ทีมชาติบราซิล หรือทีมเซเลเซา(Seleção) เจ้าภาพจัดการแข่งขันมหกรรมฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกกลางปีนี้ ได้เปิดตัวชุดแข่งขันทีมเยือนที่จะใช้ในการแข่งขันฟุตบอลประจำทัวร์นาเมนต์ปี 2014 ในช่วงการแข่งขันฟุตบอลนัดกระชับมิตรกับทีมชาติแอฟริกาใต้ ที่เมืองโจฮันเนสเบิร์ก เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยที่ช่วงครึ่งเวลาแรกของเกมการแข่งขันแมตช์ดังกล่าว เหล่าขุนพลนักเตะทีมชาติบราซิลได้ทำการสวมชุดทีมเหย้าในโทนสีเหลืองลงสู่สนาม ก่อนที่ในช่วงครึ่งเวลาหลัง หรือ 45 นาทีสุดท้าย เหล่านักเตะเซเลเซาได้สร้างเซอร์ไพรส์ให้แก่ผู้ชม ด้วยการสวมชุดแข่งขันทีมเยือนชุดใหม่ในโทนสีน้ำเงินลงสู่สนามเป็นครั้งแรก ซึ่งถือได้ว่าเป็นการเปิดตัวคอลเลคชั่นชุดแข่งขันทีมชาติบราซิลประจำทัวร์นาเมนต์2014 ได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ซึ่งประกอบไปด้วยชุดแข่งทีมเหย้า ชุดแข่งทีมเยือน และชุดแข่งชุดที่3
ในการออกแบบชุดแข่งขันทีมเยือน นักออกแบบผลิตภัณฑ์กีฬาของไนกี้ได้เฝ้าศึกษาและนำแรงบันดาลใจจากความมีชีวิตชีวา การเต้น การดำเนินชีวิตและลีลาการเคลื่อนไหวของชาวบราซิลที่ได้แสดงความรู้สึกต่อกีฬา มาสร้างสรรค์ผลงานในครั้งนี้ โดยที่เสื้อทีมเยือนแบบดั้งเดิมในโทนสีน้ำเงินจะมีลายแถบสลับโทนสี เพื่อสื่อถึงการเฉลิมฉลองความภาคภูมิใจของชาติ โดยการนำรูปทรงเรขาคณิตขนาดเล็กๆ จำนวนมาก ทั้งรูปทรงกลมและสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนที่มาจากธงชาติบราซิลมาไล่ระดับของสีน้ำเงินที่ลายแถบ เพื่อช่วยเติมแต่งสไตล์ให้เสื้อดูคล่องแคล่วและมีพลังมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้พื้นเสื้อสีน้ำเงินยังได้สะท้อนความงดงามของมหาสมุทรตามแนวชายฝั่งของบราซิล ตลอดจนวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงของชาติในเรื่องการโต้คลื่นอีกด้วย ขณะเดียวกันยังมีตราสัญลักษณ์ของทีมชาติบราซิลที่มีขนาดใหญ่และดูโดดเด่นเป็นพิเศษ ด้วยการปักสีทองเมทัลลิคเพื่อสร้างเอฟเฟ็คท์ความสว่างแวววาว ขณะที่ด้านในของเสื้อฝั่งด้านหลังของตราสัญลักษณ์ได้ออกแบบให้มีลายวงกลมพร้อมด้วยรูปทรงสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนที่สื่อถึงธงชาติบราซิล และล้อมรอบด้วยข้อความภาษาโปรตุเกสที่เป็นภาษาทางการของบราซิลว่า "Nascido para jogar futebol" ซึ่งหมายถึงเกิดมาเพื่อเล่นฟุตบอล
ในการออกแบบครั้งนี้ ไนกี้ยังได้ร่วมงานกับนักออกแบบชื่อดังชาวบราซิล คือ บรูโน บิ๊ก เพื่อสร้างสรรค์ป้ายสามเหลี่ยมที่ด้านในของเสื้อบริเวณหลังคอ ด้วยการออกแบบให้มีรูปกลุ่มดาวกางเขนใต้ ซึ่งเป็นกลุ่มดาวที่ใช้อยู่บนธงชาติบราซิล โดยที่กลุ่มดวงดาวเหล่านี้ได้เจิดจรัสอยู่บนฟากฟ้าของกรุงรีโอเดจาเนโร เมื่อครั้งที่ประเทศบราซิลได้ทำการประกาศจัดตั้งสาธารณรัฐบราซิลอย่างเป็นทางการเมื่อปี1889 ส่วนชื่อนักเตะและหมายเลขที่ด้านหลังของเสื้อและด้านหน้าของกางเกงใช้แบบอักษรที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยได้แรงบันดาลใจมาจากโปสเตอร์ที่พิมพ์ขึ้นด้วยมือ ซึ่งเห็นได้ตามท้องถนนของบราซิลทั่วไป
สำหรับกางเกงขาสั้นสีขาวของชุดแข่งทีมเยือน ดูเรียบง่ายและมีสัญลักษณ์ประดับอยู่ตรงชายกางเกง โดยที่กางเกงมีรูปทรงเพรียวกระชับและเข้ารูปกว่าที่เคย ทั้งนี้การออกแบบได้อ้างอิงผลการวิจัยเกี่ยวกับรูปร่างของนักเตะ ทำให้การตัดเย็บเอื้อต่อการเคลื่อนไหวและสวมสบายมากยิ่งขึ้น ส่วนกลางบริเวณด้านหลังกางเกงมีพื้นที่ระบายอากาศแบบเจาะด้วยเลเซอร์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการออกแบบที่เฉพาะตัวของไนกี้ เพื่อเพิ่มความเย็นสบายและแก้ปัญหาความเปียกชื้นได้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกันยังมีถุงเท้าสีน้ำเงินช่วยเติมเต็มให้ชุดแข่งขันทีมเยือนของบราซิลมีสไตล์ที่คลาสิคเพิ่มขึ้น
สุดยอดความเย็นและความสวมสบาย
ชุดแข่งทีมเยือนได้ช่วยเสริมประสิทธิภาพให้แก่นักกีฬา ด้วยการปรับอุณหภูมิร่างกายของผู้เล่นตลอดช่วงเวลาการแข่งขัน ซึ่งเป็นผลมาจากการผสานใช้เทคโนโลยี ไดร-ฟิต ของไนกี้ร่วมกับผ้าตาข่ายเนื้อบางแบบ Burnout Mesh และมีรูระบายอาการที่เจาะด้วยเลเซอร์ ซึ่งจะทำให้นักออกแบบสามารถกำหนดจุดให้ความเย็นเฉพาะส่วนในบริเวณที่ผู้เล่นต้องการเป็นที่สุด เทคโนโลยี ไดร-ฟิต ของไนกี้ได้ช่วยดึงความเปียกชื้นที่ผิวหนังออกสู่ด้านนอกเสื้อผ้า เพื่อให้ระเหยออกได้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยที่รูระบายอากาศซึ่งเจาะด้วยเลเซอร์และผ้าตาข่ายที่ถูกออกแบบจัดวางไว้ในบริเวณหลักจะช่วยให้มีการระบายอากาศได้เป็นอย่างดีและมีอากาศไหลผ่านได้ทั่วบริเวณของผิวหนัง
การจัดการเหงื่อและช่วยรักษาร่างกายให้รู้สึกเย็นขึ้นได้ยาวนานกว่าเดิมช่วยทำให้ผู้เล่นจะรู้สึกสบายตัวยิ่งขึ้น เหงื่อออกน้อยลง และสร้างผลงานในการแข่งขันได้ดียิ่งกว่าเดิม มาร์ติน ล็อตติ ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของไนกี้ฟุตบอลทั่วโลก กล่าว
นอกจากจะช่วยให้ผู้เล่นรู้สึกเย็นแล้ว ชุดแข่งนี้ยังผลิตขึ้นด้วยกระบวนการทอแบบใหม่ที่ใช้เส้นใย2 ชนิดร่วมกัน โดยผสานเส้นใยฝ้ายและเส้นใยโพลีเอสเตอร์รีไซเคิลเข้าด้วยกัน เพื่อคุณสมบัติในกันดูดซับความเปียกชื้นได้ดีที่สุดและยังช่วยเพิ่มความรู้สึกนุ่มสบายและให้รูปทรงสวยเข้ารูปยิ่งกว่าเดิมอีกด้วย
ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม
ทั้งเสื้อ กางเกง และถุงเท้าได้ใช้ใยผ้าที่ผลิตขึ้นจากขวดพลาสติกรีไซคิล ซึ่งสอดคล้องกับความมุ่งมั่นของไนกี้ในการมอบประสิทธิภาพที่เหนือชั้นควบคู่ไปกับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่ถุงเท้าของชุดทีมชาติใช้วัสดุรีไซเคิลแบบนี้อีกด้วย (กางเกงใช้โพลีเอสเตอร์รีไซเคิล100% ส่วนเสื้อและถุงเท้าใช้โพลีเอสเตอร์รีไซเคิล 96% และ 78% ตามลำดับ) ชุดแต่ละชุดทำจากขวดพลาสติกรีไซเคิลโดยเฉลี่ย 18 ขวด และนับตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา ไนกี้ได้เปลี่ยนเส้นทางของขวดน้ำเกือบ 2,000 ล้านขวดออกจากการนำไปใช้ถมที่ ซึ่งเป็นจำนวนมากพอที่จะปกคลุมพื้นที่สนามฟุตบอลขนามาตรฐานจำนวนกว่า2,800 สนามการผสานความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมคือประเด็นหลักอีกส่วนในการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเรา เป้าหมายของเราคือการสร้างสรรค์ชุดแข่งที่ให้มีประสิทธิภาพแก่ผู้เล่นและช่วยมอบสิ่งดีๆ ให้กับผืนโลก ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของไนกี้ฟุตบอลทั่วโลก กล่าวเพิ่มเติม ความกระชับเป็นเยี่ยม
นักออกแบบได้สแกนร่างกายนักฟุตบอลทีมชาติบราซิลทั้งทีมด้วยเทคนิคสามมิติ เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับรูปร่างของผู้เล่นยุคปัจจุบันและค้นหารูปทรงใหม่ที่ให้ความสวมสบายได้มากยิ่งขึ้นและเอื้อให้ร่างกายเคลื่อนไหวได้อย่างเป็นธรรมชาติเมื่อสวมชุดนี้ นอกจากจะพิจารณาทุกองค์ประกอบของชุดแข่งฟุตบอลสมัยใหม่แล้ว นักออกแบบของไนกี้ยังให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับถุงเท้าของขุดแข่งอีกด้วย ซึ่งการผสานข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับนักกีฬาและการวิจัยวัสดุและกระบวนการผลิตใหม่ๆ ทำให้ถุงเท้า ไนกี้ อีลิท แมทช์ ฟิต (Nike Elite Match Fit) สำหรับปี 2014 ได้มอบความกระชับในแบบที่คล่องแคล่วยิ่งขึ้นสำหรับการเล่นฟุตบอลโดยเฉพาะ โซนบุซับแรงกระแทกเฉพาะจุดช่วยให้ความสบายและปกป้องหัวแม่เท้าและตาตุ่ม ซึ่งเป็นจุดที่เกิดการปะทะบ่อยที่สุด ในขณะที่ส่วนรองรับส่วนเว้าของเท้าช่วยโอบกระชับเท้าเพื่อป้องกันการลื่นไถล วัสดุที่ใช้ถูกลดปริมาณลงเพื่อให้สัมผัสที่ดียิ่งขึ้นและลดความเทอะทะ และยังได้เพิ่มร่องเพื่อความยืดหยุ่นไว้ที่ข้อเท้าและหลังเท้าเพื่อป้องกันการกระจุกตัว
กางเกงรัดกล้ามเนื้อ ไนกี้ โปร
กางเกงรัดกล้ามเนื้อ ไนกี้โปร เป็นรุ่นที่น้ำหนักเบาที่สุดเท่าที่ไนกี้เคยมีมาและให้การหมุนเวียนและระบายอากาศได้มากยิ่งขึ้น ผู้เล่นจะมีกางเกงรัดกล้ามเนื้อ ไนกี้ โปร ให้เลือกใช้ได้หลากหลายสไตล์ โดยได้รับการออกแบบสำหรับระดับอุณหภูมิและสภาพอากาศหลากหลายแบบที่นักกีฬาจะต้องเผชิญในการแข่งขันที่บราซิล ซึ่งคาดว่าจะมีตั้งแต่อากาศร้อนจัดในการแข่งขันช่วงกลางวัน ไปจนถึงอากาศหนาวเย็นในการแข่งขันที่จัดขึ้นทางตอนใต้ของประเทศในช่วงเวลาค่ำ
ไนกี้ได้ออกแบบกางเกงขาสั้นรัดกล้ามเนื้อสำหรับปี2014 โดยใช้ข้อมูลเชิงลึกที่ได้รับจากผู้เล่นชั้นยอดที่สุดในโลกหลายๆ คนโดยตรง
เมื่อขอให้ผู้เล่นพูดถึงลักษณะการปกป้องที่พวกเขาต้องการในระหว่างการแข่งขัน พวกเขาได้เปิดให้เราดูรอยแผลเป็นและรอยถลอกบริเวณเหนือสะโพกด้านหลังซึ่งเกิดจากการสไลด์ตัว ผู้เล่นหลายๆ คนเปิดให้ดูร่องรอยการบาดเจ็บแบบเดียวกันนี้ เราจึงเริ่มเดินหน้าหาวิธีให้การปกป้องเพิ่มขึ้นอย่างพอเหมาะพอดีกับความจำเป็นที่จะต้องมีน้ำหนักเบาและให้การระบายอากาศที่ดีด้วย ล็อตติกล่าว
ซึ่งผลที่ได้คือกางเกงขาสั้น ไนกี้ โปร คอมแบท อัลตร้าไลท์ สไลเดอร์ ชอร์ท (Nike Pro Combat Ultralight Slider Short) ซึ่งนอกจากจะมีการปกป้องที่เพิ่มขึ้นและปรับให้ดียิ่งขึ้นตามรูปแบบการสไลด์ตัวของนักกีฬาแล้ว กางเกงขาสั้นรุ่นนี้ยังมีน้ำหนักเบากว่ารุ่นก่อนๆ ถึง20% และทำขึ้นจากโพลีเอสเตอร์รีไซเคิลถึง 87% โดยน้ำหนักที่ลดลงเกิดจากการใช้ผ้าตาข่ายเพื่อเพิ่มการระบายอากาศและให้ความเย็นสบายในส่วนที่นักกีฬาเกิดความร้อนมาก
สำหรับชุดแข่งของทีมชาติบราซิลในฐานะทีมเยือนจะมีทั้งหมด 2 รุ่น รุ่นMatch jersey ราคาตัวละ 5,090 บาท วางจำหน่ายที่ร้านอาริ ฟุตบอล สยามสแควร์และบางกะปิ ส่วนรุ่น Stadium jersey ราคาตัวละ 2,790 บาท วางจำหน่ายที่ร้านไนกี้สยามดิสคัฟเวอรี่ เทอร์มินอล 21 เซ็นทรัลชลบุรี ร้านอาริ ฟุตบอล สยามสแควร์และบางกะปิ ร้านนกแก้ว ไนกี้คอร์เนอร์ ในร้านซูเปอร์ สปอร์ต ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ และตัวแทนจำหน่ายไนกี้ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายนเป็นต้นไป หรือติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
facebook.comnikefootball