หนังสือรัก...รัก..เล่มที่หนึ่ง : มัทนะพาธา
เทศกาลแห่งความรักเวียนมาอีกปีแล้ว ก็ขอหยิบหนังสือรัก รัก มานำเสนอ ปีนี้เลือกหยิบ เป็นหนังสือกลอนละกัน... เล่มนี้รักมาก....เพราะเป็นเล่มที่พ่อซื้อมาให้... เก็บ
มัทนะพาธาหรือตำนานแห่งดอกกุหลาบ
พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 6 ฉบับพิมพ์พ.ศ.2467
คำนำ
"ละคอนเรื่องนี้ไม่ใช่ได้เนื้อเรื่องหรือตัดตอนมาจากแห่งใดๆ เลย จึงขอบอกไว้ให้ผู้อ่านทราบเพื่อไม่ต้องเสียเวลาไปเที่ยวค้นหาเรื่องนี้ในหนังสือโบราณใดๆ แก่แห่งเรื่องนี้ ได้เคยมีติดอยู่ในใจของข้าพเจ้ามาช้านานแล้ว แต่เพระเหตุต่างๆ ซึ่งไม่จำจะต้องแถลงในที่นี้ ข้าพเจ้ามิได้ลงมือแต่งเรื่องนี้ จนมาเมื่อกลางปีพ.ศ.2466 เมื่อได้บังเกิดมีเหตุบังคับให้ข้าพเจ้าต้องอยู่นิ่งๆ เงียบๆ ข้าพเจ้าจึงได้หวลนึกขึ้นถึงเรื่องนี้ เมื่อนึกตั้งโครงเรื่องขึ้นได้แล้ว ได้เกิดมีปัญหาขึ้นว่า จะให้นางในเรื่องนี้ถูกสาปเปนดอกไม้อย่างใด มีผู้เห็นกันโดยมากว่าควรให้เปนดอกกุหลาบ เพราะเปนดอกไม้ที่คนทั้งโลกทุกชาติทุกภาษานิยมว่างามและหอมชื่นใจยิ่งกว่าดอกไม้อย่างอื่นๆ
เรื่องละคอนนี้ ความตั้งใจเดิมของข้าพเจ้าจะแต่งขึ้นเปนแต่หนังสือสำหรับอ่านอย่างกวีนิพนธ์เท่านั้น แต่ได้มีญาติมิตร์ขอให้จัดเล่นออกโรง ข้าพเจ้าจึ่งตกลงตาม...."
ในช่วงท้ายคำนำ ทรงเล่าถึงที่มาของภาพประกอบในหนังสือไว้ด้วย
ภาพประกอบนี้ ลักษณะเหมือนเป็นภาพพิมพ์ ลงสีทองด้วย เวลาลูบกระดาษจะรู้สึกว่ามีความนูนด้วย
สุเทษณ์ อ้าโฉมวิไลยะสุปริยา มะทะนาสุรางค์ศรี พี่รักและกอบอภิระตี บมิเว้นสิเนห์หนัก บอกหน่อยเถอะว่าดะรุณิเจ้า ก็จะยอมสมัครัก มัทนา ตูข้าสมัคฤมิสมัค ก็มิขัดจะคล้อยตาม สุเทษณ์ จริงฤานะเจ้าสุมะทะนา วจะเจ้าแถลงความ? มัทนา ข้าขอแถลงวะจะนะตาม สุระเทวะโปรดปราน สุเทษณ์ รักจริงมิจริงฤก็ไฉน อรไทยบ่แจ้งการ? มัทนา รักจริงมิจริงก็สุระชาญ ชยะโปรดสถานใด? สุเทษณ์ พี่รักและหวังวธุจะรัก และบทอดบทิ้งไป มัทนา พระรักสมัคณพระหทัย ฤจะทอดจะทิ้งเสีย? สุเทษณ์ ความรักละเหี่ยอุระระทด เพราะมิอาจจะคลอเคลีย มัทนา ความรักระทดอะระละเหี่ย ฤจะหายเพราะเคลียคลอ? สุเทษณ์ โอ้โอ๋กระไรนะมะทะนา บมิตอบพะจีพอ? มัทนา โอ้โอ๋กระไรอะมระง้อ มะทะนามิพอดี! สุเทษณ์ เสียแรงสุเทษณ์นะประดิพัทธ์ มะทะนาบเปรมปรีย์ มัทนา แม้ข้าปเปรมปฺริยะฉนี้ ผิจะโปรดก็เสียแรง สุเทษณ์ โอ้รูปวิไลยะศุภะเลิด บมิควรจะใจแขง มัทนา โอ้รูปวิไลยะมละแรง ละก็จำจะแขงใจ
มัทนะพาธา เราเคยได้อ่านบางตอน...ก็ตอนหน้าทียกมาข้างบนนั้นแหละ ในบทเรียนวิชาภาษาไทย ชั้นมัธยมปีที่เท่าไหร่ก็จำไม่ได้นะ จำได้ว่า ฝีกอ่านฉันท์เป็นทำนองเสนาะด้วย.... จากนั้น...เราก็หาหนังสือเรื่องนี้แบบเต็มๆ เล่มมาอ่าน... นี่จึงเป็นวรรณคดีอีกเรื่องที่เราอ่านจนจบเรื่อง...จริงๆ ไม่ใช่ว่ารู้จักผ่านการแสดงของกรมศิลป์ฯ เหมือนเรื่องอื่นๆ แต่ก็เคยได้ดูละครพูดคำฉันท์เรื่องมัทนะพาธาจากกรมศิลป์ฯ แล้วเช่นกัน การแต่งกายจะแต่งแบบแขกๆ พูดเป็นฉันท์ มีบทร้องจากฉันท์ ....บ้าง.... รู้สึกไม่ค่อยชอบนัก...คงเป็นเพราะเรารู้สึกติดกับละครที่มีการร้องและรำ เลยรู้สึกแปลกๆ ที่ตัวละครแต่งตัวสวยๆ แต่ไม่มีการรำ อ่ะนะ
หนังสือเล่มนี้ พ่อได้มายังไงไม่รู้ล่ะ...แต่บอกว่าให้เราเป็นของขวัญ ปกหนังสีดำ พิมพ์ภาพสีทอง .... เราพลิกดูด้านในไม่ปรากฎโรงพิมพ์หรือปีที่พิมพ์ แต่เราเข้าใจเอาเองว่า คงเป็นฉบับพิมพ์เมื่อปีพ.ศ.2467 ตามที่ปรากฎในแผ่นปกใน ในเล่มมีประกาศยกย่องจากกรรมการวรรณคดีสโมสรพิมพ์ไว้ด้วย
เนื้อเรื่อง...คงเป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้ว...เรื่องราวของความรัก..รันทด... ความรักที่ทำให้หญิงหนึ่งกลายร่างเป็นดอกไม้เพื่อหนีรักอันเจ็บปวดนั้น และดอกไม้นั้น...กลายมาเป็นตัวแทนแห่งความรักของคนทั้งโลกมาจนปัจจุบันนี้
วรรณคดีเล่มนี้ จึงถือว่าเป็นหนังสือรัก..รัก..เล่มแรกที่หยิบมานำเสนอในเทศกาลแห่งความรักปีนี้
Create Date : 09 กุมภาพันธ์ 2552 |
|
11 comments |
Last Update : 29 มกราคม 2555 20:21:02 น. |
Counter : 8028 Pageviews. |
|
|
|
เป็นเรื่องที่น่าสนใจค่ะ
อีกอย่างอ้อนลองอ่านแบบออกเสียงแล้วเพราะมากๆ เลย อิอิ
ปล.เห็นเขียนว่าเล่มที่1 แสดงว่าจะเขียนหนังสือแห่งความรัก
อีกหลายตอนใช่เปล่าคะ จะได้ติดตามอ่านอย่างใกล้ชิด