|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
การทำ Epidural block บล็อกหลังเพื่อระงับอาการปวดขณะคลอดดีหรือไม่
การทำ Epidural block นั้นหมายถึงการบล็อกหลัง คุณแม่บางท่านคงจะเคยกับการบล็อกหลังมาแล้วกับท้องก่อนๆ แต่คงไม่ทราบรายละเอียดที่แน่นอนมักจะไม่ค่อยรู้กัน ทำให้เข้าใจไปในทางผิดๆ ทำให้พลาดโอกาสดีๆ ที่เหมาะกับตัวคุณเองได้
Epidural block ทางการแพทย์คือการฉีดยาชาจำนวนหนึ่งเข้าไปในเยื่อหุ้มประสาทไขสันหลังหรือที่เรียกการบล็อกหลัง สำหรับการบล็อกหลังเพื่อระงับอาการปวดท้องคลอด นั้นจะทำโดยใช้เข็มยาวๆ แทงเข้าไปทางด้านหลังระดับต่ำกว่าบั้นเอวเล็กน้อย ผ่านช่องของรอยต่อของกระดูกสันหลังเข้าไปถึงช่องเยื่อหุ้มไขสันหลัง แต่ไม่ทะลุเข้าไปในชั้นของน้ำไขสันหลัง ซึ่งการจะทำได้นั้นก็ต้องอาศัยความชำนาญอย่างมาก เมื่อแทงเข็มเข้าไปได้ระดับที่ถูกต้องแล้ว แพทย์ก็จะใส่ยาชาเข้าไปตามต้องการ บางกรณีแพทย์จะคาสายยางขนาดจิ๋วเอาไว้ในรอยที่แทงไว้ เพื่อเติมยาชาเมื่อถึงเวลาต้องการ โดยที่ไม่ต้องมาใช้เข็มแทงกันใหม่ วิธีการทั้งหมดใช้เวลาโดยเฉลี่ยประมาณสิบนาทีเท่านั้น เมื่อฉีดยาชาเข้าไปแล้ว หลังจากนั้นไม่นานคุณจะเริ่มรู้สึกชาที่เท้าทั้งสองข้าง อาการปวดท้องคลอดก็จะเริ่มทุเลาลง หน้าตาที่แสดงความทุกข์กับความเจ็บปวดท้องคลอดก็จะดูดี มีความสุขขึ้น และสามารถยิ้มได้เมื่อคิดถึงลูกน้อยที่กำลังจะคลอดออกมาดูโลกและมาอยู่ในอ้อมกอดของคุณแม่
โดยในทุกวันนี้การบล็อกหลังหรือที่เรียกว่า Epidural block เป็นวิธีการที่นิยมกันมาก ไม่ว่าจะเป็นบ้านเราหรือในประเทศอื่นๆ ทั้งนี้เพื่อทำให้ไม่ปวดเวลาผ่าตัดบริเวณหน้าท้อง หรือไม่ปวดเวลาจะคลอดบุตร การบล็อกหลังจึงเป็นวิธีระงับอาการปวดที่ดีที่สุดสำหรับการปวดท้องคลอด ดีกว่าการฉีดยาแก้ปวด และยาแก้ปวดนั้นยังส่งผลถึงตัวของทารกด้วย การบล็อกหลังจึงเป็นที่นิยมและยอมรับกันอย่างกว้างขวางในปัจจุบัน แต่ก็ยังมีคุณแม่อีกจำนวนไม่น้อยที่กลัวเรื่องการบล็อกหลังอยู่ บางคนกลัวจนต้องปฏิเสธการบล็อกหลัง ขอทนต่อความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นขณะปวดท้องคลอด แต่ก็มีบางคนที่ปฏิเสธในตอนแรกแต่เมื่ออาการปวดมีมากขึ้น สุดท้ายก็ขอการบล็อกหลังเพื่อการระงับปวด จึงได้ทราบถึงความแตกต่างระหว่างก่อนและหลังการบล็อกหลังแล้ว และคิดว่ารู้อย่างนี้คงไม่ต้องทรมานทนปวดอยู่เป็นนาน
แน่นอนว่าการบล็อกหลังนั้นไม่ใช่เรื่องที่จะปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ มีอยู่บ้างที่เกิดปัญหาแทรกซ้อนตามมา ดังนั้นการบล็อกหลังจึงควรอยู่ในมือของผู้สันทัดเท่านั้น และหนีไม่พ้นแพทย์ดมยา ซึ่งมีหน้าที่และความชำนาญโดยตรงที่จะทำให้คนไข้ไม่เจ็บไม่ปวด ไม่ว่าจะหลับหรือตื่น แพทย์ดมยาท่านสามารถทำให้คนไข้ไม่เจ็บได้ รวมทั้งเวลาเจ็บท้องคลอดก็เช่นเดียวกัน การบล็อกหลังก็มักจะมอบให้เป็นหน้าที่ของแพทย์ดมยา ขณะเดียวกันอาจจะมีสูติแพทย์อยู่บ้างที่ทำการบล็อกหลังให้กับคนไข้เอง แต่อย่างไรก็ตามความปลอดภัยของคนไข้ต้องเป็นเรื่องที่สำคัญ สรุปว่าต่อให้การบล็อกหลังอยู่ในมือของผู้ชำนาญมีประสบการณ์มาดีก็ตามแต่การบล็อกหลังนั้นย่อมมีทั้งข้อดีข้อเสียเช่นกันมาดูกันว่าเป็นอย่างไร
ข้อดีของบล็อกหลังเพื่อระงับอาการปวดขณะคลอด 1. หายปวดอย่างชัดเจน และเป็นที่พอใจทั้งตัวคนไข้เองและตัวแพทย์ 2. สภาพจิตใจของคนไข้ดีขึ้นมาก ยอมรับได้ ดีกับการคลอดลูกที่กำลังจะมีขึ้น 3. ไม่ส่งผลเสียถึงตัวลูกน้อยในครรภ์ ไม่เหมือนกับการใช้ยาแก้ปวดชนิดฉีดหรือดม ซึ่งฤทธิ์ของยาจะไปถึงตัวลูกด้วย ทำให้คลอดออกมาในสภาพที่มีฤทธิ์ยาแก้ปวดตกค้างอยู่ ทำให้เด็กทารกที่คลอดมามีอาการสะลึมสะลือหรือหลับจนตัวอ่อนปวกเปียกไม่แอ็กทีฟ ไม่ร้องเสียงดัง ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นอาการที่ไม่อยากจะให้เกิดขึ้นกับเด็กหลังคลอด โดยการบล็อกหลังจะไม่ทำให้เกิดสิ่งเหล่านี้ขึ้นมากับเด็กทารก
ข้อเสียของบล็อกหลังเพื่อระงับอาการปวดขณะคลอด 1. ทำให้คุณรู้สึกกลัว โดยเป็นเรื่องของจิตใจ ความรู้สึกที่ว่าจะต้องเอาเข็มมาแทงที่หลัง หรืออย่างน้อยก็ทำให้เสียวสันหลัง 2. มีอาการแทรกซ้อนเกิดขึ้นแต่น้อยราย โดยจะมีอาการแทรกซ้อนที่รุนแรงจะมีน้อยราย โดยส่วยมากจะมีอาการแทรกซ้อนชนิดเบาๆ เช่น ทำให้ความดันโลหิตต่ำลงจนถึงจุดหนึ่ง อาจทำให้คุณมีอาการหน้ามืด วิงเวียน และอาเจียนได้ 3. การคลอดมักจะเป็นไปด้วยความล่าช้า จนสุดท้ายต้องลงเอยด้วยการผ่าตัดคลอดซึ่งไม่ควรจะเกิดขึ้น อย่างไรก็ดี เรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้นถ้าหากเลือกเวลาบล็อกหลังที่เหมาะสม และสามารถควบคุมการทำงานของมดลูกให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ การดำเนินการของการคลอดดูเหมือนจะราบรื่นกว่าไม่มีการบล็อกหลังเสียด้วยซ้ำไป 4. อาการปวดหลังเมื่อมีอายุเยอะขึ้น แต่เรื่องนี้ผมว่าเป็นความเข้าใจผิดๆกันมากกว่า ก็คือเรื่องของอาการปวดหลัง ที่หลายคนเข้าใจว่าการบล็อกหลังจะทำให้เกิดอาการปวดหลังเรื้อรังเมื่ออายุมากขึ้น ครับเมื่ออายุมากขึ้นหรือเมื่อเข้าสู่วัยทองนั้น อาการปวดหลัง ถ้าหากเกิดขึ้นก็คงเป็นเพราะโรคกระดูกพรุนมากกว่าจะเป็นเพราะสาเหตุอย่างอื่น และโดยเฉพาะการบล็อกนั้นว่าไปแล้วไม่น่าจะทำให้เกิดการปวดหลังเรื้อรัง ทั้งนี้เพราะว่าการทำนั้นแพทย์เพียงแค่เอาเข็มขนาดเล็กแทงเข้าไปเท่านั้น ก็เหมือนการฉีดยาธรรมดาทั่วไปครับ ไม่น่าจะทำให้เกิดทุพพลภาพของเนื้อเยื่อบริเวณนั้นจนเป็นเหตุให้เกิดปวดหลังชนิดเรื้อรังขึ้นมา ผมว่าไม่เกี่ยวกันหรอกครับ อย่าไปโทษการบล็อกหลังเลย
เมื่อทราบอย่างนี้ว่าที่คุณแม่คงตัดสินใจได้แล้วว่าจะใช้การบล็อกหลังเพื่อระงับอาการปวดท้องคลอดหรือไม่ แต่เมื่อทำแล้าอาการอาจจะมีมากกว่าที่ยกมาให้อ่านกัน แต่ถ้าจะสรุปกันแล้วในความเห็นของตัวว่าการได้บล็อกหลังเพื่อระงับอาการปวดดีกว่าการที่จะต้องทนปวดท้องคลอดอย่างแน่นอน แต่อย่างไรก็แล้วแต่การตัดสินใจของคุณเองและคุณหมอว่าจะใช้วิธีบล็อกหลังหรือไม่
Create Date : 06 สิงหาคม 2556 |
|
0 comments |
Last Update : 6 สิงหาคม 2556 11:43:23 น. |
Counter : 7795 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|