Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2549
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
29 กรกฏาคม 2549
 
All Blogs
 

ประวิติฟุตบอลบราซิล



ก่อตั้งสมาคม
1914
เข้าร่วมฟีฟ่า
1923
เข้าร่วมฟุตบอลโลก 19 ครั้ง
1930, 1934, 1938, 1950, 1954, 1958, 1962, 1966,1970, 1974, 1978, 1982, 1986, 1990, 1994, 1998, 2002, 2006,2010
แชมป์โลก 5 ครั้ง
1958, 1962, 1970, 1994, 2002
รองแชมป์ 2 ครั้ง
1950, 1998
ได้อันดับ 3 สองครั้ง
1938, 1978
แชมป์ระดับทวีป โคปา อเมริกา 8 ครั้ง
1919, 1922, 1949, 1989, 1997, 1999, 2004, 2007
แพน อเมริกัน คัพ 4 ครั้ง
1963, 1975ร่วมกับ เม็กซิโก, 1979, 1987


ประธานสมาคมฟุตบอลบราซิล




01.Álvaro Zamith (November 20, 1915 to November 4, 1916)






02.Arnaldo Guinle (November 4, 1916 to January 8, 1920)






03.Ariovisto de Almeida Rego (January 8, 1920 to April 26, 1921)






04.Oswaldo Gomes (April 26, 1921 to January 26, 1924)





05.Ariovisto de Almeida Rego (January 26, 1924 to June 20, 1924)





06.Wladimir Bernades (June 20, 1924 to December 19, 1924)




07.Oscar Rodrigues da Costa (December 19, 1924 to October 13, 1927)




08.Renato Pacheco (October 13, 1927 to September 23, 1933)





09.Álvaro Catão (September 23, 1933 to September 5, 1936)





10.Luiz Aranha (September 5, 1936 to January 28, 1943)




11.Rivadávia Correa Meyer (January 28, 1943 to January 14, 1955)




12.Sylvio Correa Pacheco (January 14, 1955 to January 14, 1958)




13.João Havelange (January 14, 1958 to January 10, 1975)





14.Heleno de Barros Nunes (January 10, 1975 to January 18, 1980)




15.Giulite Coutinho (January 18, 1980 to January 17, 1986)




16.Otávio Pinto Guimarães (January 17, 1986 to January 16, 1989)





17.Ricardo Terra Teixeira (January 16, 1989 to January, 2014)




รหัสประเทศของฟีฟ่า
BRA
ชื่อทางการ
รีพับลิคา เฟดเดอราติ วา โด บราซิล
ทวีป
อเมริกาใต้, เมืองหลวง : บราซิเลีย
เมืองสำคัญ
รีโอเดจาเนโร, เซาเปาลู, เบโล โอรีซอนตี, ซัลวาดอร์
สกุลเงิน
เรียล (Real)
ภาษาราชการ
ปอร์ตุกีส
ประชากร
182 ล้านคน
รายได้ประชาชาติต่อหัวประชากร
7,600 เหรียญสหรัฐ
อายุเฉลี่ยของประชากร
27 ปี
อายุขัยเฉลี่ยเมื่อเกิด
71.13 ปี



สถิติในฟุตบอลโลก





สถิติในโคปาอเมริกาใต้





สถิติการพบทีมชาติต่างๆในฟุตบอลโลก





สถิติในคอนเฟเดอเรชั่นคัพ 2009





สถิติในโอลิมปิก





ฟุตบอลบราซิลแบ่งตามยุดต่างๆคังนี้

ยุดก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2


บราซิลชุดฟุตบอลโลก 1930 ที่อุรุกวัย


หากจะแบ่งยุดสมัยของลูกหนังบราซิลคงต้องเริ่มกันก่อนที่ช่วงก่อนสงคราม ทีมชาติบราซิลก่อตัวขึ้นในปี 1914 ซึ่งถือว่าช้ากว่าหลายๆประเทศในยุโรปเป็นทศวรรษ บราซิลลงเตะเกมแรกกับเอกเซเตอร์ ซิตี้ ของอังกฤษ บราซิลชนะ 2-0 และในระยะแรกๆ ไม่สามารถระดมผู้เล่นทีดีที่สุดมาเตะในนามทีมบราซิลได้เนื่องจากมีปัญหาขัดแย้งภายใน ทั้งในฟุตบอลโลก 1930 และ 1938 บราซิลตกรอบแรก จนในฟุตบอลโลก 1938 ทีมบราซิลจึงส่อสัญญาณว่าจะมีอนาคตที่รุ่งโรจน์ บราซิลจบการแข่งขันด้วยอับดับ 3 และ เลโอนิดาส กลายเป็นผู้สร้างประวัติศาสตร์ในฐานะนักเตะคนแรกที่ยิง 4 ประตูในเกมฟุตบอลโลก บราซิลได้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 1950 ซึ่งเป็นฟุตบอลโลกครั้งแรกหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และนั้นเป็นครั้งเดียวที่บราซิลได้จัดฟุตบอลโลก จวบจนปัจจุบัน การแข่งขันในปี 1950 มีคุณลักษณะพิเศษไม่เหมือนครั้งไหนตรงที่ไม่มีนัดชิงชนะเลิศ โดยเมื่อเหลือ 4 ทีมสุดท้ายให้เตะแบบพบกันหมด อย่างไรก็ดี นัดระหว่างบราซิล กับ อุรุกวัย คือนัดชิงชนะเลิศกลายๆ การแข่งขันมีขึ้นที่ สนามมาราคาน่า ใน ริโอ เดย จาเนโร ซึ่งว่ากันว่ามีผู้ชมแออัดถึง 2 แสนคน บราซิลต้องการเพียงผลเสมอเพื่อชัยชนะ แต่ก็แพ้ 1-2 หลังขึ้นนำก่อน 1-0 และเกมนั้นก็ถูกอ้างอิงในชื่อ “มาราคานาโซ่” จนถึงทุกวันนี้




บราซิลฝึกซ้อมในเรือระหว่างเดินทางไปอิตาลี ฟุตบอลโลก 1934 ที่ อิตาลี


ทีมบราซิลเปลี่ยนนักเตะใหม่เกือบยกชุดสำหรับฟุตบอลโลก 1954 ราวกับเพื่อตั้งใจจะลืมความพ่ายแพ้ที่มาราคาน่าให้สิ้น แต่พวกเขาก็ยังมีนักเตะดีๆมากมายอยู่ดี และนั้นรวมถึง นิลตัน ซานโตส, จัลม่า ซานโตส และ ดีดี้ ทว่าบราซิลไปไม่ไกลนัก รอบควอเตอร์ไฟนัล ขุนพลแม็กยาร์เอาชนะบราซิล 4-2 ในเกมที่ถูกบันทึกว่าเป็นนัดน่าอดสูในประวัติศาสตร์ 4 ปีต่อมา วิเซนเต้ เฟโอล่า ใช้มาตรการเข้มควบคุมนักเตะแซมบ้าชุดฟุตบอลโลก 1958 ซึ่งเตะกันที่ สวีเดน นักเตะจะได้รับลิสต์สิ่งต้องห้าม 40 ประการ ที่เฟโอล่าต้องการ ซึ่งรวมถึงการสวมหมวกหรือถือร่ม, สูบบุหรี่ขณะสวมชุดทางการของทีม และพูดคุยกับนักข่าวเดินเวลาที่กำหนด พวกเขาเป็นทีมเดียวในขณะนั้น ที่นำจิตแพทย์มาดูแลนักเตะ เพราะนักเตะบางคนฟุตบอลโลก 1950 ยังตามหลอกหลอนพวกเขาอยู่ นอกจากนั้นยังมีทันตแพทย์คอยดูแลสุขภาพฟันของพวกเขาโดยเฉพาะ เนื่องจากนักเตะบราซิลส่วนใหญ่มาจากครอบครัวที่ยากจน จึงไม่ได้ดูแลฟันมาตั้งแต่เด็ก ที่ยิ่งไปกว่านั้น 1 ปีก่อนหน้าฟุตบอลโลกจะเริ่มต้นขึ้น บราซิลยังได้ส่งตัวแทนไปยุโรป เพื่อสอดแนมว่าที่คู่แข่งในเกมรอบคันเลือกด้วย บราซิล ถูกจับไปอยู่ในกลุ่มสุดโหด มีทั้งอังกฤษ, สหภาพโซเวียต และ ออสเตรีย เป็นเพื่อนร่วมกลุ่ม พวกเขาประเดิมด้วยการถล่มออสเตรีย 3-0 จากนั้นเสมออังกฤษแบบไม่มีสกอร์ ที่บราซิลกังวลก็เหลือแต่ทีมหมีขาว ซึ่งฟิตเต็มพิกัดและยังเป็นเต็ง 1 ของรายการอิกด้วย บราซิลปรับกลยุทธ์มาเป็นการจู่โจมตั้งแต่ต้น เพื่อจะยิงประตูโซเวียตให้ได้เร็วที่สุด ก่อนการแข่งขัน เบลลินี่, นิลตัน ซานโตส และดีดี้ แกนนำของทีมเข้าไปคุยกับเฟโอล่า และเกลี้ยกล่อมให้เขาเปลี่ยผู้เล่น 3 คน ซึ่งถือว่าสำคัญต่อทีมอย่างยิ่ง ซิโต้, การ์รินช่า และเปเล่ ออกสตาร์ตเกมกับโซเวียตให้กับบราซิล ผลบราซิลชนะ 2-0 จากนั้น เปเล่ ยิงประตูโทนให้ทีมในรอบควอเตอร์ไฟนัล ก่อนที่ทีมแซมบ้าจะเอาชนะฝรั่งเศษ 5-2 ในรอบเซมิไฟนัล และเมื่อถึงรอบชิงชนะเลิศ บราซิลก็ชนะเจ้าภาพสวีเดน 5-2 ทีมบราซิลได้เฉลิมฉลองกับเกียรติยศแชมป์โลกสมัยแรก ทั้งยังกลายเป็นชาติแรกที่ได้แชมป์ฟุตบอลโลกนอกทวีปตัวเอง





บราซิล 4 อิตาลี 1 ฟุตบอลโลก 1938 ที่ฝรั่งเศษ


ยุดเปเล่ 1958-1970




เปเล่ถูกโมเรสของโปรตุเกสเตะจนต้องออกจากการแข่งขัน ที่ฟุตบอลโลก 1966 ที่อังกฤษ


จากยุคตั้งไข่ ฟุตบอลบราซิลเข้าสู่ “ยุคเปเล่” ในช่วงปี 1958 – 1970 โดยปี 1962 บราซิล ได้แชมป์สมัยที่ 2 การ์รินช่า เป็นดารานำ โดยเฉพาะหลังจากที่ เปเล่ ได้รับบาดเจ็บในเกมที่สอง และไม่สามารถเล่นฟุตบอลโลกตลอดทัวร์นาเมนต์ที่เหลือได้ ฟุตบอลโลก 1966 การเตรียมทีมของทีมชาติบราซิลได้รับผลกระทบจากเรื่องวุ่นวายทางการเมือง สโมสรใหญ่ๆต่างกดดันจะให้นักเตะของตนอยู่ในทีมชาติด้วย ช่วงเดือนท้ายๆของการเตรียมทีม วิเซนเต้ เฟโอล่า มีตัวเลือกถึง 46 คน แต่ตั๋วสู่อังกฤษมีแค่ 22 คน ก่อให้เกิดความขัดแย้งภายในทีม ผลที่ตามมาคือบราซิลมีผลงานที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก บราซิลได้แชมป์โลกสมัยที่ 3 ในอิกสี่ปีต่อมาที่เม็กซิโกด้วยทีมที่ว่ากันว่าดีที่สุดเท่าที่เคยมี ทีมแซมบ้าชุดนั้นมีเปเล่ ที่มาลุยฟุตบอลโลกเป็นครั้งสุดท้าย, คาร์ลอส อัลแบร์โต้, แจร์ซินโญ่, ทอสเทา, แกร์สัน และ ริเวลิโน หลังจากที่ได้ถ้วย ชูลส์ ริเม่ต์ ไปชื่นชมเป็นครั้งที่ 3 บราซิลได้สิทธิ์ในการครอบครองถ้วยแชมป์บอลโลกใบแรกเป็นการถาวร



ยุคไร้บัลลังก์ 1974-1990





ฟัลเกาและซีโก้ ฟุตบอลโลก 1982 ที่ สเปน


หลังจากการอำลาของ เปเล่ และดาราคนอื่นๆ บราซิลไม่อาจต้านทานความครบเครื่องของฮอลแลนค์ ต้นตำหรับ “โททัล ฟุตบอล” ได้ ทั้งไม่สามารถป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกของตนในฟุตบอลโลก 1974 ได้เพียงอับดับ 4 เท่านั้น ฟุตบอลโลก 1978 ขึ้นชื่อเรื่องความขัดแย้ง ในรอบแบ่งกลุ่มรอบสอง บราซิลต้องแก่งแย่งกับอาร์เจนตินา เจ้าภาพและคู่อริร่วมทวีป เพื่อชิงจ่าฝูงและตีตั๋วเข้าสู่นัดชิงในเกมสุดท้ายของกลุ่ม บราซิลเอาชนะโปแลนค์ 3-1 ขึ้นเป็นจ่าฝูงของกลุ่มโดยมีผลต่างประตูได้เสีย +5 ขณะที่ผลต่างประตูได้เสียของอาร์เจนตินา +2 แต่ในนัดสุดท้ายของกลุ่ม ทีมอาร์เจนตินาสามารถเอาชนะเปรู 6-0 ทำให้ลอยลำเข้าชิงชนะเลิศ ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อมีการเปิดเผยในเวลาต่อมาว่า ไม่เพียง รามอน กวีโรก้า นายทวารเปรูจะเกิดในอาร์เจนตินา แต่ยังเสียไปเพียง 6 ประตูใน 5 นัด ก่อนหน้านั้น แต่ทั้งสองทีมปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่มีอะไรในกอไผ่ และด้วยความที่บราซิลไม่แพ้ใครเลยตลอดทัวร์นาเมนต์ ชาวแซมบ้ามากมายพากันคิดเอาเองว่าพวกเขาคือแชมป์โลกตัวจริงในครั้งนั้น ฟุตบอลโลก 1982 โลกได้เห็นบราซิลที่เล่นได้สวยงามอิกครั้งด้วยพรสวรรค์ของ ซิโก้, ฟัลเกา, และโซคราเตส ทีมแซมบ้าอยู่ภายใต้การกุมบังเหียนของ เทเล ซานตาน่า หนึ่งในยอดโค้ชตลอดกาลของบราซิล พวกเขาเป็นแชมป์กลุ่มในรอบแรก ก่อนเอาชนะอาร์เจนตินา 3-1 ในเกมแรกของรอบสอง ทว่าดันไปแพ้อิตาลี 2-3 ในเกมที่ติดอันดับแมตช์คลาสสิกตลอดกาลของรอบสุดท้ายฟุตบอลโลก แวทีมบราซิลก็ถึงคราอวสานด้วย 3 ประตูของ เปาโล รอสซี่ 4 ปีให้หลังในปี 1986 เทเล ซานตาน่า และลูกทีมหลายๆคนจากชุดฟุตบอลโลก 1982 กลับไปเยือนเม็กซิโกอิกหน นักเตะในทีมมีอายุมากขึ้น และไม่สามารถเริงระบำในลีลาแซมบ้าได้เหมือนครั้งก่อน บราซิลตกรอบจากการดวนจุดโทษพ่ายฝรั่งเศษในเกมที่ถูกจัดเข้าทำเนียบมหาแมตช์อิกเช่นกัน ฟุตบอลโลกปี 1990 ที่อิตาลี บราซิลอยู่ภายใต้การคุมทีมของ เซบาสเตียโอ ลาซาโรนี่ ซึ่งมีชื่อเสียงไม่มากนักก่อนการแข่งขัน ด้วยการทำทีมเน้นเกมรับ สัญลักษณ์ของบราซิลยุคลาซาโรนี่จึงเป็นดุงก้า นี้คือบราซิลชุดไร้จินตนาการอิกชุดหนึ่งในประวัติศาสตร์



ยุค 1994-ปัจจุบัน : กลับมาสู่มนต์ขลัง และลีลาแซมบ้า





ลีลาดีใจหลังการทำประตูของ เบเบโต้ ฟุตบอลโลก 1994 ที่สหรัฐอเมริกา


ฟุตบอลโลก 1994 หรือ 24 ปีให้หลังจากการคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 3 บราซิลสามารถคว้าเกียรติยศสูงสุดนี้ได้อิกครั้ง บทสรุปของฟุตบอลโลก 1994 ลงเอยที่การชิงชัยกับอิตาลี ถ้าใครชนะในเกมนี้จะได้แชมป์สมัยที่ 4 ซึ่งก่อนแข่งเป็นแชมป์คนละ 3 สมัยเท่ากัน หลังการต่อเวลาเกมอันน่าเบื่อลงเอยที่ 0-0 บราซิลและอิตาลีจึงต้องวัดกันด้วยการยิงจุดโทษเป็นครั้งแรกในนัดชิงชนะเลิศของฟุตบอลโลก ที่สุดแล้วบราซิลก็คว้าแชมป์หลัง โรแบร์โต้ บาจโจ ยิงจุดโทษเหินข้ามคาน 4 ปีต่อมา ฟุตบอลโลก 1998 ที่ฝรั่งเศษ บราซิลจบทัวร์นาเมนต์ด้วยการเข้าชิงเหมือนเดิม ทว่า ได้แค่รองแชมป์ โดยพ่ายให้กับเจ้าภาพฝรั่งเศษ ในนัดชิงที่ขุนพลแซมบ้ามีปัญหาก่อนแข่งขันอันเนื่องมาจากอาการป่วยกะทันหันของ โลนัลโด้ ไม่มี่ชั่วโมงก่อนลงสนาม กุนซือของทีมในตอนนั้นคือ มาริโอ ซากัลโล่ ผู้สร้างสถิติคว้าแชมป์โลกมาแล้ว 3 สมัยแบบต่างกรรมต่างวาระ เริ่มจากฐานะนักเตะในปี 1958, 1962 เป็นโค้ชในปี 1970 และผู้ช่วยโค้ชในปี 1994





โรนัลโด้ยิงลูกผ่านมือโอลิเวอร์ คาห์น ฟุตบอลโลก 2002 ที่ญี่ปุ่น



ฟุตบอลโลก 2002 บราซิลเถลิงบัลลังก์แชมป์โลกสมัยที่ 5 ฉบับเอเชีย ซึ่งนัดชิงชนะเลิศเป็นการพบกันระหว่างสองมหาอำนาจลูกหนังต่างขั่วแห่งวงการฟุตบอล คือเยอรมันกับบราซิล ให้น่าประหลาดใจไม่น้อยที่ตลอด 16 ครั้งที่ผ่านมา ทั้งสองทีมไม่เคยพบกันเลยในฟุตบอลโลก และลงท้ายก็เป็นทีมแซมบ้าที่ฟ้าลิขิตให้ครองแชมป์สมัยที่ 5 อย่างยิงใหญ่ เสียงร้องตะโกนจากแฟนบอลบราซิเลียนที่ว่า “เปนต้าคัมเปเอา” หรือ “แชมป์สมัยที่ 5” ซึ่งดังตั้งแต่ก่อนแข่ง ยิ่งกระหึ่มขึ้นหลังการแข่งขันจบลง พวกเขาราวกับจะประกาศให้ชาวโลกได้รู้ว่า จะไม่มีชาติใดที่สามารถเทียบรัศมีกับดินแดนที่พระเจ้าประทานพรให้เป็น 1 ในเชิงลูกหนังได้ ฟุตบอลโลก 2006 ที่ เยอรมัน บราซิลไร้บัลลังก์อิกครั้งหนึ่ง บราซิลเป็นเต็ง 1 และได้รับการคาดหมายว่าจะคว้าแชมป์เป็นสมัยที่6มากที่สุด เพราะในทีมมีดาราเต็มทีมไปหมด ไม่ว่าจะเป็น โรนัลโด้, โรนัลดินโญ่, กาก้า, โรแบร์โต้ คาร์ลอส, โรบินโญ๋ หรือ อาเดรียโน่ แต่ในที่สุดก็ไปไม่ถึงดวงดาว เพราแพ้ฝรั่งเศษคู่ปรับเก่า 0-1 ในรอบก่อนรองชนะเลิศ



ชาวบราซิเลียนเองก็เหมือนจะรู้ตัวดี พวกเขาไม่เบื่อกับการตั้งความหวัง ว่าทีมจะกลับสู่มาตุภูมิพร้อมกับแชมป์โลกครั้งใหม่ ไม่ว่าฟุตบอลโลกครั้งนั้นๆจะเตะกันที่ไหนก็ตาม ในฐานะทีมที่ขึ้นชื่อว่ามีแฟนบอลมากที่สุดในโลก





ถ้วยชูลส์ ริเม่ต์ บราซิลได้สิทธิ์ในการครอบครองหลังได้แชมป์เป็นสมัยที่ 3


บอลลีกในบราซิล

สำหรับแฟนบอลบราซิล ดูเหมือนจะรู้จักกันแต่ผลงานของทีมชาติมากกว่า ขณะที่ในระดับสโมสรแล้ว ยังได้รับความสนใจน้อย ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการที่ผู้เล่นระดับซูเปอร์สตาร์ย้ายไปเล่นในยุโรปกันหมด และอิกส่วนหนึ่งมาจากการที่ฟุตบอลสโมสรในอเมริกาใต้ ไม่มีการถ่ายทอดเกมการแข่งขันให้ชมกันเหมือนฟุตบอลในยุโรป ทำให้คนรู้จักลีกในบราซิลน้อย





คัมปิโอนาโต้ บราซิไลโร่ : ศึกชิงแชมป์บราซิล


ฟุตบอลลีกของบราซิลนั้น มีการแข่งขันที่น่าสนใจสองระดับ คือฟุตบอลลีกแห่งชาติ และฟุตบอลชิงแชมป์รัฐ ซึ่งลีกของสองรัฐใหญ่ที่สำคัญคือ เปาลิสต้า ลีก หรือ ลีกชิงแชมป์รัฐ เซา เปา โล และอิกลีกคือ การิโอเกาลีก หรือ ลีกชิงแชมป์รัฐ ริโอ เดอ จาเนโร





ทีมเซา เปาโล เอาชนะ ลิเวอร์พูล 1-0 ในศึกชิงแชมป์สโมสรโลก ที่ ญี่ปุน ปี 2005


ฟุตบอลลีกของบราซิล นับเป็นลีกอาชีพที่มีการจัดการที่ย่ำแย่ และขาดระเบียบแบบแผน ทำให้รูปแบบหรือระยะเวลาต้องมีการเปลี่ยนไปเปลี่ยนทาอย่างน่าปวดหัวในแต่ฤดูกาล จำนวนนัดที่แต่ละสโมสรจะต้องลงเตะนั้นจัดว่าถี่ยิบ โดยเฉพาะทีมที่ต้องลงเล่นในถ้วยสโมสรอเมริกาใต้ หรือ โคปา ลิเบอร์ตาดอเรส ด้วยแล้วยิ่งไปกันใหญ่ โดยในปี 1993 สโมสร เซา เปา โล ต้องลงแข่งมากกว่าร้อยนัด และในปี 1994 สโมสร เกรมิโอ สร้องสถิติลงแข่งสามนัดในวันเดียว ปัจจุบัน ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติบราซิล มีกสรแข่งขันที่ลงตัว เริ่มจากเดือนกรกฎาคม ไปจนถึงเมษายน แต่ละทีมจะลงเล่นในลีกของรัฐตัวเอง ขณะเดียวกันหนึ่งหรือสองสโมสรจากแต่ละรัฐ (โดยเฉพาะรัฐที่มีผลงานที่ดีในฤดูกาลก่อนหน้านั้น) จะได้ร่วมแข่งขันฟุตบอลถ้วยชิงแชมป์บราซิล และเมื่อถึงเดือนเมษายน ถึง ธันวาคม การแข่งขันฟุตบอลลีกชิงแชมป์บราซิลก็จะเริ่มขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าบางสโมสรต้องไปร่วมแข่งขันฟุตบอลถ้วยสโมสรอเมริกาใต้ โคปา ลิเบอร์ตาดอเรส และ รายการ โคปา ซุล อเมริกา ทำให้มีช่วงเบรกสั้นๆ แค่ช่วงกลางเดือน ธันวาคม ถึง มกราคมเท่านั้น



ทีมสโมสร ฟราเมงโก้


ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติบราซิล หรือ คัมปิโอนาโต้ บราซิไลโร่ หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ "โอ บราซิไลเรา"หรือ ลีกใหญ่ จัดโดยสมาพันธ์ฟุตบอลบราซิล หรือ ซีบีเอฟ ถือเป็นการแข่งขันที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยเริ่มทำการแข่งขันตั้งแต่ปี 1971 ซึ่งเป็นการจัดขึ้นมาแทนศึกชิงแชมป์ลีกแห่งชาติสองรายการคือ ต้าก้า บราซิล และ ตอร์เนียโอ โรแบร์โต้ โกเมส เปโดรซ่า แงออกเป็น 3 ดิวิชั่น คือ เซเรีย เอ (ดิวิชั่นหนึ่ง), เซเรีย บี (ดิวิชั่นสอง) และ เซเรีย ซี (ดิวิชั่นสาม) เซเรีย เอ ของลีกบราซิล มีรูปแบบการแข่งขันเหมือนฟุตบอลลีกในยุโรป ปัจจุบันมี 22 ทีม โดยทางสมาพันธ์ฟุตบอลบราซิล ต้องการลดทีมให้เหลือแค่ 20 ทีมในฤดูกาลต่อไป ส่วนรูปแบบการแข่งขันนั้น แต่ละทีมจะเตะแบบ เหย้า-เยือน พบกันหมด ทีมที่มีคะแนนรวมมากที่สุดจะเป็นแชมป์ รวมทั้งได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันรายการ โคปา ลิเบอร์ตาดอเรส โดยอัตโนมัติ ขณะที่ทีมอับดับสอง, สาม, สี่ จะได้ไปแข่ง โคปา ลิเบอร์ตาดอเรส ในครั้งต่อไป ส่วน 4 ทีมสุดท้ายของตาราง จะถูกปรับตกชั้นลงไปเล่นใน เซเรีย บี ในทางกลับกันสองอับดับแรกของ เซเรีย บี จะได้เลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในเซเรีย เอ อย่างไรก็ตาม การแข่งขันในเซเรีย บี และ ซี ยังมีโปรแกรมการแข่งขันที่ไม่แน่นอน โดยในแต่ละดิวิชั่นมีมากมายหลายทีมและแบ่งเป็นหลายกลุ่ม



ลีกแห่งชาติ VS ลีกแห่งรัฐ ลีกไหนสำคัญกว่ากัน




สโมสร โบตาโฟโก้


ประเทศส่วนใหญ่ต่างก็มีการแข่งขันชิงแชมป์ลีกแห่งชาติเป็นหลัก แต่ที่บราซิล มีทั้งการแข่งขันชิงแชมป์แห่งชาติ และ ชิงแชมป์รัฐ ทำให้เกิดคำถามว่าลีกใดมีความสำคัญมากกว่ากัน สาเหตุสำคัญที่บราซิลมีการแข่งขันสองลีกคือ ประเทศบราซิลนั้นใหญ่มาก และสมัยก่อนการเดินทางยังไม่สะดวกเนื่องจากระยะทางไกลมาก ดังนั้นในช่วงแรกจึงไม่มีการแข่งขันชิงแชมป์แห่งชาติ มีแต่การชิงแชมป์แห่งรัฐ ขณะที่ทีมที่อยู่คนละรัฐจะเล่นเกมอุ่นเครื่อง หรือ จะเตะบอลเป็นทัวร์นาเมนต์แทน อย่างเช่นการแข่งขันระหว่างรัฐ เซา เปาโล กับ ลิโอ ในปี 1933 นอกจากนั้นในยุดทศวรรษ 1920 ก็มีการแข่งขันทีมรวมดาราระหว่างรัฐ ก่อนที่การแข่งขันจะถูกยกเลิกในปี 1963 ขณะที่ปี 1959 มีการจัดการแข่งขันฟุตบอลถ้วยรายการ ตาก้า บราซิล ซึ่งเชิญแชมป์แต่ละรัฐมาร่วมการแข่งขัน ส่วนในปี 1967 ทัวร์นาเมนต์ริโอ-เซา เปาโล ได้มีการเพิ่มทีมจากรัฐ มินาส เกเรส และ ริโอกรันเด้ โด ซุล มาร่วมแข่งขัน

ในปี 1971 การแข่งขันชิงแชมป์แห่งชาติอย่างเป็นทางการ เพิ่งจะเกิดขึ้น โดยเรียกว่า "เนชั่นแนล แชมเปี้ยนชิพ" อย่างไรก็ตาม แต่ละทีมที่เข้าร่วมแข่งขันก็ยังคงลงเล่นในฟุตบอลชิงแชมป์รัฐของตัวเองเหมือนเดิม อันเนื่องมาจากประวัติศาสตร์และศักดิ์ศรี เกมระหว่างทีมในรัฐเดียวกันบางนัดมีความสำคัญมากกว่าเกมชิงแชมป์แห่งชาติ เพราะทีมที่เป็นคู่ปรับกันนั้นต่างก็ปะทะกันมานานและมีอดีตที่ยาวนาน แต่ตอนนี้ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติกลายมาเป็นรายการที่สำคัญที่สุดไปแล้ว



นักเตะที่ติดทีมชาติมาที่สุด




นักเตะที่ทำประตูมากที่สุด




นักเตะที่ได้รับความชื่นชอบที่สุด




Brazilian Football Museum – Hall of Fame




ผู้จัดการทีมชาติ




ผู้ควบคุมทีมชาติปัจุบัน


หัวหน้าโค้ช Mano Menezes
ผู้ช่วยโค้ช Sidnei Lobo
ผู้ช่วยโค้ชที่ 2 Vieira ราฟาเอล
โค้ชผู้รักษาประตู Cersósimo รานซิสโก
โค้ชฟิตเนส Neves Carlinhos
นักกายภาพบำบัด Odir de Souza




 

Create Date : 29 กรกฎาคม 2549
14 comments
Last Update : 19 กันยายน 2554 20:24:36 น.
Counter : 17890 Pageviews.

 

เข้ามาเจิมให้ครับ

 

โดย: Liverpool Forever 29 กรกฎาคม 2549 17:09:12 น.  

 

มือใหม่หัดขับ กำลังลงข้อมูลอยู่ครับ

 

โดย: ล่องแม่ปิง (ล่องแม่ปิง ) 30 กรกฎาคม 2549 9:54:30 น.  

 

บราซิลเก่งจริงๆ

 

โดย: สุดยอด IP: 203.172.129.2 1 กรกฎาคม 2551 12:33:32 น.  

 

เเละโดรานินโยเก่งที่สุดในทีมเปล่า

 

โดย: ด.ช.ธัญเทพ สิทธิยศ IP: 58.137.36.241 23 กันยายน 2551 12:46:43 น.  

 

หกหฟฟหฟหหฟหฟหฟหฟหหหห

 

โดย: เกียรติศักดิ์ IP: 58.9.186.205 26 กันยายน 2551 22:15:42 น.  

 

โรนัลโด้, อยู่ทีมอินเตอรืมิลาน ไม่เห็นมาเล่นbrazilเลย

 

โดย: bang IP: 124.120.145.208 30 ตุลาคม 2551 20:47:41 น.  

 

เป็นเว๊ปไซท์ที่สวยงามและมีความเป็นบราซิลมาก

 

โดย: อาว์แสง IP: 125.24.246.11 12 มีนาคม 2552 20:21:13 น.  

 

ชอบมากกกก

บราซิล

 

โดย: Lolp IP: 192.168.128.5, 203.158.4.113 30 มิถุนายน 2552 22:31:29 น.  

 

รักบราซิล เชียร์สุดใจ

 

โดย: ตาหวาน IP: 113.53.139.248 13 มิถุนายน 2553 22:15:23 น.  

 

เชียร์สุดใจเช่นกันค่ะ ^^

 

โดย: RAYZiiO IP: 62.154.151.70 17 มิถุนายน 2553 15:27:11 น.  

 

ชอบkaka

 

โดย: liw IP: 182.52.194.187 27 กรกฎาคม 2553 19:29:30 น.  

 

ชอบกินกาแฟ

 

โดย: งองูสองตัว 26 สิงหาคม 2553 12:49:50 น.  

 

สุดยอดครับ ได้ความรู้มากๆ

 

โดย: พ่อน้องพิชญา (พ่อน้องพิชญา ) 16 พฤษภาคม 2554 7:55:56 น.  

 

โรนัลดู ลูอีส นาซารีอู จี ลีมา เบอร์1 ในใจตลอดกาลครับ

 

โดย: บิ๊กรักเหมย IP: 118.173.223.27 28 กรกฎาคม 2558 18:03:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ล่องแม่ปิง
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




อังกฤษเป็นชาติที่เริ่มเล่นฟุตบอล แต่บราซิลเป็นชาติที่สอนการเล่นฟุตบอล

มีคำพูดธรรมดาๆประจำฟุตบอลโลกอยู่ประโยดหนึ่งว่า"ฟุตบอลโลกที่ไม่มีบราซิล ก็ไม่ใช่ฟุตบอลโลก"


จะจริงเท็จประการใด แฟนบอลทั่วโลกยังไม่เคยทราบ เพราะที่ผ่านมา 20 ครั้ง และครั้งที่ 21 ในปี 2018 บราซิลยังคงได้เข้ามาเล่นรอบสุดท้ายอิกครั้ง ในฐานะเจ้าภาพ


ผมยังนึกไม่ออกว่าหากบราซิลไม่สามารถผ่านเข้ามาเล่นในรอบสุดท้ายของฟุตบอลโลก ฟุตบอลโลกในปีนั้นจะขาดอะไรไปบ้าง....มนต์ขลังลีลาแซมบ้า. สีเขียว-เหลืองที่แต่งแต้มฟุตบอลโลกทุกครั้งเสมอมา หรือกองเชียร์ที่แต่งองค์ทรงเครื่องกันมา น้องๆขบวนพาเหรดงานคานิวัล ผมว่าคงไม่เกิดขึ้นในรุ่นของผมนะครับ
Friends' blogs
[Add ล่องแม่ปิง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.