...แต่ละคืนวันที่ผันผ่าน มีเรื่องราวหลากหลายให้ค้นหา ...วานนี้ พรุ่งนี้ มินำพา ...เพียงรู้ว่า ทำวันนี้ให้ดีก็เพียงพอ ...มีความสุขกับทุกจังหวะของชีวิต
Group Blog
 
All blogs
 

I'm Coming Home...Peter Cetera



ถ้าพูดถึงนักร้องในยุค80ถึง90 มีนักร้องชายคนหนึ่งที่เสียงดี เคยร้องให้กับวงดังอย่างChicagoมาก่อนที่วงนี้จะปิดตัวลง แล้วเขาก็มาบินเดี่ยว และครั้งแรกที่บินเดี่ยว เพลงที่ร้องก็ได้รางวัลแกรมมี่ในฐานะเพลงประกอบภาพยนต์ยอดเยี่ยม..ภาพยนต์เรื่องนี้คือ Karate Kid...คงนึกถึงชื่อเพลงออกแล้ว ใช่ไหมครับ...The Glory Of Loveและเขาคนนี้ก็คือ....Peter Cetera
....ในช่วงการผลัดเปลี่ยนสหัศวรรษ(ไม่รู้ว่าเขียนถูกหรือเปล่า)เป็นช่วงที่เพลงสไตล์แร๊ปและฮิฟฮอฟมาแรง ก็เล่นพาเหรดกันติดอันดับBillboardจนผมซึ่งฟังเพลงป๊อปกับแจ๊ส เริ่มสงสัยและเริ่มน้อยใจเหมือนกัน ช่วงนั้นนักร้องหลายคนที่เคยร้องป๊อปต้องมีเพลงที่ทำนองดนตรีออกไปทางนั้น แม้ไม่ถึงกับเต็มต้ว แต่การใช้อิเล็คโทรนิคดรัมกับจังหวะดนตรีที่ออกแบบฉึกฉัก ก็มีเพลงปนมาในอัลบั้มเพลงบ้างสองเพลงบ้าง...สำหรับนักร้องที่ผมเห็นว่าทำแบบนี้ก็มีToni Braxton,Whitney Houston,Air Supply และPeter Ceteraก็เช่นกัน ในอัลบั้ม Another Perfect Worldก็มีเพลงหลายเพลงที่ถูกกระแสพัดพา แต่ผมก็เข้าใจว่า การปรับตัวให้เข้ากับกระแสนั้นเป็นสัจธรรมอย่างหนึ่งในวงการดนตรี
...มาถึง I'm Coming Home เพลงนี้ได้เล่าถึงความหมายของคำว่า "Home"ว่าหมายถึงการมีใครสักคน..นั่นก็คือเธอ ในยามที่กลับมาถึงบ้านแล้วไม่มีใครหรือไม่เห็นเธออยู่ด้วยนั้น...ก็รู้สึกว่าไม่ใช่บ้าน คำว่า"บ้าน"กลับหมายถึงความรู้สึกอบอุ่นใจที่เราได้มีใครสักคนที่มีความหมายสำหรับบ้าน
...แล้วตัวคุณล่ะครับ มีใครมาเติมเต็มให้คำว่า.."บ้าน"เป็นบ้านจริงๆหรือยังครับ ถ้ามีแล้วก็ขอให้ถนุถนอมเธอหรือเขาคนนั้นให้มากๆแล้วกันครับ...ถ้ายังไม่มี ก็หาเธอหรือเขาให้พบแล้วกันครับ....ฝันดีนะครับ เข้านอนแต่หัวค่ำเก็บแรงไปลุยงานในวันจันทร์ครับ

I'm Coming Home...Peter Cetera

Everytime I wake up,
Somewhere far away
Drowning over minutes
that were yesterday
I wonder what you're doing
Do you feel this way
Are you thinking of me too?

Looking in the mirror
all I wanna see
Is your pretty face
smiling back at me
There's nowhere in the world that
I would rather be
Than to be back home with you

I'm on my way
I promise you that I won't be long
I just called
Called you to say
I miss every little little moment
without you

And I can't wait
For us to be alone.
I'm almost in your arms.
I'm coming home.

And back when I'm alone
I really miss your touch
I hold on to your picture

And it means so much
To know that there is someone
Out there just for me
And you feel the same way too?

Everywhere I go I'd wish
That You were there
Everything I know I'd wish
that we could share

Everywhere I go
Makes me miss you so,

I'm on my way,
I promise you that I won't be long
I just called, called you to say
I Miss every little
moment without you

And I can't wait
For us to be alone
I'm Almost in your arms
I'm Coming home.

I can touch you
Everytime I close my eyes
Baby you can feel it,
If you just believe I'm Coming
Oooh I'm coming home

And I can't wait
For us to be alone.
I'm almost in your arms.
I'm coming home.

I'm coming home (mmmm).
Uh, I'm coming home






 

Create Date : 27 กรกฎาคม 2551    
Last Update : 3 พฤศจิกายน 2553 23:48:39 น.
Counter : 1417 Pageviews.  

Your Love..Jim Brickman Featuring Michelle Wright



ไม่ได้ฟังเพลงของJim Brickmanมานานหลายเดือนแล้ว ก็บังเอิญมีเพลงนี้ในแผ่นซีดีที่ไรท์ไว้ เปิดโดยบังเอิญ...เพลงนี้อยู่ในอัลบั้ม Vision of Love ออกมาในปี 1998 แต่ผมได้มาฟังจากในอัลบั้มรวมเพลงฮิต ผมคิดว่าหลายคนคงเหมือนผมคือติดหูเพลงของJim Brickmanจากเพลงร้อง Valentine และอาจนึกถึงเพลงอื่นเป็นเพลงแรกไม่ออกแน่ๆ และยิ่งไม่น่าเชื่อว่าผมเองไม่เคยแปะเพลงของหนุ่มโรแมนติกคนนี้ได้ยังไงมาเกือบปี
...อ่านเนื้อเพลงแล้วเข้าใจว่า สำหรับผู้หญิงคนหนึ่ง ความรักจากชายอันเป็นที่รักนั้นมีค่ามีความสำคัญมากเท่าไร...มากขนาดไหนก็แค่เป็นทุกอย่างของเธอ เป็นของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุด...บางครั้งผู้ชายอย่างผมอาจลืมไปว่าความรักนั้นมีค่ามากเท่าไรสำหรับคนๆนั้น แต่ผมเชื่อว่าหลังจากฟังเพลงนี้จนจบแล้ว...ผมและอีกหลายคนน่าจะเข้าใจความรักมากขึ้นและพร้อมจะถนอมความรักที่มีค่าสำหรับเธอผู้เป็นคนพิเศษ
...คืนนี้ภาวนาให้ทุกคนที่หลงทางผ่านเข้ามาในบล็อกที่ไม่มีสาระอะไรแห่งนี้ ได้หลับอย่างมีความสุข วางความไม่สบายใจแล้วพริ้มตาหลับอย่างไร้ความกังวลใดๆ ตื่นมาพร้อมหัวใจที่อยากแบ่งปันความรักให้กับโลกใบนี้....ฝันดีครับ

Your Love..Jim Brickman Featuring Michelle Wright

it's not the flowers, wrapped in fancy paper
it's not the ring, i wear around my finger
There's nothing in all the world i need
when i have you here beside me,
here beside me

Chorus
so you could give me wings to fly
and catch me if i fall
or pull the stars down from the sky
so i could wish on them all
but i couldn't as for more
cuz your love is the greatest gift of all

in your arms, i found a strength inside me
and in your eyes there's a light to guide me
i would be lost with out you
and all that my heart could ever want
has come true

so you could give me wings to fly
and catch me if i fall
or pull the stars down from the sky
so i could wish on them all
but i couldn't as for more
cuz your love is the greatest gift of all

you could offer me the sun, the moon
and i would still believe
you gave me everything
when you gave your heart to me

so you could give me wings to fly
and catch me if i fall
or pull the stars down from the sky
so i could wish on them all
but i couldn't as for more
cuz your love is the greatest gift of all

Your Love - Jim Brickman

MV"YOUR LOVE"






 

Create Date : 26 กรกฎาคม 2551    
Last Update : 26 กรกฎาคม 2551 23:08:45 น.
Counter : 2126 Pageviews.  

ชอบตอนนี้.....Friday



วันนี้ขอวกกลับมาฟังเพลงไทยบ้างแล้วกันครับ...จำไม่ได้ว่ารู้จักFridayยังไงและนานเท่าไหร่ เพราะจริงๆชอบคุณบอยตรัย จากการฟังเพลงในอัลบั้ม10ปีเบเกอรี่ ที่คุณบอยร้องเพลง"เขาไม่เกี่ยว" ก็เลยกลับไปค้นหาซีดีเพลงFridayชุดแรกมาฟังก็ยังไม่ชอบเลยทีเดียว จนค่อยๆฟังเพลงของคุณบอยตรัยมาเรื่อยๆ ความชอบก็ค่อยๆเพิ่มขึ้นตามเวลาที่ได้สัมผัสกับเพลงของคุณบอยตรัย จนถึงคราวที่ได้ออกอัลบั้มชุดใหม่ของFridayเมื่อปีก่อน ที่สามคนกลับมารวมกันอีก เป็นการนำประสบการณ์และแนวทางดนตรีของแต่ละคนที่ผ่านการขัดเกลาจากกาลเวลา มาผสมกันให้ได้ส่วนผสมทางดนตรีที่กลมกล่อม เหมาะแก่การค่อยๆจิบค่อยๆเสพรสทางดนตรี
...ผมอ่านบทสัมภาษณ์ของวงนี้ในหนังสือพิมพ์คมชัดลึกโดยอดุลย์ รัชดาภิสิทธิ์ หรือคุณดุลย์ได้พูดทำนองว่า"ฟรายเดย์จะทำงานที่รักษาความเป็นฟรายเดย์ต่อไป เพราะมีแฟนเพลงกลุ่มหนึ่งที่ติดตามงานมาตลอดแบบไม่ทิ้งกัน และเราเชื่อว่าเพราะเราทำงานให้ดีแบบนี้เลยมีคนที่อยากเป็นกลุ่มแฟนที่รักกันจริง ไม่ต้องมากหรอกครับ เราก็พออยู่ได้"...ประมาณนี้แหละครับ ผมเคยตั้งคำถามว่า ดนตรีที่มีความเป็นดนตรีจริงๆจะคงอยู่ในท่ามกลางกระแสดนตรีเห่อตามกระแสได้ไหม ฟรายเดย์เป็นหนึ่งในคำตอบที่เป็นรูปธรรมที่ผมเห็น และตอบตัวเองว่ามันมีจริงนะจุดบรรจบระหว่างศิลป์กับธุรกิจ แม้ไม่ได้ถล่มทลายเช่นกับดนตรีกระแสของค่ายใหญ่ๆ แต่นักดนตรีพออยู่ได้ งานก็มีคนตามดู

..วันนี้ต่อมขี้โม้ทำงานเยอะเขียนพล่ามไปเยอะ กลับมานั่งอ่านสำนวนตัวเองแล้วชักไม่แน่ใจว่าตัวเองเขียน มันเว่อร์กว่าทุกกระทู้ คงเป็นเพราะไม่มีข้อมูลอะไรมากมายกับอัลบั้มพิเศษของฟรายเดย์ เลยหาทางออกด้วยการเฉไฉแบบนี้
...ลองป้อนคำว่า"ชอบตอนนี้"เข้าไปในกูเกิล...คำนี้ถูกใช้ในการเขียนบอกตอนที่ชอบของทั้งหนังทั้งละครเต็มไปหมดเลยครับ เลยนั่งนึกในใจว่า...แล้วละครชีวิตที่ผ่านมาในรอบปีที่ตอนไหนที่ผมชอบ...เดาไม่ถูกสิครับ ตอนที่ผมชอบที่สุด คงเป็นตอนที่ใจตัวเองกล้าบอกตัวเองว่าแอบชอบแอบมองใครสักคน แล้วกลายเป็นว่าแอบรักเขาข้างเดียวจริงๆ...
...ชอบตอนนี้ที่สุดเลยครับ และชอบทุกๆตอนของชีวิตที่ผ่านมาครับ...Happyกับทุกอย่างในชีวิต

ชอบตอนนี้.....Friday

ราวกับเวทย์มนต์ดลใจฉันให้ยิ้มออก
เหมือนปลดล็อคประตูหัวใจ
วันนี้ได้เจออะไรที่ขาดไปเสียที

ไม่อยากจะเชื่อว่าการได้พบและได้รู้จักเธอ
ทำให้ฉันเจอ เจออะไรแบบนี้
ฉันเข้าใจแล้วความรู้สึกที่เราเรียกว่าใช่
และเพิ่งเข้าใจว่าปาฏิหาริย์นั้นมี

ทุกอย่างดีเมื่อได้เจอเธอ
เพราะมีเธอมันเลยพอดี
มันจะน้อยหรือมากก็ช่างมัน
ฉันชอบอย่างนี้

ชอบตอนนี้ ชอบแบบนี้ แค่เท่านี้พอดีกับฉัน
ถูกอย่างไร ผิดอย่างไร เวลานี้คงไม่สำคัญ
ขอเพียงความรู้สึกของเธอ ที่มีลึกซึ้งกับฉัน
นั่นก็เพียงพอแล้ว

คงเหมือนกับวันอากาศดีที่ไม่มีเมฆบัง
ไม่ต้องระวังว่าฝนจะตกที่ไหน
จริงๆ ก็ไม่รู้หรอกว่านี่คือใช่หรือเปล่า
แต่ตอนนี้โอเคมันลงตัวสำหรับเรา

ทุกอย่างดีเมื่อได้เจอเธอ
เพราะมีเธอมันเลยพอดี
มันจะน้อยหรือมากก็ช่างมัน
ฉันชอบอย่างนี้

ชอบตอนนี้ ชอบแบบนี้ แค่เท่านี้พอดีกับฉัน
ถูกอย่างไร ผิดอย่างไร เวลานี้คงไม่สำคัญ
ขอเพียงความรู้สึกของเธอ ที่มีลึกซึ้งกับฉัน
นั่นก็เพียงพอแล้ว

เป็นอะไรที่ไม่ต้องพยายาม ฉันและเธอเข้าใจ
จะเก็บความรู้สึกที่มีเอาไว้ อยู่ในหัวใจ

ชอบตอนนี้ ชอบแบบนี้ แค่เท่านี้พอดีกับฉัน
ถูกอย่างไร ผิดอย่างไร เวลานี้คงไม่สำคัญ
ขอเพียงความรู้สึกของเธอ ที่มีลึกซึ้งกับฉัน
นั่นก็เพียงพอแล้ว

ชอบตอนนี้ - Friday






 

Create Date : 24 กรกฎาคม 2551    
Last Update : 24 กรกฎาคม 2551 22:45:22 น.
Counter : 918 Pageviews.  

LET'S FACE THE MUSIC AND DANCE....Diana Krall



ช่วงนี้ถูกน้องแฟงแซวมาว่า ผมเอาแต่เพลงร้องของนักร้องสาว ไม่เห็นมีเพลงอย่างอื่นเลย ก็พอดีผมไปค้นเจอแผ่นซีดีmp3ที่ผมรวบรวมเพลงที่ผมชอบไว้ เขียนเก็บไว้ดีมากจนเพิ่งมาหาเจอ...ผมก็ชอบนักร้องสาวอยู่แล้วครับ เป็นธรรมดา.....เพราะเสียงเธอมีเสน่ห์จริงๆ ฟังแล้วสบายหู สบายใจ มีนักร้องสาวเพลงแจ๊สคนหนึ่งที่ผมประทับใจทั้งเสียงร้องและลีลาการเล่นเปียโนของเธอ....Diana Krall หลายคนคงร้อง...อ้อ รู้จักกันบ้าง อย่างวันนี้ที่ผมหยิบเพลงLET'S FACE THE MUSIC AND DANCE จากอัลบั้มของเธอในปี 1999....When I Look in Your Eyes ซึ่งอัลบั้มนี้ก็ได้เข้าชิงรางวัลแกรมมี่ในส่วนอัลบั้มแห่งปี 2000 ผมฟังเพลงทั้งอัลบั้มแล้วก็รู้สึกว่าเธอทำเพลงแจ๊สออกมาได้น่าฟัง แม้ว่าเพลงLet's Face the Music and Danceนี้จะถูกเขียนมาตั้งแต่ปี 1936 โดย Irving Berlin เพื่อเป็นเพลงประกอบหนังเรื่อง "Follow the Fleet"....

LET'S FACE THE MUSIC AND DANCE....Diana Krall
There may be trouble ahead
But while there's music and moonlight and love and romance
Let's face the music and dance

Before the fiddlers have fled
Before they ask us to pay the bill and while we still have the chance
Let's face the music and dance

Soon we'll be without the moon, humming a different tune and then
There may be teardrops to shed
So while there's moonlight and music and love and romance
Let's face the music and dance



MVของเธอครับ








 

Create Date : 20 กรกฎาคม 2551    
Last Update : 29 กรกฎาคม 2554 9:57:05 น.
Counter : 1208 Pageviews.  

It Wouldn't Have Made Any Difference...Alison Krauss



กลับมาที่ผลงานของAlison Kraussกันอีกครั้ง ในอัลบั้มของเธอนั้นส่วนใหญ่เป็นเพลงโฟลค์ซึ่งมีเพลงช้าเท่านั้นที่ผมชอบ ก็เอาเป็นว่าเน้นเพลงช้าๆฟังสบายอารมณ์แล้วกันครับ
เพิ่งรู้เหมือนกันว่าในBloggangนั้นมีคนเขียนเรื่องของAlison Kraussไว้เยอะเหมือนกัน ที่แน่ๆใครๆก็ชมความนุ่มของเนื้อเสียงของเธอ โดยเฉพาะกับเพลงWhen you say nothing at all ซาวน์แทร็กหนัง NOTHING HILL..เพลงแนวนี้เขาเรียกกันว่า บลูแกรสซึงผมไม่มีความรู้เลย เท่าที่ไปอ่านบล็อกคนอื่นเขาพูดทำนองว่าเป็นดนตรีคันทรี่อเมริกันที่ต่อยอดไปอีกโดยเอาบลูกับการเล่นแบบอิมโพลไวท์เข้ามาผสม แต่ที่แน่ๆดนตรีประเภทนี้ใช้เครื่องดนตรีของอเมริกันอย่างแบนโจแน่ๆ
มีบล็อกของคุณbuddhiที่เขียนถึงAlison Kraussอยู่ลองเข้าไปอ่านได้..ที่
บล็อกคุณBuddhi

เพลงนี้อยู่ในอัลบั้มForget about It ออกมาในปี 1999

It Wouldn't Have Made Any Difference...Alison Krauss

Do you remember the last time I said
If I ever thought of lying
I'd rather think of dying instead
And the last time you called me
To say we were through
How it took a million tears
Just to prove they all were for you

But it wouldn't have made any difference,
If you loved me
How could you love me
When it wouldn't have made any difference,
If you loved me
You just did not love me

'Cause I know of hundreds of times I could be
In the most unfaithful arms
That you always picture me
Though I can't always show proof I was true
No one else could change my mind
Or stop me coming home to you

But it wouldn't have made any difference,
If you loved me
How could you love me
When it wouldn't have made any difference,
If you loved me
You just did not love me

Enough to believe me
Enough not to leave me
Enough not to look for
A reason to be unhappy with me
And make me regret ever wanting you

It wouldn't have made any difference
Wouldn't have made any difference





ฟังเพลงของAlison Krauss...Baby Now that I Found You ...
คลิ๊กที่นี่ครับ




 

Create Date : 13 กรกฎาคม 2551    
Last Update : 29 พฤศจิกายน 2553 22:23:59 น.
Counter : 1655 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  

JazzLover
Location :
ลำปาง Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




หนุ่มราศีมังกร เลือดกรุ๊ปโอ ตัวโต ขี้ใจน้อย เหงาบ้างเป็นบางอารมณ์ และชอบหาเพลงมาฟังแก้เหงาประจำ...ฟังเพลงทุกประเภท
New Comments
Friends' blogs
[Add JazzLover's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.