มุ่งหน้าสู่อิตาลี
วันที่ ๑๑ พ.ค. ๕๒ เตรียมตัวกันแต่เช้าออกเดินทาง ไป มิลาโน จองรถไฟไว้เรียบร้อยแล้ว ก็อุ่นใจคิดว่า การเดินทางน่าจะราบรื่น นั่งรถไปลงที่ Stuttgart จาก Stuttgart ไป ซูริค แล้วต่อไป มิลาโน
เมื่อรถไฟมาเทียบชานชลา มันไม่ใช่รถแบบที่เราจอง ตั๋วไว้ ได้ความว่า เกิดเหตุขัดข้อง คนที่จะไปซูริคให้ขึ้น รถขบวนนี้ เราก็ตาลีตาลานขึ้นกัน เลือกนั่งตามใจชอบ เพราะที่จองที่นั่งไว้ใช้ไม่ได้แล้ว ปรากฏว่าที่ที่เราเลือก
นั่งเป็นของเด็กนักเรียนที่กลับจากทัศนศึกษา ๓๐ กว่า คน ก็ถกเถียงกัน เด็กก็ยืนยันจะเอาที่นั่ง เราก็ยืนยันว่า นั่งตรงไหนก็ได้ เพราะการรถไฟผิดพลาดให้เราขึ้นขบวน นี้ซึ่งคิดว่าราคาตั๋วน่าจะถูกกว่าที่เราจองไว้ ครูและการ์ดรถ
ต้องมาจัดการจึงตกลงกันได้ด้วยดี ถึงซูริคพอมีเวลา เดินไปอีกชานชลานึงซึ่งไม่ไกลมาก รถไฟออกจากซูริค ๑๓๐๕ น. โชคคีที่ไม่ต้องเปลี่ยนรถอีก


วิวข้างทางที่เข้าเขตสวิสฯ พยายาม ถ่ายรูปภูเขาที่มีหิมะ วิวข้างทางเขตสวิสสวยงาม ดูสงบเงียบน่าอยู่มาก ถึงสถานีรถไฟมิลาโน ๑๗๐๐ น. ถึงอิตาลีก็เห็นบรรยากาศของศิลปะ มีทั้งประติมากรรม และภาพเขียนอลังการ โดยเฉพาะรูปแกะสลักหินอ่อน ดูมีชีวิตชีวา เห็นทุกสัดส่วนเหมือนกล้ามเนื้อเต้นระริก

ที่พักคืนนี้คือ บ้านพักเยาวชน ที่อ่านเจอในเวบเทรคกิ้ง ไกลจากสถานีรถไฟเพราะต้องขึ้นรถใต้ดิน ๒ สาย ทั้งแดง และเขียว แต่เมื่อถึงแล้วเดินขึ้นข้างบน ก็สามารถเดินต่อ ไปที่พักได้ไม่ไกล ครั้งแรกที่ขึ้นรถใต้ดิน อาจขลุกขลัก
บ้างเพราะซื้อตั๋วไม่เป็น แต่รับรองมีคนพร้อมช่วยอยู่แล้ว แค่ช่วยซื้อตั๋วยังไม่พอ ใจดีพาไปส่งถึงสถานีที่ต้องขึ้นรถ แถมอีกต่างหาก ตั๋วขนส่งมวลชนที่อิตาลี ราคา ๑ ยูโรใช้ ได้ ๗๕ นาที ถ้า ๒๔ ชม. ราคา ๓ ยูโร ขึ้นได้ทั้งรถเมล์
และรถไฟ ของไทย ๓๐ บาท ใช้อะไรได้บ้าง ได้แค่รถ เมล์ที่จะเช่ามาราคาไม่สมเหตุสมผลรึเปล่า ที่พักเป็นห้อง รวม แยกเพศ มีกุญแจประตูห้องและล็อคเกอร์ให้ด้วย ราคาประมาณ ๑๙ ยูโร รวมอาหารเช้า ที่เยอรมัน
อาหารเช้ามีให้เลือกหลายอย่าง แต่ที่นี่มีแต่ ขนมปังแข็งๆ เนย แยม กาแฟ เท่านั้น อย่างอื่นต้องซื้อเอาเอง เก็บของแล้ว ทำเวลาเพราะนอนคืนเดียว พรุ่งนี้ต้องไปต่อ รีบออกไปเที่ยว คงได้ที่เดียวที่ฮิตๆ สุดยอดต้องไป ขึ้นรถใต้ดินพอถึงสถานี เดินโผล่ขึ้นมาก็เจอตั้งตระหง่าน อลังการตรงหน้า งดงามยาม ค่ำคืนที่พระอาทิตย์อัสดง



ไปถึงเลยเวลาที่เขาให้ขึ้นไปเดินบนหลังคาได้ ก็ได้แต่เดินชื่นชม บริเวณลานกว้างๆนั้น ที่ประตูโบสถ์ มีรูปแกะสลัก คนจะไปลูบไล้ที่ขาของรูปนั้นจนเห็นโลหะ แวววาว ฉันเองก็ไม่รู้สาเหตุที่แท้จริงว่าลูบเพื่ออะไร แต่ เข้าเมืองตาหลิ่วก็หลิ่วตาตาม


ข้างในอาคารนี้ เขาว่าเป็นศูนย์การค้าแฟชั่น ยี่ห้อดังๆที่มีมาเก่าแก่ ฉันก็ได้แต่เดินดู ไม่นิยมของแพง พรุ่งนี้จะไปเวนิสแล้ว ฉันว่าน่าจะนอนที่มิลาโนซัก ๒ คืน คงจะดีไม่น้อย แต่เราไม่มีเวลามาก ก็ไปแบบพอเป็นน้ำจิ้ม
Create Date : 09 มิถุนายน 2552 |
Last Update : 9 มิถุนายน 2552 11:12:18 น. |
|
6 comments
|
Counter : 736 Pageviews. |
|
 |
|
ดีใจจัง เจิมบลอคพี่แมงหวี่นี่ยากสุดๆ
เพราะไม่รู้เมื่อไหร่จะอั่พบ้าง
ฮ่าๆๆๆ อาทิตย์หน้าหนูไปโรมค่ะ
ปล. อีกทีก่อน submit ให้เป็นคนเจิม
รูปพี่แมงหวี่ที่ยิืนเป็นสง่าราศีอ่ะ หนูจำได้แล้วค่ะ แต่เอาแบบสุดใกล้เลยดีกว่า
อิอิอิ นะคะ