Fowler, K.J. (2013). We are completely beside ourselves. London: Serpents Tale.
เรื่องราวของครอบครัวนักวิจัยวิทยาศาสตร์ ลูกสาววัยเด็กที่ไร้เดียงสาได้ก่อเรื่องที่ส่งผลกระทบรุนแรงจนครอบครัวแตกแยก พี่ชายหนีออกจากบ้านจากผลการกระทำครั้งนั้น แต่ด้วยความไร้เดียงสาทำให้เด็กสาวไม่รู้อิโหน่อิเหน่ และยังเป็นปมคาใจอยู่ทุกวันนี้ หนังสือเล่าผ่านมุมมองของ Rosemary ในวัยรุ่นที่กำลังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ ให้เดินทางกลับไปค้นหาความเป็นจริงในวัยเด็กว่าตนเองได้ทำอะไรลงไป จนทำให้ ของที่ตนรัก และ ของที่ครอบครัวรัก ต้องหลุดลอยไป จนทำให้ครอบครัวแตกแยก
เราไม่ค่อยชอบเรื่องนี้นัก คิดว่าไม่ใช่ทาง แต่ก็พอเข้าใจได้ว่าทำไมฝรั่งถึงชอบเรื่องประเด็นนี้นัก จนถึงขั้นได้เข้ารอบสุดท้ายรางวัลหนังสือดัง เราว่ามันก็น่าประทับใจเรื่องคนกับสัตว์ แต่เราไม่รู้สึกอินอะไรขนาดนั้น
...
# 35
Winterson, J. (c1985, 2014). Oranges are not the only fruit. London: Vintage.
นิยายกึ่งอัตชีวประวัติของนักเขียนเล่าความเป็นมาเป็นไปในชีวิตสมัยยังเป็นเด็กที่ต้องอยู่กับครอบครัวที่ยึดมั่นถือมั่นในศาสนาเป็นอันมาก จนมาถึงกระทั่งเข้าสู่วัยสาว ได้สนิทชิดเชื้อกับหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกันที่ทำงานในโบสถ์ จนทำให้เกิดความรู้สึกดีทางใจ ลามไปถึงมีความสัมพันธ์ทางกาย กระทั่งเป็นเรื่องแดงออกมา แต่ก็ถือเป็นการก้าวข้ามสังคมที่ยึดถือแต่ความคิดเก่าๆ ออกมาได้อย่างไม่สวยงามนัก แลกกับการเปิดตัวเองว่าชอบผู้หญิงเหมือนกัน อย่างไรก็ดีภายหลังเธอก็ประสบความสำเร็จกับอาชีพการงาน เป็นนักเขียนที่มีชื่อเสียงในปัจจุบัน
...
# 36
McEwan, I. (2012). Sweet tooth. London: Vintage.
เรื่องของ Serena หญิงสาวที่ได้รับงานให้เป็น spy ในองค์กร MI5 ของรัฐบาลอังกฤษ ยุคที่สงครามเย็นกำลังเข้มข้น เธอถูกมอบหมายให้เป็นนกต่อในการจ้างนักเขียนชายดาวรุ่งเพื่อสร้างสรรค์ผลงานในเชิงต่อต้านคอมมิวนิสต์ เป็นโปรเจ็กต์ที่องค์กรต้องการสร้างขึ้นมาเพื่อปลูกสร้างความคิดทางด้านทุนนิยมให้กับประชาชนด้วยอำนาจของวรรณกรรม
ชายที่ Serena ไปเป็นนกต่อให้นั้นทำให้เธอหลงรักและมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งขณะที่เขาผลิตงานเธอก็ช่วยให้กำลังใจเขาเรื่อยๆ พร้อมกับความรักก็เกิดขึ้น แต่ตนก็รู้สึกผิดที่ไม่อาจบอกความจริงกับชายหนุ่มได้ เรื่องมาแดงตรงที่เพื่อร่วมงานของ Serena ที่เคยมีความสัมพันธ์กับเธออยากได้เธอคืน เลยไปปูดเรื่องกับนักเขียนหนุ่มเข้า จึงเกิดการหลอกซ้อนกันซ้ำเพื่อพิสูจน์น้ำใจ Serena ในที่สุด
เรื่องนี้พล็อตไม่ได้อลังการมากมาย และไม่ค่อยได้ตั้งคำถามเรื่องคุณธรรมตามสไตล์ของลุงเอียน แต่เล่นที่การเล่าเรื่อง มุมมอง และความคิดคำนึงของตัวละครมากกว่า เฉลยตอนท้ายเรื่องเราชอบมาก เพราะแนวเรื่องซ้อนเรื่องครอบไว้อีกชั้นหนึ่ง
...
# 37
Allison, D. (1993). Bastard out of Carolina. New York: A Plume Book.
เล่าชีวิตเด็กหญิง Ruth ในครอบครัวยากจนในรัฐเซาต์แคโรไลนาของอเมริกาในยุค 50 เกิดมาโดยไร้พ่อ มีน้องสาวต่างพ่ออีกหนึ่งคน ก่อนจะแม่จะมีพ่อเลี้ยงเมื่อเธอเริ่มโตเข้าวัยรุ่น ชีวิต Ruth ค่อนข้างยากจน แม่หาเช้ากินค่ำ พ่อเลี้ยงก็ตกงานอยู่บ่อยๆ แถมเมื่อเริ่มโตเป็นสาวก็ถูกพ่อเลี้ยงก้อร่อก้อติกใส่อีกหลายครั้ง หนังสือเล่าถึงชีวิตของบรรดาญาติๆ เธอด้วย วีรกรรมแต่ละคนเป็นอย่างไร เป็นดราม่าครอบครัวคนจนที่แสดงให้เห็นว่าแต่ละคนสู้ชีวิตอย่างไร
เรื่องมาเข้าจุดพีคตรงที่แม่ของ Ruth เสียงลูกที่เกิดจากพ่อเลี้ยงไป ลูกชายที่คลอดออกมาแล้วตาย สร้างความเสียใจให้แก่พ่อเลี้ยง และป้าคนหนึ่งของ Ruth เห็นรอยเฆี่ยนที่ต้นขาของเด็กหญิง จึงจัดการแยกพ่อเลี้ยงออกจากลูกเลี้ยง ก่อนพี่ตัวพ่อจะเคียดแค้นมาตามล่าและขื่นใจกระทำชำเลาเด็กหญิงในที่สุด แม่ของเธอเองตกอยู่สถานะต้องเลือกระหว่างลูกสาวกับสามีที่ตนรัก ตอนจบจึงเป็นเรื่องที่อึดอัดใจมากเมื่อแม่เลือกพ่อเลี้ยง ทิ้งลูกไว้กับพี่สาวตัวเอง
...
# 38
Amis, M. (1992). Time's arrow. London : Penguin books.
หนังสือเล่มบางแต่อ่านแล้วต้องงุนงง เพราะการดำเนินเรื่องที่แปลกแหวกแนว ต้องตั้งสมาธิในการอ่านอย่างที่เรียกว่าสุดๆ เรื่องเริ่มจากตัวเอกที่เป็นหมอชาวอเมริกันฟื้นขึ้นมาจากความตาย แต่จริงๆ อาจเรียกว่าฟื้นไม่ได้ถนัดนัก คือมันเป็นการดำเนินเรื่องถอยหลัง นับแต่จุดที่ตายค่อยๆ ย้อนกลับไปเรื่อยๆ คนเขียนถ่ายทอดความสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร หรือเหตุการณ์ที่กลับตาลปัตรได้อย่างดีเยี่ยม มีมุมมองที่แปลกเมื่อลองมองย้อนหลัง เช่น ฉากยื่นของเล่นให้เด็ก ก็กลับมุมเป็นการแย่งของเล่นจากเด็กแทน ฉากเอาจดหมายเผาไฟก็เหมือนสร้างจดหมายมาจากกองไฟ ฉากขโมยวิ่งราวก็เหมือนเอาของไปคืนเจ้าของ เป็นต้น
ประเด็นที่คิดว่าผู้เขียนต้องการเสนอคือ เอาเรื่องราวไม่ดีทั้งหมดทิ้งไป ย้อนกลับไปเหมือนไม่ให้มันเกิดขึ้น เนื่องจากพอเรื่องเริ่มย้อนไปจนถึงครึ่งเล่มหลัง คนอ่านถึงได้รู้ที่มาที่ไปของตัวละครเอกที่เป็นหมอคนนี้นั่นแหละ ว่าจริงๆ แล้วข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากยุโรป เปลี่ยนชื่อเปลี่ยนแซ่ เพื่อหลบหนีความเป็นอาชญากรสงครามโลกครั้งที่ 2 เพราะเขาคือหมอชาวเยอรมันที่ร่วมอยู่ในการฆ่าล้างคนยิวนั่นเอง
...
# 39
Dahl, R. (1994). Danny the champion of the world. London: Puffin Books.
แดนนี่เป็นเด็กชายที่อาศัยอยู่กับบ้านกึ่งรถของพ่อที่ริมป่าแห่งหนึ่งเพียงสองคนพ่อลูก ชีวิตสุขสบายตามอัตภาพ แม้ว่าจะจนแต่ก็พอมีกินมีใช้ วันหนึ่งพ่อก็เล่าความลับเกี่ยวกับการดักจับไก่ป่าให้แดนนี่ฟัง จนนำไปสู่การผจญภัยช่วยเหลือพ่อที่บาดเจ็บหลังจากออกไปดักจับไก่ป่า พร้อมออกความคิดเป็นการคิดค้นวิธีดักจับไก่ได้อย่างแยบยลและได้จำนวนมาก...มากยิ่งกว่าวิธีใดๆ ที่พ่อและปู่เคยทำมาก่อนหน้าเสียอีก จำได้ว่าอ่านเรื่องนี้เวอร์ชันแปลตั้งแต่สมัยมัธยม และรู้สึกประทับใจมา เพิ่งได้มาอ่านออริจิฯ ก็ทำให้รื้อฟื้นความประทับใจเก่าๆ ได้ดีทีเดียว
...
# 40
Mitchell, D. (2011). The thousand autumns of Jacob de Zoet. London: Sceptre.
จาคอบเป็นเสมียนชาวดัชต์ที่เดินทางไปทำงานที่เกาะเดจิมะในปี 1799 เกาะเล็กๆ แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นประตูการค้าระหว่างดัชต์กับญี่ปุ่น ณ เมืองนางาซากิ ชายหนุ่มเป็นคนเก่งและฉลาด เขาพยายามเรียนรู้วัฒนธรรมและภาษาตะวันออกจนแตกฉาน แถมยังยังตกหลุมรักโอริโตะหญิงสาวที่เป็นหมอตำแยและเรียนรู้การแพทย์สมัยใหม่กับหมอมารีนัสที่ประจำอยู่ที่เกาะเดจิมะด้วย เรื่องเริ่มสนุกขึ้นเรื่อยๆ ก็ตอนที่จาคอบต้องไปคัดง้างกับขบวนการคอรัปชันของเหล่าพ่อค้าชาวดัชต์ด้วยกันเองที่ต้องการจะตักตวงผลประโยชน์จากการค้าทางเรือของบริษัท VOC ซึ่งถือว่าเป็นตัวแทนการค้าของฝรั่งชาติเดียวในญี่ปุ่น
ระหว่างนั้นโอริโตะก็ประสบชะตาชีวิตไม่คาดฝัน ตกไปอยู่ในเงื้อมมือของนักบวชนิกายประหลาด จับเอาผู้หญิงไปปั๊มลูก แล้วกำจัดเด็กทิ้งโดยการวางยา หญิงใดที่ปลดประจำการก็กรอกยาฆ่าตาย โอริโตะต้องพยายามหาทางหนี แต่ก็ไม่สำเร็จ
พาร์ตสุดท้ายของเรื่องเป็นช่วงที่มีเรือสัญชาติอังกฤษแล่นเข้ามาท้าทายอำนาจของญี่ปุ่นพร้อมกันต้องการยึดเกาะเดจิมะเป็นประตูการค้าให้แก่ประเทศตัวเอง แต่การเข้ามาไม่ได้เข้ามาดีนัก เรือลำนี้เข้ามาพร้อมกับการขู่เข็น ทำให้ผู้รั้งเมืองนางาซากิต้องขอคำปรึกษาจากดัชต์อย่างจาคอม จนสุดท้ายก็ผ่านพ้นภัยสงครามครั้งนี้ไปได้ ก่อนจาคอบจะยื่นเรื่องต่อผู้รั้งเมืองให้ช่วยเหลือโอริโตะออกมา
เพิ่งได้อ่านเดวิด มิตเชลเป็นเล่มแรก พล็อตดีงามมาก ตัวละครมีชีวิตชีวาทุกวัน บทสนทนาก็ฉลาด แม้บางทีจะรำคาญกับการพูดด้วยสำเนียงประหลาดๆ อ่านลำบาก แต่ก็เป็นด้วยว่าคนเขียนต้องการสร้างคาแร็กเตอร์ตัวละครให้ชัด ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นของเดวิดมาตั้งแต่เขียนเรื่อง Cloud Atlas แล้ว ทำให้อยากอ่านเรื่องนี้ขึ้นมาติดหมัด
...
เข้าไม่ถึงเหมือนกันค่ะ อ่านไม่จบอีกต่างหาก ค้างอยู่สักครึ่งเล่มมั้ง รู้สึกว่า "เสียง" ของตัวละครมันคร่ำครวญเกินไป...
Time's arrow พล็อตน่าสนุกจัง ให้สักกี่ดาวคะ
Danny the champion of the world
สมัยเด็กชอบเรื่องนี้มาก พอโตขึ้นแล้วถึงคิดได้ว่ามันสอนให้เด็กเป็นขโมยนี่หว่า