<<
ตุลาคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
18 ตุลาคม 2552

อินเดีย - เมืองราชคฤห์

นั่งรถไปทั้งคืน บางเวลามีความรู้สึกว่า
รถจอดนิ่งๆนานมาก มองออกไปเห็นรถบรรทุกจอด
เป็นแถวยาวเหยียด อย่างไม่เป็นระเบียบด้วย ใครใคร่
จอดๆ ใครใคร่ไปๆ แล้วมันจะไปได้ไหม ฉันไม่เคยเห็น
ตำรวจจราจรเลย เส้นแบ่งถนนก็แทบไม่มี เพราะถนน
มันไม่ได้มาตรฐาน รถเก็บขยะและคนกวาดถนนก็ไม่มี

ประมาณตี 4 กว่าๆเราก็ถึง วัดไทยสิริราชคฤห์ บาปหรือ
เปล่าก็ไม่รู้ต้องรบกวนหลวงพี่ หลวงพ่อ ให้เปิดประตูวัด
และห้องพัก เพื่อจะได้อาบน้ำ ล้างหน้า เปลี่ยนเสื้อผ้ากัน
อ้อ ตลอดทางที่มาฝนตกพร่ำๆ เป็นบางช่วง มาถึงวัดก็
ยังตกเป็นฝอยๆอยู่ แล้วก็กินอาหารเช้ากัน เป็นข้าวต้มกับ

วันนี้วันที่ 8 ต.ค. รุ่งขึ้นทางวัดจัดงานทอดกฐิน เราก็พลาด
โอกาสที่จะได้ร่วมพิธีด้วย






อาคารภายในวัด ที่ขายของที่ระลึก



อาหารเช้า มีแม่ชี และแม่ครัวเป็นคนทำ เมื่อกินอาหาร
เรียบร้อยแล้ว ก็ออกเดินทางไป เขาคิชฌกูฏ ซึ่งเป็นที่ที่
พระพุทธเจ้าเคยประทับ บริเวณนั้นจะมีสถานที่ที่สำคัญ
ประกอบด้วย สถานที่ที่พระสารีบุตรบรรลุพระอรหันต์
ถ้ำพระโมคคัลลานะ ที่ที่พระเทวทัตกลิ้งหินหวังทำร้าย
พระพุทธเจ้า โดยมีพระวิทยากร คือ พระอาจารย์อัมรินทร์
ท่านกำลังศึกษาปริญญาเอก ที่เดลลี และได้เดินทางมาช่วย
งานกฐินท่านเจ้าอาวาสวัดนี้
















ถ้าใครเดินไม่ไหว มีบริการแบบนี้ด้วย ฉันไม่ได้ถามว่า
เท่าไหร่ คุณป้าที่นั่งแคร่ เป็นสมาชิกเรา ท่านประสบ
อุบัติเหตุทางรถ หมอจะตัดขาทิ้ง แต่ท่านไม่ยอม ก็
รักษาจนพอเดินได้บ้าง มีจิตศรัทธาแรงกล้า ที่จะมา
กราบสังเวชนียสถาน เปิดเนทดูราคาประมาณ 660 รูปี





รูปต่อไปเป็นกระเช้าสำหรับขึ้นไปบนสถานที่ที่ญี่ปุ่น
เชื่อว่าพระพุทธเจ้าประทับบนนั้น เป็นกระเช้าเล็กๆ
น่าจะนั่งได้คนเดียว






ลงจากเขาก็แวะดื่มน้ำในร้านที่อยู่บริเวณนั้น แล้ว
ฉันก็ทำร่มหาย ไม่รู้วางทิ้งไว้ตรงไหน





แล้วก็ขึ้นรถเพื่อไปดูสถานที่ที่เป็นคุกขังพระเจ้าพิมพิสาร







ระหว่างทางผ่านที่เก็บสมบัติของพระเจ้าพิมพิสาร
แต่ไม่ได้แวะลง เพราะเวลาไม่พอ ต้องไปต่ออีก 2 แห่ง
คือ บ่อน้ำร้อนศักดิ์ ตโปธาร ที่ซึ่งพระพุทธองค์เคยเสด็จ
มาสรงน้ำ แต่ปัจจุบันเป็นของ ฮินดู แบ่งการอาบน้ำเป็น
ชั้นๆ ตามวรรณะ น้ำก็ไหลลงมาตามชั้น พอถึงชั้นสุดท้าย
ก็แลดูเหมือนน้ำครำ คนที่อาบน้ำชั้นนี้คือพวกศูทร เขา
ก็พอใจไม่เดือดร้อน ถือว่าเป็นบุญที่ได้อาบน้ำต่อจาก
คนวรรณะพราหมณ์ กษัตริย์ และ แพทย์







จากบ่อน้ำร้อน ก็เดินไปวันเวฬุวัน ซึ่งเป็นวัด
แห่งแรกในพระพุทธศาสนา และเป็นที่เกิด วันมาฆบูชา






ทุกที่ไปจะมีขอทาน และวิธีการของเขา คือ คนนึง
จะเกาะติดเราตลอดเวลาที่เดินไปชมสถานที่ และกราบไหว้
ส่วนมากจะเป็นเด็กเล็กๆ และจะสวดอิติปิโส ระหว่างที่
เดินตาม แต่เป็นการสวดแบบนกแก้วนกขุนทอง เพื่อ
เอาใจคนไทยให้เห็นว่าเขาก็สามารถสวดมนต์ได้






ศาลาไทยด้านหน้า วัดเวฬุวัน



ลานจตุรงคสันนิบาต ที่ซึ่งเชื่อกันว่า พระพุทธองค์
ทรงแสดง โอวาทปาติโมกข์ เมื่อออกจากวัดเวฬุวัน
แล้ว พวกเราก็กลับไปที่วัดไทยสิริราชคฤห์ เพื่อกิน
ข้าวกลางวัน และถวายผ้าป่า ตอนบ่ายก็ออกเดินทางไป
มนัสการหลวงพ่อองค์ดำ ที่แกะสลักจากหินสีดำ และ
เชื่อกันว่าอธิษฐานขอให้หายเจ็บป่วยได้ ด้วยการทาน้ำมัน
บริเวณที่เราเจ็บป่วยบนองค์พระ







บริการนั่งรถม้า ไปไหว้หลวงพ่อองค์ดำ




ตลอดทางก็จะมีคนมาขอทาน และประกบกันเป็นคู่ๆ
ไป ฉันมักจะโดนประกบทุกครั้งทุกที่ ไม่รู้เป็นเจ้ากรรม
นายเวรกันมาแต่ปางไหน หรือจะเป็นการสอนให้ฉันรู้
จักจาคะ หรือเปล่า แต่ฉันก็ช่วยเท่าที่จะทำได้ เพราะ
เห็นตัวอย่างพี่คนนึง เขาใจดีมาก ให้โดยไม่ดูสถานการณ์
เลยตกอยู่ในวงล้อมของเด็กเล็กจนเด็กโต น่ากลัวมาก
มาโนชต้องมาจัดการเอา ป้า ออกจากการโดนรุม เสีย
ดายฉันถ่ายรูปไม่ทัน เราต่างก็หมดอารมณ์ที่จะไป
มหาวิทยาลัยนาลันทา เพราะทางที่จะไป มีแพงลอยร้าน
ค้า และขอทานเต็มไปหมด ถ้าไปต้องโดนเกาะติดอีก
ทุกคนขอบาย ก่อนที่จะกลายร่างเป็น ยักษิณี


Create Date : 18 ตุลาคม 2552
Last Update : 20 ตุลาคม 2552 9:23:52 น. 6 comments
Counter : 1571 Pageviews.  

 
แวะมาเก็บข้อมูลครับพี่ อิอิอิ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 ตุลาคม 2552 เวลา:13:20:16 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...



แวะมาทักกันวันฝนกระหน่ำยามบ่าย ใน กทม. จ้าพี่แมงหวี่
เคยไปอินเดียเหมือนกันค่ะ ไปดูทัชมาฮาล
ไม่ค่อยต่างจากบ้านเรานะคะ ยกเว้นอิฐบ้านเขาก้อนใหญ่กว่า
ป.ล. ที่แนะนำกันส่วนใหญ่ได้ดูค่ะ มีบ้างส่วนน้อยที่ไม่ได้ดู
เรื่องของเรื่องคือชอบหาข้อมูลก่อนไปดูหนังหนะค่ะ



โดย: หอมกร วันที่: 20 ตุลาคม 2552 เวลา:16:18:59 น.  

 
เห็นเค้าว่ากันว่าถ้าเราให้ตังค์ขอทานหนึ่งคน ขอทานคนอื่นก็จะมารุมขอตังค์เรากัน ฟังแล้วก็น่ากลัวเหมือนกันเน๊าะ คงลำบากใจไม่น้อยเพราะเราคงไม่สามารถให้ตังค์กับทุกๆคนได้


โดย: BeachBum วันที่: 20 ตุลาคม 2552 เวลา:16:38:11 น.  

 
660 รูปีคิดเป็นเงินไทยคงไม่แพง
ได้นั่งแคร่แบบนั้นสักครั้งก็ดีนะครับ เป็นประสบการณ์


โดย: ลุงแอ๊ด วันที่: 20 ตุลาคม 2552 เวลา:19:34:32 น.  

 
ขอบคุณนะค่ะ ที่พาเที่ยวค่ะ....


โดย: จิ๊บ (คุณนายเยอรมัน ) วันที่: 20 ตุลาคม 2552 เวลา:20:52:30 น.  

 
พี่คะตุ้มรออ่านของพี่ อยู่นะ
อย่าให้แฟนคลับรอนาน
ของตุ้ม นั่งดูแต่รูป ได้แต่ปลื้ม
ว่าเมื่อไร จะได้กลับไปอินเดียอีก
ส่วนบันทึก ที่พี่เห็นตุ้มจดๆ เขียนๆ
ก็มีแต่อารมณ์ส่วนตัว ไม่ได้ข้อมูล
แจ๋วๆ แบบพี่เร้ย แย่จัง


โดย: ตุ้มค่ะ IP: 192.168.2.131, 122.154.9.253 วันที่: 2 พฤศจิกายน 2552 เวลา:16:15:12 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แมงหวี่@93
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




เรื่องส่วนตัวเล็กๆน้อยๆที่อยากให้รู้
[Add แมงหวี่@93's blog to your web]