พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง 13 กษัตริย์
เรามาเที่ยวกันต่อดีกว่าเนอะ หลังจากช่วงเช้าเราเดินปีนกำแพงเมืองจีนกันไปแล้ว ก็ถึงคราวช่วงบ่ายไปเดินชมพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง 13 กษัตริย์แห่งราชวงศ์หมิง ก่อนเข้าไปภายใน ทางหัวหน้าทัวร์ได้ซื้อตั๋วไว้แล้ว แต่หากใครมีกล้องและต้องการถ่ายรูปด้านในต้องจ่ายคนละ 10 หยวนต่อคนต่อกล้อง เริ่มต้นที่กษัตริย์องค์แรก ซึ่งเดิมทีเป็นนักบวช สำหรับชื่อกษัตริย์แต่ละองค์จำมะได้แล้วอ่ะ ภาพด้านบน ขุนนางปรึกษาราชการลับ ส่วนภาพด้านล่างคือการลงโทษขั้นพื้นฐาน ที่เราเห็นในภาพยนตร์กันเป็นประจำจนชินตา นั่นก็คือการโบย ภาพด้านล่าง กษัติรย์ปรึกษาราชการกับขุนนาง ส่วนขันทีหน้าห้องคอยแอบฟังและส่งข่าว (อย่างนี้เค้าเรียกไส้ศึกนิ) ภาพด้านล่าง สถานการณ์ยามรบชนะก็ย่อมมีรางวัลใช่มะ ภาพด้านล่าง เริ่มมีการเจริญสัมพันธไมตรีกับต่างชาติ น่าจะเป็นเปอร์เซียนะ ภาพด้านล่าง ไม่แน่ใจว่าเป็นการก่อสร้าง หรือเป็นพิธีบวงสรวงฟ้า แต่ที่แน่ ๆ ที่นี่คือหอฟ้าเทียนถานภาคจำลอง ภาพด้านล่าง เมื่อรุ่งเรือง ก็ย่อมมีโรยรา ชาวบ้านทุกข์ยาก ภาพด้านล่าง คือการลงโทษสถานหนัก จับคนผิดใส่ในหม้อเหล็ก แล้วเอาไฟสุมไปเรื่อย ๆ ที่ใต้หม้อ ภาพด้านล่าง มีการรุกรานเข้ามาของชนเผ่ามองโกล รึเปล่าหว่า จำมะได้ล่ะ แต่มีการใช้นารีล่อลวงทหารฝ่ายตรงข้ามให้ลุ่มหลงมัวเมา จากนั้นก็ตลบหลังด้วยกองกำลังทหาร ภาพด้านล่าง กษัตริย์ยืนอยู่บนกำแพงเมืองจีน น่าจะเป็นการทอดพระเนตรศัตรูและบัญชาการรบ ภาพด้านล่าง กษัติรย์เปลี่ยนฉลองพระองค์ หลังจากไปเที่ยวนอกวัง พึ่งรู้ว่ากษัตริย์แห่งจีนก็มีพระราชพิธีไถนาเหมือนกันนะเนี่ย หน้าตาร้านค้าสมัยนั้น ดูไปดูมา เหมือนกำลังดูหนังจีน ภาพด้านล่าง ยุคนี้น่าจะเป็นยุคที่สบายสุดแล้วนะ ไม่มีเรื่องรบแล้ว ดูจากการที่กษัตริย์มีเวลานั่งดื่มสุรา เคล้าเสียงเพลง ภาพด้านล่าง กษัตริย์อยู่ในด้านสระบัว กำลังสำราญกับเหล่าสนม ไม่สนใจการมาเข้าเฝ้าของเหล่าขุนนางเลย ภาพด้านล่าง กษัตริย์องค์นี้สนใจงานไม้ ไม่สนใจงานบ้านเมือง เมื่อประชาชนและขุนนางทนไม่ไหว ก็ถึงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลง จับกษัติรย์ ไม่แน่ใจว่าประหารหรือขังคุก ภาพล่าง กษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์ ได้ทำการแขวนคอตนเอง แผ่นศิลาขนาดใหญ่หน้าพิพิธภัณฑ์ หลังจากออกมาจากพิพิธภัณฑ์ ก็มุ่งหน้าสู่ถนนหวังฟูจิ่ง เป็นศูนย์กลางของบรรดาห้างทั้งหลาย ทันทีที่รถจอด สายฝนก็โปรยปรายลงมา ในใจคิดว่ากล้องตรูเปียกแน่ ร่มก็ไม่ได้เอามา เอามาแต่เสื้อกันฝนครั้นจะใส่ก็แลดูเกะกะไปหมด และในที่สุดฝนก็หยุดตก ภาพด้านบน คือร้านหนังสือ ถ้าจะซื้อโปสการ์ด หรือหนังสือภาพ ราคาที่นี่ถือว่าถูก พอทน แต่ถ้าจะให้ดีไปซื้อที่จตุรัสเทียนอันเหมินดีสุด แต่ถ้าคุณกล้าต่อรองราคาก็ไปซื้อที่ตลาดรัสเซียได้ นี่คือโบสถ์ ที่อยู่อีกสี่แยกหนึ่ง ซึ่งหัวหน้าทัวร์กระซิบบอกชั้นมา ท่าทางเค้าคงเห็นว่าชั้นชอบการถ่ายรูปเป็นชีวิตจิตใจหล่ะมั้ง สรุปทั้งกรุ๊ปก็มีแค่ชั้นกะเพื่อนที่ได้มาถ่ายรูปที่นี่ จากนั้นก็เดินย้อนกลับมา เพราะใกล้เวลานัดทานบุ๊ปเฟ่ต์ที่ จากัวร์ ดาร์ก้อน ระหว่างทางชั้นเห็นร้านแบบนี้ยาวเหยียด อาหารน่ากินชะมัด แต่เพื่อนบอกว่าเก็บท้องไว้ดีกว่า ฝั่งตรงข้ามกะร้านค้า ชั้นเห็นโรงภาพยนตร์สำหรับเด็กด้วย ชั้นไม่แน่ใจว่าเป็นโรงภาพยนตร์หรือโรงละคร แต่ชอบมาก เสียดายไม่มีเวลาแล้ว ชั้นต้องรีบเดินเพื่อไปให้ทันเวลานัดรวมกลุ่ม ภาพนี้ทิ้งท้ายไว้ก่อน ใครจะไปคาดคิดว่าเมื่อคืนฝนตก ตื่นเช้ามาจะพบกับหิมะ ชั้นชอบมาก ถึงขนาดว่าไม่รู้สึกหนาวเลย คราวหน้าเรามาดูภาพกันต่อนะ
Create Date : 28 เมษายน 2555 |
|
10 comments |
Last Update : 28 เมษายน 2555 17:27:23 น. |
Counter : 2343 Pageviews. |
|
|