Bloggang.com : ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์ : ฉลองแต่งซึ้งฮาแซ่บ ''โอปอล์&หมอโอ๊ค'' เซ็นสัญญา(ใจ)เลิฟกันจนวันตาย

ฉลองแต่งซึ้งฮาแซ่บ ''โอปอล์&หมอโอ๊ค'' เซ็นสัญญา(ใจ)เลิฟกันจนวันตาย

ฤกษ์งามยามลั้ลลาเริ่มแล้วจ้า สำหรับงานฉลองวิวาห์อลังการสุดๆ ของคู่หวานแซ่บเวอร์ที่สามโลกเทใจไลค์กระจายหมอ“โอ๊ค"สมิทธิ์ อารยะสกุลกับเจ้าสาวสวยแซ่บ"โอปอล์"ปาณิสรา ที่เริ่มขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (6 เมษายน 2557) ที่โรงแรมพลาซ่าแอทธินี

ซึ่งคู่หวานสะท้านสามโลกก็เกี่ยวก้อยมาเม้าท์มอยกับสื่อ ฯ ด้วยท่าทางที่บ่งบอกว่า ...กำลังอยู่ในระยะ ข้าวใหม่ปลามัน หน้าตาบานฉ่ำราวกับถูกล็อตเตอรี่และฟุ้งชีวิตคู่Happy ฝุด ฝุด เล็งฮันนีมูนยุโรป เดือนมิถุนายน เป็นเวลา 1 สัปดาห์ เผยว่าตอนนี้ยังทำปกติ แต่ตกลงกันว่าวันอาทิตย์ต้องอยู่ด้วยกันเป็นวันครอบครัว รับอยากมีลูกแล้วขอปล่อยตามธรรมชาติ
แต่ที่ทำเอาสาวไทยใจแทบขาด..เมื่อทั้งคู่เซ็นสัญญา(ใจ) ว่าจะรักและอยู่ด้วยกันจนวันตาย โดยมีพี่สื่อฯ ร่วมเป็นพยานแห่งรัก
อร้าย ... งานนี้"โอปอล์" ของพี่ๆ ก็ซึ้งปลื้มปริ่มจนน้ำตาคลอ ส่วนพี่สื่อฯ ก็จิกเนื้อตัวเองจนชา

โอปอล์ : วันนี้ก็ดีใจมากคะ
หมอโอ๊ค : ดีใจมากครับ วันนี้ก็มีแต่คนที่เรารัก ทุกคนก็มาแสดงความยินดีกับเรา ตั้งแต่อยู่กับโอปอล์ก็มีความสุขทุกวันครับ สวยทุกวัน
โอปอล์ :วันนี้ก็แต่งตัวตามปกติคะ หน้าผมก็ทั่วไป แต่เขาก็ชอบ

หลังจากใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเป็นยังไงบ้าง?
โอปอล์ :ก็ตั้งแต่วันที่ 23 ที่จดทะเบียน ตอนจดก็จดไปก็พึ่งมาตระหนักว่าเราเป็นนางแล้วจริงๆ วันนั้นก็ 4 ทุ่มครึ่งก็มีฤกษ์ปูเตียง แล้วพอตื่นขึ้นมาอีกวันแล้งตระหนักว่าเรานอนอยู่ที่ไหน สถานะภาพเราเปลี่ยนแล้วนะ วันนั้นคือวันที่เราตื่นเต้นจริง แล้วก็ใช้เวลาแป๊บเดียวก็ชินทันที และก็รอให้ถึงวันนี้เร็วๆเพราะอันนั้นเป็นญาติๆและเพื่อนสนิท แต่วันนี้เราอยากเชิญพี่ๆสื่อมวลชนแล้วก็บอกกับคนทั่วไปว่าเราตกลงใจใช้ชีวิตกันแล้ว
หมอโอ๊ค :มีความสุขดีครับก็เหมือนมีคนดูแลเรา เขาเป็นคนน่ารักดูแลเราดีมาก เป็นแม่บ้านเต็มตัว คอยบีบยาสีฟันให้
โอปอล์ :คือเราไม่ได้สวยอะไรมากแต่เราครบจริงๆ ดูแลเอาใจ ทำกับข้าวไว้ให้ ก็พยายามทำตัวเป็นแม่บ้าน และเราก็ปรับชีวิตเพราะว่าตั้งแต่แต่งเข้าบ้านพี่โอ๊คมา 2 อาทิตย์ ปอล์ก็ต้องตื่น 6 โมงเช้าทุกวัน เพราะพี่โอ๊คต้องออกไปทำงานตอน 6 โมงครึ่ง ซึ่งนั้นก็หมายความว่า 6 โมงครึ่งโอปอล์ต้องแต่งหน้า นั่งสวยๆเสริฟอาหารและก็ยิ้ม ตอนนี้ก็ชินแล้วค่ะ
หมอโอ๊ค :ผมก็ดูแลเขาเต็มที่ครับ ทั้งเรื่องสุขภาพ เรื่องอะไรหลายๆอย่าง คืออยากให้เขาชินกับบ้านใหม่ที่เป็นเรือนหอของเรา แต่อาจจะมีขรุขระบ้างเพราะเขาไม่ชินกับระบบไฟฟ้า

แพลนฮันนีมูน?
หมอโอ๊ค : ประมาณมิถุนายนครับ
โอปอล์ : พี่โอ๊คอยากไปยุโรปคะ แต่ยังไม่รู้ว่าจะไปไหนกันแน่ ไปประมาณอาทิตย์กว่าๆครับ เพราะพี่โอ๊คทำงานประจำก็ลาไม่ค่อยได้

การทำงานต้องลดน้อยลงไหม ?
หมอโอ๊ค :ก็ยังทำเหมือนเดิมครับ ตกลงใจกันว่าวันอาทิตย์ต้องเป็นวันของเรา 2 คน ต้องมีเวลาให้กันครับ
โอปอล์ :วันอื่นๆ งานอีเว้นท์ยังรับเหมือนเดิมนะครับ แต่ถ้าเป็นวันอาทิตย์ก็คงไม่รับคะเพราะตกลงว่าจะอยู่ด้วยกัน พี่โอ๊คทำงานจันทร์ถึงศุกร์ พอเราแต่งงานแล้วชีวิตมันก็ไม่ได้เป็นของเราคนเดียวแล้ว ที่จะทำอะไรก็ได้ มันต้องมีเวลาใก้กันต้องใส่ใจกันมากๆ ต้องสร้างครอบครัว

ความรู้สึกแตกต่างกันไหมจากแฟนมาเป็นสามี?
หมอโอ๊ค :ไม่เหมือนครับ
โอปอล์ :ตอนเป็นหญิงโสดมันก็เรื่องหนึ่ง มีแฟนมันก็เรื่องหนึ่ง มีสามีมันคือไม่ใช่คนคนเดียวแล้ว คำว่าภรรยาคือต้องดูแลเขา และการวางตัวการจะไปเที่ยวไหนเราก็ต้องละอายต่อสถานะภาพปัจจุบัน ตั้งแต่เปลี่ยนเฟชบุ๊คว่าสมรสแล้ว อะไรมันก็เปลี่ยน

มีข้อตกลงอะไรกันบ้าง?
หมอโอ๊ค :ไม่ทะเลาะกันข้ามวัน มีอะไรก็คุยกัน
โอปอล์ :ปอล์ไม่ค่อยผิดเลยตั้งแต่คบกันมา
หมอโอ๊ค : คือผมถือว่าการทะเลาะมันเกิดขึ้นทั้ง2 ฝ่ายครับ ถ้าทะเลาะฝั่งเดียวมันก็คงไม่เกิดขึ้น

เรื่องมีน้อง?
หมอโอ๊ค :ปล่อยตามธรรมชาติครับ ผมว่าแล้วแต่โชค
โอปอล์ :จริงๆอยากมีกันทั้งคู่คะ แต่ก็ไม่ได้กะเกณฑ์ว่าต้องมีเลย เราปล่อยเลย ถ้าเขามาก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะด้วยทุกอย่างเราพร้อม แต่ใจหนึ่งก็ยังอยากอยู่กัน 2 คนก่อนแต่ถ้าเขามาก็ดี

ขอถามถึงความรู้สึก หลังจากที่ต้องเจอเรื่องราว ผ่านข่าวมาเยอะแยะ?
โอปอล์ :ก็ถ้าเป็นปอล์นะคะ ช่วงตอนที่เราตัดสินใจคบกัน เราไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องเล่นตั้งแต่แรก แล้วเราก็รู้สึกโชคดีที่เราเจอคนที่เขารักเรา และเรารักเขา ฉะนั้นภาวะอื่นๆตอนแรกที่คนนั้นไม่พอใจ คนนั้นไม่ชอบ คนนั่นเม้าท์เรา มันเป็นสิ่งที่หนักแต่ก็แค่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปตั้งแต่แรก มันไม่ได้เป็นอุปสรรคเราตั้งแต่แรก และเมื่อวันนี้มาถึงเพราะมันถึงเวลาแล้ว และเราก็ไม่อยากอยู่โดยที่ไม่มีเขาแล้ว ฉะนั้นปัจจัยที่เกิดขึ้นไม่ว่าใครจะรู้สึกดีจังเลยคู่นี้ หรือแหวะจังเลยคู่นี้ มันไม่ได้ส่งผลอะไรกับเราอยู่แล้ว
หมอโอ๊ค :ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิต มันก็มองได้ 2 อย่าง ผมว่าเราจะมองว่ามันเป็นสิ่งที่บั่นทอนเราก็ได้ จะเก็บไปคิดและเสียใจไปตลิดชีวิตก็ได่ หรือจะคิดในแง่ดีก็ได้ว่ามันเป็นบททดสอบที่ทำให้เรารู้ว่า ใครที่รักเราและอยู่ข้างเราตลอด และใครที่เรารักจริงๆ ผมถือว่าเรื่องร้ายที่สุดแต่มันก็ยังมีสิ่งที่ดีอยู่ในนั่น

ทำไมต้องเป็นผู้หญิงคนนี้?
หมอโอ๊ค :ก็จริงๆเขาเป็นคนที่คิดถึงคนอื่นเสมอ มีความรักมากมายให้ผม ให้ครอบครัวของผม ครอบครัวผมถือว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่สำคัญเพราะเขาทำให้ผมเข้าใจว่า ความรักมันเป็นสิ่งสำคัญต่อคนรอบข้างและสำคัญต่อโลกใบนี้
โอปอล์ : เวลาที่เราเจอใครสักคนแล้วเราไม่มีคำถามอะไรเลย มันคือความรู้สึกคือเจอแล้วและหลังจากนี้ชีวิตฉันจนตายจะไม่มีวันไหนที่ไม่มีคนนี้ ปอลล์ไม่เคยคิดว่าจะมี ไม่เคยคิดว่าจะได้แต่งชุดแต่งงานแล้วแถลงข่าวหรือมีงานแต่งงานของตัวเอง ปอล์ไม่เคยคิดว่าปอล์จะแต่งงานจนปอล์เจอพี่โอ๊ค แล้ววันที่เราเจอกันแรกๆวันที่เราตกลงคบกันเรารู้เลยว่า พอคนที่เขาบอกว่าใช่มันเป็นแบบนี้ มันไม่ลังเล มันไม่คิดหน้าคิดหลัง มันรู้แค่ว่าหลังจากนี้ไม่อยากไม่มีเขาแล้ว แล้วพอทุกวันนี้ตื่นมาแล้วเจอเขาทุกวัน ชีวิตลำบากแค่ไหนแต่พอกลับมาเจอเขามันก็จบ

ถามถึงการขอแต่งงาน?
หมอโอ๊ค :เป็นการวางแผนที่ยาวนานมากครับ ตอนนั่นไปขอที่ฮอคไกโด ซึ่งมันเป็นที่ที่เขาอยากไปเที่ยวมานานแล้ว ก็เลนตั้งใจเอาแหวนไปซ่อนในกอดอกลาเวนเดอร์ แล้วก็ไปขอเขาแต่งงาน
โอปอล์ :คือตอนนั้นยังไม่รู้ว่าเขาขอแต่งงาน รู้แค่ว่าเขาซื้อแหวนให้จนเราเข้ามาทานข้าวแล้วก็บอกว่ากลับไปเราไปดูฤกษ์กันนะ

มีคำสัญญาอะไรให้กันบ้าง?
โอปอล์ : บอกตั้งแต่วันจนทะเบียนแล้วว่า ชีวิตนี้ปอล์ให้เขาแล้วนะ ดูแลด้วย
หมอโอ๊ค : ก็พูดกันอยู่ตลอดว่าจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตลอดไป จนถึงวันที่แก่เฒ่า ผมว่ามันเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดครับ

Create Date : 07 เมษายน 2557

Last Update : 7 เมษายน 2557 7:31:39 น.

0 comments

Counter : 1737 Pageviews.