Bloggang.com : ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์ :

'แตงโม' ขอโทษคิดน้อยก่อนโพสต์ไอจี ตัดพ้อเป็นตัวเองทำอะไรก็ผิด

ตกเป็นประเด็นฉาวจนขาเม้าท์ขยับปากวิจารณ์อยู่ตลอด สำหรับนางเอกผลไม้วิก 7 สี แตงโม-ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ ที่พักหลังมักจะถูกจับตามองเรื่องการโพสต์ข้อความทำนองจิกกัดบุคคลอื่นอยู่บ่อยครั้ง ล่าสุดมีทั้งกรณีโพสต์คอมเมนต์ไอจีต่อว่าการทำงานของเออาร์สาวผู้ดูแลศิลปินเอ็กแซ็กท์คนหนึ่ง และในช่วงนั้นเองที่แตงโม unfollow อินสตาแกรมแฟนหนุ่ม โตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ จนถูกมองว่าทะเลาะกันเพราะเรื่องนี้ รวมถึงโพสต์แซวจิกกัดเรื่องสีผิวกับชุดพิธีกรสาวเปรี้ยวรุ่นพี่ โอปอล์-ปาณิสรา พิมพ์ปรุ กลายเป็นประเด็นร้อนที่ใครต่อใครก็พูดถึงในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ก พอเจอแตงโมมาร่วมงาน Rich Dog Poor Dog Season 4 ที่ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ ก็ได้โอกาสสอบถามถึงทุกเรื่อง

โดยแตงโมชี้แจงถึงกรณีโพสต์คอมเมนต์ต่อว่าเออาร์ของเอ็กแซ็กท์ให้ฟังก่อนว่า “อันนั้นจบไปนานแล้วค่ะ จบกันในนั้น มันก็ไม่มีอะไรและมันเงียบไปนานแล้ว ถามว่าทำไมถึงโพสต์แบบนั้น จริงๆ แล้วโมอาจจะคิดน้อยไปนิดนึง อันนี้ก็ต้องขอประทานอภัยจริงๆ คนเราไม่เหมือนกัน บางคนถนัดที่จะคุยกันส่วนตัว บางคนก็ถนัดที่จะคุยตรงไหนก็ได้ โมก็ดันใช้มาตรฐานตัวเองไปคิดว่าคนอื่นจะเป็นเหมือนเรา เพราะฉะนั้นก็เลยเกิดความผิดพลาด ฉะนั้นโมก็ต้องขอโทษสำหรับเรื่องราวที่ไม่ดีเกิดขึ้นค่ะ” กลัวกระทบงานของโตโน่ไหม? “โมว่าถ้าในรายละเอียดแล้วถ้าคนที่ได้อยู่ในเหตุการณ์หรือรู้เรื่องราวจริงๆ แล้วก็ไม่มีอะไรค่ะ” เราเคลียร์กับเขาจบแล้วรึยัง? “ทุกอย่างจบไปนานแล้วค่ะ” คนมองว่าโมสร้างข่าวขึ้นมาเพื่อสร้างกระแสให้ตัวเอง? “โมว่าโมอยู่ในวงการมานานระดับนึงแล้วค่ะ โมว่าโมไม่ได้ทำอะไรที่หวือหวา หรือทำอะไรที่เป็นเรื่องราวใหญ่โต โมก็ถูกจับให้อยู่ในกระแสเองโดยอัตโนมัติอยู่แล้ว ฉะนั้นโมรู้สึกว่าตรงนั้นเป็นระบบหน้าที่ของมันอยู่แล้วโดยที่โมไม่จำเป็นต้องสร้างอะไรเพื่อตัวเองเลยค่ะ”

จากข่าวนี้คนมองว่าเราระหองระแหงกับโตโน่ถึงขั้นลือว่าเลิกกัน มีการ unfollow อินสตาแกรม? “จริงๆ แล้วเรื่องนี้กับเรื่องที่โมงอนพี่โน่คนละเรื่องกัน แต่พี่โน่ไม่รู้ว่าโมงอนเรื่องอะไร โมงอนก็เลย unfollow กันเป็นเรื่องปกติ เวลาโมงอนกับเพื่อนหรือใครโมก็จะชอบทำแบบนี้ค่ะ แล้วมันก็จะมีหน่วยจับผิดอยู่แล้ว แต่พอเวลาเราดีกันก็กลับมา Follow เหมือนเดิมไม่มีอะไรค่ะ ไม่ได้เลิกกันค่ะ เราช่วยกันสร้างครอบครัวแล้ว การที่จะเลิกกันหรือแยกออกจากกันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ค่ะ” จากกรณีเออาร์คนนี้ โตโน่ได้เตือนเราด้วยใช่ไหม? “ตักเตือนค่ะ คือทุกคนพยายามเตือนเราว่าบางทีอย่าเอามาตรฐานเราไปเป็นตัววัดว่าเวลาเราจะทำอะไรบนไอจี เราต้องคิดว่าคนอื่นอาจจะไม่ได้คิดแบบเราก็ได้ แล้วจะส่งผลกระทบตามมาเป็นลูกโซ่ เพราะฉะนั้นก็อยากให้โมพิจารณาหลายๆ ครั้งกว่าที่จะลงอะไรในไอจีค่ะ สำหรับเรื่องไอจีโมก็ต้องขอโทษจริงๆ ค่ะ หลายๆ ครั้งโมอาจจะคิดน้อย แต่หลังจากนั้นโมก็ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวเองขึ้นมาเร็วมากค่ะ”

แต่ก็ยังมีประเด็นเรื่องโพสต์คอมเมนต์ไอจีโอปอล์? “เรื่องพี่โอปอล์ไม่มีอะไรเลยจริงๆ เหมือนอย่างหนูกับพี่แซวกัน แต่อย่างที่บอกว่าจะมีหน่วยจับผิด เหยียบย่ำอยู่แล้ว ตัวโมกับพี่ปอล์ไม่มีอะไรเลย แต่คนที่เป็นเอามาก รู้สึกว่าเขาไม่เป็นสุขคือแฟนคลับของเราทั้งสองคน โมอยากจะบอกว่าไม่ต้องเป็นอะไร แฟนคลับของโมเอง โมก็ขอร้องว่าอย่าไปโจมตีอะไรใครเลยค่ะ โมกับพี่ปอล์รู้จักกันมานานเป็น 10 ปี ครั้งแรกที่โมรู้จักพี่ปอล์โมแซวแรงกว่านี้อีก ซึ่งแต่ก่อนโมไม่ได้ถูกเกลียดมากขนาดนี้ พอทุกวันนี้โมมีครอบครัวโดยที่มีพื้นฐานคนที่ไม่เห็นด้วยเยอะ ฉะนั้นอะไรๆ โมก็จะถูกจับตามองว่าโมผิดไปซะหมด อย่างที่พี่โอปอล์บอกว่าถ้าเป็นคนอื่นแซวพี่โอปอล์คงไม่เป็นอะไร แต่พอเป็นโม โมผิดทุกเรื่อง โมคงต้องเป็นคนที่มีแฮชแท็กว่าแตงโมผู้คอมเมนต์ใครไม่ได้แล้วนะ”

มีคนมองว่าโมชอบคอมเมนต์ระรานคนอื่น? “คำว่าระรานคือคนที่ทะเลาะกันแล้วมีปัญหาไม่จบ แต่โมไม่เคยมีปัญหากับใครเลย ฉะนั้นคำว่าระรานใช้กับกรณีแบบนี้ไม่ได้ โมเสียใจมาก โมรู้สึกว่าพอโมปรับปรุงตัวให้ดีขึ้นหลายๆ ด้าน ที่เห็นได้ชัดๆ ถ้าใครติดตามจริงๆ จะเห็นว่าไอจีโมละเว้นเรื่องอื่นไปเยอะมาก เช่น เรื่องการเมือง โมเก็บเป็นเรื่องส่วนตัวแล้ว การใช้คำพูดที่สุภาพอะไรแบบนี้ แต่การที่โมคุยกับเพื่อนเราเป็นเรื่องปกติ แต่คนกลับมองว่าโมเป็นจำเลยของสังคม โมก็ค่อนข้างเสียใจว่าถ้าเป็นคนอื่นคงไม่มีอะไร แต่ทำไมพอเป็นโมแล้วโมถึงผิดทุกเรื่อง แต่วันนี้ก็ต้องขอบคุณที่มีข่าวดีๆ โมอวยพรวันเกิดไอซ์-อภิษฎา แค่นี้ยังเป็นข่าวเลยค่ะ หรือเป็นเพราะโมไม่ค่อยออกงานก็เลยมีข่าวเป็นกระแสเพื่อให้โมรู้สึกว่าโมทำอะไรไม่ได้ ไม่รู้เหมือนกัน แต่พอโมใกล้ชิดศาสนามากขึ้น ฉะนั้นสิ่งที่ผ่านเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นการถูกยัดเยียดให้เป็นจำเลยสังคมหรืออะไรก็ตาม ถือว่าเป็นบททดสอบจากพระเจ้า ฉะนั้นถ้าโมยังมีพระเจ้าในใจ โมยึดหลักรักคนที่ไม่น่ารักแล้วโมจะผ่านไปได้ด้วยดี แล้วโมใจเย็นกว่าเมื่อก่อนเยอะมากๆ”

ได้เคลียร์กับโอปอล์แล้วหลังจากมีข่าว? “โมพิมพ์ไปบอกพี่โอปอล์ผ่านเฟซบุ๊กว่าดูสิ เราทะเลาะกันโดยที่เราไม่รู้ตัว พี่ปอล์ก็บอกว่าแกอย่าคิดมาก มันไม่มีอะไรเลย แกเอาเวลาไปเตรียมตัวตัดชุดมางานฉันดีกว่า ฉันรักแกเหมือนเดิม ไม่มีอะไรค่ะ งานแต่งก็ไปค่ะ ไม่ไปได้ไง คนรักกัน (ยิ้ม)” ถามถึงเรื่องที่โพสต์ในไอจีถึงโตโน่ว่าขอบคุณสามี ทำไมถึงใช้คำนี้แล้ว? “จริงๆ แล้วตั้งแต่เรามอบชีวิตให้พระเจ้าดูแล นั่นคือการเริ่มต้นใช้ชีวิตคู่แล้วค่ะ” เรียกว่าเป็นสามีเต็มปากเลยไหม? “ก็แล้วแต่ใครจะเรียกค่ะ เพราะมันก็มีข้อที่ขัดแย้งกันอยู่ คือประเพณีชาวคริสเตียนเราใช้ได้ แต่คนไทยเนี่ยถ้ายังไม่ได้จดทะเบียนสมรสเราใช้ไม่ได้ ฉะนั้นใครอยากจะเรียกอะไรก็เรียกเลยค่ะ แล้วแต่ค่ะ”.

Create Date : 06 เมษายน 2557

0 comments

Last Update : 6 เมษายน 2557 0:19:00 น.

Counter : 1923 Pageviews.