<<
เมษายน 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
9 เมษายน 2555

วันที่ 3 เดินจนรองเท้าสึก

เช้าวันที่ 3แล้วซิเนอะ เวลาเที่ยวหน่ะ ทำไมมันหมุนไปเร็วกว่าเวลาทำงานน้า ใครรู้ช่วยตอบที ^^

ตื่นเช้ามา หมอกก็ลงเลยแฮะ เช้านี้เราไปไหว้พระกันที่วัดลามะ สังเกตุดูนะว่าที่นี่กระเบื้องหลังคามะใช่สีน้ำเงิน แต่เป็นสีเหลือง คงจะคล้าย ๆ กับเป็นพระอารามหลวงของไทย เป็นวัดประจำรัชกาลอะไรประมาณนี้หล่ะมั้ง ไกด์เค้าว่างั้นนะแต่ตัวเราหน่ะมัวแต่หนาวเลยฟังมาแบบกระท่อนกระแท่น

ตั้งแต่มาปักกิ่งได้ 3 วันมีแต่หนาวขึ้นเรื่อย ๆ แล้วแต่ว่าวันไหนเจอแดด เจอลม เจอหมอก เจอฝน เจอหิมะ ขอบอกว่า ชั้นหน่ะพบเจอครบหมดทุกรูปแบบดีจริง ๆ ไปคุ้มไม่เสียเที่ยว รึเปล่าอ่ะ - -"

อันนี้เป็นซุ้มประตูที่ 2 ส่วนซุ้มประตูแรกผ่านมาแล้วด้วยรถของเรา ซึ่งแคบมาก ๆ สำหรับรถบัสเล็ก เกือบจะเข้าไม่ได้ เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปหมู่บ้านแถวนั้น บรรยากาศเก่า ๆ เหมือนหนังจีนรุ่นพ่อเลย (ใครไม่เคยดูไปหาดูได้ที่ น้องยู(ทูป) ประมาณมนต์รักเพลงเรือ มนต์รักม่านไข่มุก ม่านประเพณี)

มาดูบรรยากาศโดยรอบกัน

 

น่าเสียดายจริง ๆ ที่ภายในวัด ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป ที่นี่มีพระพุทธรูปทำจากไม้จันท์สูง 18 เมตร และมีพระพุทธรูปหล่อทองสำริดสูงสิบกว่าเมตร สวยงดงามยิ่งนัก มาที่นี่ชั้นว่าคุ้มนะ เหมือนได้มาทิเบตด้วยงัยก็ไม่รู้

แผ่นหินที่จารึกโดยกษัตริย์ อยู่ด้านในของศาลา (ภาพด้านบน)

ป้ายด้านบนศาลา บ้านเราคงเรียก โบถส์ แล้วบ้านเค้าเรียกอะไรอ่ะ ชั้นขอเรียกว่าศาลาละกัน อยู่เมืองไทยก็รู้จักแต่โรงเจ - -" มีทั้งหมด 4 ภาษา ถ้าชั้นจำมะผิดน่าจะเป็น จีนกลาง มองโกล ทิเบต ส่วนอีกหนึ่งจำไม่ได้แล้วจ้า ใครรู้จะช่วยตอบก็ได้นะค่ะ ไม่คิดตังค์ 555

จากภาพด้านบน หลังจากชั้นเดินออกมาจากบรรดาตัวอาคารภายใน ชั้นเดินเล่นมาเรื่อย ๆ ได้ยินเสียงเด็ก ๆ มากมายอยู่ด้านหลังประตูบานนี้ ใจหนึ่ง ชั้นอยากเดินไปดู อีกใจหนึ่งชั้นไม่กล้าเดินไป คุณกำลังบอกหล่ะซิว่าชั้นปอดแหก ก็คงใช่ ถ้าเป็นสมัยก่อนที่ยังห้าว ชั้นก็ลุยไปทุกที่ เพราะอ่อนประสบการณ์ ยังไม่รู้จักภัยอันตรายบนโลกนี้ซักเท่าไหร่ แต่วันเวลาผันผ่านทำให้ทุกอย่างก้าวเต็มไปด้วยความไม่ประมาท ที่นี่ไม่ใช่บ้านชั้นนะ(ถึงใช่ ชั้นก็ไม่ทำ) ก้าวพ้นประตูนี้แล้วเกิดไม่พบสิ่งที่ชั้นหวังหล่ะ (ผีหน่ะชั้นไม่กลัวหรอกนะ) แต่เกิดพบสิ่งที่ชั้นไม่หวังหล่ะ (คนโรคจิต) จะทำงัย ชั้นก็อยากทำตัวเป็นอลิซในแดนมหัศจรรย์อยู่หรอกนะ แต่แค่ถ่ายรูปไว้ก็พอนิ เดินจากมาอย่างสงบน่าจะดีกว่า บางครั้งจุดหมายก็ไม่ได้มีไว้พุ่งชนเสมอไปอ่ะ (แซวโฆษณาเค้าซะแล้ว) ^^

อำลาวัดลามะ กับสาวน้อยคนนี้ ท่าทางเธอจะชินกะอากาศหนาวนะ

จากนั้นเราก็ไปต่อกันที่ ศูนย์การสมุนไพรและการแพทย์จีน ที่นี่ได้แช่เท้าและมีหมอแมะ มาตรวจให้ฟรี แต่คะยั้นคะยอให้ซื้อยา แต่ชั้นก็ไม่ได้ซื้อมา เพราะไม่ได้กลิ่นของสมุนไพร (ที่บ้านชั้น มีชั้นคนเดียวนี่หล่ะที่จมูกดีพอ ๆ กะสุนัข 555)

กล้องอยู่ที่มือชั้น เพราะฉะนั้นสองคนในภาพคือผู้ร่วมทริป สองหนุ่มสาวมาไกลจากออสเตรเลีย

ช่วงบ่ายยามหมอกลงจัด เราไปเดินย่ำ ชมบรรยากาศกันที่หออี้เหอหยวน ผู้สร้างคือจักรพรรดิ์คังซี ส่วนผู้ที่ใช้มากสุดคือ ชูสีไทเฮา เพราะฤดูร้อนทรงโปรดมาประทับที่นี่

ประตูสามช่องอีกแล้วครับท่าน แล้วก็ต้องมีสิงโต 2 ตัวประจำการ เป็นสัญลักษณ์ไปแล้วนะชั้นว่า ไปที่ไหนก็ต้องเจอ

คุณไกด์ชาวจีน ซื้อตั๋วให้แล้ว เตรียมตัวเข้าไปด้านในกัน

เข้ามาแล้วเน้อ ข้อห้ามของที่นี่(ไกด์แนะนำมา แต่คนส่วนมากไม่รู้ เนื่องจากทริปนี้โชคดีที่ได้หัวหน้าทัวร์และไกด์ความรู้แน่นปึ้ก) คือ ห้ามถ่ายรูปกิเลน กิเลนเป็นสัตว์ที่คอยเฝ้าระวังคนไม่ดี และขณะเดียวกันก็จะทำลาย เผาผลาญด้วย

และมีหินก้อนใหญ่หน้าห้องบรรทมของชูสีไทเฮา ที่ห้ามถ่ายรูป เนื่องจากประวัติของหินก้อนนี้ มิสู้ดีนัก มีเศรษฐีคนหนึ่งไปพบหินก้อนนี้ทางตอนใต้ของจีน ชั้นก็จำไม่ได้ว่าเป็นเมืองไหนอ่ะนะ เค้าชอบมากจึงคิดจะขนกลับบ้านโดยทำทุกวิถีทาง ขายทุกอย่างจนหมดตัว ก็ขนมาได้แค่ครึ่งทาง สุดท้ายก็ตาย

ขณะที่ชูสีไทเฮา ได้หินก้อนนี้มา ก็มองหินก้อนนี้ทุกวัน จนสิ้นลมเช่นกัน เค้าเลยว่าหินก้อนนี้มีอาถรรพ์ อย่าเก็บภาพกลับบ้านจะดีกว่า

แต่ชั้นเห็นผู้คนมากมายถ่ายรูปทั้งกิเลน และหินก้อนนี้อย่างเอาเป็นเอาตาย ยกเว้นลูกทัวร์กรุ๊ปชั้น เดินเมิน เดินหนีกันหมด ^^

ดอกไม้ที่เป็นสัญลักษณ์ประจำอุทยานนี้ แหะ ๆ ชั้นก็จำไม่ได้อีกนั่นหล่ะว่ามันดอกท้อ หรือดอกบ๊วย เอ๋หรือเบญจมาศหว่า เฮ้อ นานเป็นเดือนแล้วชักเลือน - -"

เห็นทะเลสาปนี้มั๊ย จีนตอนเหนือหน่ะจะมีบรรยากาศแบบนี้ด้วยเหรอ ชิมิ เป็นไปมะได้หรอกนะ แต่อย่าลืมจิทุกอย่างเป็นไปได้เมื่อจักรพรรดิ์ต้องการ อย่างที่พอรู้ ๆ กันว่า คังซีท่านชอบบรรยากาศจีนตอนใต้มากแค่ไหน ถึงขนาดกลับมาบ้านก็เกณฑ์ผู้คน 3 แสนคนมาขุดทะเลสาป ดินที่ได้จะไปไหน ก็ภูเขาที่อยู่ข้างหน้าโน้นงัย ชั้นหล่ะทึ่งจริง ๆ

โอ้ย เห็นแล้วอิจฉา อยากนั่งมั่ง ตอนนั้นหน่ะ อยากหาที่นั่งใจจะขาด

งงหล่ะจิ ว่าชั้นถ่ายรูปอะไรมาหล่ะเนี่ย เห็นพื้นไม้กระดานมะ นี่หล่ะฮีตเตอร์สมัยหลายร้อยปีก่อนโน้น รอบ ๆ ห้องของฮ่องเต้ จะมีเจ้าพื้นไม้กระดานเจาะเป็นสี่เหลี่ยม ข้างล่างเป็นหลุมสำหรับใส่ถ่านให้ความร้อนงัย แจ๋วมะ ^^

ชั้นคิดว่าน่าจะใช่ตำรวจนะ ตั้งใจถ่ายแจกันใบโต แต่ก็ติดเค้ามาด้วยไม่ว่ากันเนอะ

ที่หน้าห้องนี้หล่ะ มีหินก้อนใหญ่ที่ชั้นพูดถึงตอนต้น ห้ามถ่ายรูปกลับไปนะจ้ะ

ม่ายหวายยยยยแล้วหล่ะมั้ง หมอกเยอะขนาดนี้ วิวไกล ๆ คงไม่ได้แล้วหล่ะ

และแล้วเราก็เดินออกจากอี้เหอหยวน สำหรับอุทยานแห่งนี้ ถือว่ากว้างใหญ่ไพศาลมาก ๆ ถ้าคุณจะเดิน ก็ต้องเลือกแล้วหล่ะว่า ซ้ายมือตลอด หรือขวามือตลอด เพราะคุณเดินไปแล้วต้องคำนวณตอนเดินกลับด้วย แล้วที่นี่ก็วกวนไปมา คุณอาจจะหลงอยู่ที่นี่ จนหาทางออกไม่เจอ เรียกว่าติดอยู่ที่นี่เป็นสัปดาห์ก็ได้นะเออ

ปล.เที่ยวทั้งหมด 5 วัน ชั้นชอบวันนี้ที่สุด ถึงหมอกจะลงจัดก็เถอะนะ ที่สำคัญวันนี้ยังไม่หมดวันนะจ้ะ ยังเหลือเจ้ารังนกยักษ์ ซึ่งจริง ๆ ตอนลงจากรถหน่ะชั้นไม่อยากไปเลยให้ตายเหอะ เพราะขาของชั้นมันประท้วงไม่ยอมเดินแล้วหน่ะจิ แต่บัดดี้และผู้ใหญ่ทุกคนเดินลงจากรถกันหมดแล้ว ดังนั้นชั้นก็ต้องลงหนะซิ

แต่วันนี้บล็อกดูเหมือนจะไม่ยอมให้ชั้นลงภาพแล้ว ทั้งที่ตั้งใจว่าจะลงภาพไว้เยอะ ๆ ทิ้งทวนก่อนหยุดสงกรานต์ยาว ๆ เอาเป็นว่าใครอยากดูภาพต่อตามไปที่ fb ละกันเนอะ ^^




Create Date : 09 เมษายน 2555
Last Update : 9 เมษายน 2555 13:48:40 น. 16 comments
Counter : 1550 Pageviews.  

 
พี่โอ๋ สวัสดียามเย็นจ้า
โหเมืองจีน สวยมากๆ เลยนะคะ
อยากไปบ้าง อยากไปบ้าง เอิ๊กกก
แต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่จะได้ไป

เห็นแล้วอยากไปจริงๆค่ะ

รอดูเจ้ารังนกยักษ์นะคะ

รักษาสุขภาพค่ะพี่โอ๋


โดย: maitip@kettip วันที่: 9 เมษายน 2555 เวลา:18:20:13 น.  

 
เที่ยวเมืองจีนต้องทำใจ
เพราะเดินเยอะจริงๆนะครับพี่โอ๋

ชอบรูปที่สองมากที่สุดครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 เมษายน 2555 เวลา:19:07:31 น.  

 
ผมชอบประโยคนึงที่เขาบอกว่า

ที่สุดท้ายในโลกนี้ที่ทำร้ายเรา
น่าจะเป็นที่บ้าน

แต่บ้านหลายหลังเป็นทีแ่รกที่ทำร้ายลูกด้วยซ้ำ

ทำร้ายผ่านการเลี้ยงดูแบบผิดๆ ทำร้ายผ่านถ้อยคำหยาบคาย และความรุนแรงที่กระทำต่อกัน

อันนี้ส่งผลลึกร้าวยาวนานจริงๆครับ





ราคะกับความรักแยกยากมากครับ
แม้กระทั่งคนที่รักกัน
ก็เข้าใจอย่างถ่องแท้ได้ยากทั้งราคะและความรัก

อันนี้ผมเอาตัวเองเป็นที่ตั้งในการตอบนะครับ 555

แต่สำหรับบางคนเขาคงว่าเขาแยกได้นะครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 เมษายน 2555 เวลา:21:08:04 น.  

 


โดย: Kavanich96 วันที่: 10 เมษายน 2555 เวลา:4:27:21 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับพี่โอ๋








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 เมษายน 2555 เวลา:6:01:06 น.  

 
พี่โอ๋ สวัสดียามเย็นค่ะ
ตอนนี้เลี้ยงหลานป็นยังไงบ้างคะ เหนื่อยมั๊ย
แล้วสงกรานต์มีแพลนพาหลานตัวน้อยไปเที่ยวไหนคะ
ยังไงเดินทางปลอดภัยทั้งไปและกลับนะคะ

สวัสดีวันปีใหม่ไทยค่ะพี่โอ๋


โดย: maitip@kettip วันที่: 10 เมษายน 2555 เวลา:16:55:36 น.  

 
เรื่องเล่าทั้งสองเคสของพี่โอ๋ดูเศร้าและยากจะทำใจ

แต่ผมมีเรื่องนึงจะเล่าให้ฟังครับ

ผู้ชายไม่อยกาแต่ง
เพราะเป็นมะเร็ง
แต่ผู้หญิงยืนยันว่าจะแต่งให้ได้
เพราะรัก

งานวันแต่งเจ้าสาวร่าเริงมาก
เธอเป็นคนญี่ปุ่นนะครับ
ยอมมาอยู่เมืองไทยเป็นครู รร.นานาชาติ

ส่วนพี่ผู้ชายท่าทางเหนื่อยมาก
เพราะตอนนั้นป่วยหนักแล้ว

ปีกว่าๆผู้ชายก็เสียชีวิต
ผู้หญิงนั้นไว้ทุกขืหนึ่งปีเต็มๆ
แล้วก็กลับไปญี่ปุ่น
พอครบปีกลับมาเมืองไทย
เพื่อทำอะไรรู้มั้ยครับพี่

เธอกลับมาโอนโฉนดที่ดินที่เป็นสินสมรสให้กับแม่สามี
เพราะเธอบอกว่าคงจะไม่ได้มาอยู่ที่นี่แล้ว

หลายคนแต่งงานเพราะรัก
เพราะเงิน....

ผมก็ไม่รู้นะครับว่าจะยังเหลือผู้หยิงที่รักผู้ชายมากๆแบบนี้หรือเปล่า

ยอมเป็นม่ายทั้งที่รู้แน่ว่าผู้ชายรักษาไม่หาย
ยอมทิ้งชีวิตที่ญี่ปุ่นเพื่อมาอยู่ดูแลและเป็นกำลังใจจนถึงวันที่ผู้ชายจากไป
และยอมที่จะมอบที่ดินราคาแพงคืนให้กับแม่สามี

นี่เป็นความรักที่มีพลังนะครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 เมษายน 2555 เวลา:18:33:21 น.  

 
แวะมาเยี่ยมยามค่ำ...สวัสดีครับ

ตามไปเที่ยวด้วย ภาพสวย นะครับ


โดย: **mp5** วันที่: 10 เมษายน 2555 เวลา:20:17:00 น.  

 
เที่ยวจีนต้องเดินครับ ถ้าใครดันใส่รองเท้าไม่ค่อยดีไปนี่มีตายเอาได้ง่ายๆ เลย (ร้องเท้ากัด)

คังซีท่านชอบบรรยากาศจีนตอนใต้ เลยสั่งขุด น่าจะจำลองมาจากทะเลสาปเตียนฉือของเมืองคุนหมิง ผมเคยได้ยินว่าที่ปักกิ่งมีทะเลสาปแห่งหนึ่งสร้างขึ้นมาโดยจำลองมาจากทะเลสาปเตียนฉือที่คุนหมิง

เรื่องถ่ายรูปคนถือก็ถือไป คนไม่ถือหรือไม่รู้ก็กดกันมันล่ะครับ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 10 เมษายน 2555 เวลา:23:04:09 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับพี่โอ๋









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 เมษายน 2555 เวลา:6:02:25 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับพี่โอ๋








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 เมษายน 2555 เวลา:6:00:54 น.  

 
เวลาเที่ยว เวลาเล่นเกม ดูหนัง ฟัง เพลง เวลาจะเดินเร็วกว่าเวลาเรียน เวลาทำงาน ครับ นั่นสิ ไม่รู้ทำไมน้อ
คุณโอ๋เที่ยวละเอียดจริ๊ง วัดลามะผมจำได้แค่พระพุทธรูปไม้จันท์กับโบราณวัตถุในห้องจัดแสดง

ได้ไปนวดด้วยครับ น่าจะคนละที่กับของคุณโอ๋ มีเด็กฝึกนวดมานวดให้ฟรี แต่ละคนก็ชวนคุยตลอด ภาษาอังกฤษบ้านๆแต่คุยเก่งเชียว

วังนั่นชื่อจริงคือหออี้เหอหยวนเหรอเนี่ย ผมเรียกแต่พระราชวังฤดูร้อน/ตำหนักซูสีไทเฮา ภายในอลังการครับ แต่ที่ชอบที่สุดของที่นี่คือบรรยากาศริมน้ำ (มีรูปปั้นวัวก็ยังอุตส่าห์มีประวัติดึงดูดให้เราไปสนใจ แต่ผมจำไม่ได้แล้วว่าวัวมันสำคัญยังไง)

หยุดย้าวยาว ถึงฤดูแห่งการเดินทาง ไปไหนมาไหนปลอดภัยเน่อ ^^//


โดย: ชีริว วันที่: 12 เมษายน 2555 เวลา:20:31:45 น.  

 
สุขสันต์วันสงกรานต์ครับพี่โอ๋












โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 เมษายน 2555 เวลา:5:52:56 น.  

 
สุขสันต์วันสงกรานต์ครับพี่โอ๋


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 13 เมษายน 2555 เวลา:15:24:49 น.  

 
คำถามเรื่องความรัก
เป็นคำถามที่ผมไม่ชอบมากที่สุด
เพราะตอบยาก ตอบให้ถูกใจยาก

ผมเลยต้องตอบให้เป็นกลางๆเอาไว้ก่อนครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 เมษายน 2555 เวลา:16:30:19 น.  

 
สุขสันต์วันสงกรานต์ครับพี่โอ๋








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 เมษายน 2555 เวลา:6:03:17 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

rosebay
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




เป็นเด็กผู้หญิงหน้าหมวยมาตั้งแต่เกิด
แต่ถือ Passport ไทย
เวลาไปไหนมาไหน
ตม.ก็คอยแต่จะมองหน้าสลับกับ Passport
พร้อมกับตั้งคำถามว่า ใช่คนไทยแน่เหรอ
แต่ที่แน่ ๆ พูดไทยคล่องปร๋อก็แล้วกัน
ภาษาอื่น อย่าถามนะ
[Add rosebay's blog to your web]