|
 |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
 |
10 กรกฏาคม 2555
|
|
|
|
ท่องเขมรหน้าฝน (2) ลานพระเจ้าขี้เรื้อน

สวัสดีค่ะ วันนี้มาพาสมาชิกบล็อกแกงค์ ไปเที่ยว "ลานพระเจ้าขี้เรื้อน" กันค่ะ
บล๊อกที่แล้วได้พาท่านทั้งหลายเดินทางเข้าเขมรกันแล้วนะคะ
หลังจากนำสัมภาระเข้าไปเก็บที่โรงแรมแล้ว ไกด์ก็พาพวกเราไปซื้อบัตร เพื่อเข้าไปชม "เมืองพระนคร" กัน
บางท่านสงสัยว่า ทำไมไกด์ จึงไม่ซื้อบัตรเตรียมไว้ก่อนล่ะ ในเมื่อทราบโปรแกรมแล้วว่าจะไปที่ไหนบ้าง
ไม่ได้เลยค่ะ ซื้อบัตรล่วงหน้าไม่ได้เลย
เพราะไกด์ ต้องพาลูกทัวร์ ที่จะไปชม "เมืองพระนคร" ทั้งหลาย ไป "ถ่ายรูป" ติดในบัตรผ่านนั้นด้วยทุกคน
นับว่าเป็นความทันสมัยของเขมรมากเลยนะคะ และเพื่อป้องกันการสวมสิทธิ์แทนกันในการท่องเที่ยวด้วย
บัตรผ่านนี้มีหลายราคา แตกต่างกันไปในแต่ละทริป แต่ละช่วงที่ต้องการ เช่นซื้อได้ในการเข้าชมวันต่อวัน หรือชม 2 วัน หรือเหมาชม 3-4 วัน แต่ละราคา
ของเราซื้อเพื่อชมในวันพรุ่งนี้ 1 วัน เที่ยวได้ทุกแห่ง เข้าออกได้ทุกเวลา ทุกสถานที่ แต่ ภายใน 1 วัน ที่ระบุไว้เท่านั้น
ในเย็นวันนั้นมีนักท่องเที่ยวทุกชาติ ทุกภาษาที่ไปเที่ยวเขมร เข้าแถวรอซื้อบัตรกันเป็นตับเลยค่ะ ใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะผ่านเข้าไปถ่ายภาพติดกับตั๋วได้

ออกมาเป็นอย่างนี้ค่ะ เจ้าหน้าที่จะได้แน่ใจว่าเป็นนักท่องเที่ยวตัวจริง เสียงจริง ไม่มีการสวมรอย


ภาพนี้เป็นด้านหลังของบัตรผ่านเข้าชมสถานที่ต่างๆ ใน "เมืองพระนคร" (เราจะเข้าไปในวันที่ 3 คือวันพรุ่งนี้ เขาก็เจาะรูมาตรงวันที่ 3)
เมื่อได้บัตรตามความต้องการทุกคนแล้ว คณะของเราจึงเดินทางไป "ลานพระเจ้าขี้เรื้อน" กัน

เราไปถึงที่นั่นฝนหยุดพอดี จึงได้ลงไปชม ลานพระเจ้าขี้เรื้อน กัน

จะมีรูปจำหลักเป็นจำนวนมากมายบนผนังของฐานลานพระเจ้าขี้เรื้อน ถ่ายภาพกันมือเป็นระวิงเลย

ประวัติ ลานพระเจ้าขี้เรื้อน
ปีที่สร้าง : สร้างในพุทธศตวรรษที่ 18 19
รัชสมัย : รัชสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 และมีการบูรณะเพิ่มเติมสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 8
ศิลปะ : เป็นศิลปะแบบบายน
ศาสนา : ศาสนาพุทธนิกายมหายาน ลานพระเจ้าขี้เรื้อน สร้างขึ้นในปลายพุทธศตวรรษที่ 18 โดยที่ไม่ทราบชื่อ ผนังของลานสันนิษฐานว่าถล่มและได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่ทั้งหมดมีความยาว 25 เมตร สูง 6 เมตร
ภาพสลักนูนสูงที่ระเบียง เป็นภาพพญายมมีนางนาคอยู่ทั้งสองข้าง กล่าวถึงเมืองบาดาล อันเป็นที่พักอาศัยของนาค

ซ้ายมือเป็นทางเข้าไปในเขาวงกต ของลานพระเจ้าขี้เรื้อนด้านล่าง เดินเข้าไปตามทางที่ปูด้วยไม้ จะเห็นว่าด้านบนมีพระเจ้าขี้เรื้อนนั่งอยู่ มาเห็นเมื่อจะย่อรูปนี่แหละค่ะ เสียดายที่ไม่ได้ไปถ่ายภาพด้านหน้ามา (งานนี้ต้องกลับไป "ซ่อมภาพ" กันแน่นอน ^^)
ที่มุมระเบียงมีภาพสลักนูนสูงของนาค 9 เศียร และ 5 เศียรอยู่ข้างบน



ภาพพญายมจะถือพระขรรค์นั่งในท่าขัดสมาธิและชันเข่า

ถ้าเป็นสตรีมักจะมีศิราภรณ์ (คล้ายๆมงกุฏ) สวมใส่บนศีรษะ นั่งในท่าพับเพียบหรือชันเข่า มือประนมถือดอกบัว

มีบางรูปที่แกว่งพระขรรค์แขนตั้งวงโค้งวางมืออยู่บนศีรษะอย่างสวยงาม

ภาพสลักนูนสูงแถวที่สอง เป็นรูปยักษ์และรูปครุฑ ซึ่งมีทั้งรูปจริงและรูปจำแลง


ภาพสลักแถวที่สามเป็นรูปเทวดา
ทำไมจึงเรียกว่า " ลานพระเจ้าขี้เรื้อน"
เพราะว่า เดิมลานนี้มีประติมากรรมลอยตัวรูปบุคคลนั่งชันเข่า ศิลปแบบบายนตั้งอยู่ แต่เนื่องจากชาวเขมรเห็นว่าเทวรูปองค์นี้ มีรอยกระดำกระด่างเหมือนคนเป็นโรคเรื้อน สอดคล้องกับตำนานพื้นถิ่นที่ว่า มีพระมหากษัตริย์ขอมพระองค์หนึ่งทรงเป็นโรคเรื้อน เพราะไม่หลับนอนกับนางนาคที่ปราสาทพิมานอากาศ แล้วเอาดาบฟันนางนาคจนเลือดนางนาคกระเซ็นมาต้องพระวรกาย ทำให้พระองค์กลายเป็นโรคเรื้อน
บางตำนานระบุชัดถึงขั้นว่า "พระเจ้าขี้เรื้อน" พระองค์นั้น คือ พระเจ้าชัยวรมันที่ 7
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาเทวรูปที่เรียกว่า "พระเจ้าขี้เรื้อน" จะเห็นรายละเอียดว่า มีเขี้ยวที่มุมริมฝีปาก ประกอบกับท่านั่งชันเข่าแบบผู้บงการ

นักโบราณคดีจึงสันนิษฐานว่า น่าจะเป็น "พระยม" เทพแห่งความตาย ผู้บงการชีวิตหลังความตายของมนุษย์ ว่าจะขึ้นสวรรค์หรือตกนรก
ครั้นพิจารณาถึงองค์ประกอบแวดล้อมของลานพระเจ้าขี้เรื้อน ทางทิศตะวันตก มีประติมากรรมคล้ายกระถางคบเพลิง ทางเหนือ มีฐานที่เรียกว่า "ฐานเทวาลัยพระยม" ซึ่งมีทางเดินคดเคี้ยวอยู่ภายใน (เหมือน เขาวงกต)

จะเห็นทางเดินที่ปูด้วยไม้เป็นทางวกวน

ภาพแกะสลักอันน่าตื่นตาตื่นใจตลอดทางที่เดินเข้าไป

โดยผนังสองข้างทางเดินมีภาพจำหลักรูปเทวดา นางอัปสรา ยักษ์ ประดับไว้มากมาย

(เราเดินเข้าไปบนทางเดินวกวน จนไปออกอีกด้านหนึ่ง เป็นบันได ขึ้นไปด้านบน แล้วเดินย้อนลงมาด้านล่าง)
จึงทำให้มีข้อสันนิษฐานว่า
ลานพระเจ้าขี้เรื้อน คือพื้นที่ส่วนที่ใช้จัดการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระมหากษัตริย์ขอมและพระบรมวงศานุวงศ์
คือ มีสถานะเป็น "ทุ่งพระเมรุ"
โดยสันนิษฐานว่า เมื่อมีการพระราชพิธีถวายพระเพลิง ก็จะจุดไฟที่กระถางคบเพลิง แล้วแห่แหนพระบรมศพเข้าไปในฐานเทวาลัยพญายมที่มีทางเดินคดเคี้ยว





ซึ่งมีเทวดา อัปสรา ยักษ์ มาร่วมชุมนุมไว้อาลัยตลอดทาง

** ทั้งนี้ เทวรูปพระเจ้าขี้เรื้อน ที่ตั้งวางไว้ปัจจุบันเป็นองค์จำลอง ส่วนองค์จริงจัดแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติกรุงพนมเปญ **
(เรื่องบางส่วน คัดมาจากหนังสือ ชายชรากับบ่วงกรรมและคำสาป นครวัด นครธม ของ ธีรภาพ โลหิตกุล ส่วนภาพ เป็นภาพที่ป้าแอ๊ดถ่ายภาพมาเองทั้งหมดค่ะ)
ขอบคุณที่ติดตามมาจนถึงบรรทัดนี้
ติดตามชม " ลานช้าง " ในบล็อกหน้ากันนะคะ

Create Date : 10 กรกฎาคม 2555 |
Last Update : 10 มิถุนายน 2561 15:50:03 น. |
|
11 comments
|
Counter : 7830 Pageviews. |
|
 |
|
|
โดย: ขาว IP: 182.255.9.62 วันที่: 10 กรกฎาคม 2555 เวลา:13:54:58 น. |
|
|
|
โดย: พรหมญาณี IP: 124.122.136.206 วันที่: 10 กรกฎาคม 2555 เวลา:14:06:07 น. |
|
|
|
โดย: gymstek วันที่: 10 กรกฎาคม 2555 เวลา:17:21:04 น. |
|
|
|
โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 10 กรกฎาคม 2555 เวลา:18:14:44 น. |
|
|
|
โดย: yyswim วันที่: 10 กรกฎาคม 2555 เวลา:21:36:10 น. |
|
|
|
โดย: หนุ่มร้อยปี (หนุ่มร้อยปี ) วันที่: 11 กรกฎาคม 2555 เวลา:1:44:55 น. |
|
|
|
โดย: เจฟ IP: 124.120.80.168 วันที่: 11 กรกฎาคม 2555 เวลา:20:18:31 น. |
|
|
|
โดย: พรหมญาณี วันที่: 12 กรกฎาคม 2555 เวลา:12:14:06 น. |
|
|
|
| |
|
 |
addsiripun |
|
 |
|
|