เหลืออีกแค่วันเดียวฟุตบอลโลก "ฟีฟ่า เวิลด์คัพ 2014" ในดินแดน "แซมบ้า" บราซิล ก็จะปิดฉากลงแล้ว ซึ่งคู่ชิงแชมป์โลก "อินทรีเหล็ก" เยอรมนี กับ "ฟ้าขาว" อาร์เจนตินา จะเตะกันในวันอาทิตย์ที่ 13 ก.ค.นี้ แต่บรรยากาศในส่วนของประเทศ "เจ้าภาพ" นั้น แน่นอนว่าทั้งประเทศไม่คึกคักเหมือนเคย หลังจากขุนพลบราซิลตกรอบตัดเชือกได้แค่ชิงอันดับ 3 เป็นรางวัลปลอบใจเท่านั้น
สำหรับคืนวันเสาร์ที่ 12 ก.ค. (ข้ามไปวันใหม่อาทิตย์ที่ 13 ก.ค.) เวลา 03.00 น. ก็มีให้แฟนบอลได้ติดตามกัน 1 คู่ เป็นรางวัลปลอบใจ ชิงอันดับ 3 ระหว่าง "เจ้าภาพ" บราซิล พบกับ "กังหันสีส้ม" เนเธอร์แลนด์
คู่นี้เจ้าภาพ "แซมบ้า" บราซิล หลุยส์ เฟลิเป สโคลารี กุนซือรวมทั้งลูกทีม กำลังเสียขวัญอย่างหนัก หลังโดน "อินทรีเหล็ก" เยอรมนี ถล่มยับคาบ้าน จนกลายเป็นนัดประวัติศาสตร์มากมาย แต่เชื่อว่าอันดับที่ 3 จะเป็นรางวัลปลอบใจที่ดียิ่งสำหรับชาวแซมบ้า และกุนซือเองก็ประกาศเกมชิงอันดับ 3 ยังสำคัญ มีความหมาย สำหรับลูกทีมเขา เพื่อหวังเรียกศรัทธา กำลังใจคืนมาได้บ้าง
ความพร้อมนักเตะนั้น อาจมีการปรับเปลี่ยนทีมบ้างในบางตำแหน่ง เน้นนักเตะที่มีความต้องการความตั้งใจและกำลังใจที่ดีพอได้ลงสนาม เพื่อเป้าหมายเอาชนะเนเธอร์แลนด์ให้ได้ อาจจะเป็นตัวสำรองเป็นส่วนใหญ่ ผู้เล่นชุดแรกนั้น คงเน้นนักเตะฟอร์มสดมากกว่า สภาพทีมค่อนข้างสมบูรณ์ โดยขาดเพียงแค่เนย์มาร์เพียงคนเดียวเท่านั้นที่ลงสนามไม่ได้ เกมนี้ทัพแซมบ้าจะได้ ดิอาโก ซิลวา แนวหลังกัปตันทีมที่พ้นโทษแบนกลับมาคุมแนวรับอีกครั้ง ขณะที่ตำแหน่งแบ็กขวา ไมคอนจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงต่อไป ทำให้ดานี อัลเวส ยังคงต้องนั่งสำรอง แต่ต้องเดาใจบิ๊กฟิลว่าในแนวรุกจะส่งใครลงสนาม โดยเฉพาะกองหน้าตัวเป้าจะเป็นเฟร็ดหรือโชลงสนาม
ด้านทีม "กังหันสีส้ม" เนเธอร์แลนด์ ที่พ่ายจุดโทษต่อ อาร์เจนตินา ชวดเข้ารอบชิงเป็นครั้งที่ 4 นั้น ดูท่าจะไม่ค่อยให้ความสำคัญกับเกมชิงอันดับ 3 นัก เพราะหลุยส์ ฟานกัล กุนซือของทีม ได้กล่าวหลังเกมที่พ่ายอาร์เจนตินาเป็นทำนองที่ว่า "เกมนัดชิงอันดับ 3 ไม่ควรจัดแข่ง เพราะไม่มีประโยชน์อะไรเลย เวลาพักก็น้อย แถมทีมที่แพ้ก็จะกลายเป็นว่าแพ้ 2 นัดติดในทัวร์นาเมนต์ที่อุตส่าห์เล่นดีมาตลอด แล้วที่สำคัญคือไม่มีชาติใดดีใจกับการได้อันดับที่ 3 เพราะเป้าหมายของทุกชาติคือแชมป์โลก"
เมื่อพูดแบบนี้ฟาน กัล น่าจะส่งบรรดาตัวสำรองจะลงสนามแทบยกชุด ไล่ตั้งแต่ผู้รักษาประตู ทิม ครูล จะได้ลงเฝ้าเสาแน่นอน ส่วนกองหน้า คลาส แยนฮุนเตลาร์ แทนโรบิน ฟาน เพอร์ซีย์, เมมฟิส เดปาย และเยเรเมนส์ เลนส์ 2 ปีกตัวสำรองจะได้ลงสนามอย่างแน่นอน แต่ก็ต้องวัดใจว่าแข้งฮอลแลนด์จะจริงจังกับเกมนี้หรือไม่
หรืออาจจะกลัวแพ้ซ้ำ 2 ตามที่บอกไว้ หลุยส์ ฟาน กัล จะมีการปรับทัพพอสมควร โดยบรูโน มาร์ติน อินดี จะถูกดร็อปเป็นตัวสำรองหลังโชว์ฟอร์มได้น่าผิดหวังในเกมกับอาร์เจนตินา ซึ่งคาดว่าดาลีย์ บลินด์ จะถูกถอยมาเล่นเป็นเซ็นเตอร์ฮาร์ฟแทน ขณะที่ดาริล แยนมาต จะได้ลงมาประจำการทางกราบขวา แล้วให้เดิร์ก เคาต์ ขยับไปเล่นด้านซ้ายในเกมนี้ ส่วนในแนวรุกยังคงมีอาร์เยน ร็อบเบน และโรบิน ฟาน เพอร์ซี เป็นทีเด็ดเช่นเคย เพราะกลัวแพ้ ซึ่งต้องวัดใจกุนซือด้วยว่าจะเอามุมไหน
รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนามของบราซิล ประกอบด้วย ชูลิโอ เซซาร์, ไมคอน, ดาวิด ลุยซ์, ซิลวา, มาร์เซโล, กุสตาโว, แฟร์นันดินโญ, ออสการ์, วิลเลียน, ฮัล์ก, เฟร็ด
ส่วนฮอลแลนด์น่าจะเป็น ทิม ครูล, โจเอล เวลต์แมน, สเตฟาน เด ฟรีย์, ดาลีย์ บลินด์, ดาริล แยนมาต, จอร์จินิโอ วินญัลดัม, จอร์ดี คลาซี, เดิร์ก เคาต์, เวสลีย์ สไนเดอร์, อาร์เยน ร็อบเบน, โรบิน ฟาน เพอร์ซี
ความน่าจะเป็นของคู่นี้ ด้วยศักดิ์ศรีของเจ้าบ้าน และศรัทธาของแฟนบอล หลุยส์ เฟลิเป สโคลารี และนักเตะ จำเป็นต้องร่วมใจกันสร้างผลงาน หากอยากกู้หน้าแฟนบอล และพวกเขายังประกาศจะเล่นเพื่อ "เนย์มาร์" ด้วย ขณะที่เนเธอร์แลนด์ ดูแล้วความทะเยอทะยานน้อยลงไป เพราะที่ผ่านมาพวกเขายังก้าวไม่ถึงจุดสุดยอดด้วยซ้ำ ทำให้อันดับ 3 แทบจะไม่อยากมอง
ดูแล้วเกมนี้บราซิลชนะแน่นอน แต่สกอร์ไม่ขาด.