พักนี้มีเวลาว่างมากจึงใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับหนังสือ ที่เพิ่งอ่านจบไปคือ สถาบันสถาปนา ของไอแซคอาซิมอฟ กับเรื่อง Last Tango in Paris เรื่องแรกเป็นเรื่องที่มีความน่าสนใจทั้งเนื้อหาและรูปแบบในการดำเนินเรื่องผู้เขียนพยายามสะท้อนสภาพของเหตุการณ์ในอดีตจนถึงปัจจุบันของโลกโดยสร้างให้เรื่องมาเกิดขึ้นในโลกของอนาคต ซึ่งก็เป็นไปตามแนวของนิยายประเภท Sciencefiction เรื่องนี้เล่าถึงพัฒนาการทางอารยธรรมของมนุษย์ในอนาคตที่มีความคล้ายคลึงกับมนุษย์ในโลกปัจจุบัน ซึ่งในตอนท้ายของเรื่องอำนาจที่สำคัญและมีพลังมากที่สุด ที่เข้ามาแทนที่ความเชื่อทางศาสนาคืออำนาจทางการค้า ผู้นำจักรวรรดิคือพ่อค้าที่มีความสามารถในการค้าขาย ส่วนเรื่องที่สองหลังจากอ่านจบ ผมก็ได้รายละเอียดเพิ่มเติมจากที่ได้ดูหนังมาซึ่งจากการที่ได้ดูหนังมาก่อน ผมก็ยังไม่รู้แน่ว่าหนังต้องการจะบอกอะไรกับคนดูรู้เข้าใจได้แค่โครงเรื่องคือความสัมพันธ์ของหนุ่มใหญ่กับเด็กสาวกับฉากการร่วมรักและความสวยงามของเรือนร่างของดารานำหญิงเท่านั้นต่อมาได้รู้เพิ่มเติมจากปากของผู้กำกับภาพยนตร์คือ เบอร์โตลุคซี่เขากล่าวว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องที่พูดถึงเรื่องการเมืองมากที่สุดในจำนวนภาพยนตร์ที่เขากำกับมาทั้งหมด คราวนี้จากประสบการณ์จากการอ่านฉบับที่เป็นนิยายของโรเบิร์ทแอลเลย์ ผมพอจะจับภาพกว้างๆได้ดังนี้ คือในท้องเรื่องเป็นการมาพบโดยบังเอิญของหญิงสาววัยรุ่นที่มีคู่หมั้นเป็นแฟนหนุ่มของเธออยู่แล้วกับหนุ่มใหญ่ที่เพิ่งจะเสียภรรยาของเขาไปจากการฆ่าตัวตายของเธอหลังจาการพบกันทั้งคู่ก็ได้มีความสัมพันธ์กันอย่างแปลกพิสดารโดยสร้างอาณาจักรของพวกเขาขึ้นมาเอง ที่ตัดขาดจากโลกภายนอกทั้งหมดอาณาจักรของพวกเขาก็คือห้องเช่าห้องหนึ่งและเรื่องก็ดำเนินไปโดยการเปิดเผยปูมหลังของแต่ละคนไปเรื่อยๆโดยการมาพบกันของทั้งคู่ที่ห้องนี้ จะไม่มีการพูดถึงอดีตของแต่ละคนไม่รู้จักชื่อของอีกคน ทั้งคู่มีจุดมุ่งหมายเพียงเพื่อสนองกิเลสตัณหา และความสับสนทางจิตใจของแต่ละคนเพื่อที่จะได้ระบายออกในห้องนี้ จนในตอนท้ายที่ผู้หญิงเริ่มเปิดเผยตัวเองและฝ่ายชายก็เปิดเผยด้วย ซึ่งเป็นตอนที่ทั้งคู่ออกจากห้องมาสู่โลกภายนอกหรือชีวิตจริงๆ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่กลับเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ผู้หญิงเป็นฝ่ายที่กำจัดผู้ชายคนนั้น เพื่อที่จะเข้าใจความหมายที่แฝงอยู่ในโครงเรื่องผมต้องสาธยายถึงลักษณะของตัวละครทั้งสองคนว่าเป็นใครมาจากไหนและที่สำคัญเป็นตัวแทนของอะไร ผู้หญิงเป็นคนที่มาจากครอบครัวที่อบอุ่นและอนาคตของเธอก็คือครอบครัวที่แสนจะมีสุข ที่เธอวาดภาพเอาไว้ เธอมีพ่อเป็นนายทหารที่เคร่งระเบียบวินัยซึ่งเป็นบุคคลที่เธอบูชาและคิดว่าเป็นสิ่งที่สามารถปกป้องและคุ้มครองเธอได้และเธอก็พยายามจะสร้างภาพนี้ให้เกิดขึ้นกับหนุ่มใหญ่ที่เธอไปมีสัมพันธ์ด้วยแม่ของเธอก็เป็นผู้หญิงชนชั้นกลางที่มองโลกในแง่ดีอยู่เสมอสรุปแล้วฝ่ายหญิงเป็นผู้ที่มีชีวิตมั่นคงและอบอุ่น มีแต่ความสุขมองโลกในแง่ดีอย่างเช่นชนชั้นกลางทั่วไป ในขณะที่ฝ่ายชายโลกของเขามีแต่ความโสมมสกปรกมีแต่ความหลอกลวงและไม่ไว้วางใจกันเขาอาศัยอยู่ที่โรงแรมที่เป็นศูนย์รวมของพวกที่สังคมไม่เหลียวแล พวกหัวขโมย ขี้ยากระหรี่และแมงดา เขาเป็นคนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะมีชีวิตที่ไม่มีจุดหมายอะไรแน่นอน จนเขามาพบกับชีวิตของครอบครัวที่มีความมั่นคงเขาก็ไม่สามารถประคองให้มันอยู่ได้นานสักเท่าไร เมียของเขาซึ่งเป็นเจ้าของโรงแรมก็จบชีวิตด้วยการฆ่าตัวตาย สรุปเขาคือคนที่แหกกฎเกณฑ์ ระบบระเบียบต่างๆที่สร้างเพื่อความสงบสุขทั้งหลายทิ้งครอบครัวซึ่งเป็นสิ่งที่ขยักแขยงสำหรับเขาเขาเป็นผู้ที่ต้องการทำลายสภาพต่างๆที่เป็นอยู่เพื่อเปลี่ยนแปลงไปสู่โลกที่เขาต้องการให้มันเป็น คืออิสรเสรีภาพ และเมื่อตัวแทนของบุคคลในโลกที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงมาพบกันมันก็จะเป็นจริงได้เพียงความฝันและจินตนาการที่พวกเขาต้องการสร้างขึ้นแต่เมื่อทั้งคู่กลับมาพบกับชีวิตจริง ซึ่งบอกพวกเขาว่าพวกเอ็งไม่สามารถที่จะหันหน้าเข้าหากันได้ พวกเอ็งมันต้องหักล้างกันไปข้างหนึ่งเพื่อความอยู่รอดของอีกฝ่ายหนึ่ง และสรุปคือผู้หญิงใช้ปืนของพ่อเธอสังหารผู้ชานคนนั้นซะเหมือนกับพวกขวาที่ต้องการจะหักล้างพวกซ้ายให้หมดไปในช่วงหนึ่งของสังคมมนุษย์ดังคำกล่าวนิยายที่บอกว่า แปลกที่ว่าต่างคนต่างมายังจุดหมายเดียวกันในนาทีเดียวกัน แต่จากคนละทิศทาง พอลมาจากสถานที่ที่มีแต่ความตายและความเศร้าส่วนโจนมาจากความรื่นเริงและความรัก
| Create Date : 04 มีนาคม 2561 |
| Last Update : 4 มีนาคม 2561 9:59:40 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 536 Pageviews. |
 |
|
