถ้าหากเจ้าของตัวจริงไม่มาแสดงหลักฐานที่ชัดเจนเพื่อขอรับคืน ก็ให้มอบทรัพย์สินนั้นให้แก่ผู้ที่เก็บได้ และถ้าหากผู้ที่เก็บได้ ก็ไม่มาแสดงตน ให้ทรัพย์สินนั้น ตกเป็นของรัฐ ดังนั้น จึงเหลือเวลาอีกประมาณเกือบสองเดือน ที่จะเป็นช่วงเวลาให้เจ้าของทรัพย์สินมาแสดงตน

น่าเห็นใจเพื่อนชาวญี่ปุ่นจริงๆ ที่ต้องเผชิญความทุกข์ยากเช่นนี้ สำหรับคนที่ฝากเงินไว้กับธนาคาร ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ส่วนคนที่เสียชีวิตไปแล้วหมดทั้งครอบครัว ก็พ้นทุกข์ไปแล้ว แต่ที่น่าเห็นใจก็คือ คนที่ยังมีทายาทเหลืออยู่ แต่ทายาทไม่เคยทราบว่ามีตู้นิรภัย หรือไม่เคยเห็นตู้นิรภัย หรือไม่เคยทราบรายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับทรัพย์สินในตู้นิรภัย ก็คงยากที่จะขอรับทรัพย์สินเหล่านั้น

อันว่า ตู้นิรภัย นั้น ใครๆ ก็คาดการณ์ได้ว่า ข้างในต้องมีทรัพย์สินเงินทอง ส่วนธนบัตร ที่เก็บได้จากซากต่างๆ นั้น ก็เป็นเงินสดใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย ทรัพย์สินเงินทองเหล่านี้ เป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนต้องการ แม้รายงานข่าวไม่ได้ระบุว่า ประชาชน หรือเจ้าหน้าที่ ผู้เก็บตู้นิรภัยและทรัพย์สินได้นั้น ได้นำมามอบให้ตำรวจ อย่างครบถ้วนทุกชิ้นหรือไม่ แต่ข่าวเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต และความมีวินัย ของคนญี่ปุ่นที่เราได้รับทราบมาโดยตลอด คงทำให้เราไม่สงสัยมากนัก และเชื่อได้ว่าคงนำไปมอบให้ตำรวจเกือบทั้งหมด

คงต้องติดตามข่าว ในอีกสองเดือนข้างหน้า ว่าประชาชนชาวญี่ปุ่น หรือเจ้าหน้าที่กู้ภัย ที่เป็นผู้เก็บทรัพย์สินเหล่านี้ได้ พวกเขาจะมาแสดงตน เพื่อขอรับทรัพย์สินเป็นของตนเอง (อย่างถูกต้อง ตามกฎหมาย) หรือว่า พวกเขาจะไม่แสดงตนและปล่อยให้ทรัพย์สินตกเป็นของรัฐ (อย่างถูกต้องตามกฎหมายเช่นกัน)

ทั้งสองทางนั้น เป็นวิธีที่ "ถูกต้องตามกฎหมาย" ทั้งคู่ แต่แบบไหน ทำไปแล้ว สบายใจกว่ากัน อันนี้อยู่ที่จิตสำนึกและการตัดสินใจของแต่ละคน ครับ

ผมเดาว่า ประชาชน หรือเจ้าหน้าที่กู้ภัย ที่เก็บตู้นิรภัยรวมทั้งทรัพย์สินของเพื่อนร่วมชาติได้ ซึ่งเจ้าของที่แท้จริงน่าจะเสียชีวิตไปแล้วนั้น ส่วนใหญ่คงจะเลือกวิธี ให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน

เพราะจิตสำนึกของชาวญี่ปุ่น ซึ่งมีเลือดรักชาติอย่างเข้มข้น นั้น พวกเขาน่าจะพิจารณาทั้งความ “ถูกต้อง” และ “ชอบธรรม” ครับ


Tags : เงินทองของใคร ไหลมาเทมา
ศ.ดร.วรภัทร โตธนะเกษม
เจ้าของคอลัมภ์นิสต์ BUSINESS&SOCIETY
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

......
เอามาจากฟอร์เวิร์ดเมลล์ค่ะ เห็นว่าดีเลยแบ่งปัน


Create Date : 23 เมษายน 2554
Last Update : 23 เมษายน 2554 10:49:35 น. 4 comments
Counter : 719 Pageviews.

 
ภัยพิบัติครั้งนี้ทำให้เรารู้อะไรดีๆ หลายอย่างของชาวญี่ปุ่นเค้าเยอะเลยค่ะคุณเอม เทียบกับไทยแล้วเรายังต้องปรับปรุงกันขนานใหญ่เลยทีเดียว


โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 23 เมษายน 2554 เวลา:19:59:06 น.  

 
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆนะคะน้องเอม อ่านไปก็คิดไปว่า อะไรนะที่ทำให้คนประเทศนี้มีวินัยได้มากขนาดนี้


โดย: is_ninja วันที่: 24 เมษายน 2554 เวลา:12:03:11 น.  

 
น่าชื่นชมคนประเทศนี้จริง นะคะพี่เอม


โดย: littlepup วันที่: 11 พฤษภาคม 2554 เวลา:21:47:18 น.  

 
พออ่านข่าวประเทศญี่ปุ่นแล้วก็น่าชื่นชม

แต่พอมาอ่านข่าวในประเทศเรา กลับรู้สึกแย่อย่างบอกไม่ถูกเลย

ยางพาราลอยตามน้ำ ชาวบ้านก็แย่งกันเก็บ ไม่ได้เก็บให้หรอกนะ
เก็บเอาไปขายเอง

รถขนปลา พลิกคว่ำ ชาวบ้านก็มาเก็บ แถมยังหน้าระรื่นว่าใครได้มากกว่ากัน
ในขณะที่คนขับ ได้แค่เพียงยืนตาปิบ ปิบ

ล่าสุดเรื่องรถน้ำมัน ....

เฮ้อออ จะไม่สงสัยเลยว่าถ้าเกิดเหตุการณ์เดียวกับญี่ปุ่น ประเทศไทยจะเหลืออะไร



โดย: เด็กน้อยตัวแสบ วันที่: 14 พฤษภาคม 2554 เวลา:11:22:04 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ชะเอมหวาน
Location :
Dalian(China),Guildford(UK),กทม.,สกลนคร United Kingdom

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




Edutainment
International Business
Bossa Nova& Easy Listening

ถ้าถามอะไรในนี้ไม่ได้ตอบ
กรุณาส่งไปทางเฟซบุ๊คเลยนะคะ
ไม่ค่อยได้เช็คบล็อกค่ะ
ขอบคุณค่ะ


 ยินดีต้อนรับ
ณ บ้านชะเอมหวานค่ะ
ขอบคุณที่มาเยี่ยมเยียนกันเสมอนะคะ
จขบ.เป็นอาจารย์เล็กๆค่ะ
ฟรีแลนซ์ พิธีกรงานแต่งงาน
สะสมโปสการ์ดค่ะ
ฟังเพลงสบายๆ
ชอบแต่งหน้าแต่งตัว
แต่งกลอน ขีดๆเขียนๆ
ท่องเที่ยว
ก็เป็นกำลังใจให้กันด้วยค่ะ จุ๊บๆ 





บ้านนี้จขบ.ต้องการสร้างสรรค์ให้เบา สบายๆค่ะ
เอนทรี่เก่าๆเกี่ยวกับอาหารและการท่องเที่ยวจะย้ายบ้านไปที่

Amiley lala(ท่องเที่ยวและอาหาร)



POSTCARD & International Business


ถ้าจะโหวตขอหมวดการศึกษา

และหมวดดนตรีค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ
credit::::
photo by พี่เป็ดสวรรค์)
Head blog กับของตกแต่งจาก

pk12th
และ

คุณกุ้ง Kungguenter


Follow amiley on Twitter



New Comments
Friends' blogs
[Add ชะเอมหวาน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.