เมื่อวานนี้เรียกได้ว่าเป็นวันCitizenKane (CK) ก็ดูจะไม่ผิดนักของผมเริ่มตั้งแต่ในตอนเย็นได้ไปดูภาพยนตร์สารคดี The Complete Citizen Kane เป็นภาพยนตร์เบื้องหลังการสร้างเรื่อง CK ของออร์สันเวลล์ ซึ่งตัวหนังสารคดีเรื่องนี้แบ่งเนื้อหาออกได้ 2 ส่วนคือส่วนแรกจะเป็นทัศนะของทีมผู้สร้างต่อการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยเน้นที่ตัวออร์สันเวลล์ ซึ่งเป็นทั้ง ผู้กำกับ ผู้อำนวยการสร้าง ผู้แสดง (และผู้เขียนบท) ในส่วนที่ 2 จะเป็นประเด็นเรื่องตัวเนื้อหาของหนังที่นำเสนอออกมา ซึ่งเป็นการนำเอาชีวิตของWilliam Hearst มาสร้างเป็นตัวละครที่ชื่อ CharlesFoster Kane ในส่วนแรกมีเรื่องราวน่าสนใจหลายอย่างและทีมผู้สร้างสารคดีพยายามหาสัมภาษณ์ผู้ที่เคยร่วมงานในการสร้าง CK ซึ่งแต่ละคนมีอายุมากแล้ว ที่น่าสนใจคือออร์สัน เวลล์สร้างภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกของเขาด้วยวัยเพียง 25ปี โดยที่เขายังไม่มีความรู้เรื่องพื้นฐานทางภาพยนตร์อะไรมากมายความรู้อย่างหนึ่งที่เขาพอมีคือเรื่องทิศทางของกล้องและความต่อเนื่องโดยเขาได้สังเกตจากฉากอินเดียนแดงไล่คนผิวขาวในเรื่อง Stage Coach ของจอห์น ฟอร์ด ที่มีการข้ามทิศทางในการเคลื่อนไหวของผู้แสดงคือข้ามเส้น 180องศาได้ดังนั้นเวลล์จึงต้องการผู้ที่มีความรู้ทางภาพยนตร์เป็นผู้ชี้แนะและคนที่ช่วยเขามากๆ คือตัวผู้กำกับภาพ Greg Tolland ที่มีชื่อเสียงในการถ่ายภาพเน้นการจัดองค์ประกอบภาพโดยใช้เทคนิคการถ่ายภาพแบบชัดลึก และมีความสามารถในการจัดแสงเงาแบบ Hi-Contrastและอีกคนหนึ่งคือผู้ตัดต่อภาพ อย่างการใช้เสียงเพื่อเชื่อมฉาก การ Dissolveที่ใช้เทคนิค Optical Print ช่วย คือ ภาพBackground จะจางหายไปก่อน แล้ว Subjectจะจางหายตามไปอีกที แต่ความสมบูรณ์ของทุกสิ่งทุกอย่าง ต่างเกิดขึ้นมาจากการเตรียมงานและวางแผนก่อนถ่ายทำแทบทุก Shot จะวาดเป็น Story Board ไว้ก่อนแล้ว ในส่วนที่สองเป็นส่วนที่ความน่าสนใจเช่นกันเพราะเป็นประเด็นเรื่องเนื้อหาของหนังซึ่งมีข้อถกเถียงกันว่าเวลล์เป็นผู้ร่วมเขียนบทจริงหรือ หรือว่าแมนโควิคเป็นผู้เขียนเพียงคนเดียว และการจำลองจากชีวิตของ William Hearst ที่เป็นผู้นำทางสังคมทุนนิยมของอเมริกาและเป็นเจ้าพ่อวงการหนังสือพิมพ์เป็นเศรษฐีเงินล้าน สามารถสร้างปราสาทบนเขาและนำสัตว์จากทั่วโลกมาสร้างเป็นสวนสัตว์ในที่ดินจำนวนนับพันเอเคอร์ของเขาและมีความสัมพันธ์กับนักร้องนักแสดงสาว แต่ในภาพรวมภาพยนตร์เรื่องนี้สิ่งที่นับว่าสำคัญที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกยอมรับอย่างกว้างขวางก็คือการที่ภาพยนตร์สามารถรวบรวมเอาศิลปะของการเล่าเรื่องด้วยเทคนิคที่แปลกใหม่ ผสมผสานเข้ากับการนำเสนอเนื้อหาที่เป็นการสะท้อนภาพสังคมในอเมริกาที่ผู้ที่ควบคุมสังคมคือนายทุนที่มีอำนาจทางการเงิน และการควบคุมสื่อมวลชนด้วยการที่เน้นไปในการศึกษาวิเคราะห์ถึงลักษณะตัวละครอย่างลึกซึ้งทำให้ตัวละครมีชีวิตชีวาและไม่ถูกการตกแต่งเรื่องในทางเทคนิคบดบังอารมณ์ในส่วนนี้เลย หลังจากดูภาพยนตร์เบื้องหลัง CK กลับมาที่บ้าน ผมจัดการดู Citizen Kaneเป็นครั้งที่สอง ซึ่งครั้งนี้จากการได้รู้รายละเอียดข้อมูลจากหนังสารคดีมาก่อนทำให้การดูครั้งนี้มีความน่าสนใจและสนุกสนานเป็นอย่างยิ่งและยังสามารถสังเกตเห็นความมหัศจรรย์ของทีมงานผู้สร้างที่ร่วมมือกันทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้สำเร็จออกมา จริงดังที่ว่า CK สามารถจุดประกายให้นักทำหนังรุ่นใหม่เกิดความตั้งใจที่อยากจะสร้างหนังขึ้นมา ซึ่งตัวอย่างคงจะดูได้จากการเกิดขึ้นมาของกลุ่มคลื่นลูกใหม่หรือ New Wave ของฝรั่งเศส และที่สำคัญคือตัวผมเองที่สามารถเห็นถึงศักยภาพของภาพยนตร์ที่มีมากมายมหาศาล
Create Date : 24 มีนาคม 2561 |
|
0 comments |
Last Update : 24 มีนาคม 2561 16:43:27 น. |
Counter : 725 Pageviews. |
|
|
|