มิถุนายน 2553

 
 
4
11
12
13
14
18
19
22
23
 
 
All Blog
กล้วยหอมวันที่ 7 (8มิ.ย.53)
เช้า 07.30 น. กล้วยหอม 1 1/2 ลูก น้ำเปล่า 1 แก้ว
สาย 10.00น. โยเกิร์ตบลูเบอรี่ 1 ถ้วย
เที่ยง 12.00น. ก๋วยเตี๋ยววุ้นเส้นต้มยำซี่โครง 1 ถ้วย (เน้นผักกะน้ำ) , ข้าวเกรียบปลา 5 ชิ้น กรอบดีเกือบยั้งไม่อยู่ด้วยความเพลิน
บ่าย 14.00น. สเลอบี้แก้วเล็ก 1 แก้ว ตามด้วยน้ำเปล่า 1 กระติก จะทันป่าวไม่รู้ แต่มันร้อนอ่ะเลยอยากกินอะไรเย็น ๆ
เย็น 17.00น. ข้าว 1 ทัพพี , แก่งไก่ขมิ้น , ผัดผักกาดเค็ม



Create Date : 08 มิถุนายน 2553
Last Update : 8 มิถุนายน 2553 20:18:19 น.
Counter : 393 Pageviews.

3 comments
  
เรามีรูปร่างใกล้เคียงกันเลย
ตอนพี่เป็นวัยรุ่นพี่ไปว่ายน้ำทุกวันเป็นเวลาสามเดือน
วันละ 2 ชม. ก็ลดจาก 65 เหลือ 50 ดีใจสุดๆ

พออายุมากขึ้นก็ลดยากขึ้นมันไม่เผาผลาญเหมือนเคย
งานเยอะ ขี้เกียจ น้ำหนักจึงมาอยู่ที่ 55-58
แต่สองเดือนก่อน พี่น้ำหนักขึ้นจาก 57 ไปเป็น 63
เซ็งมาก พี่กินเก่งอะ แถมแก่แล้วด้วยลดยาก

แต่ตอนนี้ลองวิธีใหม่ ลงเหลือ 59 แล้ว
กินเหมือนเดิม ไม่อดไม่ลดอาหาร
แต่ตอนเช้ากินน้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ
อมไว้สักครู่ แล้วก็กลืนลงไปเลย ดับกลิ่นปากได้ด้วย
(ให้พี่ลองอีกสักพักนะ เพราะถ้าพี่ลดได้ต่ำกว่า 55
แสดงว่าเวิร์คสุดๆ)

สิ่งสำคัญอีกอย่างเวลาว่างพี่จะนั่งตัวตรง
หายใจลึกๆให้พุงป่องกลั้นไว้สักสามวินาที
แล้วหายใจออก อันนี้ช่วยเผาผลาญพลังงานได้ดีมาก
ทำบ่อยๆน่าจะช่วยได้นะ

ปล. พี่เองก็ลดน้ำหนักมาหลายสูตรหลายวิธีหลายหมอ
พบว่าวิธีที่ดีที่สุดคือ การออกกำลังกายเท่านั้น
ทำให้เราไม่หงุดหงิดเรื่องกินด้วย
เคยเป็นใช่ไหมละ กินไปร้องไห้ไป
เสียใจที่กิน แต่อีกใจก็อยากกิน
โดย: พี่ฝน (Childcraft ) วันที่: 8 มิถุนายน 2553 เวลา:20:59:54 น.
  
ใช้วิธีนับแคลช่วยก็ดีนะคะน้องตาล
จะได้ทานได้น้อยลง แรกๆของการลดเป็นแบบนี้แหล่ะค่ะ
ยากหน่อย ยากเพราะมือเราชอบเผลอไปหยิบขนมเข้าปาก ฮ่าๆ
ค่อยๆปรับเปลี่ยนพฤติกรรมนะคะ ไม่ง่ายนะ แต่ก็ไม่ยากเกิน
จะว่าไปแล้ว พวกน้ำหวานอะไรเราก็สามารถกินได้นะคะน้องตาล
เพียงแต่อย่ามาก
เอ้า..เอาแบบมาตรฐานหญิงไทยเรานะคะ
ขณะลดอ้วนไม่ควรกินน้อยกว่า 1200 cal
ก็นับไปเลยว่ากินอะไรมั่ง แต่พี่ไม่ชอบนับแคลอ่ะ ฮ่าๆ
ก็กะๆเอา อย่ามาก หรือ น้อยเกินไป ประมาณนั้นค่ะ

เอางี้ค่ะ พอดีพี่ตามช่วงที่หนัก 65 ช่วงนั้นจิตตก
แต่ไม่ยอมแพ้ ก็เลยไปหาแรงบันดาลใจ
พอดีมีโอกาสได้ปรึกษากับพี่ยายหนู AK
พี่ยายหนูได้กรุณาแนะนำแนวทางมาให้
พี่ปฏิบัติตาม ภายใน 1 เดือนกว่า ลดไป 5 โล
ตอนนี้พี่กำลังกลับมาใช้วิธีเดิมค่ะ

อันนี้พี่เอามาจากที่พี่ยายหนู ตอบหลังไมค์มาให้
ลองอ่านดูนะคะ แล้วลองนำไปปฏิบัติดู ถ้าทำได้ตามนี้ ลดแน่จ้าา

From : ยาย หนูAK [28 เมษายน 2553 22:38]

การลดความอ้วนให้ได้สุขภาพดี ไม่เหี่ยวไม่โทรม
ต้องออกกำลังกาย ซึ่งสำคัญพอๆกับการทานอาหาร

หาซื้อซีดีมาสักแผ่น เอาแบบที่มียกดัมเบลเพื่อกระชับสัดส่วน

ตื่นนอนให้เช้าหน่อยเพื่อออกกำลังกาย
หลังตื่นนอน ดื่มน้ำอุณหภูมิห้อง 1แก้ว กล้วยหอมครึ่งผล กาแฟดำสักแก้วถ้าดื่ม ต้องไม่ครีม ไม่น้ำตาลนะ เพื่อปรับน้ำตาลในเลือด เพราะหลังตื่นนอนระดับน้ำตาลจะลดลงต่ำมากแถมยังช่วยให้เบิร์นไขมันได้ดีกว่า ท้องว่าง และอาจเกิดอาการหน้ามืดระหว่างออกกำลังกายได้...
หลังออกเสร็จนั่งพัก 15นาที ระหว่างพักจิบน้ำได้อย่างเดียวไม่จำกัดปริมาณ แล้วก็ทานกล้วยหอมที่เหลือ ไปอาบน้ำ กลับมาทานอาหารเช้าตามปรกติค่ะ

มื้อกลางวันควรทิ้งช่วงให้ห่างจากมื้อเช้า 3-4ชั่วโมง หรือเมื่อเกิดอาการหิว ถ้ายุ่งกับลูกๆ แนะนำให้หาอะไรง่ายๆ ทานแต่ต้องได้คุณค่าทางโภชนาการ เช่นอาหารเสริมที่เป็นข้าวกล้อง พี่จำชื่อไม่ได้ เพราะไม่ได้อยู่เมืองไทย ไช่วิสต้าหรือเปล่า เช้าก็ทานได้นะคะ

ส่วนมื้อเย็น เป็นมื้อที่อยู่กับพร้อมหน้าพร้อมตา เลี่ยงได้ยากมาก เราก้ให้เป็นมื้อหนัก แต่เน้นโปรตีนจากปลา (ต่อ)

ไม่ควรเป้นเนื้อหมูหรือเนื้อวัว แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ นิดๆหน่อยๆไม่เป็นไรค่ะ

มื้อนี้ต้องทานแบบสมดุลเช่นเดียวกันคือแป้งประมาณ45%โปรตีน35%และ ไขมัน20%
(ความยากของการคำนวณมันอยู่ตรงนี้แหละ)
เอาง่ายๆคือ ทานปลานิลได้1ตัว ผักไม่จำกัด และข้าวกล้อง1ถ้วยตวงแบบไม่กด หรือมันฝรั่ง 1หัวเล็กซึ่งเป็นคาร์บดี เพราะไม่ได้ผ่านกรรมวิธี ส่วนไขมันไม่ต้องไปเติมเพราะเราได้จากน้ำมันปลา

ส่วนจะทานได้วันละกี่แคลอรี่ เราก็เอาค่าของTDEEตั้ง ลบ 500 (1680-500=1180) หรือ จะทานตามค่าของ BMR 1585 ลบได้อีก200
หรือไม่ต้องการคิดให้ยุ่งยาก ก้เอาหลักโดยทั่วไปคือ ผู้หญิงไม่ควรควรทานน้อยกว่า 1200แคลอรี่
แรกๆน้ำหนักอาจจะไม่ค่อยลด เนื่องจากก่อนหน้านี้เราอาจจะทานเยอะ ดังนั้นต้องใช้เวลา หรือจะใช้วิธีการทำดีท็อกสัก 2วันก็ได้

แต่ถ้าทานเท่านี้ แล้วไม่ออกกำลังกายก็จะผอมแบบไม่เฟิร์มนะ แต่ก็ไม่สูญเสียมวลกล้ามเนื้อหรือทำให้โยโย่แต่อย่างใด...

ห่วงใยในสุขภาพให้มากๆ รักลูก รักครอบครัวเท่าไร เราต้องรักตัวเองให้มากกว่า1เท่า เพราะถ้าเราเกิดเจ็บป่วยจะเป็นการสร้างภาระให้กับพวกเขา...

ชีวิตพี่ เหนื่อยได้ ท้อได้ แต่ถอยและตายไม่ได้

พี่ตามใช้เวลาปรับตัว หลายวัน กว่าจะมาจริงๆจังๆ ฮึดสู้
ถามพี่ยายหนูวันที่ 28 เมษา แต่มาปฏิบัติจริงๆจังๆ วันที่ 13 มีนา

พอได้รับคำแนะนำจากพี่ยายหนู ก็เริ่มเลยนะ แต่ล้มเหลว
แพ้ใจตัวเอง กินเยอะอยู่นั่นแหล่ะ จนไม่ไหวแระ
เบื่อตัวเองมากๆ ก็เลยกัดฟันสู้ ก็เลยได้เห็นเลข 60 วันนี้แหล่ะจ้าา

ตอนนี้กำลังจะใช้วิธีเดิม วันนี้เริ่มวันแรก คะแนนเต็ม 10 ให้ 8 อิิอิ

น้องตาลสู้ๆนะคะ พี่ตามเป็นกำัลังใจให้ค่ะ
มีอะไรถามได้ตลอดนะ มิต้องเกรงจายยยย... ฮ่้าๆ

ปอลิง พิมพ์มาซะยาวเรย ไม่มีอะไร เพียงแต่อยากแชร์ประสบการณ์
และให้กำลังใจค่ะ ^^
โดย: Iaun_Tor วันที่: 8 มิถุนายน 2553 เวลา:22:01:27 น.
  
มาอ่านเม้นท์ดีๆจากเพื่อนๆค่ะ สู้ๆค่ะ
โดย: พริกน้ำส้ม วันที่: 9 มิถุนายน 2553 เวลา:15:17:09 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

น้ำตาลแก้ว
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



น้ำหนักก่อนลด       57   Kg.         
ชั่งวันที่ 21มิ.ย.53  55.4Kg.
ชั่งวันที่ 28มิ.ย.53  56   kg.

ปัจจุบัน(31ก.ค.53)  57   kg

เป้าหมายหลัก        52   kg.
เป้าหมายรอง         54  kg.

**ชั่งน้ำหนักทุกวันจันทร์แล้วรายงานผล 



Free TextEditor