8 ก.ค.57 การแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 ที่ประเทศบราซิล ระหว่างวันที่ 12 มิ.ย.-13 ก.ค.นี้ ได้เดินทางมาถึงรอบรองชนะเลิศ คู่แรก ในคืนวันที่ 9 ก.ค.นี้ เวลา 03.00 น.'แซมบ้า' ทีมชาติบราซิล เจ้าภาพ และแชมป์โลก 5 สมัย จะพบกับ 'อินทรีเหล็ก' เยอรมนี แชมป์โลก 3 สมัย ที่สนามเอสติดิโอ มิไนเรา เมืองเบโล่ ฮอริซอนเต้
ความพร้อมสำหรับเกมนี้ บราซิล ที่ผ่านเข้าสู่รอบตัดเชือกหนแรกในรอบ 12 ปี ประสบปัญหาอย่างหนักเมื่อขาดสองกำลังสำคัญลงสนามไม่ได้ นั่นคือ เนย์มาร์ ดาวเตะตัวความหวังหนึ่งเดียวของทีมที่ซัดไปแล้ว 4 ประตู ที่ถูก ฮวน ซูนิก้า นักเตะโคลัมเบีย แทงเข่าเข้าที่กลางหลังจนเจ็บหนักกระดูกสันหลักร้าวจนเกือบเป็นอัมพาต ต้องพักยาวทันที ขณะที่เกมรับ ติอาโก้ ซิลวา เซ็นเตอร์ฮาล์ฟคนสำคัญ ติดโทษแบนจากโทษ 2 ใบเหลืองทำให้พลาดลงสนาม
จากการสูญเสียกำลังสำคัญไปถึง 2 ตำแหน่งทำให้ หลุยส์ เฟลิปเป้ สโคลารี่ เทรนเนอร์หนวดงามต้องคิดหนักว่าจะให้ใครลงเล่นแทน เนย์มาร์ หรือจะต้องเปลี่ยนแนวทางการเล่น โดยคนที่คาดว่าน่าจะได้ลงแทน เนย์มาร์ ก็คือ วิลเลี่ยน หรือไม่ก็อัดมิดฟิลด์ตัวกลาง ลงเล่นพร้อมกัน 3 คนก็เป็นได้ เพราะทีมได้ ลุยซ์ กุสตาโว่ พ้นแบนกลับมาคุมเกม ซึ่งการหายไปของ เนย์มาร์ ทำให้ความหวังในการพังประตูไปตกอยู่บนบ่าของ ฮัล์ค, ออสการ์ และ เฟร็ด ส่วนตำแหน่งของ ติอาโก้ ซิลวา จะเป็น ดานเต้ จะได้ทำหน้าที่แทนยืนเซ็นเตอร์กับ ดาวิด ลุยซ์ ที่กำลังคึกคัก หลังจากพังไปแล้ว 2 ประตู
สำหรับฟอร์มในรายการนี้ของขุนแข้งเซเลเซา เริ่มจากรอบแรกเป็นแชมป์กลุ่ม เอ ชนะ โครเอเชีย 3-1 เสมอกับ เม็กซิโก 0-0 และถล่ม แคเมอรูน 4-1 จากนั้นมาเล่นรอบ 16 ทีม เสมอ ชิลี 1-1 และมาคว้าชัยด้วยการสังหารจุดโทษ 3-2 ล่าสุดรอบ 8 ทีม บดชนะ โคลอมเบีย ไปได้ 2-1
ทางด้าน 'อินทรีเหล็ก' ที่กลายเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ที่ผ่านเข้ารอบตัดเชือก 4 สมัยติดต่อกัน น่าจะมีการปรับทัพกันอีกครั้ง หลังจากเกมที่แล้ว โยอาคิม เลิฟ เทรนเนอร์เยอรมนี ปรับทัพหลายตำแหน่งแต่ลงตัวมาก โดยเฉพาะแนวรับให้ ฟิลิปป์ ลาห์ม กลับมาเป็นแบ๊ค แล้วส่ง บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ลงเล่นร่วมกับ ซามี่ เคดิร่า และโทนี่ โครส ทำให้เกมแดนกลางลงตัวมาก ๆ คาดว่าน่าจะใช้แผนนี้ต่อไป
อย่างไรก็ตามในแนวรุก มิโรสลาฟ โคลเซ่ กองหน้าตัวเก๋า คงต้องกลับไปเป็นตัวสำรองอีกครั้ง แล้วให้ มาริโอ เกิทเซ่ ลงแทนโดยมี โธมัส มุลเลอร์ ที่ซัดไปแล้ว 4 ประตู กลับไปยืนเป็นหน้าเป้าเหมือนเดิม
ในส่วนของผลงานในรอบที่ผ่านมาของ เยอรมนี เริ่มจากเป็นแชมป์กลุ่ม จี ในรอบแรก ด้วยการถล่ม โปรตุเกส 4-0, เสมอ กาน่า 2-2 และชนะ สหรัฐอเมริกา 1-0 จากนั้นลงเล่นรอบ 16 ทีม ต่อเวลาชนะ แอลจีเรีย 2-1 และในรอบ 8 ทีม เฉือนชนะ ฝรั่งเศส 1-0
สถิติการพบกันของทั้งสองทีมยักษ์ใหญ่แห่งวงการฟุตบอล เจอกันมาทั้งสิ้น 21 นัด บราซิล เหนือกว่าสุดกู่ด้วยการชนะ 12 เยอรมนี ชนะเพียง 4 นัด และเสมอกัน 5 ครั้ง โดย 'แซมบ้า' ยิงได้ 39 ส่วน 'อินทรีเหล็ก' ทำได้ 24 ประตู ส่วนการพบกันในฟุตบอลโลก เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวเท่านั้น นั่นคือเกมนัดชิงชนะเลิศ ปี 2002 ปรากฏว่า บราซิล เอาชนะไปได้นิ่ม ๆ 2-0 คว้าแชมป์โลกไปครอง
สำหรับ บีใบ้บอล พิพากษาลูกหนังโลกว่า ผลงานในบอลโลก 2014 : บราซิล/รอบแรก ชนะ โครเอเชีย 3-1, เสมอ เม็กซิโก 0-0 และ ชนะ แคเมอรูน 4-1, รอบ 2 เสมอ ชิลี 1-1(ยิงจุดโทษ 3-2), รอบ 8 ทีม ชนะ โคลอมเบีย 2-1, เยอรมนี/รอบแรก ชนะ โปรตุเกส 4-0, เสมอ กาน่า 2-2 และชนะ สหรัฐ 1-0 , รอบ 2 ชนะ แอลจีเรีย 2-1(ต่อเวลา), รอบ 8 ทีม ชนะ ฝรั่งเศส 1-0
Head TO Head : 21 นัด บราซิล ชนะ 12 เยอรมนี ชนะ 4 เสมอ 5
'แซมบ้า' ไร้เงา เนย์มาร์ กับ ติอาโก้ ซิลวา ส่งผลกระทบต่อทีมอย่างไม่ต้องสงสัย สิ่งที่เหนือกว่าอย่างเดียวคือเสียงเชียร์จากแฟนบอลที่มีพลังส่งให้ทีมทะลุมาถึงรอบตัดเชือก ขณะที่ เยอรมนี พร้อมทุกตำแหน่ง หากไม่ตื่นเต้นตกใจและกังวลกันไปเอง พวกเขาแพ้ยากมาก
อัตราต่อรอง : เสมอ เยอรมนี คำตัดสิน : 'เยอรมนี' แพ้ยาก