คลุกวงใน
พิศณุ นิลกลัด
"เล่น" ให้ปลอดภัยที่บราซิล
การแข่งขันฟุตบอลโลกที่บราซิลคราวนี้ประเมินว่าจะมีแฟนฟุตบอลจากทั่วโลกเดินทางไปบราซิลประมาณ 6 แสนคน
"เรื่องเล็กๆ" เรื่องหนึ่งที่ทางผู้จัดการแข่งขันให้ความสำคัญมากคือการให้ความปลอดภัยแก่ผู้มีเพศสัมพันธ์ในบราซิลในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลก จึงมีการแจกถุงยางอนามัยฟรี
โครงการเอดส์แห่งสหประชาชาติ (UNAIDS) ได้บริจาคถุงยางอนามัยจำนวน 2 ล้านชิ้น ให้กับทางการบราซิล เพื่อแจกจ่ายให้คนบราซิลและชาวต่างชาติในช่วงการแข่งขันฟตุบอลโลก
UNAIDS ร่วมกับฟีฟ่าตั้งแคมเปญชื่อ Protect the Goal หรือ "ป้องกันประตู" เพื่อป้องกันไม่ให้มีการติดโรคเอดส์ที่บราซิลในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลก
ถุงยางจำนวน 2 ล้านชิ้น ฟังดูเหมือนจะเยอะ แต่ตามความเห็นของ ดร.ราฟิยู ลาดิโป (Dr.Rafiu Ladipo) ประธานสมาคมแฟนฟุตบอลไนจีเรีย (President-General of the Nigerian Supporters Club) จะพาแฟนชาวไนจีเรีย 1,100 คน ไปร่วมเชียร์ทีมไนจีเรียที่บราซิลเห็นว่า ถุงยาง 2 ล้านชิ้น ใช้วันเดียวก็หมดแล้ว!
ดร.ราฟิยูบอกว่า การที่ยูเอ็นบริจาคถุงยาง 2 ล้านชิ้น ฟังแล้วเหมือนเป็นเรื่องล้อเล่น เพราะแฟนฟุตบอลจากทั่วโลกที่ไปบราซิลส่วนใหญ่ไปโดยไม่มีภรรยาหรือแฟนสาวติดตามไปด้วย ดังนั้น ถุงยางแค่นี้ไม่พอใช้แน่นอน
ถาม ดร.ราฟิยูว่า ถุงยางกี่ชิ้นถึงจะพอใช้ในช่วงฟุตบอลโลก?
เขาตอบว่าอย่างน้อยต้อง 65 ล้านชิ้น!
เรื่องการเตรียมถุงยางให้แฟนบอลที่เดินทางไปเชียร์ฟุตบอลโลกไม่ใช่เรื่องตลก สมาพันธ์วางแผนครอบครัวแห่งสหราชอาณาจักร (The Family Planning Association) ได้มีแคมเปญรณรงค์ให้แฟนฟุตบอลชาวอังกฤษประมาณ 1 หมื่นคน ที่เดินทางไปเชียร์ทีมชาติอังกฤษที่ประเทศบราซิลเตรียมถุงยางติดตัวไปด้วยภายใต้แคมเปญจ์ชื่อ Play safe, use a condom หรือ "เล่นอย่างปลอดภัย, ใช้ถุงยางอนามัย" เอาถุงยางไปจากบ้านจะได้มั่นใจว่าเป็นถุงยางที่ผลิตได้มาตรฐาน มีคุณภาพ
อย่าเสี่ยงไปซื้อถุงยางที่บราซิลซึ่งขั้นตอนการผลิตอาจไม่ได้มาตรฐานและอาจติดโรคกลับมาได้
สมาพันธ์วางแผนครอบครัวแห่งสหราชอาณาจักรบอกว่าสิ่งเดียวที่ต้องการให้แฟนฟุตบอลชาวอังกฤษนำกลับมาประเทศก็คือถ้วยฟุตบอลโลก!
ส่วนนักฟุตบอลที่ลงแข่งขันจะมีโอกาสใช้ถุงยางหรือไม่ จะได้กุ๊กกิ๊กกับภรรยาหรือแฟนสาวในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกหรือเปล่านั้น เรื่องนี้เจ้าตัวไม่ได้เป็นคนตัดสินใจ แต่ผู้จัดการทีมเป็นคนตัดสินใจให้
ในการแข่งขันฟุตบอลโลกทุกครั้ง ประเด็นที่สื่อมวลชน และแฟนฟุตบอลให้ความสนใจคือเรื่องภรรยา และแฟนของนักเตะว่าทางผู้จัดการทีมอนุญาตให้นักเตะพักร่วมห้องกับภรรยาหรือแฟนในช่วงแข่งขันฟุตบอลโลกได้หรือไม่
การให้นักเตะนอนร่วมห้องกับภรรยา หรือนอนแยกห้องกับภรรยา ยังเป็นเรื่องโต้เถียงไม่รู้จบว่า อย่างไหนจะช่วยให้นักเตะแสดงฝีเท้าได้เต็มที่มากกว่ากัน
ฝ่ายที่เห็นด้วยกับการที่ให้ภรรยานอนร่วมห้องกับนักเตะ ให้เหตุผลสนับสนุนว่า การได้อยู่ใกล้ชิดกับลูกเมีย หรือแฟนสาว จะช่วยคลายความเครียด ความกดดันในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลก
ส่วนฝ่ายที่เห็นด้วยกับการให้ภรรยานอนแยกห้องกับนักเตะ ให้เหตุผลว่าจะช่วยให้นักเตะมุ่งมั่นมีสมาธิกับเกมการแข่งขันอย่างเต็มที่ เก็บเรี่ยวแรงไว้ลงแข่งขัน ไม่เสียแรงไปกับการทำกิจกรรมอื่นกับภรรยาหรือแฟน
สำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้ รอย ฮอดจ์สัน ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษห้ามภรรยาหรือแฟนนอนร่วมห้องกับนักเตะ นอกจากนี้ เวลาที่จะได้พบปะ พูดคุยกับสามีหรือแฟนหนุ่มนักเตะก็มีจำกัด ไม่สามารถเจอกันได้ตลอดเวลา
ส่วน หลุยส์ เฟลิเป้ สโกลารี่ โค้ชทีมชาติบราซิลใช้นโยบายสวนทางกับทีมชาติอังกฤษ คืออนุญาตให้นักเตะกุ๊กกิ๊กกับภรรยาหรือแฟนในช่วงแข่งขันฟุตบอลโลกได้ เพราะเป็นความสุขตามธรรมชาติ และช่วยคลายเครียด แต่มีข้อแม้ว่าห้ามแสดงลีลาผาดโผน หรือ Acrobatic Sex เพราะกลัวว่านักเตะจะใช้พลังเยอะเกินไปหรืออาจได้รับบาดเจ็บ!
หลายคนสงสัยว่าสโกลารี่ จะทราบได้อย่างไรว่านักเตะในทีมจะแสดงลีลาผาดโผนกับภรรยาหรือแฟนหรือเปล่า
สโกลารี่บอกเขาจะเฝ้าตรวจสอบพฤติกรรมของนักเตะกับภรรยาหรือแฟนอย่างใกล้ชิด
ฟังแล้วก็ให้เป็นห่วงบรรดานักเตะบราซิลกับภรรยาหรือแฟน ที่จะต้องถูกเฝ้าจับตาดูพฤติกรรมส่วนตัวอย่างชนิดไม่กะพริบตาของสโกลารี่