ในขณะที่กำลังนั่งมองแผ่นกระดาษว่างเปล่าเกิดความคิดขึ้นมาว่า งานสร้างสรรค์มันช่างเป็นภาระที่หนักหน่วงและต้องมีความพยายามอุตสาหะ ในการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมอย่างไม่หยุดนิ่งเพื่อที่จะกลั่นกรองความรู้และประสบการณ์ต่างๆ ออกมาเป็นความคิดหรือทัศนะของตัวเองซึ่งตัวผมเองพยายามอย่างยิ่งที่จะดิ้นรนพาตัวเองให้หลุดพ้นออกมาจากการเลียนแบบและอิทธิผลของงานที่มีมาก่อนของผู้อื่นซึ่งอาจจะมีส่วนที่อยู่ในความคิดของตัวเองโดยไม่รู้ตัวก็ได้ 12 สิงหาคม 2535 การมองการสังเกต การรับรู้ ด้วยความรู้สึก เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งเพื่อจะซึมทราบและเข้าใจได้อย่างลึกซึ้งต่อสรรพสิ่งที่ปรากฏ ทำให้สามารถถ่ายทอดความหมายที่แท้จริงลํกษณะเฉพาะของมันออกมาได้อย่างแจ่มชัด และเกิดการสร้างสรรค์ ในการเขียนหรือวาดอะไรก็แล้วแต่ผู้เขียนหรือผู้วาดควรจะมองสิ่งที่จะเขียนจะวาด ด้วยความรู้สึกแท้ของตัวเองแต่ถ้าเราติดอยู่กับความคิดของตัวเอง ความมีอคติ มองด้วยการตีค่าวัตถุสิ่งที่มองจึงมักจะเป็นการตัดสินของเราอยู่ก่อนแล้ว สิ่งๆนั้นก็จะกลายเป็นความคิดของเราที่ไปกำหนดมันตัวเราเข้าไปบังคับไปเปลี่ยนแปลงความเป็นอยู่เดิมที่มันเคยเป็น แต่ถ้ามองด้วยความรู้สึกที่บริสุทธิ์มีการเปิดกว้างทางความคิด ไม่ไปกำหนดค่าของวัตถุที่เรามองจนต่อมาเราสามารถมองจนเข้าใจอย่างถ่องแท้ในสิ่งที่เรามองแล้วเมื่อนั้นเราจึงสามารถใส่ความคิดเห็น ทัศนะของเราเข้าไปในสรรพสิ่งได้ทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์อย่างแท้จริง เด็กๆจะมีพรสวรรค์ของพวกเขาอยู่แล้ว ที่จะมองสรรพสิ่งด้วยความรู้สึกเป็นการมองที่เปิดกว้างเพื่อที่จะรับรู้สิ่งใหม่ๆสนุกสนานเบิกบานกับความแปลกใหม่ที่ตัวเองได้รับรู้อย่างไม่หยุดนิ่ง ข้อสังเกตว่าเราจะสามารถที่จะมองด้วยความรู้สึกได้หรือไม่นั้นดูจากการที่ถ้าเราคิดมาก การมองก็จะมีลักษณะเป็นภาพที่กระจัดกระจายอยู่ในสมองเมื่อมองสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ก็มักจะโยงไปถึงภาพโน้นภาพนี้เต็มไปหมดจับความหมายของสิ่งที่มองไม่ได้
Create Date : 21 กุมภาพันธ์ 2561 |
|
0 comments |
Last Update : 21 กุมภาพันธ์ 2561 17:41:26 น. |
Counter : 473 Pageviews. |
|
|
|