ตอนที่ 11 shopping ไหมพรม กับ เดิน shinjuku
3 เมษายน 2552 ช่วงบ่ายๆ เอาใจคนชอบงานฝีมือ หลังจากที่ไป Ghibli museum แล้ว เรานั่ง JR Chuo line จากสถานี Mitaka มาลงที่สถานี Kichijoji (ในภาพพิมพ์ผิดหมดเลย ขออภัยด้วยค่ะ) ขอแก้จาก Chijijoji ----> เป็น Kichijoji แบบว่ามึน ที่ไปที่สถานี Kichijoji เพราะว่าที่นี่มีสาขาของ Yuzawaya ที่ขายอุปกรณ์งานฝีมือแสนอลังการ แล้วก็อยู่ถัดจากสถานี Mitaka แค่สถานีเดียว ขึ่นจากสถานีปุ๊ปก็เจอ Kichijoji store เลย แต่...หาของกินก่อนไม่ได้กินอะไรแต่เช้า นี่มันก็บ่ายโมงกว่าแล้ว ป่ะ...หาของกินกัน แต่กว่าจะเจอ...หาร้านยากเย็น บทจะมีร้านของกินเยอะก็เยอะจนเลือกไม่ถูก บทจะหาไม่เจอก็ไม่เจอเลย หนูหิวแล้วอ่ะ อ๋า....เจอจนได้ อยู่ในตึก ในซอกหลืบ แถมยังต้องต่อคิวอีกตะหาก (แต่ร้านนี้เด็กเสิร์ฟหล่ออ่ะ หุหุ) มาญี่ปุ่นทั้งที ต้องลองนี่ "โอโคโนมิยากิ" บนกระทะร้อนๆ พร้อมตะหลิว แต่ไม่ได้ละเลงเอง คุณลุงพ่อครัวทำมาให้ แล้วหนุ่มหล่อประจำร้านก็เอามาวางให้ที่เตา (ถ่ายรูปหนุ่มคนนี้ไม่ได้เลย พี่แกเป็นคนไม่อยู่นิ่ง ทำนู้นทำนี่อยู่ตลอดเวลา) ตั้งแต่มาเที่ยวที่นี่ โดยเฉพาะในร้านอาหาร เราสังเกตว่า ทั้งพ่อครัว คนเสิร์ฟ ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ทำงานด้วยความกระฉับกระเฉง เหมือนเร่งรีบแข่งกับเวลา พร้อมๆ ไปกับการบริการที่เรารู้สึกว่า "เราคือพระเจ้า" เอ้านี่! อีกสักอย่าง "เกี๊ยวซ่า" รสชาติเหมือนบ้านเรา แต่รูปทรงไม่เหมือนกัน กินเสร็จก็มีพลังช้อปไหมพรมแล้วล่ะ ตั้งแต่เข้ามาในวงการตุ๊กตาถัก ก็ได้สัมผัสเพื่อนพ้องน้องพี่ในห้องจตุจักรมากมาย และหนึ่งในนั้นคือคุณ Pattylala ที่ได้แนะนำร้าน Yuzawaya ให้ได้รู้จัก ทำให้ร้านนี้เป็นจุดหมายของเราที่ต้องไปให้ได้! ขอบคุณมากนะคะ ไม่งั้นคงไม่รู้ว่าจะไปซื้อที่ไหนแน่ๆ ร้านนี้สุดยอดมากๆ สาขาที่เราไปอยู่ที่ Kichijoji store ค่ะ นั่ง JR Chuo line มาลงที่สถานี Kichijoji ได้เลย หาร้านไม่ยาก ขึ้นมาปุ๊ปก็เจอเลย ถ้าไม่เจอก็ถามเจ้าหน้าที่ได้ค่ะ ห้างนี้มีกี่ชั้นไม่รู้ จำไม่ได้ รู้แต่ว่ากองทัพไหมพรมอยู่ชั้น 4 และผ้าอยู่ชั้น 5 ลบภาพร้านภิญญ์ หรือแผนกงานฝีมือที่เมืองไทย ทิ้งไปให้หมด นึกถึงห้องสมุดที่เต็มไปด้วยชั้นหนังสือ แต่เปลี่ยนเป็นไหมพรมแทน! เยอะมากๆ เลือกไม่ถูก หยิบเข้าหยิบออกจากตะกร้าอยู่่นั่นแหละ และนี่คือความคิดของเราขณะตัดสินใจ "ไหมแบบนี้ อืมมมม ยังใช้วีนัสกับอีเกิ้ลได้อยู่ ไม่ต้องซื้อหรอก" "เฮ้ย แต่มาทั้งทีก็ซื้อๆ ไปเหอะ" "แหม แต่เนื้อไหมมันนุ่มต่างจากวีนัสเลย ซื้อดีกว่า" "เฮ้ย อีเกิ้ลก็นุ่มเหมือนกันนะเว้ย" "อืม งั้นซื้อแต่สีที่เมืองไทยไม่มีดีกว่า" "ว่าแต่ จะซื้อสีอะไรบ้างดีนะ" "ยังคิดไม่ออกเลยอ่ะ ว่าจะถักอะไร แล้วสีที่ไม่ได้ซื้อ เกิดอยากได้ขึ้นมา ทำไงดี" บลา บลา บลา (ขอย้ำอีกที ว่านี่คิดความคิดของเราคนเดียว) สุดท้ายก็ได้ไหมพรมมาจำนวนหนึ่ง กองนี้แหละ ใจจริงอยากซื้อเยอะกว่านี้ แต่เงินม่ะมีแล้ว ไหม Piccolo ไหมนี้มีความหลัง ตอนที่เริ่มทำตุ๊กตาถัก ซื้อหนังสือมาเล่มนึง ที่เค้าใช้ไหมนี้ ตอนนั้นคิดว่าบ้านเรามีขาย แต่จริงๆ แล้วไม่มี ก็ไม่ถักซะงั้น...คิดว่าใช้วีนัสแล้วงานไม่เหมือน ทำไมถักออกมาแล้วดูตัวเล็กกว่าในหนังสือ เลยเลิกถัก จนวันหนึ่งนึกไงไม่รู้ ถักให้น้องสาว ทำเป็นพวงกุญแจห้อยไปโรงเรียน ปรากฏว่ามีออเดอร์จากเพื่อนน้องเพียบ แบบไม่ทันตั้งตัว จึงเข้าสู่วงการอย่างเต็มตัว เราเลือกมาสีเดียว สีเนื้อๆ เผื่อเอามาถักคน กลุ่มนี้ 210 เยน (ประมาณ 75 บาท) 3 กลุ่มนี้ชอบมากๆ โดยเฉพาะสีน้ำตาลเข้มจนเกือบดำน่ะ อยากซื้อโทนสีน้ำตาลไว้หลายๆ โทนเลย เพราะชอบสีน้ำตาลค่ะ กลุ่มละ 452 เยน (ประมาณ 165 บาท) ไหมโมแฮร์ สีสุดกรี๊ด ทั้งสีธรรมดาและสีเหลือบ สีธรรมดากลุ่มละ 389 เยน (ประมาณ 140 บาท) สีเหลือบกลุ่มละ 420 เยน (ประมาณ 150 บาท) สีเขียวนี้ถูกใจมากๆ ค่ะ เป็นสีเขียวที่ดูดีตรงสเป๊กที่สุด ถ้าเพื่อนๆ ดูผลงานตุ๊กตาของเราแล้วสังเกตสักหน่อย จะพบว่าตุ๊กตาของเราแทบไม่มีสึเขียวเลย เป็นเพราะไม่ชอบไหมสีเขียวที่มีขายทั่วไปในไทยเลย มันเขียวปี๋ หรือไม่ก็เขียวสะท้อนแสงไปเลย ไม่ชอบค่ะ พอมาเจอเขียวแบบนี้ ค่อยยังชั่วหน่อย กลุ่มนี้ 473 เยน (ประมาณ 170 บาท) งานนี้หมดไป 5,244 เยน (ประมาณ 1900 บาท) ****** ค่าเงินเยนช่วงที่เราไปอยู่ที่ 100 เยน ต่อ 36-37 บาท******* หน่ำใจแล้ว ขึ้นไปดูอีกชั้น ชั้น 5 เต็มไปด้วยกองทัพผ้า แต่ไม่ได้ซื้อ เพราะไม่ได้ทำงานผ้า แล้วก็คิดว่า อีกหน่อยพาหุรัดต้องมีลายพวกนี้แน่ๆ ไม่ซื้อดีกว่า ถ้าจะซื้อก็เลือกออกมา ถือม้วนผ้า ไปต่อแถวให้พนักงานตัดให้ค่ะ เค้าไม่เหมือนบ้านเราตรงที่มีคนคอยยืนตัดให้ ต้องถือไปให้เอง แถวยาวมากๆ เลยค่ะ *****จริงๆ แล้วอยากถ่ายภาพให้ได้เยอะกว่านี้ แต่เค้าห้ามถ่ายอ่ะ****** shopping เสร็จไปชินจูกุต่อ ไม่มืดไม่กลับ นั่ง JR Chuo line มาลงที่สถานี Shinjuku เจอร้าน ABC ขายแต่รองเท้า เข้าไปดูแวบหนึ่ง แล้วก็ถอยฉาก เพราะบ่จี๊ ตื่นตะลึงกับตึก ตึก แล้วก็ตึก มันเยอะจริงๆ เป้าหมายของการ Shopping ที่ญี่ปุ่นของเรา ไม่ได้อยู่ที่รองเท้า เครื่องสำอาง เสื้อผ้า แต่อยู่ที่หนังสือ ร้าน Kinokuniya สาขาชินจูกุ มีทั้งหมด 10 ชั้น! ลองนึกถึงขนาดของร้านหนังสือศูนย์หนังสือจุฬาที่สยาม อย่างนั้นน่ะ 10 ชั้น! เราเข้าไปถามพนักงานว่า Amigurumi book (หนังสือตุ๊กตาถัก) อยู่ชั้นไหนคะ เค้าก็ให้ไปที่ชั้น 6 เลยค่ะ แล้วเราก็ไม่ผิดหวัง แหงนหน้าขึ้น นี่แหละค่ะ ร้านหนังสือที่ไม่ควรพลาด สาขาที่ไทยก็มี แต่ราคาแพงกว่ากัน ไปถึงที่แล้วก็ขอสักหน่อยล่ะ ซื้อเสร็จก็บอกให้พนักงานห่อให้ค่ะ ที่เห็นนี่เป็นกระดาษห่อลายของร้านค่ะ ไปซื้อของที่ไหนถ้าเราบอกให้พนักงานห่อให้ เค้าก็ห่อค่ะ ถ้าไม่บอกเค้าก็เอาใส่ถุงเลย หนังสือตุ๊กตาถักและงานโครเชต์ที่ไปซื้อมาค่ะ ยังไม่ได้ถักน้องหมาของเล่มนี้เลย มัวแต่อัพบล๊อค 555 เจอภาพกราฟิกน่ารักๆ 2 เล่มนี้แล้วตายไปเลย ราคาแพงเอาการ แต่ถ้ามาขายที่ไทยคงแพงขึ้นเกือบเท่าตัว เอามาใช้ทำงานค่ะ มันอดไม่ได้เนอะ ขนาดมาเที่ยวก็ยังคิดถึงงาน shopping หนังสือหมดไป 8 พันกว่าเยน ส่วนพี่วาส (faisai) ที่ไปด้วยกันกวาดหนังสือนิตติ้งมาเพียบบบบ อยู่ร้านนี้ แค่ชั้น 6 ชั้นเดียวกันเป็นชั่วโมงๆ เลย แต่ด้วยงบในกระเป๋าเลยจำกัดมาแค่นี้ มาย่านนี้ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปร้านรวงอะไร เพราะพวกเราไม่ใช่ขาช้อปแหลก แต่เป็นย่านที่เหมาะกับคุณผู้หญิงทั้งหลายมากๆ หวังว่าตอนนี้คงถูกใจบรรดาคนทำงานฝีมือนะคะ ต่อตอน 12 ไป Shibuya และ Harajuku (วันนี้กินแต่ขนม) ขอขอบคุณกรอบน่ารักๆ จากคุณ fleuri ค่ะ
Create Date : 25 เมษายน 2552
Last Update : 25 เมษายน 2552 19:18:02 น.
44 comments
Counter : 7804 Pageviews.
โดย: fzero วันที่: 25 เมษายน 2552 เวลา:10:49:52 น.
โดย: ไหมพรมสีสวย วันที่: 25 เมษายน 2552 เวลา:11:00:18 น.
โดย: oanotai วันที่: 25 เมษายน 2552 เวลา:11:14:09 น.
โดย: Paulo วันที่: 25 เมษายน 2552 เวลา:11:29:10 น.
โดย: fleuri วันที่: 25 เมษายน 2552 เวลา:11:32:45 น.
โดย: พี่วาส IP: 125.25.77.233 วันที่: 25 เมษายน 2552 เวลา:12:25:13 น.
โดย: Jujastar วันที่: 25 เมษายน 2552 เวลา:12:59:06 น.
โดย: silly วันที่: 25 เมษายน 2552 เวลา:13:34:44 น.
โดย: หัวเหม่งคุง วันที่: 25 เมษายน 2552 เวลา:14:31:36 น.
โดย: oanotai วันที่: 25 เมษายน 2552 เวลา:15:47:00 น.
โดย: AwithM วันที่: 25 เมษายน 2552 เวลา:16:05:59 น.
โดย: หัวเหม่งคุง วันที่: 25 เมษายน 2552 เวลา:16:13:30 น.
โดย: oanotai วันที่: 25 เมษายน 2552 เวลา:16:41:01 น.
โดย: หัวเหม่งคุง วันที่: 25 เมษายน 2552 เวลา:16:42:12 น.
โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 25 เมษายน 2552 เวลา:16:48:30 น.
โดย: พีชค่ะ (somjaidean100 ) วันที่: 25 เมษายน 2552 เวลา:18:24:34 น.
โดย: หัวเหม่งคุง วันที่: 26 เมษายน 2552 เวลา:5:53:04 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 26 เมษายน 2552 เวลา:8:33:34 น.
โดย: ถ่านหินจำศีล IP: 202.176.101.95 วันที่: 26 เมษายน 2552 เวลา:10:33:32 น.
โดย: oanotai วันที่: 26 เมษายน 2552 เวลา:11:26:59 น.
โดย: faisai วันที่: 26 เมษายน 2552 เวลา:12:41:12 น.
โดย: oanotai วันที่: 26 เมษายน 2552 เวลา:14:01:39 น.
โดย: CrystaL_32 วันที่: 26 เมษายน 2552 เวลา:15:04:33 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 26 เมษายน 2552 เวลา:16:29:14 น.
โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 26 เมษายน 2552 เวลา:20:59:21 น.
โดย: หัวเหม่งคุง วันที่: 26 เมษายน 2552 เวลา:21:37:16 น.
โดย: KOok_k วันที่: 27 เมษายน 2552 เวลา:2:33:45 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 27 เมษายน 2552 เวลา:11:08:32 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 27 เมษายน 2552 เวลา:11:17:40 น.
โดย: เมต (SingleMate ) วันที่: 27 เมษายน 2552 เวลา:13:14:32 น.
โดย: หัวเหม่งคุง วันที่: 27 เมษายน 2552 เวลา:14:59:58 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 28 เมษายน 2552 เวลา:9:43:09 น.
โดย: iiangii (rat29 ) วันที่: 28 เมษายน 2552 เวลา:21:34:23 น.
โดย: หัวเหม่งคุง วันที่: 28 เมษายน 2552 เวลา:22:47:57 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 28 เมษายน 2552 เวลา:23:00:21 น.
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 เมษายน 2552 เวลา:7:18:50 น.
โดย: Paulo วันที่: 29 เมษายน 2552 เวลา:8:41:50 น.
โดย: แซลลี่ (lazypiggy ) วันที่: 29 เมษายน 2552 เวลา:22:08:23 น.
โดย: เป๋อน้อย วันที่: 30 เมษายน 2552 เวลา:10:34:54 น.
โดย: mamminnie วันที่: 30 เมษายน 2552 เวลา:15:05:04 น.
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [? ]
ขอสงวนลิขสิทธิ์ภาพและงานเขียนที่ปรากฏในเวบไซด์แห่งนี้ เป็นลิขสิทธิ์แต่ผู้เดียวของ oanotai ห้ามมิให้กระทำการดัดแปลง แก้ไข และลอกเลียนแบบ หรือนำไปแอบอ้างเป็นผลงานของตน ตลอดจนนำออกเผยแพร่ ตีพิมพ์ หรือ นำไปใช้เพื่อประโยชน์อื่นใด โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าของ
ยินดีที่ได้ไปญี่ปุ่นช่วงเดียวกัน
ร้านไหมพรมนี้ผมไม่ได้เข้าไป หมดไป 5 พันกว่าเยนเลยเหรอครับ ผมเข้าร้านนาฬิกา หมดไปเกือบหมื่น
เรื่องการสูดบะหมี่เสียงดัง ผมก็ลองเหมือนกันครับ แต่ไม่ดังเท่า ผมว่ามันต้องใช้พลังดูดมากมากเหมือนกัน
ขอไปดูวันอื่นอื่นก่อนดีกว่า