...แต่ละคืนวันที่ผันผ่าน มีเรื่องราวหลากหลายให้ค้นหา ...วานนี้ พรุ่งนี้ มินำพา ...เพียงรู้ว่า ทำวันนี้ให้ดีก็เพียงพอ ...มีความสุขกับทุกจังหวะของชีวิต
Group Blog
 
All blogs
 
ความเชื่อ....BodySlam




กระทู้นี้คงเป็นกระทู้สุดท้ายของหมวด Song for My Memoryประจำปี ๒๕๕๐.นั่งคิดไปคิดมาหลายรอบถึงสิ่งที่อยากโพสเป็นเรื่องส่งท้ายปีนี้ ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาผมได้เปลี่ยนอะไรในตัวเองไปหลายอย่าง ทุกครังที่เปลี่ยนก็ได้พบว่า ที่ผ่านมาอุปสรรคที่กั้นตัวผมไม่ให้เข้าถึงสิ่งที่ต้องการมาโดยตลอด คือ ทัศนคติของตัวเอง เปลี่ยนทัศนคติแล้วทำให้ตัวผมเองเปลี่ยนไปจริงๆ ทัศนคติของคนเรามาจากความคิด และความคิดมาจากความเชื่อ ดังนั้นความเชื่อเปลี่ยน ความคิดเปลี่ยน และทัศนคติก็เปลี่ยน.หลายครั้งที่ผมต้องนั่งทำงานในช่วงที่พี่ๆเพื่อนๆที่ทำงานด้วยกันหยุดในช่วงเทศกาล แรกๆก็พยายามจูงใจตัวเองให้ทำงานด้วยค่าล่วงเวลาที่ได้รับกลับมา แต่สุดท้ายมันก็ไม่ใช่สิ่งที่พยุงจิตใจให้ทำงานต่อไปได้ บางครั้งเกิดอาการเบื่อหน่าย แถมจะเกลียดและหาทางอู้งานบ้าง หลบงานบ้าง ผมมานั่งคิดว่าทำไมผมต้องกลัวต้องหลบสิ่งเหล่านี้ ผมต้องถูกเรื่องแค่นี้มาสยบเหมือนหนูที่กลัวแมวอย่างนั้นหรือ ผมต้องอยู่อย่างมีศักดิ์ศรี จะไม่ยอมหลบ กลับมาทบทวนก็ได้เจอว่า เพราะผมมีทัศนคติที่ไม่เหมาะสมกับงาน คิดว่า งานนี้ไม่ใช่เรื่องของผม ผมแค่มาทำแทนเท่านั้น ทำให้จบๆก็พอ บางครั้งก็คิดว่าเพราะงานที่ทำนั้นไม่ได้นำมาซึ่งความรู้สึกดีๆ ผมพ่วงการถูกปัดงานจากคนอื่นไว้กับความรู้สึกที่ต้องทำงาน มันก็ยิ่งแย่ลงไปเรื่อยๆ ผมวนเวียนทำงานด้วยความรู้สึกแบบนี้มาหลายเดือนหลายปี ผมรู้สึกเหมือนถูกจองจำด้วยงานแบบนี้ทัศนคติแบบนี้.....งานไม่ได้สร้างความรู้สึกดีๆให้ผมเลย แต่หลายเดือนที่ผ่านมาผมได้อ่านหนังสือมากขึ้น ได้ทบทวนสิ่งต่างๆมากขึ้น ผมได้พบข้อสรุปที่ฉุดตัวเองให้หลุดจากวงจรอันน่าเบื่อได้ในระดับหนึ่ง

...ข้อแรก ผมนึกถึงคำพูดของคุณตัน โออิชิว่า ถ้าช่วงที่คุณเป็นลูกจ้าง ยังไม่ขยันทุ่มเท ก็อย่าหวังเลยว่าพอคุณออกมาทำกิจการเองแล้วคุณจะขยันทุ่มเท ผมอ่านอยู่หลายรอบและเห็นด้วย แม้บางครั้งผมจะคิดว่าทำไมต้องขยันให้กับองค์กรบริษัทด้วย ทำเท่าที่พอกับเงินเดือนก็พอ แต่สิ่งที่คุณตันพูดมันเป็นเรื่องที่ลึกซึ้งจริงๆ....คือการปลูกฝังนิสัย 'ขยันและทุ่มเท' คุณต้องทำเป็นประจำจนเป็นนิสัยแล้วมันจะติดตัวคุณไปจนตาย ไม่ต้องสนใจว่าบริษัทจะได้อะไรจากการคิดแบบนี้เลย สิ่งนี้เป็นต้นทุนชีวิตของเราเองที่จะพาเราให้อยู่รอดต่อไปบนโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว...เราทำเพื่อตัวเราเองจริงๆครับ..ผมนั่งคิดว่า ทุกอย่างที่ผมทำไปในงาน สุดท้ายจะวกกลับมาที่ตัวผมเอง ไม่ว่านิสัยในการทำงาน ความสุขในการทำงาน และภาพพจน์ตัวเองที่คนรอบข้างเห็นตัวเราในตอนทำงาน....ถ้าผมทำงานอย่างดี ด้วยความขยันทุมเท ใครเห็นก็ติดตาว่าผมเป็นคนแบบนี้ ยามใดที่มีงานดีๆ เขาก็คงคิดถึงผมก่อน.....ผมเชื่อครับว่า คนสร้างนิสัยและนิสัยก็จะกลับมาสร้างคน....

...ข้อที่สอง การตั้งคำถามที่ถูกต้อง อันนี้ผมได้มาจากการอ่านหนังสือของคุณหนุ่มเมืองจันทร์ที่เขียนหนังสือ "ฟาสฟู้ดธุรกิจ" ผมได้อะไรๆเยอะมากจากข้อเขียนนี้ อีกเล่มหนึ่งที่ช่วยจุดประกายคือหนังสือของคุณหมอเทอดศักดิ์ เดชคง และอีกเล่มหนึ่งเป็นการ์ตูนครับ เรื่องFantatista ผมชอบพระเอกที่เมื่อเข้ายามคับขัน เขาจะพูดกับตัวเองตลอดว่า"คิดให้ออกว่า โค้ชบอกอะไร"..."มีอะไรซ่อนอยู่ในเรื่องในสถานการณ์ที่เรากำลังเผชิญ".....คำถามที่ถูกต้อง จะให้คำตอบที่ถูกต้องกับเรา และคำตอบนั้นจะสร้างความรู้สึกให้เราอีกทอดหนึ่ง...ผมมักถามตัวเองเสมอๆเวลาที่ต้องพบกับสถานการณ์ที่ไม่พึงปรารถนาว่า อะไร ใคร นำผมมาพบสิ่งที่ผมไม่ชอบเหล่านี้ และพานโกรธไม่พอใจในสาเหตุที่ตัวเองด่วนสรุปไป และพกพาความฉุนเฉียวใจไปเผชิญกับสถานการณ์นั้น คงไม่ต้องเดาว่า งานก็ผ่านแบบดีบ้าง ไม่ดีบ้าง ส่วนใหญ่ไม่ดี ผมเริ่มถามตัวเองใหม่ หัดถามฝึกถามตัวเองใหม่ว่า "ผมมีวิธีอะไรที่จะผ่านเรื่องนี้ไปอย่างสนุกสนาน ไปด้วยความรู้สึกดีๆ"..ส่วนใหญ่มักมีวิธี และเกิดแนวคิดที่ทำให้ตัวเองสงบลง และทำงานต่อไปด้วยความเยือกเย็น และสนุกกับงานไป จบด้วยความรู้สึกดีๆ.....ผมเคยถามเธอคนนั้นของผมถึงเรื่องวิธีการจะผ่านเรื่องที่ไม่พึงปรารถนา เธอเคยพูดให้ผมได้คิดว่า"ไม่ว่ายังไงเราก็ต้องผ่านเรื่องนั้น ขอให้เชื่อเถอะว่าเราจะต้องผ่านมันไปได้แล้วเราจะผ่านมันไปได้จริงๆ"..ยังงี้ไม่ให้ผมชอบคุยกับเธอได้ยังไง เพราะครั้งนั้นทำให้ผมได้สงบอารมณ์ไปได้เยอะและทำงานต่อด้วยความสุข.สำหรับเรื่องเงินตอบแทนที่ได้มานั้น เงินที่พ่วงมากับความรู้สึกแย่ๆนั้น เวลาใช้ก็มักพ่วงความรู้สึกแบบนั้นไปด้วย ส่วนใหญ่เราก็มักไม่เก็บเงินที่ได้มาพร้อมกับความรู้สึกแบบนั้น ผมมีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากความไม่สบอารมณ์จากงานที่ต้องทำแบบนั้น...ถ้าลองอ่านเรื่องThe Millionaire Secret เขาก็พูดถึงผู้ชายที่เก็บเงินไม่อยู่ เพราะเขารู้สึกไม่ดีกับเงินที่ได้มา มันเป็นกลไกของจิตใต้สำนึก....ซึ่งผมพิสูจน์แล้วว่าจริง หลังๆผมเริ่มเก็บเงินติดตัวได้มากขึ้น เพราะผมทำงานด้วยความรู้สึกยินดีมีความสุข และมองข้ามเรื่องค่าตอบแทนไปเลย คิดอย่างเดียวว่าจะทำงานให้ผ่านไปอย่างมีความสุขยังไง เงินจะได้มากได้น้อยก็ไม่คิดถึง บางทีก็หงุดหงิดถ้าเงินได้น้อยกว่าที่หวัง.

...ข้อที่สามและท้ายสุด ชีวิตเป็นเรื่องของการวางแผน หลายครั้งผมยืนอยู่หน้าชั้นวางหนังสือประเภทสร้างเสริมจิตใจ ประเภทบริหารธุรกิจ แล้วชอบหนังสือหลายเล่ม แค่เปิดๆดูแล้วอยากอ่านและอยากซื้อ ซึ่งบางทีก็รบกวนเงินในกระเป๋า แต่ผมพยายามควบคุมค่าใช้จ่ายด้วยการจ่ายเงินสด เพราะทำให้เราเห็นว่าการอยากได้สิ่งนั้นสิ่งนี้เราต้องควักเงินสดเท่านี้แล้วมันคุ้มไหม..และผมเกิดคำถามขึ้นมาอีกว่า แล้วหลายๆเล่มที่รับประกันวิธีนั้นวิธีนี้ มันจะใช้ได้จริงไหม ผมก็ตอบตัวเองยังไม่ได้ หลายครั้งได้หนังสือที่ไม่ต้องการมาเหมือนกัน.เมื่อกลับมานั่งทบทวน ก็คิดว่าเป็นเพราะผมไม่เคยวางเป้าหมายจริงๆในการใช้ชีวิต จึงเลือกไม่ได้ว่าอะไรเป็นสิ่งจำเป็น อะไรต้องทำก่อน มองไม่ออกว่าอะไรคืออะไร ต้องวางแผนให้เหมาะสมกับทรัพยากรที่เรามี...เวลา เงินทอง สมอง

...วันนี้เขียนยาวกว่าปกติแถมเป็นเรื่องของชีวิตการทำงานอีก คงไม่เบื่อกันนะครับ
ปีหนึ่งถึงจะได้เขียนเรื่องที่นั่งทบทวนตัวเองครับ....สำหรับเพลง"ความเชื่อ"...ผมก็เพิ่งมารู้จักเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จากการเข้าไปอ่านบอร์ดของwww.thaiseoboard.com เลยรู้จักเพลงความหมายดีๆอีกเพลง....

ขอให้ทุกท่านมีความเชื่อและทัศนคติที่ถูกต้อง นำพาท่านไปสู่ความสุขในชีวิต
สวัสดีปีใหม่ครับทุกท่าน...ความสุขของท่านอยู่ในมือท่านเองครับ


ความเชื่อ
อัลบั้ม: Believe

มันเกือบจะล้มมันเหนื่อยมันล้าเหมือนแทบขาดใจ
เดินมาจนท้อไม่เจอจุดหมายปลายทางที่ฝัน
จะกลับได้ไหมถ้าเดินต่อไปยากเย็นขนาดนั้น ยังถามใจ

ตลอดชีวิตฉันเจอในสิ่งที่คิด
หรือมันจะเป็นอะไรที่ผิด และฉันเองที่หลงทาง

ชีวิตมันต้องเดินตามหาความฝัน หกล้มคลุกคลานเท่าไหร่
มันจะไปจบที่ตรงไหน เมื่อเดินเท่าไหร่มันก็ไปไม่ถึง

เดินต่อช้าๆไม่อยากปล่อยฝันให้มันหลุดมือ
ที่สั่งให้ฉันไปต่อก็คือความเชื่อเท่านั้น
ถ้าในวันนี้เรี่ยวแรงยังเหลือก็ยังต้องฝัน ต้องก้าวไป

ตลอดชีวิตฉันเจอในสิ่งที่คิด
แม้ไม่ว่ามันจะถูกหรือผิด จะขอทำสุดหัวใจ

ชีวิตมันต้องเดินตามหาความฝัน
หกล้มคลุกคลานเท่าไหร่
มันจะไปจบที่ตรงไหน
แต่จะยังไงก็ต้องไปให้ถึง
ที่สุดถ้ามันจะไม่คุ้ม
แต่มันก็ดีที่อย่างน้อย
ได้จดจำว่าครั้งนึงเคยก้าวไป
แค่คนที่เชื่อในความฝัน
จะเหน็ดจะเหนื่อยก็ยังต้องเดินต่อไป

(ฉัน/แม้)ท้อแท้สักกี่ทียังมีหวัง
แม้พลาดพลั้งสักกี่ครั้งยังฝันไกล
แม้ฉันล้มฉันก็คงไม่ตาย
ฉันยังไม่ตายฉันยังคงหายใจ

(ฉัน/แม้)ท้อแท้สักกี่ทียังมีหวัง
แม้พลาดพลั้งสักกี่ครั้งยังฝันไกล
แม้ฉันล้มฉันก็คงไม่ตาย
ฉันยังไม่ตายฉันยังคงหายใจ

ชีวิตมันต้องเดินตามหาความฝัน
หกล้มคลุกคลานเท่าไหร่
มันจะไปจบที่ตรงไหน
แต่จะยังไงก็ต้องไปให้ถึง
ที่สุดถ้ามันจะไม่คุ้ม
แต่มันก็ดีที่อย่างน้อย
ได้จดจำว่าครั้งนึงเคยก้าวไป
แค่คนที่เชื่อในความฝัน
จะเหน็ดจะเหนื่อยก็ยังต้องเดินต่อไป

(ฉัน/แม้)ท้อแท้สักกี่ทียังมีหวัง
แม้พลาดพลั้งสักกี่ครั้งยังฝันไกล
แม้ฉันล้มฉันก็คงไม่ตาย
ฉันยังไม่ตายฉันยังคงหายใจ

(ฉัน/แม้)ท้อแท้สักกี่ทียังมีหวัง
แม้พลาดพลั้งสักกี่ครั้งยังฝันไกล
แม้ฉันล้มฉันก็คงไม่ตาย
ฉันยังไม่ตายฉันยังคงหายใจ

ขอบคุณเนื้อเพลงจากเวปไซด์สยามโซน.....www.siamzone.com

ผมขออภัยทุกท่านที่เปิดเข้ามาในหน้านี้แล้วไม่มีเพลงให้เปิดฟัง เนื่องด้วยทางจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ได้ประกาศจะทำการเอาผิดทางกฎหมายกับผู้ที่นำเพลงของค่ายมาแปะบนกระทู้โดยจะดำเนินการทางกฎหมายทางเพ่งและอาญากับผู้กระทำดังกล่าว
ผมมีความเสียใจเป็นอย่างมากที่การนำเพลงมาแปะให้ฟังกลายเป็นสิ่งที่บริษัทมองว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ ทั้งที่ความตั้งใจของผมและอีกหลายคนที่แปะเพลงในกระทู้นั้น เพราะเราชอบเพลงนั้น จึงนำมาแปะให้คนอื่นได้ฟังเท่านั้น ไม่ได้มีความตั้งใจให้ดาว์นโหลดหรือแม้จะแจกเพลงเลย
ผมคงไม่โพสเพลงของค่ายนี้อีกแล้วครับ บริษัทมองแต่เรื่องผลประโยชน์มากเกินไป เอากฏหมายมาข่มขู่คนฟังเพลง ซึ่งเราตั้งใจให้คนอื่นได้รู้จักเพลงนั้น เราช่วยทำให้มีคนฟังเพลงของค่ายเขามากขึ้น แต่เขากลับมองว่าเราละเมิดลิขสิทธิ์
สุดท้าย ผู้ฟังจะตัดสินเองว่าสิ่งที่เขากำลังทำนั้นจะยอมรับได้ไหม




กระทู้นี้ฉลองครบ 300 กระทู้ด้วยครับ

First Post On 31 ธันวาคม 2550 21:45:04 น.





Create Date : 31 ธันวาคม 2550
Last Update : 31 ตุลาคม 2555 11:35:04 น. 0 comments
Counter : 1428 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

JazzLover
Location :
ลำปาง Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




หนุ่มราศีมังกร เลือดกรุ๊ปโอ ตัวโต ขี้ใจน้อย เหงาบ้างเป็นบางอารมณ์ และชอบหาเพลงมาฟังแก้เหงาประจำ...ฟังเพลงทุกประเภท
New Comments
Friends' blogs
[Add JazzLover's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.