* กลัว.... เต้นท์รถ *

กาลครั้งหนึ่ง ผ่านมา ไม่นานเท่าไหร่
หิ่งห้อยน้อยใจ เดินทาง เข้าเมืองหลวง
ไม่ได้ดู ฤกษ์ยาม ถามถึงดวง
ว่าต้องห่วง ด้านไหน จะได้ระวัง

ไปเต้นท์รถ แห่งหนึ่ง ถึงถิ่นเขา
เพื่อจะเอา ตีราคา ด้วยใจหวัง
ว่าจะได้ ราคาที่ พอประทัง
เก็บสตังค์ ดาวน์รถ เอสยูวี

ด้วยหิ่งห้อย เป็นเด็กเซ่อ แถมซุ่มซ่าม
เข้าไปถาม ตีราคา เท่าไหร่นี่
เขาก็บอก หนึ่งเจ็ดห้า ว่าพอดี
แต่น้องมี อีกคัน นั้นไม่เอา

จึงไม่ได้ ขายให้ ในวันนี้
เพราะว่ามี รายอื่น ยื่นมาเหมา
ทั้งสองคัน สามหกห้า มาบรรเทา
จึงให้เขา ไปหมด จ่ายสดมา

รายแรกจึง โทร.มา ดั่งหาเรื่อง
ว่าทำเครื่อง โนเกียเขา เสียหนักหนา
ต้องซื้อใหม่ ชดใช้ ในราคา
และต่อว่า ให้รันทด สลดใจ

ก็ไม่ได้ ตั้งใจ ในวันนั้น
หนังสือมัน บังอยู่ พี่รู้ไหม
พอดึงมา โทรศัพท์จึง หล่นลงไป
แต่ก็ไม่ เห็นแตก แหลกคาตา

ยังเห็นพี่ ใช้งาน โทร.ออกได้
แล้วยังไง ผ่านมา เดือนกว่ากว่า
เพิ่งมาเสีย วันนี้ ที่แจ้งมา
ให้น้องหา เครื่องใหม่ ซื้อใช้คืน

จะจ่ายค่า ซ่อมให้ พี่ไม่รับ
แถมว่ากลับ จนใจ ได้ขมขื่น
ต้องชดใช้ เครื่องใหม่ เร่งวันคืน
น้องจึงยืน ทำหน้าเซ่อ เอ๋อไปเลย







คือ........

เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า.......

ก่อนที่หนูหิ่ง ฯ จะซื้อรถใหม่ ก็ต้องเอารถเก่าทั้ง 2 คันไปขายก่อน เพื่อจะได้เอามาเป็นเงินดาวน์

ที่ศูนย์รถ ก็หาเต้นท์รถมาตีราคาให้ แต่พี่ ๆ หลายคนบอกให้ไปตีราคาหลาย ๆ ที่ เพื่อจะได้ราคาดีกว่า

ก็มีเพื่อนแนะนำให้ไปตีราคาที่เต้นท์รถแห่งหนึ่ง





หนูหิ่ง ฯ ดันเซ่อซ่าไม่ดูตาม้าตาเรือ ไปหยิบหนังสือบนโต๊ะม้าหินอ่อนมาอ่าน

ทำให้โทรศัพท์ที่วางทับหนังสือหล่นลงไป

ตอนที่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา หนูหิ่ง ฯ ก็ดูแล้วว่าโทรศัพท์ปรกติดี แล้วก็ไหว้ขอโทษแล้วด้วย

พี่เขาก็บอกว่าไม่เป็นไร แล้วก็เห็นพี่เขาใช้โทรอยู่ตลอดครึ่งวันบ่าย ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

แต่รถของหนูหิ่ง ฯ สองคัน พี่เขาจะเอาคันเดียว

ประกอบกับหนูหิ่ง ฯ ไม่มีเวลาที่จะไปต่อรองราคา เพราะจองรถไว้แล้ว ต้องรีบขาย 2 คันนี้

หนูหิ่ง ฯ ก็เลยขายให้เต้นท์ที่เขาซื้อทั้ง 2 คัน แต่ก็ไม่ได้บอกเต้นท์นี้ เพราะเห็นว่าไม่จำเป็นต้องบอก

ปรากฎว่า พี่เขาโทร.หาพี่สาวหนูหิ่ง ฯ บ่อย ๆ เรื่องรถ และคงจะรู้ว่าหนูหิ่ง ฯ ไม่ขายให้

ก็เลยหาเรื่องว่าหนูหิ่ง ฯ ทำโทรศัพท์ของเขาพัง แล้วถามว่าจะเอายังไง ประมาณว่าพูดไม่ดีเลย

แล้วก็โทร.มารังควานตลอด เปลี่ยนกันโทร. เปลี่ยนคนโทร. เปลี่ยนเบอร์โทร.

จนทำให้พี่สาวหนูหิ่ง ฯ กลัว







พี่สาวหนูหิ่ง ฯ บอกว่าจะจ่ายค่าซ่อมให้ ก็หาว่าพี่สาวหนูหิ่ง ฯ เบ่ง (ตรงไหนฟะ)

และถามพี่สาวหนูหิ่ง ฯ ว่า....

ถ้ามีคนไปที่บ้าน แล้วหยิบโทรศัพท์ของคุณขว้างทิ้ง แล้วถามจ่ายค่าซ่อมให้ คุณจะรับไหม ?

อ้าว ! มันคนละอย่างกัน หนูไม่ได้เจตนาสักหน่อย

แบบว่า.... โต๊ะหินอ่อนก็ไม่สูง ที่ตัวโทรศัพท์ไม่มีรอยถลอกด้วยซ้ำ

แล้วก็ผ่านมาเกือบ 2 เดือน แล้วก็เพิ่งมาเสียตอนนี้

อยากทราบว่าโทรศัพท์โนเกีย รุ่น N70 สามารถสะสมระยะเวลาก่อนเสียได้นานขนาดนี้เลยหรือ ?

ตอนนี้พี่สาวของหนูหิ่ง ฯ อยู่เชียงใหม่ แต่หนูหิ่ง ฯ ไป ๆ มา ๆ ระหว่างปริมณฑล กับ กทม.

ทำให้พี่สาวหนูหิ่ง ฯ เป็นห่วงความปลอดภัยของหนูหิ่ง ฯ ค่ะ







หนูหิ่ง ฯ จึงมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อเตือนพี่ ๆ เพื่อน ๆ ระวังไว้บ้าง

มีใครเซ่อซ่า ซุ่มซ่าม แบบหนูหิ่ง ฯ บ้างไหมคะ ? ? ?

แล้วมีใครเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้บ้างไหมคะ ? ? ?

หนูผิดหรือ ที่ไม่ขายรถให้พี่เขา ? ? ?





นามบัตรของเจ้าของเต้นท์รถค่ะ

ตอนนี้คนที่โทร.มามีอยู่ 3 คน รู้จักชื่อจริงอยู่ 2 คน อีกคนรู้จักแต่ชื่อเล่นค่ะ


เขาได้เบอร์หนูหิ่ง ฯ จากเพื่อนคนที่แนะนำค่ะ

อุตสาห์โทร.ไปบอกแล้วว่าอย่าบอกเขา สงสัยถูกขู่ก็เลยบอกต้องบอก

ตอนนี้เวลาเขาโทร.มา หนูหิ่ง ฯ อัดเสียงไว้ค่ะ

สอนพี่สาวให้อัดเสียงไว้ด้วยเหมือนกัน

ลูกค้าที่เป็นตำรวจบอกว่า ให้ไปแจ้งความไว้ว่าถูกคุกคาม

แต่หนูหิ่ง ฯ ก็ไม่รู้ว่าตำรวจที่สน.จะรับแจ้งหรือเปล่า

เพราะเขาก็คงเส้นใหญ่น่าดูเหมือนกัน (ดูจากนามบัตรของพี่เขาค่ะ)



แง้ ๆ ๆ ๆ ๆ นู๋กัวววววววววววววววววววววว










Create Date : 24 มีนาคม 2551
Last Update : 25 มีนาคม 2551 21:26:48 น.
Counter : 1456 Pageviews.

5 comment
* วันนี้.... ที่รอคอย *

จากคืนวัน ผันถึง ซึ่งวันนี้
ผลเริ่มมี ให้เห็น เป็นไฉน
ความอดทน หม่นหมอง ต้องเหงาใจ
สิ่งที่ได้ คือวันนี้ ที่รอคอย

จากอดีต ลิขิตมา ล่าความฝัน
ตั้งใจมั่น สร้างงาน ไม่ท้อถอย
เจียระไน กรวดให้ กลายเป็นพลอย
สองมือน้อย ก่อสร้าง หนทางเดิน

ได้พานพบ ความข้นแค้น แสนลำบาก
ความทุกข์ยาก ผ่านมา มิใช่เผิน
ทุกสิ่งที่ น้องได้ ไปเผชิญ
หาได้เกิน ความหวัง กำลังใจ

ความสำเร็จ มีผู้ อยู่เบื้องหลัง
เติมความหวัง ความฝัน ไม่หวั่นไหว
คือคุณแม่ คุณพี่ ที่อยู่ไกล
ส่งแรงใจ มาถึง จึงอดทน

ด้วยรู้ว่า ข้างหลัง ยังรออยู่
จึงต้องสู้ เรื่อยมา ฝ่าแดดฝน
มีปัญหา มากมาย ไปประจญ
จึงเห็นผล วันนี้ ที่เฝ้ารอ

เป็นรางวัล ชีวิต พิชิตได้
เป็นแรงใจ วาดฝัน ความหวังต่อ
เป็นจุดหมาย ปลายทาง ต้องถักทอ
เป็นเครื่องก่อ กำเนิด เกิดแรงใจ


เมี้ยวววววววววววววววววววววววววว ^_^

ด้วยว่าหนูหิ่ง ฯ ได้ไปรับใบประกาศเนื่องจากพิชิตคุณวุฒิของบริษัท ฯ
เมื่อปี่ที่ผ่านมาทั้งหมด 3 รายการด้วยกันเจ้าค่ะ

โดยมีรูปลงหนังสือพิมพ์ที่ทราบก็คือ
หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันพุธ ที่ 19 มีนาคม ที่ผ่านมา (นู๋ยังไม่ได้เห็นรูปตัวเองเลยค่ะ)

MDC = Million Dollar Club
คือ คุณวุฒิสโมสรล้านเหรียญ ผู้พิชิตคุณวุฒิทั้งหมดของบริษัท ฯ มีจำนวน 643 คน

IQA. = International Quality Awards
คือ คุณวุฒิสโมสรลิมร่า ผู้พิชิตคุณวุฒิของบริษัท ฯ มีจำนวน 1,384 คน

Life Club = Agent's Lives Club
คือ คุณวุฒิสโมสร ไลฟ์คลับ ผู้พิชิตคุณวุฒิ 50 ไลฟ์คลับของบริษัท ฯ มีจำนวน 857 คน


นี่คือน้องสุข ^_^


รางวัลของการทำงานที่แทบจะไม่มีวันหยุดของหนูหิ่ง ฯ เจ้าค่ะ








Create Date : 21 มีนาคม 2551
Last Update : 21 มีนาคม 2551 21:42:27 น.
Counter : 419 Pageviews.

2 comment
* SUV ที่ได้มา *
ตอนนี้ได้รถใหม่มาใช้งาน
ขอบคุณท่านที่มาหาเหตุผล
จนน้องได้รถไว้ไปผจญ
แดดลมฝนคันหนึ่งแสนซึ้งใจ

เหตุและผลได้คันนี้มีที่มา
สองพันห้าร้อยซีซีสีสดใส
สามระบบขับเคลื่อนเลื่อนทั่วไทย
เสมือนได้สามคันมาทำงาน

ระบบเบรคแสนดีเขามีให้
ช่องลมใส่ของเย็นเช่นสสาร
สี่กระป๋องลองใส่เพียงไม่นาน
เมื่อแอร์ผ่านก็ชื่นใจได้น้ำเย็น

ที่สำคัญคือหน้าตาซ่านิดนิด
แต่ไม่ผิดจึงมั่นใจยามใครเห็น
เข้ามาทักเสมือนว่ารถน้องเป็น
ดาวดวงเด่นจากเมืองนอกเพิ่งออกมา

รถคันแรกในชีวิตลิขิตไว้
ว่าต้องได้มาครองสนองตัณหา อ่ะจึ๊ย ! ห้ามคิดมากเด้อพี่น้อง
คิดคำนวณถ้วนถี่พอมีปัญญา
ผ่อนราคาประมาณนี้จึงมี X-Trail ^_^






ขอบคุณพี่ ๆ ทุกท่านที่เข้ามาแนะนำในกระทู้ * ขอคำแนะนำเรื่องรถ * เน่อ....เจ้า

ขอบคุณพี่กลิ่นกาแฟ ที่ทำให้หนูหิ่ง ฯ รู้จัก X-Trail

ขอบคุณพี่ Gadget ที่ให้คำปรึกษา

ขอบคุณพี่ Mr.JT ที่ส่งเว็บ xtrailclub มาให้

ขอบคุณพี่ พระเจ้าจักรพรรดิ์ ที่ให้รายชื่อรถรุ่นต่าง ๆ มาเปรียบเทียบ

ขอบคุณพี่จิมมี่ ที่ให้ข้อมูลการทดสอบสมรรถนะขอบรถรุ่นต่าง ๆ ไว้เปรียบเทียบ

ขอบคุณพี่ ๆ ฯลฯ ที่เข้ามาทักทายและให้ข้อมูลเจ้าค่ะ ^_^




หนูหิ่ง ฯ ได้เปรียบเทียบรถรุ่นต่างๆ ที่พี่ ๆ ได้แนะนำ กับสิ่งที่หนูหิ่ง ฯ ต้องการ ดังนี้

1. เป็นรถ SUV และใช้เบนซิน ประหยัดพอประมาณ
- เพื่อจะได้ติดแก๊สได้ในอานาคต

2. ไปได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นป่าคอนกรีต หรือป่าดงดิบ
- บ้านนู๋อยู่บนดอย เวลาหน้าฝนรถธรรมดาขึ้นบ่ได้เจ้าค่ะ

3. มีที่ไว้เก็บสัมภาระ เพราะจะต้องกลายร่างเป็นรถบรรทุกบ้างเป็นครั้งคราว
- นู๋ย้ายถิ่นบ่อย ๆ รถคันน้อย ๆ บรรทุกไม่หมดนิ

4. ถูกชะตา เพราะหน้าตาดี ^_^ และไม่โหล
- เห็นปุ๊บ..ชอบปั๊บ จอดที่ไหน ก็รู้เลย นั่นไง ! รถหนูหิ่ง ฯ แฮ่.... เวอร์ซะ ^_^

5. ไม่อยู่ในใบสั่ง โอกาสหายน้อยมาก
- เนื่องด้วยการเดินทางบ่อย อยู่ไม่เป็นที่เป็นทาง ก็กลัวหายค่ะ

6. ระบบเบรกต้องดีมาก ถึงมากที่สุด
- เคยเกิดอุบัติเหตุมาแล้ว ก็เลยระแวง เมื่อได้ข้อมูลว่ารุ่นไหนระบบเบรกไม่ดี หนูหิ่ง ฯ ตัดออกจากปั๊กกะตืนเลยค่ะ
- ปั๊กกะตืน : สมุดบันทึก สมุดโน้ตหรือพจนานุกรม

7. เป็นรถไว้ใช้งานตลอดชีพ ^_^
- ไม่ได้ซื้อมาไว้ขาย ก็เลยไม่สนใจเรื่องราคาตกค่ะ




เพราะฉนั้น จึงเป็นเช่นฉะนี้

หนูหิ่ง ฯ บวก ลบ คูณ หาร ดูแล้ว จึงตัดสินใจว่าคันนี้เหมาะกับหนูหิ่ง ฯ มากที่สุดเจ้าค่ะ

เมี้ยววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว ^_^


ปล.
....หนูหิ่ง ฯ กำลังจะตั้งชื่อให้น้อง X ค่ะ ^_^












Create Date : 13 มีนาคม 2551
Last Update : 13 มีนาคม 2551 23:29:18 น.
Counter : 448 Pageviews.

0 comment
* ไกลถิ่น *



ไกลถิ่น
มีผืนดินแผ่นฟ้ามากางกั้น
ทำให้เราไม่ได้พบสบตากัน
จึงไหวหวั่นเมื่อความเหงาเริ่มเข้ามา

เสมือนมีเวรกรรมแต่กาลเก่า
ทำให้เราห่างเหินเกินค้นหา
ต้องอดทนอดกลั้นกลืนน้ำตา
วาสนาขีดขั้นกั้นชีวิน

แต่ด้วยมีความฝันอันสดสวย
เข้ามาช่วยผ่อนคลายใจถวิล
แม้วันนี้ต้องหลั่งน้ำตาริน
จะไม่สิ้นคำมั่นเคยสัญญา

เมื่อความทุกข์ถาโถมโหมกระหน่ำ
ถูกเหยียบย่ำจิตใจสหัสสา
มีเธอเป็นกำลังใจไม่นำพา
ยืนหยัดท้าทายสู้ให้รู้กัน


เอาเข้าไป ^_^



ไปแจมไว้ที่กระทู้ คนเดินดินกินข้าวปลา ^_^ ที่นี่ค่ะ


//www.pantip.com/cafe/writer/topic/W6381830/W6381830.html






Create Date : 01 มีนาคม 2551
Last Update : 1 มีนาคม 2551 23:39:03 น.
Counter : 395 Pageviews.

0 comment
* The Star 4 *
The Star วันนี้ที่เข้ารอบ
ตามระบอบกรรมการท่านสรรหา
ทุกคนมีความฝันจึงบั่นมา
เพื่อไขว่คว้าดาวดวงหนึ่งซึ่งเฝ้ารอ

เบอร์หนึ่งนั้นเพิ่งดูและรู้ว่า
ล่วงเข้ามาถึงรอบนี้มีหวังต่อ
จะก้าวไกลถึงฝันหมั่นถักทอ
จึงอยากขอกำลังใจให้สักคน

ด้วยความหวังสร้างฝันอันยิ่งใหญ่
จึงมุ่งไปลองสู้ดูสักหน
พยายามหมั่นเพียรเปลี่ยนตัวตน
และฝึกฝนน้ำเสียงจนเที่ยงดี

ขอแรงเชียร์แรงใจให้น้องบ้าง
บนเส้นทางในกรุงมุ่งแสงสี
สักวันหนึ่งหวังว่าต้นน้องคนดี
จะได้มีดวงดาวเข้ามาครอง

เป็นเด็กดีจึงน่าจะส่งเสริม
จึงอยากเพิ่มแรงใจไปสนอง
เพื่อให้น้องต้นได้สมใจปอง
จะคอยมองคอยเชียร์ The Star



เมี้ยววววววววววววววววววววววววววว ^_^

หนูหิ่ง ฯ เป็นแฟนของน้องต้น The Star # 1 จ้า

หากพี่ ๆ เพื่อน ๆ ยังบ่ได้เป็นแฟนไผ ก็ขอฝากน้องต้นไว้สักคนนะเจ้าคะ
















Create Date : 01 มีนาคม 2551
Last Update : 1 มีนาคม 2551 17:55:25 น.
Counter : 1164 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  

หิ่งห้อยน้อยใจ
Location :
นนทบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






Bloggang.com : หิ่งห้อยน้อย.... ใจ TreBle Tree หิ่งห้อยน้อยใจ บินไปทุกถิ่น ท่องทั่วแผ่นดิน กว่าสิ้นเรี่ยวแรง





แสงระยิบ กระพริบจากใจ

หิ่งห้อย T_T น้อยใจ

ใครหนอเปรียบ หิ่งห้อย ว่าด้อยค่า
อย่าได้มา หาญสู้ แสงอาทิตย์ส่อง
มีแสงเพียง น้อยนิด คิดลำพอง
มาผยอง เชิดหน้าอยู่ สู้ตะวัน

รู้ตัวดี มิบังอาจ ไปหาญสู้
ดำรงอยู เยี่ยงนี้ ไม่มีผัน
เหมือนดาวเดือน ที่ได้อยู่ เคียงคู่กัน
ดังเช่นฉัน รู้อยู่ คู่นภา

ก็ชื่อฉัน นั้นแปล ว่าหิ่งห้อย
ตัวน้อยน้อย น่ารัก เป็นนักหนา
ถูกเปรียบเทียบ ว่าด้อย ด้วยราคา
จากหน้าตา มิใช่ จากจิตใจ

ชีวิตหมุน เวียนตาม ธรรมชาติ
หิ่งห้อยพลาด หลงดอย คอยร่ำให้
ถูกเขาบ่น ว่าเรา จนเศร้าใจ
ทนเก็บไว้ ด้วยจิต คิดระทม

ชาตินี้มี กรรมมา บดบังไว้
ส่องแสงได้ ริบหรี่ สุดขื่นขม
ต้องทนอยู่ เชิดหน้าใส่ ในอกตรม
เกิดมามี ปมจาก ปากผู้คน

ไม่เป็นไร ตามใจ ใครจะคิด
ทุกชีวิต วันหนึ่ง ต้องหลุดพ้น
เกิดมาต้อง ต่อสู้ ! รู้ดิ้นรน !
ว่ายเวียนวน กลับสู่พื้น ปฐพี๚ะ๛



เสียงขาน จากบ้านป่า

สายลมหนาว พัดพา มาอีกแล้ว
ในโสตแว่ว ยินเสียง คล้ายเรียกขาน
จากพี่น้อง ผองเพื่อน เถื่อนลำธาร
ว่าถึงกาล โผผิน กลับถิ่นไพร

หวนคิดถึง วันเก่า รวดร้าวเหลือ
ยามเยาว์เมื่อ เหมันต์ พานสมัย
ช่างหนาวเหน็บ เจ็บลึก ถึงทรวงใน
กลางป่าใหญ่ ขาดแสง อุ่นกรุ่นตะวัน

แม่ขนี้ง โปรยปราย กระจายทั่ว
ท้องฟ้ามัว มืดมิด ปิดแนวสัน
สายลมยัง พัดซ้ำ กระหน่ำกัน
บ้างหนาวสั่น จับไข้ วายชีวี

กว่าจะพ้น ผ่านฤดู หฤโหด
ธาตุพิโรธ ชนบท สลดศรี
แทบมอดม้วย มรณา ลาพงพี
ชีวิตนี้ ไม่ลืมวัน ซึ่งผันไป

ชนชาวดอย คอยอยู่ หมู่ลูกหลาน
วันคืนผ่าน ด้วยจิต พิสมัย
ความคิดถึง ตรึงตรา และอาลัย
ท่านห่วงใย อยากรู้ ว่าอยู่ดี

รู้รักผืน แผ่นดิน ถิ่นก่อเกิด
ทั้งผู้ให้ กำเนิด นะบุตรศรี
หวนกลับไป ดูแล บุพการี
ท่านผู้มี พระคุณ การุณย์เรา

คงยังจำ กันได้ ใช่ไหมเพื่อน
ก่อนจะเคลื่อน กายา จากป่าเขา
เป็นความหวัง ของใคร เมื่อวัยเยาว์
อย่ามัวเมา ลืมเลือน เถื่อนที่มา๚ะ๛



คิดถึงบ้าน

ค่ำคืนฟ้า มืดมิด ดูเหงาเหงา
โอ้ตัวเรา นั่งคิดถึง คณึงหา
บ้านหลังน้อย ในป่า ที่จากมา
ผ่านเวลา จะเปลี่ยน เป็นเช่นไร

บ้านน้อย น้อยหลังนั้น ช่างอบอุ่น
ยามรุ่งอรุณ แดดส่อง สว่างไสว
มวลบุบผา ชูช่อ แตกหน่อใบ
หรีดหริ่งเรไร ส่งเสียงร้อง ก้องพนา

เหล่าแมลง ภู่ผึ้ง ผกโผผิน
กางปีกบิน วนเวียน กลางเวหา
ดอกหญ้าโผล่ พ้นพื้น พสุธา
ไหวไปมา ยามต้อง แรงลมโชย

เห็นสายฝน รินร่วง จากท้องฟ้า
ชุบชีวา ชีวิตให้ ไม่ระโหย
มวลดอกไม้ ชูช่อสวย ไม่ลาโรย
แผ่นดินโดย ธรรมชาติ สะอาดตา

กลิ่นพืชพรรณ นานา ขจรทั่ว
ทั้งดอกบัว ทั้งพรรณไม้ และใบหญ้า
ขึ้นผสม กลมกลืนไกล สุดสายตา
ภายใต้ฟ้า ผืนใหญ่ ใบเดียวกัน

ช่างห่างไกล กันนัก กับทางนี้
อยู่ที่นี่ พบแต่ การห้ำหั่น
ทั้งแก่งแย่ง แข่งขัน ประลองกัน
ทุกทุกวัน ต้องแข่ง แย่งความดี

มันช่างเหงา และล้า เป็นนักหนา
จะขอลา พักร้อน เช้าพรุ่งนี้
กลับคืนสู่ บ้านน้อย คอยนานปี
พักฤดี ให้หายเหมื่อย เหนื่อยใจกาย

จะชาร์ตแบต เพิ่มพลัง ให้เต็มที่
ความเหงามี จักลบทิ้ง ให้เหือดหาย
แทนด้วยความ สดใส ใจแพรวพราย
ทอประกาย กลับคืน สู่ตัวเรา

พักปัญหา ทุกอย่าง ของทางนี้
กลับไพรี ระหว่าง กลางหุบเขา
บ้านหลังน้อย ยังคอยอยู่ ซึ่งตัวเรา
ภูมลำเนา บ้านเกิด ที่จากมา

แล้วจะกลับ มาทำงาน สร้างฐานะ
ด้วยสัจจะ ของคน แห่งภูผา
จักทำงาน ให้ดีขึ้น ขอสัญญา
ด้วยหน้าตา สดใส ไร้กังวล

คงจะทน ทานได้ ในทุกสิ่ง
ชีวิตจริง เริ่มต้นใหม่ ได้อีกหน
จักต่อสู้ หมู่มารที่ มาผจญ
รวมถึงคน ปากร้าย ทั้งหลายเอย๚ะ๛



ลมหนาว กับชาวดอย

สายลมหนาวพัดผ่านมาอีกครั้ง
แผ่พลังแห่งฤดูสู่ขุนเขา
หวนคิดถึงแต่ก่อนตอนยังเยาว์
ผองพวกเราทนอยู่สู้สายลม

ยังจดจำคืนวันที่ผันผ่าน
ฤดูกาลนี้ให้ใจขื่นขม
พาความแล้งส่งไว้ได้ระทม
ยอดดอยจมอยู่ในสายเหมันต์

แม่ขนิ้งเกาะเล็มเต็มยอดหญ้า
บนท้องฟ้าไร้แสงแห่งสีสัน
ความเหน็บหนาวถาโถมถึงทั่วกัน
ต้องอดทนจนผ่านวันอันตราย

ถึงตอนนี้ยังคงโหมกระหน่ำ
แสงแดดล้ำเลือนลางจนจางหาย
ทั่วท้องฟ้าเมฆหม่นหล่นกระจาย
หนาวมากมายในยามนี้ที่ยอดภู

อยากจะส่งความอบอุ่นสู่ขุนเขา
เพื่อพ้องเราชาวไพรทุกชนหมู่
ได้อดทนจนผ่านพ้นฤดู
ร่วมกันสู้ความหนาวที่เข้ามา

ของส่งใจไปถึงซึ่งบนนั้น
ยอดดอยอันไกลห่างหว่างภูผา
ความห่วงใยแทรกใส่ให้ลมพา
ไปส่งหน้าบ้านเขาเราอาลัย

เพื่อให้ผู้อาศัยอยู่ในนั้น
มียิ้มอันพริ้มพรายใจสดใส
หนูหิ่ง ฯ จะได้มีกำลังใจ
ทำงานไปเพื่อเขาที่เฝ้ารอ๚ะ๛



สายลมหนาว

สายลมหนาว พัดแผ่ว แอ่วเมืองเหนือ
แสงแดดเรื่อ พลันเลือน ลางลับหาย
บนท้องฟ้า มีเมฆหมอก เกลื่อนกระจาย
หนาวมากมาย ในยามนี้ ที่ยอดดอย

เสียงหรีดหริ่ งเรไร วังเวงแว่ว
นกเค้าแมว บินลับ กลับถ้ำน้อย
ดอกไม้บาน ยามเช้า เฝ้ารอคอย
น้ำค้างผล็อย ร่วงลง ส่งความเย็น

แสงอาทิตย์ มองไม่เห็น ในยามนี้
ยอดดอยมี แต่หมอก เมฆลอยเด่น
บนยอดหญ้า ขนิ้งเกาะ ให้เห็นเป็น
ความเยือกเย็น ฤดูหนาว เวียนเข้ามา

จึงส่งความ อบอุ่น ละมุนฝัน
ถึงดอยอัน ไกลห่าง หว่างภูผา
ความคิดถึง ห่วงใย สายลมพา
พัดผ่านหน้า กระท่อมน้อย ปล่อยวางไว้

หวังเพียงผู้ อาศัยใน กระท่อมน้อย
แต่งแต้มรอย ยิ้มแย้ม ที่แจ่มใส
หิ่งห้อยน้อย จะได้ มีแรงใจ
ทำงานไป เพื่อเขา ที่เรารัก๚ะ๛



คืนเหงา

ในคืนเหงา แม้เดือนดาว เจ้าเป็นเพื่อน
ส่งแสงเลือน คอยกลบ ลบรอยเหงา
ความหม่นหมอง ครอบครอง ใจของเรา
รู้สึกเศร้า ในยามที่ ไม่มีใคร

อยู่แสนห่าง ขวางคั่น กั้นขอบฟ้า
ผ่านเวลา ฤดูกาล ผันสมัย
มิตรภาพ แต่ก่อนเก่า เราจริงใจ
เลือนแล้วหรือ อย่างไร สายสัมพันธ์

อยู่ทางนี้ แม้เห็น ดาวเด่นสวย
ก็ไม่ช่วย ให้ใจ ได้สุขสันต์
บนท้องฟ้า สว่างใส ไร้หมอกควัน
ในใจนั้น กลับมืดมิด ผิดที่เคย

สายลมหนาว พัดมา เวลานี้
ผืนพงพี ปกคลุม ด้วยกลุ่มเหมย
ทั้งมวลหมอก กลอกกลิ้ง ขนิ้งเชย
หนาวจังเลย ในยามนี้ ที่ยอดดอย

นั่งวิงวอน ดาวเดือน เกลื่อนเวหา
กระพริบพา ความคิดของ น้องหิ่งห้อย
ไปส่งไว้ หน้าบ้าน วานลมคอย
พัดไปปล่อย ในใจ ใครสักคน

ให้รับรู้ ว่าใคร ที่ในป่า
เขาห่วงหา ห่วงใย ใจสับสน
ความคิดถึง รุมเร้า เข้าเวียนวน
จำฝืนทน ฝืนอยู่ ไม่รู้ทำไม

นั่งรำพึง คอยอยู่ สู้ลมหนาว
มีเดือนดาว บนฟ้า นภาใส
อยู่เป็นเพื่อน ท่ามกลาง หว่างพงไพร
คอยคนไกล ตอบสาร นั้นกลับคืน๚ะ๛



รู้อย่างนี้...

ก่อนนั้นเรา คงมีพ่อ อยู่เคียงข้าง
ทุกทิศทาง พ่ออยู่ คู่เสมอ
อยากพบพ่อ เมื่อใหร่ ก็ได้เจอ
ไม่ต้องเพ้อ ละเมอถึง ซึ่งลวงตา

ยามเล็กเล็ก พ่อเฝ้า คอยสอนสั่ง
ตั้งความหวัง ไว้ที่ลูก สุขนักหนา
ลูกเติบใหญ่ ให้พ่อได้ ชื่นอุรา
วันนี้ลา จากลูกไป ไม่หวนคืน

รู้อย่างนี้... จะไม่ทำตัวเหมือนก่อน
รู้อย่างนี้... จะตั้งใจเรียนหนังสือ
จะตั้งหน้า ตั้งตา หมั่นฝึกปรือ
จะไม่ดื้อ ! ไม่ซน ! ไม่ถือดี !

เพิ่งรู้ซึ้ง ถึงความเศร้า ที่ยิ่งใหญ่
พ่อจากลา ไปลับ นับจากนี้
จะรำลึก ถึงคุณพ่อ ชั่วชีวี
ถึงความดี พ่อสร้างไว้ ให้ทบทวน

จากนี้ไป ไม่มีพ่อ คอยว่ากล่าว
พ่อจากเรา ไปแสนไกล ไม่อาจหวน
ถึงจะร่ำ ! ร้องให้ ! คร่ำครวญ !
ไม่อาจทวน คืนสู่เหย้า ที่เฝ้า... รอ...๚ะ๛



ซึ้งแล้ว...

ต่อแต่นี้ เหลือเพียงแม่ คอยเคียงข้าง
ทุกทิศทาง แม่เฝ้าดู ลูกเสมอ
อยากพบแม่ เรียกหา เป็นต้องเจอ
ไม่ใช่เพ้อ ละเมอถึง ซึ่งลวงตา

ตั้งแต่เล็ก แม่เจ้า เฝ้าถนอม
คอยเห่กล่อม ด้วยรัก ลูกนักหนา
ส่งเสียให้ เจ้าได้ มีวิชา
ด้วยกายา อ่อนล้า น่าเหนื่อยแทน

เฝ้ามองลูก ด้วยดวงตา อุ่นไอรัก
คอยพิทักษ์ ปกป้อง ด้วยหวงแหน
มีแต่ให้ ไม่เคยหวัง สิ่งตอบแทน
แม้ยากแค้น ลำเค็ญสู้ สุดทนทาน

สิบนิ้วมือ พนมกราบ อภิวาท
ลงแทบบาท แสดง กตัญญูท่าน
ทำตอนนี้ ใช่วันที่มี เพียงวิญญาณ
แล้วเรียกขาน ท่านให้มา ปรากฏกาย

รู้ซึ้งแล้ว… แสดงให้ ท่านรับรู้
รู้ซึ้งแล้ว… ท่านยังอยู่ ไม่หนีหาย
เคียงข้างเจ้า จวบจนชีพ สิ้นมลาย
ก่อนจะสาย กลับไปอยู่ ดูท่านเทอญ๚ะ๛








All Blog
MY VIP Friends