* ... เป็นฉันท์ *



* หัดเขียนเลียนแบบ ฉันท์ ^_^ *

อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑


00100...............110100

00100...............110100


เริ่มต้นก็จนใจ

จะติได้นะ คนดี

หิ่งห้อยละไพรี

ขณะนี้จะเริ่มเรียน


สอนน้องสิงานหนัก

จะสมัครและพากเพียร

หากพี่ ติคอยเตียน

จะหัดเขียนและลองดู๚ะ๛








Create Date : 20 กันยายน 2549
Last Update : 31 ตุลาคม 2549 15:51:40 น.
Counter : 597 Pageviews.

* ... เป็นกาพย์ *




* หัดเขียนเลียนแบบ กาพย์ ^_^ *


มาแล้วดีกว่ามาช้า................................ค่อยย่องเข้ามา

เล่นแอบใครกาพี่นาง

เขียนกลอนเขียนเล่นเลียนบ้าง............ถ้อยคำบ่ค้าง

ทั้งนอนนั่งเขียนจากใจ

หิ่งห้อยจะยะจะใด.............................ขี้คร้านต้องไป

ยะก๋านงานบ้านนางซิน

ตั๋วน้องหน้อยหน้อยยุพิน...................ทำบ่ได้ยิน

เวลาแม่ฮ้องยะงาน



Create Date : 20 กันยายน 2549
Last Update : 31 ตุลาคม 2549 16:04:14 น.
Counter : 455 Pageviews.

* ... เป็นโคลง *


* ๑๔ ส.ค. ๔๘ ริมแม่น้ำขุนยวม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน *


แอ๊บป๋ากิ๋นอิ่มแล้ว......................ล้ำลำ แอ๊บ : ห่อหมก ป๋า : ปลา

ได้กลิ่นจั๊กไคนำ.........................ข่าขมิ้น จั๊กไค : ตะไคร้

หอมพริกใส่ลงยำ.......................ป๋าช่อน

ต๋องห่อย่างไฟปิ้น.......................กับข้าวนึ่งเหนียว ต๋อง : ใบตอง


แอ๊บป๋ากิ๋นอิ่มแล้ว

ปิ๊กมาแอ่วกิ๋นจาดลำ ปิ๊ก : กลับ แอ่ว : เที่ยว

ข้าวนึ่งตรึงใจนำ

กึ๊ดเติงล้ำกั๋บข้าวเฮา กึ๊ดเติง : คิดถึง


วันแม่มีโอกาส

พบปะญาติรุ่นใหญ่เยาว์

ไหว้สาคนแก่เฒ่า

ญาติตี้เฮาเคารพรัก


แม่นี้มีเพียงหนึ่ง

ถ้าบ่ซึ้งแค่หัวหยัก

คอคนตี้บ่ฮัก

มารดามักบ่ไจ่คน


จวนแม่ไปกิ๋นข้าว

พร้อมปี้สาวหลานแสนซน

แม่ยิ้มอิ่มกมล

ลูกมุ่งหมายได้กลับมา


ฮิมยวมน้ำเปลี่ยนสาย

ใจ๋บ่คลายจากมารดา

วันเลื่อนก๋าเดือนลา

ลูกฮักแม่บ่แปรไป



* รำลึก...ถึง...ซึ่ง... "คุณ"... แม่ *




๑ เมื่อเล็กเป็นเด็กน้อย..............แม่มัก

ใจใส่ดูด้วยรัก............................บ่ล้า

เฝ้าคอยเห่เปลชัก.......................ประโลมปลอบ

เคียงอยู่ไม่เหว่ว้า........................กว่าพ้นวัยเยาว์


๒ ทารกตัวน้อยนิด....................ค่อยเติบโต

ครั้งที่มีเยโย..............................โยกโย้

เกเรใส่ให้โม-.............................โหบ่อย

ท่านหอบอุ้มโอ่โอ้.......................กล่อมให้หลับสบาย


๓ เพียรอบรมบ่มให้...................ได้ดี

สอนสั่งทุกวันมี...........................ที่อ้าง

ยกตัวอย่างจากปี........................กาลเก่า

เปรียบเทียบไม่ตกค้าง.................บ่ต้องท้วงความ


๔ แม้แม่น้องบ่ได้.....................เล่าเรียน

เพื่อลูกท่านยังเพียร....................หัดไว้

จักมือจ่อสมุดเขียน.....................สอนลูก

คอยปลูกคอยฝังให้.....................รับรู้เรื่องเรียน


๕ ประถมหนึ่งรัฐให้...................ไปเรียน

ก.ไก่ไข่วนเวียน.........................จดไว้

มีแม่อยู่คอยเตียน.......................ติตลอด

ลูกจบประถมไซร้........................ประดุจได้จบตาม


๖ มัธยมเรียนต่อต้อง................เข้าเมือง

งานหนักไม่มีเคือง.....................ขุ่นข้อง

ค่าสมุดสิ่งสิ้นเปลือง...................ทั้งหมด

เทอมหนึ่งแม่ส่งน้อง...................เหนื่อยล้าเพียงใด


๗ กว่าจักเรียนจบได้.................วิชา

หนักกว่าอ่านตำรา......................ลูกรู้

แม่ทนตรากตรำมา.....................ไม่บ่น

เพื่อลูกแม่ยอมสู้........................ตราบสิ้นชีวา


๘ ยังมีต่ออีกโอ้.......................มอปลาย

ลำบากปั่นแรงกาย......................หนักเข้า

ค่าเทอมเริ่มส่งสาย.....................แรงแผ่ว

แย่แน่ถ้าออดเร้า........................ส่งเข้าป.ตรี


๙ จึงจำใจออกค้น....................หางาน

เขารับพิมพ์เอกสาร.....................สมัครไว้

ประเดิมเริ่มจัดการ......................ตามสั่ง

เงินออกนับส่งให้........................แม่ได้ชื่นใจ


๑๐ ยามนี้แม่แก่แล้ว..................รู้ดี

ทำอยู่ทุกวิธี..............................เพื่อให้

พ้นทุกข์สู่วิถี.............................ทางสุข

ขอกราบวอนเทพไท้...................ปัดป้องผองภัย


๑๑ อำนวยพรแม่ให้...................แข็งแรง

คอยส่องส่งลำแสง.....................อยู่หน้า

โรคภัยอย่าแทรกแซง.................ไชสู่

ให้แม่อยู่คู่ฟ้า............................ตราบสิ้นดินสลาย


๑๒ วันแม่กราบแทบเท้า..............ด้วยมาลัย

มอบรักส่งจากใจ........................ลูกน้อย

ท่านก้มรับน้ำใส.........................รินหล่น

ด้วยรักจากหิ่งห้อย......................สู่เท้ามารดา


๑๓ กระซิบ บอกรักล้น............ดวงใจ

กระซิบ จากภายใน..................จิตน้อง

กระซิบ ส่งเสียงใส...................เพียงแผ่ว

กระซิบ แว่วกังวาลก้อง..............ทุกห้องหัวใจ


๑๔ บอก ท่านให้รับรู้..............ตลอดไป

บอก จากห้วงหทัย...................จิตร้อง

บอก ถ้อยสื่อความนัย...............รักแม่

บอก ท่านทุกวันน้อง.................รักล้นดวงใจ


๑๕ รัก มอบส่งรักแท้...............กว่าใคร

รัก มากรักตลอดไป...................สุดฟ้า

รัก หมายบากที่ใจ.....................จิตลูก

รัก แม่บ่มีล้า............................จึ่งร้องบอกไป ๚ะ๛


* L O V E Y O U นะ * ^_^



L มีแล้วซ่อนไว้.........................ข้างใน L : แอล : เอว จ้า

O อุแม่เจ้าไผ............................ว่าพลุ้ย ไผ : ใคร

V วัดที่คอไป............................ได้ก่ ได้ก่ : ได้ไหม

E แม่เลี้ยงฮื่อตุ้ย........................บ่ให้อดหยาก ฮื่อ : ให้ ตุ้ย : อ้วน


Y ยังถามฮื่อน้อง........................ได้อาย

O เพ่งจ้องมองกาย.....................ล่วงล้ำ

U จะสู่ขอหมาย..........................หมั้นก่

นะ พี่อย่าฮื่อช้ำ..........................ปล่อยน้องขึ้นคาน ๚ะ๛


* วรรณกรรมถิ่นนี้..ยากนัก *




๑ รักกวีไทยจึ่งได้ ....................หัดเขียน

ยังบ่ดีจึงเรียน............................ไป่ล้า

ขอผองพี่ช่วยเพียร......................สอนสั่ง

วันหนึ่งคงเก่งกล้า........................กว่านี้จึงเพียร


๒ วันเวลาล่วงแล้ว....................เลยไป

ฝากพี่สอนชาวไพร.....................ใคร่รู้

แม้ยากยิ่งเพียงใด.......................บ่ยั่น

จะเก็บคำทุกผู้.............................จดไว้ในใจ


๓ วรรณกรรมถิ่นนี้....................ยากนัก

จะใส่คำใดมัก............................บ่ได้

คำผิดถูกที่ทัก............................ท้วงอยู่

จึงหวั่นยามส่งไห้ .......................ตรวจแก้ตลอดเวลา


๔ ขอเชิญชวนอ่านแล้ว...............ติมา

จะฮื่อดีเขียนกา.........................ว่าไว้

เปล่าป่วนค่ะแค่มา......................ให้ตรวจ

ก็ที่แห่งนี้ได้..............................จับนิ้วน้องรำ ๚ะ๛


* แหย่เพราะซน & ปนความเหงา *




๑ อยากบอกว่าหิ่งห้อย............น้อยใจ

เป็นเด็กใหม่อ่อนไหว..................เน่ออ้าย

สิ่งผิดหากทำไป........................เตือนหน่อย

จะค่อยแก้จากร้าย......................ปรับให้เป็นดี


๒ บางทีอาจพลาดพลั้ง............ทำผิด

ได้โปรดเตือนให้คิด...................ช่วยแก้

น้อมนำรับใส่จิต........................เพื่อเปลี่ยน

หากพี่ไม่ท้อแท้.........................บอกให้เข้าใจ


๓ ขับไขโคลงเพื่อให้..............คลายเหงา

แสวงเสาะพบมิตรเรา..................เหล่านี้

พูดคุยค่อยบรรเทา.....................ใจหม่น

ยามห่างบ้านหลายลี้....................กว่าร้อยพันกิโล


๔ เติบโตเป็นหิ่งห้อย..............พเนจร

ร่อนเร่ลงจากดอน......................ป่ากว้าง

บ่ายหน้ามุ่งนคร.........................กรุงใหญ่

นอกป่าดูเวิ้งว้าง.........................กว่าบ้านบนดอย


๕ บินลอยมีอ่อนล้า...................บางครา

จึงปล่อยถ้อยวาจา....................ออดอ้อน

ขอพี่เพื่อนเมตตา......................น้องหน่อย

อย่าด่วนด้วยใจร้อน...................เมื่อน้องป่วนใจ


๖ ด้วยในดวงจิตนี้..................ซื่อตรง

พิสุทธิ์และมั่นคง........................พิสูจน์ได้

แม้นอยู่ห่างบ่หลง.......................ลืมถิ่น

หนูหิ่ง ฯ จำจดไว้........................บ่ได้ลืมเลย


๗ ตามเคยขอฝากไว้..............สักคน

รู้อยู่จะละซน.............................ออกบ้าง

ขอแหย่แค่พี่จน..........................มุมตึก

ปลดปล่อยความอ้างว้าง...............ออกบ้างยามเหงา ๚ะ๛ เมี้ยว ๆ ๆ ^_^



* กุหลาบ กุหลาบ & กุหลาบ *





๑ กุหลาบแดงแรกแย้ม...........แอร่มตา

ดูสดชื่นชีวา.............................เพริศแพร้ว

ประดุจส่งภาษา.........................ว่ารัก

จักบ่คลาคลาดแคล้ว...................จากน้องนวลนาง


๒ กุหลาบขาวแต่งแต้ม............เติมใจ

บริสุทธ์สดใส.............................สว่างแจ้ง

ดั่งจะบอกความนัย......................ใจว่า

น้ำจิตบ่เคยแล้ง..........................ส่งพ้องพวกเสมอ


๓ กุหลาบเหลืองขุ่นข้อง..........อันใด

ความหม่นหมองในใจ ................สลัดทิ้ง

เมื่อมีรักห่วงใย..........................ให้ตลอด

ประกายเปล่งสีสวยพริ้ง ..............เชิดหน้าเผชิญไป


๔ กุหลาบชมพูหยั่งรู้...............รักละมุน

น้ำจิตคอยเจือจุน........................อุ่นเอื้อ

วันคืนสลับเวียนหมุน...................กาลผ่าน

กรุ่นกลิ่นความเอื้อเฟื้อ................ฝากไว้ไปนิรันดร์


๕ กุหลาบม่วงต่อสู้.................ชีวี

ถูกหักอกดวงฤดี........................เจ็บช้ำ

ลวงฝากรักก่อนหนี.....................ตีจาก

กรรมเก่าตามตอกย้ำ..................จึ่งน้ำตาริน


๖ กุหลาบอิฐมิตรแม้น.............มากมาย

สีหม่นละมุนหมาย......................มั่นแท้

แม้บ่เด่นมากมาย.......................ขจรกลิ่น

ฟื้นจากความฟ้อแฟ้.....................เมื่อท้อบางคราว


๗ กุหลาบหนูสีฟ้า..................แนบหทัย

ใจชอบชอบจับใจ.......................มากล้น

หลายคนบ่นว่าไหน.....................น้องปด

จึงตอบมีท่วมท้น........................อยู่ข้างในใจ ๚ะ๛


* ความงามแห่งท้องทะเล *




๑ แพรพรายระยิบจ้า.................มหาสมุทร

กระพริบแสงสีสุด......................เพริดพริ้ง

ดั่งดาวเล่นดำผุด.......................ว่ายโผล่

ผืนแผ่นน้ำสบัดสบิ้ง...................คลื่นพ้นขอบทะเล


๒ ประกายแสงกระพริบท้า..........สุริยา

วะวิบวับงามจับตา......................พร่างพื้น

สายลมห่มแพรวา......................โชยแผ่ว

คลื่นส่งเสียงครางครื้น................กึกก้องผืนทราย


๓ ดาวเด่นเห็นอยู่ทั้ง..................เบื้องบน

ด้านล่างเห็นแพรงกล..................อยู่บ้าง

พลิ้วไหวลู่ลมวน........................พรายหยอก

ดั่งแฝดผิดฝาค้าง.......................อยู่ทั้งล่างบน


๔ ดวงหนึ่งอยู่ใต้พื้น..................ผืนทะเล

กระทบแสงแรงหักเห..................ผ่านฟ้า

ล้อแสงแห่งดวงเด......................ต้นกำเนิด

ประหนึ่งผ่อนแรงล้า....................ก่อนทิ้งท้องนภา


๕ แพรเอยเจ้าช่างพริ้ง................แพรวพราย

อาทิตย์ส่องต้องประกาย..............กระพริบจ้า

รังษีผ่อนแรงคลาย.....................ส่ายสบัด

พลิ้วลู่เมื่อลมท้า.........................กระทบเจ้าแพรวา


๖ เรียงรายระยิบล้น....................ท้องทะเล

สะท้อนส่งแสงหักเห....................กระทบพื้น

กระพริบส่องแสงเท.....................ล้นฝั่ง

ประหนึ่งดาวกลับฟื้น....................ก่อนฟ้าลับตะวัน


๗ ความงามเห็นอยู่ใกล้...............ควรมอง

รายอยู่รอบตัวครอง....................สุขล้ำ

หมายมุ่งแค่เพียงปอง…...............ป้องจิต

ธรรมชาติสร้างสิ่งค้ำ...................ชีพให้สมดุล ๚ะ๛




Create Date : 20 กันยายน 2549
Last Update : 31 ตุลาคม 2549 16:10:49 น.
Counter : 465 Pageviews.

* ... เป็นกลอน *




.;*;*;.
(^_^)
>'/ \'<

สวัสดีปีหมู อู๊ด อู๊ดค่ะ

โอม... เพี้ยง... ขอให้เฮง ๆ รวย ๆ

สุขภาพกาย - ใจแข็งแรงตลอดไปเจ้า ^_^


เมื่อวาน...คือบทเรียนอันมีค่า
เป็นวิชาให้เรียนรู้สู้ฝึกฝน
อดีตผ่านผิดถูกปลูกฝังคน
รู้ถึงเหตุและผลการกระทำ

เมื่อวาน...มีผู้สอนที่กล้าแกร่ง
ให้เข้มแข็งบากบั่นผ่านความช้ำ
รับรู้ถึงทุกข์ - สุขจงจดจำ
เส้นทางกรรมก่อไว้จึงได้มา

วันนี้...ควรทำสิ่งยิ่งดีสุด
รีบเร่งรุดตามเส้นทางแสวงหา
ตรวจสอบฝันอันงดงามตลอดเวลา
เพื่อวันหน้าที่ดีของทุกคน

วันนี้...รับการกระทำในอดีต
กับชีวิตการเดินทางที่ผ่านพ้น
ทุกสิ่งที่พานพบรบผจญ
เกิดเป็นผลทันทีที่ถึงเวลา

วันหน้า...หวังเช่นไรให้เริ่มคิด
มุ่งพิชิตความฝันบั่นปัญหา
ทุกเส้นทางเลือกเดินด้วยปัญญา
จงมุ่งหน้าสร้างฝันให้มันจริง

อนาคต...กำหนดเองอย่ารอช้า
กาลเวลาผ่านไปไม่หยุดนิ่ง
ใคร่ครวญแล้วลงมือทำอย่าประวิง
เพราะทุกสิ่งได้มาด้วยการกระทำ





ร่วมเรียงร้อย ถ้อยคำ นำภาษา

สื่อศรัทธา ที่มี ต่องานเขียน

จักเคารพ นบครู ผู้คอยเพียร

สอนให้เรียน โคลงฉันท์ และกาพย์กลอน


วรรณกรรม ถิ่นไทย แม้จะยาก

เพราะมีมาก หลายหลัก จากอักษร

ฉันทลักษณ์ มากมาย ทุกบทตอน

ซึ่งสะท้อน ให้เห็น เด่นกว่าใคร


สัญลักษณ์ ของไทย ในสิ่งนี้

บทกวี งดงาม ตามสมัย

แต่โบราณ สานต่อ กรอสายใย

ร้อยเรียงใจ ผู้มีรัก ถักถ้อยคำ




* มือใหม่... หัดเขียน *




๑ เรื่องราวใน ความจำ มีมากมาย

ไม่อาจหมาย เขียนสด ทั้งหมดได้

ทุกเรื่องเล่า เรียงส่ง ออกตรงใจ

ต้องการให้ ทุกท่าน ตามอ่านกัน


๒ เพิ่งจะเริ่ม หัดเขียน เป็นครั้งแรก

คงไม่แปลก จริงไหม ถ้าใจฝัน

ประสบการณ์ ผ่านไป ใคร่แบ่งปัน

สื่อสัมพันธ์ มิ่งมิตร ไม่คิดลืม


๓ เขียนออกมา เท่าไร ไม่มีหมด

ความรัดทด ความสนุก สุขสดชื่น

จากเด็กน้อย ค่อยโต ทุกวันคืน

คงสักหมื่น แสนเรื่องให้ พรรณนา


๔ จดอักษร บอกเล่า เท้าความหลัง

เรื่องราวครั้ง ยามเยา เราหรรษา

มีความสุข ทุกข์ล้น พ้นชีวา

หลากปัญหา เรื่องราว เล่าสู่กัน


๕ แต่ตอนนี้ เพิ่งหัด จัดคำอยู่

ขอทุกผู้ ช่วยติเตียน เพียรสอนฉัน

ชี้แนวทาง สร้างงาน สานสัมพันธ์

อักษรสรร เรียงร้อย สื่อถ้อยความ ๚ะ๛




* หนึ่งภาพ... หนึ่งชีวิต *




๑ หากชีวิต เปรียบเป็น เช่นกระดาษ

พ่อช่วยวาด แม่ช่วยเติม เพิ่มสีสัน

พี่ชายช่วย ตกแต่ง แต้มทุกวัน

พี่สาวนั้น เช็ดถู ดูงามตา


ทำหน้าที่ ปลูกฝัง ยังความดี

กายใจพลี ทุกวัน มั่นอาสา

เฝ้าดูแล สั่งสอน ป้อนจรรยา

เพื่อให้กล้า แกร่งได้ ด้วยใฝ่ดี


๓ ทุกชีวิต เกิดมา มีคุณค่า

ใช่ราคา ดำรงไว้ ในศักดิ์ศรี

ทั้งคนจน คนรวย ทุกชีวี

หวังได้มี ความสุข ทุกคืนวัน


๔ ต่างคนต่าง เขียนลง บนกระดาษ

บางภาพวาด สวยสุด ประดุจฝัน

บางภาพพลาด ขาดสิ่ง ยิ่งสำคัญ

ต้องช่วยกัน ปัดแต่ง แต่เยาว์วัย


๕ จนกระดาษ ว่างเปล่า ขาวสะอาด

เป็นภาพวาด พราวแสง สีสดใส

ประดิษฐ์ส่ง ลงเพิ่ม เติมค่าไป

เพียงเพื่อได้ ภาพหวัง สมดั่งจินต์ ๚ะ๛




* ถึงพ่อ... ที่จากไป *




๑ ก่อนนี้มี คุณพ่อ คลอเคียงข้าง

ทุกทิศทาง คอยอยู่ ดูเสมอ

อยากพบท่าน ยามใด เป็นได้เจอ

ไม่ต้องเพ้อ ฝันถึง ซึ่งลวงตา


๒ ครั้งยังเล็ก พ่อเรา เฝ้าสอนสั่ง

มีความหวัง ที่ลูก สุขหนักหนา

เมื่อเติบใหญ่ ให้พ่อรื่น ชื่นอุรา

ก่อนจากลา ลูกลับ ไม่กลับคืน


๓ รู้อย่างนี้... จะไม่ ทำเหมือนก่อน

รู้อย่างนี้... จะไม่วอน ทำไขสือ

จะตั้งหน้า ตั้งตา หมั่นฝึกปรือ

จะไม่ดื้อ ไม่บ่น เป็นคนดี


๔ เพิ่งรู้ซึ้ง ถึงความเศร้า ที่ยิ่งใหญ่

พ่อจากไป ลาลับ นับแต่นี้

จะรำลึก ถึงพ่อ ชั่วชีวี

คุณความดี พ่อสร้างไว้ ให้ทบทวน


๕ จากนี้ไป ไร้พ่อ รอว่ากล่าว

สิ้นแสงดาว ชี้นำ ทำกระสวน

ถึงจะร้อง ร่ำไห้ ใจคร่ำครวญ

ไม่อาจหวน กลับให้ ได้พบเจอ


๖ ตอนนี้มี เพียงแม่ คอยเคียงข้าง

ทุกทิศทาง แม่ดู อยู่เสมอ

อยากพบแม่ กลับไป ได้พบเธอ

ไม่ต้องเพ้อ ฝันถึง ซึ่งลวงตา


๗ ตั้งแต่เล็ก แม่เรา เฝ้าถนอม

คอยเห่กล่อม ด้วยรัก ลูกนักหนา

หาเงินส่ง ให้เรียน เพียรวิชา

ท่านเหนื่อยล้า แต่ใจ ไม่เคยแคลน


๘ มองลูกด้วย ตากรุ่น อุ่นไอรัก

คอยพิทักษ์ ตลอดมา ว่าห่วงแสน

มีแต่ให้ ไม่หวัง สิ่งตอบแทน

แม่ยากแค้น เช่นนี้ มีเนานาน


๙ สิบนิ้วมือ พนมกราบ อภิวาท

ลงแทบบาท กตัญญู รู้คุณท่าน

ทำตอนนี้ ก่อนพร่า ลาวิญญาณ

จักไม่พาน เสียใจ ในวันวาย


๑๐ รู้ซึ้งแล้ว... แสดงให้ ท่านรับรู้

รู้ซึ้งแล้ว... ยามท่านอยู่ ไม่หนีหาย

ดูแลท่าน ตราบชีวิต สิ้นมลาย

ยังไม่สาย รีบแทนบุญ คุณมารดา


ปล. ๑๒ เช่นหิ่งห้อย เหลือแม่ ที่แก่มาก

ท่านลำบาก นานนม ตรมนักหนา

เลี้ยงดูลูก เจ็ดคน พ้นครรภ์มา

จนกายล้า อ่อนแรง แซงคนกรุง


๑๓ ลูกหลายคน แต่งงาน มีบ้านใหม่

เหลือแม่ไว้ ที่บ้านเก่า บนเขาสูง

หิ่งห้อยเล่า บินไกล ไปประดุง

หาผู้มุ่ง หวังใหม่ ได้การงาน


๑๔ วาดฝันไว้ ไม่นาน จะผ่านพ้น

ขอแม่ทน ต่อไป ใจผสาน

เมื่อหิ่งห้อย มีสินพอ ขอไปพาน

ถึงที่บ้าน บนดอย แม่คอยดู


๑๕ แม่จ๋าแม่ คอยหน่อย คอยอีกนิด

จะไม่ผิด ถ้อยคำ ทำอดสู

ปลายปีนี้ คิดใน ใจพธู

งบเก็บอยู่ สร้างบ้านให้ อีกไม่นาน


๑๖ หากฤดู หนาวเปลี่ยน เวียนอีกครั้ง

กระท่อมหลัง น้อยคง เป็นสถาน

ที่พักพิง ผองเพื่อน เถื่อนลำธาร

เมื่อถึงกาล กลับดง สู่พงศ์ไพร


๑๗ หวนคิดถึง วันเก่า รวดร้าวเหลือ

ยามเยาว์เมื่อ เหมันต์ พานสมัย

ช่างหนาวเหน็บ เจ็บลึก ถึงทรวงใน

กลางป่าใหญ่ ขาดแสงอุ่น กรุ่นตะวัน


๑๘ แม่ขะนี้ง โปรยปราย กระจายทั่ว

ท้องฟ้ามัว มืดมิด ปิดแนวสัน

สายลมยัง พัดซ้ำ กระหน่ำกัน

บ้างหนาวสั่น จับไข้ วายชีวี


๑๙ กว่าจะพ้น ผ่านฤดู หฤโหด

ธาตุพิโรธ ชนบท สลดศรี

แทบมอดม้วย มรณะ ละพงพี

ชีวิตนี้ ไม่ลืมวัน ซึ่งผันไป


๒๐ ญาติบนดอย คอยอยู่ หมู่ลูกหลาน

วันคืนผ่าน ครุ่นคิด พิสมัย

คร่ำครวญถึง คะนึงหา ด้วยอาลัย

ทั้งห่วงใย อยากรู้ ว่าอยู่ดี


๒๑ จงรู้รัก แผ่นดิน ถิ่นก่อเกิด

และผู้ให้ กำเนิด เพิ่มพูนศรี

กลับไปบ้าง ดูแล บุพการี

ท่านผู้มี พระคุณ การุณย์เรา


๒๒ คงยังจำ กันได้ ใช่ไหมเพื่อน

ก่อนจะเคลื่อน กายา จากป่าเขา

เป็นความหวัง ของใคร ยามวัยเยาว์

อย่ามัวเมา ลืมเลือน เถื่อนที่มา


๒๓ ถิ่นที่มี เสียงเรไร ให้ยินแว่ว

สายลมแผ่ว พัดตลอด ลอดพฤกษา

ดอกไม้บาน เต็มทุ่ง จรุงตา

สายธารา ไหลลง ส่งไอเย็น


๒๔ ไม่ค่อยเห็น แสงสว่าง จากทางนี้

บนดอยมี แต่หมอก เมฆลอยเด่น

ที่ยอดหญ้า ขะนิ้งเกาะ ให้เห็นเป็น

ความเยือกเย็น ฤดูหนาว ถึงคราวมา


๒๕ คอยส่งความ อบอุ่น ละมุนฝัน

ถึงดอยอัน ไกลห่าง หว่างภูผา

ความคิดถึง ห่วงใย สายลมพา

พัดผ่านหน้า กระท่อมน้อย ปล่อยวางไว้


๒๖ เพียงเพื่อผู้ อยู่ใน กระท่อมนั้น

ได้แบ่งปัน รอยยิ้ม อันพริ้มใส

เพื่อหิ่งห้อย ได้เพิ่ม เสริมแรงใจ

ทำงานไป เพื่อเขา ที่เรารัก


๒๗ ตอนนี้น้อง หิ่งห้อย ไร้ลำพู

บินละหมู่ หลงมา ลาลานสัก

เพื่อเสาะหา ลำพู ไว้อยู่พัก

ทิ้งสำนัก ถิ่นเกิด กำเนิดมา


๒๘ หวังจะพบ ต้นหนึ่ง ซึ่งมั่นคง

ได้บินลง พักผ่อน คราอ่อนล้า

อาศัยเงา ยามแสง ตะวันทา

ทาบขอบฟ้า หลบร้อน ได้ผ่อนคลาย


๒๙ คอยถึงคืน แรมจะ แอร่มจ้า

กระพริบพร่า ส่งแสง แรงเฉิดฉาย

สีใสผ่อง ดั่งดาว พราวประกาย

บินเริงร่าย ระบำหมู่ อยู่กรุงไกร


๓๐ อาจยากเกิน ลำแสง แห่งหิ่งห้อย

บินล่องลอย ล้าแรง แข่งแสงใส

ในคืนแจ่ม ดาวเดือน เกลื่อนฟ้าไกล

แสงส่งไป จึงหมอง ครองคืนเพ็ญ


๓๑ วันนี้ยัง ไม่ถึง ซึ่งที่ฝัน

แต่สักวัน คงอยู่ ได้รู้เห็น

แม้ลำบาก ตรากตรำ แสนลำเค็ญ

จะเคี่ยวเข็ญ ตนเอง เปล่งแสงไฟ


๓๒ เพียงแค่ขอ กำลังใจ ให้กันบ้าง

ในระหว่าง บินฝ่า พายุใหญ่

ผจญหมู่ แสงสี ที่อำไพ

กลางกรุงไกร ค้นถึง ซึ่งลำพู


๓๓ บนเส้นทาง ใช่โรย ด้วยกุหลาบ

ต้องคอยปราบ ไพรี ที่มาสู่

ต้องอดทน ต่อไป ไล่ศัตรู

ต้องหยัดสู้ ลำพัง อย่างชาวดอย


๓๔ จะจดจำ ทุกสิ่ง ยิ่งบทเรียน

จะพากเพียร ต่อไป ไม่ล่าถอย

จะบินมุ่ง กลับหลัง ยังภูดอย

หากหิ่งห้อย ถึงฝัน อันเป็นจริง


๓๕ ไม่เคยลืม ความหลัง แม้วันผ่าน

จากไปนาน แสนไกล แต่ใจสิง

อยู่ที่บ้าน หลังน้อย คอยแอบอิง

ยามพบสิ่ง เลวร้าย ได้ฟื้นฟู


๓๖ ขอบนดอย คอยอยู่ จะสู้ต่อ

เพียงเฝ้ารอ ส่งใจ ให้หยัดสู้

เติมพลัง ก่อร่าง สร้างฝันดู

แค่มีอยู่ เท่านี้ ที่ต้องการ ๚ะ๛




* จุดหักเห... ของชีวิต *




๑ และแล้วก็ มาถึง ยังจุดหนึ่ง

เป็นจุดซึ่ง ทำชีวิต ต้องพลิกผัน

หักเหไป สู่อาชีพ นักประกัน

จากวันนั้น ถึงวันนี้ ที่ยาวนาน


๒ สามสิบ พฤษภา ปีสามแปด

ยินเสียงแผด ร้องให้ ในสถาน

เมื่อรับทราบ ข่าวร้าย ยามวิกาล

เป็นข่าวสาร จากตำรวจ ที่ตรวจเจอ


๓ ใครคนหนึ่ง ได้รับ อุบัติเหตุ

จากภัยเภท ซึ่งเกิด ได้เสมอ

ขับรถยนต์ ชนกัน ยามพลั้งเผลอ

เจ็บกันเกร่อ นอนกอง สองข้างทาง


๔ ในหนึ่งนั้น เป็นพี่ ชายของฉัน

หนักเข้าขั้น ไม่รอด ดังหมออ้าง

จนไม่รับ เข้ารักษา ให้เบาบาง

ความหวังลาง เลือนลับ จวนดับสูญ


๕ จึงพูดคุย ขอร้อง โรงพยาบาล

ให้บริการ รับเอา เข้าสู่ศูนย์

ไอซียู อย่างด่วนด้วย ช่วยเกื้อกูล

ด้วยอาดูร กลัวหมดหวัง รั้งชีวี


๖ ต้องรับรอง ว่าน้อง มีค่ารักษา

และสัญญา ชำระให้ ในวันนี้

โทรไปตาม ประกัน ในทันที

เนื่องด้วยมี ประกันไว้ ให้จ่ายแทน


๗ เขาจึงรับ ด้วยจำใจ ไม่ต้องการ

คงกลัวผ่าน เข้าแล้ว จะเสียแผน

ชื่อเสียงของ โรงพยาบาล จะคลอนแคลน

หากคนแดน พงศ์ไพร วายชีวี


๘ เข้าผ่าตัด สมอง ต้องเร่งด่วน

ชีพเรรวน หมดหมอ รอถอยหนี

ต้องขอร้อง ให้พยายาม ทุกวิธี

เพื่อให้พี่ คงอยู่ เคียงคู่เรา


๙ ค่าใช้จ่าย เงินสด หมดไปเยอะ

แต่ช่างเถอะ เพื่อให้คืน ฟื้นชีพเขา

แล้วค่อยค่อย เก็บหอม รอมริบเอา

จนเงินเก่า หมดสิ้น แทบดิ้นตาย


๑๐ รักษาตัว เก้าวันใน ไอซียู

ยังไม่รู้ สึกตัว น้องใจหาย

คอยสวดมนต์ อ้อนวอน เพื่อพี่ชาย

จงกลับกลาย มาเป็น พี่คนเดิม


๑๑ จากนั้นจึง ขอรับ ย้ายกลับบ้าน

เข้าสถาน พยาบาล รักษาเพิ่ม

ต้องผ่าตัด อีกครั้ง ยังจุดเดิม

เพื่อช่วยเสริม ยังสมอง ต้องลองดู


๑๒ แพทย์ไม่ได้ ให้ความหวัง มากมายนัก

เพียงแค่ทัก ว่าอาจ หายนะหนู

หรือไม่ก็ พิการ นะโฉมตรู

จะยอมสู้ ต่อไป ไหวไหมเธอ


๑๓ ไม่เป็นไร หรอกหมอ ช่วยพี่ด้วย

ยามเจ็บป่วย ต้องรัก- ษาเสมอ

แล้วค่อยว่า อีกที ตอนนี้เบลอ

จนเกือบเอ๋อ ตามไป ด้วยใจเพลีย


๑๔ ยังสถาน พยาบาล รัฐสามเดือน

มีผองเพื่อน พี่รู้เข้า เขาใจเสีย

เพิ่งทราบข่าว จึงมาปลอบ มอบพเยีย

แถมช่วยเสีย ค่าใช้จ่าย ไปหลายตังค์


๑๕ กราบขอบคุณ ศิษย์เก่า รุ่นสิบสอง

แม่สะลอง ทุกท่านได้ ให้ความหวัง

มาช่วยเติม เพิ่มแสง แห่งพลัง

ยามกำลัง เริ่มลา ว่าถอดใจ


๑๖ เมื่ออาการ ของพี่ เริ่มดีขึ้น

หมอบอกฟื้น แล้วนะ คนเจ็บไข้

แต่ทว่า จะพิการ ตลอดไป

สมองได้ ช้ำจน พ้นความจำ


๑๗ จึงติดต่อ ขอรับ กับสินไหม

ประกันไว้ ห้าแสน ยามถลำ

อุบัติขึ้น แม้ไม่ ตั้งใจทำ

ใจหายล้ำ เมื่อผู้รับ กลับเปลี่ยนแปลง


๑๘ จึงติดต่อ ถามถึง ซึ่งเหตุผล

ว่ามีกล อันใด ได้แอบแฝง

ด้วยจิตใจ ไหวหวั่น หวาดระแวง

หรือใครแกล้ง เปลี่ยนชื่อ ผู้ถือเงิน


๑๙ จึงรู้ว่า นายประกัน นั้นช่วยเพื่อน

มาบิดเบือน แก้ไข ไม่ขัดเขิน

เปลี่ยนผู้รับ ประโยชน์ กันเพลิดเพลิน

จำต้องเดิน เรื่องร้อง ฟ้องกันไป


๒๐ หัวหน้าหน่วย น่ารัก เป็นนักหนา

ช่วยกันหา หลักฐาน ช่วยขานไข

ว่าลายมือ ชื่อนั้น เป็นของใคร

เพราะไม่ใช่ ของพี่ นี้แน่นอน


๒๑ จากวันที่ มีใน ใบเปลี่ยนแปลง

จึงรู้แจ้ง เพิ่งแก้ไป ในวันก่อน

หัวหน้าหน่วย ร่วมด้วย ช่วยบังอร

จรดอักษร ถึงฝ่าย จ่ายประกัน


๒๒ ณ วันนั้น เกือบสาย ไปเสียแล้ว

เกือบรับแห้ว มาแทน แฟนพี่ฉัน

โอ้ใจคน ใยแปร เปลี่ยนเร็วพลัน

ไม่ถึงวัน พี่ตาย ใจผันแปร


๒๓ เงินก้อนนั้น ส่งยื่น คืนมาหมด

เขาจ่ายทด แทนให้ ด้วยพ่ายแพ้

ส่วนนี้ต้อง เก็บไว้ ให้ดูแล

พี่แท้แท้ ของเรา เขาพิการ


๒๔ ในตอนนั้น ฉันเป็น น้องคนเล็ก

ยังคงเด็ก ถูกกันออก นอกข่าวสาร

ใส่ชื่อแม่ พี่เข้า สองคนทาน

ธนาคาร ฝากไว้ ใส่ประจำ


๒๕ บัญชีนั้น ไม่ได้ ใส่ชื่อน้อง

มีเพียงสอง ชื่อจึง ได้ถลำ

พลาดอีกครั้ง เมื่อพี่เรา เขาไปทำ

ถอนเงินนำ ออกก่อน ตอนปลายปี


๒๖ นั่นไงเล่า สมดัง คำเขาว่า

เงินมีค่า มากกว่า ความน้องพี่

ถอนออกไป เกือบหมด ปิดบัญชี

เหลือแสนสี่ น้องจำ เข้าจัดแจง


๒๗ บังคับให้ ไปถอน ออกมาหมด

เป็นเงินสด ไม่ให้ ใครแอบแฝง

มาถอนไป ใช้จ่าย ให้ระแวง

จำแสดง ตัวเรา เข้าครอบครอง


๒๘ จากวันนั้น ถึงวันนี้ ปีที่สิบ

เงินเพียงหยิบ มือเดียว กับสมอง

หิ่งห้อยน้อย ต้องหา มาสำรอง

เพราะพี่ต้อง รับยา มาทุกเดือน


๒๙ ยังโชคดี มีพี่ คนที่สาม

คอยติดตาม ดูแล พร้อมผองเพื่อน

แม่สะลอง ใต้หวัน หมั่นมาเยือน

เปรียบเสมือน ญาติมิตร สนิทกัน


๓๐ หลายปีแล้ว แววพี่ ไม่มีหาย

คงเป็นชาย เพียงร่าง เหินห่างฝัน

เป็นเช่นนี้ ตลอดไป เนิ่นนานวัน

ชั่วกัปกัลป์ กว่าชีพ สูญสิ้นไป


๓๑ คงมีเพียง คนอยู่ ที่รู้เห็น

ต้องรับเป็น หน้าที่ เอาใจใส่

อนาคต ของหลาน หันทิศใด

ด้วยห่วงใย หน่อเนื้อ จึงเกื้อกูล


๓๒ ในยามนี้ หวังเพียง เลี้ยงชีวิต

ฝ่าวิกฤต ขวากหนาม รามสูรย์

ข้ามผ่านความ หม่นหมอง ครองอาดูร

หวังแสงสูรย์ สุริยาส่อง ต้องประกาย


๓๓ เกิดมาเป็น คนจน ต้องทนสู้

หยัดยืนอยู่ ต่อแม้ ใจสลาย

เรื่องหนหลัง ทำเอา เราปางตาย

จึงต้องกลาย เป็นหิ่งห้อย ขี้น้อยใจ


๓๔ นี่เป็นเพียง เรื่องหนึ่ง ซึ่งผ่านพ้น

จะอดทน เพื่อแม่ คอยแก้ไข

ต้องทำงาน จึงลา ละพงศ์ไพร

บินฝ่าไป ลำพัง อย่างชาวดอย


๓๕ คืนร่างเป็น หิ่งห้อย พเนจร

ต้องเร่ร่อน เรื่อยไป ไม่ท้อถอย

เกิดมาสู้ ดูสักตั้ง คนหลังคอย

จึงล่องลอย ทั่วถิ่น แผ่นดินไทย


๓๖ จากเรื่องราว ที่พบ ประสบเจอ

จำเสมอ เพื่อนำ ทำแก้ไข

ปัญหามี ปัญญามา ว่ากันไป

ด้วยจิตใจ สัตย์ซื่อ คือคนดอย ๚ะ๛




* คำสัญญา *




๑ กลับไปเยี่ยม บ้านเกิด บนดอยสูง

ขับรถมุ่ง ป่าใหญ่ ในทิศเหนือ

หวังจะพบ ญาติที่ เคยจุนเจือ

คงยังเหลือ ไม่สูญ สิ้นชีวิน


๒ นานแสนนาน ไม่เคย ได้หวนกลับ

จากลาลับ เนิ่นนาน ให้ถวิล

ได้คิดถึง คะนึงหา เป็นอาจินต์

อยู่ต่างถิ่น นานวัน มั่นจิตใจ


๓ ขอทำงาน สร้างตัว ดีกว่านี้

ดีกว่าที่ เคยเป็น แต่หนไหน

ทำงานเพื่อ ลบคำหมิ่น จากใครใคร

ตั้งไจไว้ คงโชคดี มีศรีสุนทร์


๔ จะหวนกลับ ไปแทนคุณ คนเบื้องหลัง

คนที่ยัง เฝ้ารอ สนับสนุน

คนคอยให้ กำลังใจ คอยค้ำจุน

คนที่วุ่น วายสุดสุด เพื่อตัวเรา


๕ กลับมาแล้ว พี่ป้าน้า คุณอาขา

หนูกลับมา สู่เหย้า เข้าขุนเขา

หวนกลับคืน อ้อมกอด ภูมิลำเนา

จากยังเยาว์ คงจำได้ ไม่ทำลืม


๖ วันนี้ได้ มาเยี่ยม ทุกทุกบ้าน

ต่างเบิกบาน มีสุข สุดสดชื่น

คงจะตั้ง ตารอ ทุกวันคืน

คอยทรามชื่น บรรลุผล ที่ตั้งใจ


๗ อีกไม่นาน เกินรอ ขอสัญญา

จะกลับมา ตั้งรกราก ในป่าใหญ่

ทุนสักก้อน ทำกิน ตลอดไป

คงสุขใจ ถ้วนหน้า อีกไม่นาน ๚ะ๛




* คืนฟ้า... เหงา *




๑ ค่ำคืนฟ้า มืดมิด ติดเหงาเหงา

โอ้ตัวเรา นั่งคิดถึง คะนึงหา

บ้านหลังน้อย ในป่า ที่จากมา

ผ่านเวลา จะเปลี่ยน เป็นเช่นไร


๒ บ้านน้อยน้อย หลังนั้น ช่างอบอุ่น

ยามอรุณ แดดส่อง สว่างไสว

มวลบุบผา ชูช่อ แตกหน่อใบ

หริ่งเรไร ส่งเสียงร้อง ก้องพนา


๓ เหล่าแมลง ภู่ผึ้ง ผกโผผิน

กางปีกบิน วนเวียน ว่อนเวหา

ดอกหญ้าโผล่ พ้นพื้น พสุธา

ไหวไปมา ยามต้อง แรงลมโชย


๔ มีสายฝน โปรยปราย จากปลายฟ้า

ชุบชีวา ชีวิตให้ ไม่ระโหย

มวลดอกไม้ ชูช่อ รอวันโรย

แผ่นดินโดย ธรรมชาติ ตระการตา


๕ กลิ่นพืชพรรณ นานา ขจรทั่ว

ทั้งดอกบัว พรรณไม้ และใบหญ้า

ขึ้นผสม กลมกลืนไกล สุดสายตา

ภายใต้ฟ้า ผืนใหญ่ ใบเดียวกัน


๖ ช่างห่างไกล กันนัก กับทางนี้

อยู่ที่นี่ ได้แต่ การห้ำหั่น

ทั้งแก่งแย่ง แข่งขัน ประลองกัน

ทุกทุกวัน ต้องวิ่ง ชิงความดี


๗ มันช่างเหงา และล้า เป็นนักหนา

จะขอลา พักร้อน ตอนรุ่งนี้

กลับคืนสู่ บ้านน้อย คอยนานปี

พักฤดี ให้หายเหมื่อย เหนื่อยหัวใจ


๘ จะชาร์ตแบต เพิ่มพลัง ให้เต็มที่

ความเหงามี จักลบ จักกลบไส

แทนที่ด้วย ความเข้มแข็ง แกร่งกว่าใคร

ยิ้มสดใส กลับคืน สู่ตัวเรา


๙ พักปัญหา ทุกอย่าง ของทางนี้

กลับไพรี ไปสู่ กลางภูเขา

บ้านหลังน้อย คงอยู่ คอยดูเรา

ภูมิลำเนา ปฐพี ที่จากมา


๑๐ แล้วจะกลับ มาทำงาน สร้างฐานะ

ด้วยสัจจะ ของคน บนภูผา

จักทำงาน ให้ดีขึ้น ขอสัญญา

ด้วยหน้าตา สดใส ไร้กังวล


๑๑ เพื่อจะทน ทานได้ ในทุกสิ่ง

ชีวิตจริง เริ่มใหม่ ได้อีกหน

จักต่อสู้ มารที่มา พร่าผจญ

จะอดทน สานฝัน เพื่อบั้นปลาย ๚ะ๛




* เพียงรำพึง *




๑ ดวงตะวัน ยามเย็น ลอยเด่นฟ้า

คอยเวลา คล้อยเคลื่อน เลือนลับหาย

ยามราตรี เวียนมา ดาราพราย

ทอประกาย แสงสู่ พสุธา


๒ เมื่อทิวา ผ่านพ้น บนภูเขา

คงเหลือเงา ร่มไม้ ไพรพฤกษา

มีเสียงสัตว์ น้อยใหญ่ ในพนา

ส่งภาษา กู่ร้อง ก้องแดนดง


๓ สายลมพัด ผ่านไป กายใจชื่น

หอมระรื่น กลิ่นผกา น่าลุ่มหลง

ธรรมชาติ ตระการตา คราอัสดง

จะยืนยง เช่นนั้น ไม่ผันไป


๔ ฤดูกาล หมุนเวียน เปลี่ยนสลับ

วันคืนลับ ล่วงคล้าย ใครเสือกใส

ธรรมชาติ ป่าเขา ลำเนาไพร

รักษาไว้ แม้ผ่าน กาลเวลา


๕ นั่งรำลึก ถึงถิ่น แผ่นดินเกิด

แหล่งล้ำเลิศ ในใจ ที่ใฝ่หา

ความผูกพัน มั่นอยู่ ในอุรา

ตลอดมา คิดถึง อย่างซึ้งใจ


๖ เฝ้ารอวัน ที่ได้ กลับไปบ้าน

คงชื่นบาน รื่นรม สมสมัย

ให้คุ้มกับ เวลา ที่ลาไกล

สะสมไว้ ความสุข ทุกข์ลบเลือน


๗ ใยท้องฟ้า ทางนี้ สีหม่นหมอง

แสงดาวส่อง ดูไป ไม่แม้นเหมือน

อยู่บนเขา เห็นเด่น ทั้งดาวเดือน

มาเยี่ยมเกลื่อน ท้องฟ้า จนพร่าพราย


๘ อยากจะเห็น ทุกที่ ได้มีป่า

ปวงประชา คงสม อารมณ์หมาย

บรรเทาความ รุ่มร้อน ใจผ่อนคลาย

หลอมละลาย ความรั้น ดันทุรัง


๙ เป็นความฝัน เล็กเล็ก เด็กคนหนึ่ง

เพียงรำพึง ออกไป ด้วยใจหวัง

ธรรมชาติ เป็นบ่อเกิด กำเนิดพลัง

จะคงยัง ฝันต่อ เฝ้ารอดู


๑๐ เมื่อท้องฟ้า ทางนี้ มีดาวเยือน

กระพริบเตือน ทักทาย ไล้แสงสู่

สายลมมี พัดใส่ ให้ไหวพรู

จะน่าอยู่ อย่างเห็น เช่นบนดอย ๚ะ๛




* ถามจันทร์ ? *




๑ ยืนโดดเดี่ยว เปลี่ยวใจ ใต้แสงดาว

ส่งแสงพราว กระจ่างพร่าง เต็มกลางฟ้า

กระพริบแสง วับวาว เจ้าดารา

บนเวหา เหงาไหม ในคืนเพ็ญ


๒ นี่จันทร์เจ้า รู้ไหม เจ้ามีคู่

อาทิตย์อยู่ อีกฝั่ง ด้วยหวังเห็น

รอเจ้ามา อาทิตย์ คลายฤทธิ์เป็น

ทอแสงเย็น ระเรื่อรอน ก่อนเจ้ามา


๓ แต่ทว่า เจ้าช้า อาทิตย์หลบ

รีบชิงพลบ ลับร่าง อีกฝั่งฟ้า

เมื่อเจ้าโผล่ อาทิตย์ซ่อน แรมรอนลา

อย่างนี้หนา วันใดจะ ได้พบกัน


๔ อีกนานไหม วันที่ ไม่หนีหลบ

เคลื่อนมาพบ กันได้ โดยไม่หวั่น

หมุนมาเจอ ทายทัก กันสักวัน

เพื่อแบ่งปัน เรื่องที่พบ ประสบมา


๕ ณ วันนั้น คงมีมาก หลากเรื่องเล่า

ใช่ไหมเจ้า จันทร์เพ็ญ เด่นเวหา

ทุกคืนค่ำ จำหมดจรด พสุธา

ใต้แผ่นฟ้า มีอะไร ที่ได้เจอ


๖ เจ้าดวงดาว ส่องแสง ล้าแรงไหม

หรืออ่อนใจ สับสน ระคนเผลอ

สักครั้งไหม ทนฝืน ยืนละเมอ

นั่งมองเหม่อ ถึงวัน ซึ่งผ่านไป


๗ แค่อยากรู้ จึงถาม ยามนี้เหงา

จิตว่างเปล่า เดียวดาย ไม่สดใส

หมองหม่นมืด เหมือนมุด อยู่รูใน

ลึกลงใต้ แผ่นดิน สุดถิ่นแดน


๘ ดาวจ๋าดาว เจ้าสบ พบบ้างไหม

ความเหงาใจ หม่นหมอง มาครองแขวน

มีวิธี แก้อย่างไร ไม่คลอนแคลน

จะยากแสน อย่างไร จักใคร่ทำ


๙ เฝ้าวอนถาม จันทร์เพ็ญ เด่นกระจ่าง

อยากพบทาง ทำใจ ไม่ถลำ

จมลงสู่ ห้วงลึก ที่นึกนำ

ขอเจ้าย้ำ ตอบด้วย ช่วยเจรจา


๑๐ ขอเรี่ยวแรง ที่มี ให้ดีอยู่

ผ่านฤดู กาลวัน เฝ้าฝันหา

หวังจะมี อนาคต ไม่ลดลา

รังสีจ้า เปล่งแสง แข่งดาวเดือน ๚ะ๛




* หิ่งห้อย...พเนจร ^_^ *




๑ หิ่งห้อยน้อย ยังจร ร่อนไปเรื่อย

บางครั้งเหนื่อย ท้อแท้ แลสิ้นหวัง

หลายครั้งน้อง ต้องเติม เสริมกำลัง

ยามพลัง เริ่มล้า คราห่างไกล


๒ ณ ยามนี้ ยังผิน บินวนอยู่

และไม่รู้ วันหน้า จะอยู่ไหน

เพียงต้องการ แค่คน คอยห่วงใย

เอาใจใส่ หนูหิ่งบ้าง บางเวลา


๓ แต่คงยาก เพราะน้อง ต้องเคลื่อนที่

จรลี ทั่วดินแดน ใต้แผ่นฟ้า

ยังไม่ทราบ ว่าวันใด จะใคลคลา

กลับคืนป่า ภูเขา ที่เฝ้ารอ


๔ เนื่องด้วยงาน ต้องท่อง ทุกท้องที่

หลายครั้งมี ปัญหา ระอาท้อ

จำต้องทน เพราะน้องรับ ภาระพอ

หน้าที่ต่อ มากมาย จากหลายเรือน


๕ หิ่งห้อยน้อย จึงบินลอย คอยปล่อยแสง

กระพริบแรง ส่งใจ หวังได้เพื่อน

ยามเลิกงาน อยู่เดียวดาย ใต้แสงเดือน

เปรียบเสมือน ไร้ญาติมิตร สนิทใจ


๖ อยากมีพี่ ที่เป็น ได้ทั้งเพื่อน

คอยตักเตือน ยามเพลิน เดินเหลวไหล

ทั้งให้คำ ปรึกษา ด้วยห่วงใย

ยามล้าแรง ส่งใจ มาสู่กัน


๗ จะเป็นน้อง ที่ดี นะคะพี่

นับจากนี้ ตลอดไป ไม่แปรผัน

ภายภาคหน้า อาจห่าง ร้างไกลกัน

จะยึดมั่น รักษา สัญญาใจ


๘ แม้หิ่งห้อย เด็กดอย คอยแต่เหงา

ทุกคืนเฝ้า เหม่อมอง จ้องฟ้าใส

เห็นแสงดาว พราวระยับ ลิบลับไกล

ส่องไสว ทั้งคืน หมื่นล้านดวง


๙ ขอสื่อความ ในใจ ผ่านฟากฟ้า

เป็นภาษา ส่งถึง ซึ่งคนห่วง

ณ ยามนี้ หิ่งห้อย เหงาหงอยทรวง

ขอวอนดวง ดารา ส่งข่าวที


๑๐ อยากมีพี่ เป็นทั้ง พี่และเพื่อน

เปรียบเสมือน มิตรแท้ ไม่หน่ายหนี

สายสัมพันธ์ เชื่อมต่อ ก่อไมตรี

ชั่วชีวี ห่วงใยกัน นิรันดร


๑๑ จะมีใหม ใครหนอ ที่รออยู่

เป็นทั้งครู ทั้งเพื่อน คอยเตือนสอน

เป็นคนที่ คอยใส่ใจ เอื้ออาทร

จึงมาอ้อน ขอคนดี เป็นพี่สักคน


๑๒ หนูหิ่งห้อย ตัวน้อยนิด ติดความเหงา

ตามเป็นเงา ไปทั่ว ทุกแห่งหน

หากใครยอม เป็นพี่ คงต้องทน

กับความซน ปั่นป่วน กวนจิตใจ ^_^


๑๓ ณ ตอนนี้ ยังไม่มี ใจจะคิด

เพียงสักนิด เรื่องตัว กลัวเหลวไหล

อนาคต ข้างหน้า อีกยาวไกล

จึงอ้อนให้ เป็นพี่ชาย ที่แสนดี


๑๔ คิดแบบนี้ ใครว่า หนูบ้าไหม

บอกจากใจ จริงจริง นะคะพี่

ยังไม่เค้ย ไม่เคย คิดสักที

ว่าจะมี ใครมาจอง ครองหัวใจ ๚ะ๛




* ไม่เอา... กิ๊ก *




๑ ก็ใช่ซี้ ให้เป็นพี่ ก็ดีแล้ว

จะเอาแห้ว มันเผือก อะไรเล่า

ให้เป็นพี่ ทำไม ถึงไม่เอา

ก็ใจเขา รับไม่ได้ ไม่ให้เป็น


๒ จะกิ๊กใหม่ กิ๊กเก่า ก็ไม่รับ

ขี้เกียจสับ รางรถไฟ กลัวใครเห็น

คนนี้เช้า อีกคนเล่า เข้ามาเย็น

น้องขอเผ่น ไม่ยอมกุ๊ก กิ๊กกะใคร


๓ จะขอเป็น แฟนเหมือน ใครคนหนึ่ง

คนที่ซึ้ง ผูกพัน ใช่ที่ไหน

แม่แต่เพื่อน โทรมา เมื่อลาไกล

คอยห่วงใย เช่นเพื่อน เหมือนก่อนมา


๔ ทำไงเล่า ก็หัวใจ มันไม่รัก

จะอกหัก อะไร กันนักหนา

เมื่อวานพี่ เพิ่งถูก หักอกมา

ยังจะกล้า ขอเป็นกิ๊ก เกินพี่ชาย


๕ ให้เป็นพี่ มันก็ ดีอยู่แล้ว

อย่าเปลี่ยนแนว ดีกว่า จะลาหาย

เป็นพี่น้อง มั่นคง ไม่เสื่อมคลาย

ยังไม่สาย คิดใหม่ คิดให้ดี ๚ะ๛




* ช่วยด้วย *




๑ ยามอึดอัด คับจิต คิดไม่ตก

อยากจะหมก ตัวคู้ อยู่ในห้อง

อยากจะปล่อย น้ำตา ให้ไหลนอง

อยากจะร้อง ออกมา ให้สาใจ


๒ หันไปมอง รอบกาย ใครไม่เห็น

หนาวเยือกเย็น ในจิต พิสมัย

เหม่อมองดู ท้องฟ้า อันกว้างไกล

ด้วยดวงใจ สุดเหงา เศร้าระทม


๓ แม้ดวงดาว ยังคง ส่งแสงใส

แต่ในใจ มืดมิด จิตขื่นขม

คร่ำครวญคิด ยึดติด แต่เศร้าตรม

พยายามข่ม ทนฝืน กลืนน้ำตา


๔ กาลเวลา หมุนเวียน เปลี่ยนไปเรื่อย

แสนจะเหนื่อย ท้อแท้ เป็นนักหนา

ไม่อยากแย่ง แข่งความดี ตลอดเวลา

ยามนี้ล้า สุดแล้ว อยากแจวจร


๕ ยามทุกข์ทน เวลา ช่างแสนช้า

ทุกทุกนา- ทียิ่ง คิดสะท้อน

ทำให้คิด ถึงบ้าน เกิดเมืองนอน

ด้วยอาวรณ์ หวนให้ อยู่ภายใน


๖ อยู่ห่างไกล จากบ้าน ก็เศร้าแล้ว

ยังไม่แคล้ว เจอเรื่อง อื่นเข้ามาใหม่

ต้องระทม ขมขื่น ถึงเมื่อไร

จึงจะได้ พบสุข พ้นทุกข์ที


๗ อยากจะทิ้ง งานการ ที่ทำไว้

อยากจะไป ลับลา จากตรงนี้

อยากจะลืม ในสิ่งโศก เศร้าฤดี

อยากจะหนี ให้ลับ สุดสายตา


๘ แต่ภาระ หน้าที่ ยึดผูกติด

คงจะผิด ถ้าทิ้งไป ไม่รักษา

คำก่อนเก่า เราได้ ให้สัญญา

ปรารถนา จะอยู่ดู ตลอดไป


๙ คงต้องทน ต่อไป ไม่สิ้นสุด

ต้องหัดหยุด จิตให้ ไม่หวั่นไหว

ต้องคอยเติม เสริมสร้าง กำลังใจ

จะอย่างไร ต้องอยู่ คู่สัญญา


๑๐ ด้วยสัจจะ สัญญา ให้ไปแล้ว

ต้องยึดแนว ปฏิบัติ อย่างหนักหนา

ต้องดำรง คงมั่น ในสัญญา

กว่าชีวา ดับดิ้น สูญสิ้นไป


๑๑ แต่ในใจ ยังคง มืดสนิท

ไม่มีสักนิด ซึ่งแสง สว่างใส

ความเหงาเศร้า ยังรุม สุมจิตใจ

อยากร้องให้ แต่น้ำตา หาไม่มี


๑๒ คิดว่าเมื่อ ได้ร้อง ออกไปบ้าง

คงเป็นทาง ผ่อนคลาย ถ่ายเศร้านี้

คิดว่าถ้า น้ำตา มาคงดี

แต่ไม่มี น้ำใสใส ไม่ไหลมา


๑๓ ใครก็ได้ “ ช่วยด้วย “ ช่วยบอกหน่อย

วิธีปล่อย ความเศร้า เราเสาะหา

ใครก็ได้ “ ช่วยด้วย “ ช่วย หาน้ำตา

มารักษา ความเหงา เศร้าให้ที


๑๔ จะมีใคร บ้างไหม วานบอกน้อง

ว่าจะต้อง ทำอย่างไร กับใจนี่

ใครจะช่วย คลายความเหงา เศร้าชีวี

ใครจะมี ทางแก้ แผลข้างใน


๑๕ จิตใจของ หิ่งห้อย มีหลุมบ่อ

คอยเฝ้ารอ ความห่วงใย เอาใจใส่

คอยคนเข้า บรรเทาทุกข์ จากจิตใจ

จะมีไหม บอกหน่อย ขอสักคน


๑๖ มีเพียงแค่ หนึ่งคน ก็คงพอ

หิ่งห้อยขอ แค่นี้ ไม่สับสน

คำขอน้อง ไม่ได้ วกเวียนวน

ไม่ใช่บ่น แต่เศร้า เหงาจริงจริง


๑๗ หิ่งห้อยน้อย จากดอย บินลอยเรื่อย

บินจนเหนื่อย อ่อนล้า มาไกลยิ่ง

ระทดระทวย แสวงหา แหล่งพักพิง

เศร้าเสียจริง ที่บินหลง จากพงดอย


๑๘ จะบินลับ กลับบ้าน ก็ไม่ได้

สัญญาใจ นั่นหรือ สื่อจากถ้อย

ต้องทนสู้ ต่อไป อย่างเลื่อนลอย

เฝ้ารอคอย ด้วยหวัง สร้างฝันมา


๑๙ อยากจะดู ให้รู้ อนาคต

ว่าจะสด ใสดัง ปรารถนา

จะพานพบ ความรมย์รื่น ชื่นชีวา

ภายภาคหน้า จะเวียน เปลี่ยนอย่างไร


๒๐ จะมีไหม วันนั้น ที่ฝันถึง

วันที่ซึ่ง มีแต่ สุขสดใส

วันที่ไม่ มีทุกข์ รุมเร้าใจ

วันที่ได้ คืนถิ่น ดินแดนดง


๒๑ ยามนี้ยัง บินได้ ไม่ตรงทาง

วานบอกบ้าง หากหิ่งห้อย คอยบินหลง

ช่วยบอกหน่อย ลู่ทางบิน ที่เที่ยงตรง

ไม่ให้คง โผผิน สิ้นทางเดิน


๒๒ ตัวคนเดียว โดดเดี่ยว และเดียวดาย

มุ่งหน้าไป ตามทาง ระหกระเหิน

มีมากมาย หลายสิ่งให้ ได้เผชิญ

ไม่หลงเพลิน กับแสงสี เมืองมายา


๒๓ แต่ยังพก พาเหงา เศร้าทุกที่

ดวงฤดี แน่นหนัก อยู่เสมอ

ความเหงาเศร้า ยังรู้ อยู่ให้เจอ

แม้จะเผลอ ลืมทิ้ง ยังวิ่งตาม ๚ะ๛




* เรื่อง... ธรรมดา *




หลายเดือนก่อน

หนูหิ่ง ฯ ได้ข่าวว่าน้องคนหนึ่ง กินยาฆ่าตัวตาย

หนูหิ่ง ฯ ตกใจมากกับข่าวนี้ ด้วยไม่คิดว่าจะเกิดขึ้น

น้องคนนี้แม้จะไม่สวย แต่น่ารัก นิสัยดี

อาจจะเป็นเพราะว่าน้องเป็นคนตรง ปะเหลาะไม่เป็นมั้ง ?

โชคยังดี... ที่หมอล้างท้องทัน

เมื่อวันแม่หนูหิ่ง ฯ กลับไปที่บ้าน ก็ไปเจอน้อง

น้องผอมมาก น้ำหนักเหลือแค่ 36 กก.

น้องร้องให้ บอกว่า... ยังทำใจไม่ได้

หนูหิ่ง ฯ ก็ได้แต่ปลอบ ว่าวันหนึ่ง น้องจะทำได้

เรื่องธรรมดา ๆ ใคร ๆ ก็เจอกัน ใช่ว่าน้องเจอคนเดียว

แล้วมันก็จะผ่านไป เหลือไว้แต่ความทรงจำที่ดี

น้องบอกว่าตอนนี้น้องยังอยากอยู่ใกล้ ๆ เขา

เมื่อไหร่ที่น้องทำใจได้ หรือว่าเจ็บจนทนไม่ได้

น้องสัญญาว่าจะมาหาหนูหิ่ง ฯ *_~



* ปลอบ... น้อง *



๑ น้องคนดี คงเจ็บ เศร้าใจแท้

จิตย่ำแย่ หัวใจแหลก แตกสลาย

เลือกไปอยู่ ริมฝั่ง ยังความตาย

ครั้งใจชาย เริ่มเวียน เปลี่ยนสันดาน


๒ คงเหลือทน พ้นจิต จะคิดได้

เขาจากไป เป็นอื่น ทิ้งคืนหวาน

ไม่คิดถึง วันเก่า อันยาวนาน

ปล่อยให้ผ่าน เลยไป ไร้เมตตา


๓ วันนี้จึง ทำใจ ไม่ได้อีก

จำต้องหลีก ตามทาง อนาถา

เขาหลงลืม คำเอ่ย เคยสัญญา

มีน้ำตา เป็นเพื่อน เยือนประจำ


๔ เขาคนนี้ มีคนนั้น มันเจ็บนัก

ก่อนเคยรัก กลับพา มาขยำ

ขยี้ใจ น้องอยู่ ดูเขาทำ

โถคงช้ำ แทบตาย วายชีวี


๕ วันนี้เขา ทิ้งน้อง ต้องร้องให้

พี่อยู่ไกล เหินห่าง ทางวิถี

ไม่ได้คอย ถามตอบ ปลอบคนดี

เกือบเสียที เกือบเสียน้อง ครองน้ำตา


๖ ข่าวว่าเขา มีใหม่ ผูกใจรัก

น้องสมัคร ละสิ้น ทิ้งถิ่นฐา

อยากจะไป ไม่กลับ ลับชีวา

ขออำลา กันทีพลี ชีพพลัน


๗ น้องจ๋าใย ลบเลือน คำเตือนพี่

คิดให้ดี อย่าด่วน ชวนหุนหัน

ตั้งสติ เผื่อใจ ไว้สักวัน

เรื่องราวนั้น ให้เป็น เช่นบทเรียน


๘ ยังคงมี หลายคน ทนทุกข์หนัก

ขาดแคลนนัก น่าอนาถ ขาดเสถียร

ต้องทนอยู่ สู้ไป ในสังเวียน

รอวันเปลี่ยน สิ่งดี มีเข้ามา


๙ เก็บเรื่องเก่า เอาไว้ ได้สำนึก

เพื่อรำลึก ครั้งยังรัก ปราถนา

คุณความดี เหลืออยู่ ควรรู้ค่า

วันข้างหน้า จะเห็น เป็นธรรมดา




* คิดว่าเป็น... เรื่องจิ๊บ ๆ ... *



๑๐ ยามนี้อาจ เศร้าหมอง ต้องท้อแท้

ทั้งย่ำแย่ หัวใจเจียน เหี้ยนสลาย

รำพึงถึง เรื่องอดีต คิดเรื่องตาย

ด้วยร่างกาย หัวใจ ไร้วิญญาณ


๑๑ เจ็บปวดจาก รักนี้ ที่ถูกทิ้ง

เคยแอบอิง พร่ำรัก สมัครสมาน

เป็นคนซึ่ง คบหา มาเนิ่นนาน

ล่วงเลยผ่าน กลับพลัน ผันเปลี่ยนไป


๑๒ อยู่ห่างไกล หลายล้าน พันหมื่นลี้

จนคนดี คนนั้น เขาหวั่นไหว

พบคนใหม่ เคียงข้าง แทนที่ใจ

ปล่อยทิ้งให้ ช้ำกับ รักระทม


๑๓ โถคนดี ต้องทน เก็บกลืนกล้ำ

ใจชอกช้ำ ฝืนไป ให้ขื่นขม

จำอวยพร ทั้งคู่พบ ความรื่นรมย์

มีสุขสม ดั่งหวัง ตลอดไป


๑๔ อกหัก ดีกว่า รักไม่เป็น

พี่นี้เห็น ด้วยนะ น้องว่าไหม

อย่างน้อยน้อย ก็เคย อบอุ่นใจ

เคยอาลัย เมตตา อาทรกัน


๑๕ ขอจงเก็บ ความหวังดี ที่มีให้

คืนสู่ใจ ตนเอง อย่าไหวหวั่น

กาลเวลา หมุนเวียน เปลี่ยนเร็วพลัน

วันหนึ่งนั้น พบแน่รัก แท้จริง


๑๖ อย่าเสียใจ ไปเลย นะน้องรัก

แค่อกหัก เรื่องจ้อย จิ๊บจ๊อยน่า

อย่าไปแคร์ เขาให้ เสียเวลา

มันไร้ค่า กับน้ำตา ที่เสียไป


๑๗ เก็บไว้เป็น บทเรียน ย้ำเตือนจิต

มันไม่ผิด หรอกแค่ เคยชิดใกล้

อย่างน้อยน้อง ต้องรู้ ดีกว่าใคร

รู้แก่ใจ ของเจ้า นะคนดี


๑๘ ทางข้างหน้า ยังอีก ยาวไกลนัก

ขอน้องรัก เอาชนะ เพื่อศักดิ์ศรี

เพื่อตัวเอง ต้องสู้ สุดชีวี

ยังมีพี่ เอาใจช่วย ตลอดเวลา


๑๙ อนาคต ของเจ้า ยังสดใส

จงตั้งใจ ขยันเรียน เพียรศึกษา

วันข้างหน้า จักได้เชิด หน้าชูตา

เพื่อบิดา มารดา และตัวเอง




* เมื่อผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไป... น้องจะยืนได้อย่างดี *




๒๐ แล้ววันหนึ่ง เมื่อน้อง ได้คิดถึง

เรื่องราวซึ่ง เกิดขึ้นแต่หนหลัง

จักหัวเราะ ดัวยเสียงใส เต็มกำลัง

ที่ไม่พลั้ง ถลำเกิน กว่าที่เป็น


๒๑ รู้วันนี้ ดีกว่า ในวันหน้า

มีเวลา ทำใจแม้ จะยากเข็ญ

ขอน้องน้อย ปล่อยวาง ทำใจเย็น

พี่จะเป็น กำลังใจ ตลอดเวลา


๒๒ ใช่ว่าพี่ สักแต่พูด ปลอบใจเจ้า

แต่พี่เอา ความจริงบอก ด้วยห่วงหา

โหสิให้ เขาเถิด นะแก้วตา

จำไว้ว่า มันเป็น แค่บทเรียน…..




* เริ่มต้นใหม่... นะจ้ะ... คนดี...*



๒๓ เริ่มต้นใหม่ ไม่สาย หรอกคนดี

กับการที่ เธอจะ คิดแก้ไข

ไม่ต้องพบ กับความ ทรมานใจ

ขอน้องได้ กลับมา เอื้ออาทร


๒๔ เมื่อก่อนนี้ "รักเขา" ให้เจ้าคิด

ควรพินิจ ดูให้ ดีกว่าก่อน

วันข้างหน้า จะไม่ ถูกตัดรอน

มาบั่นทอน ความรัก ที่ภักดี


๒๕ ตอนนี้ดู ตัวเอง ให้มีค่า

อย่าคิดให้ เขาอื่นมา หยามศักดิ์ศรี

เมื่อทิ้งไป ใยกลับ มาคืนดี

เห็นน้องมี ค่าพอ กับตัวเอง


๒๖ ต่อไปคง เจ็บช้ำ แสนสาหัส

จะถูกพัด คำหวาน ให้คนเก่ง

อาจถูกทิ้ง อีกครั้ง ให้วังเวง

ถูกข่มเหง เจ็บปวด รวดร้าวทรวง


๒๗ อภัยให้ เขาไป เถิดน้องรัก

แล้วจงหัก ห้ามใจ มิให้หวง

เมื่อรับรู้ ถ้อยหวาน นั้นหลอกลวง

วันหนึ่งห้วง ใจน้อง ต้องบรรเทา




* เมื่อเขาไม่เห็นค่า... ก็ขอคืนมาจะดีกว่า *



๒๘ หากความรัก ที่ให้ ไม่มีค่า

ขอคืนมา เก็บไว้ ด้วยใจเหงา

รักษาไว้ แม้จะร้าว ก็ใจเรา

จำไว้เขา ทิ้งไป ให้ตรอมตรม


๒๙ ปล่อยน้ำตา เปียกหมอน นอนสะอื้น

ยามค่ำคืน ไร้แสง แห่งสุขสม

หยดวาววับ ดาษดื่น คืนระทม

ดังติดหล่ม เมื่อตัด ใจขอคืน


๓๐ ให้เวลา สักนิด พิชิตใจ

เริ่มต้นใหม่ วันนี้ ที่ทนฝืน

จำต้องทน อดกลั้น น้ำตากลืน

เพื่อหยัดยืน ขึ้นอย่าง ไม่ร้าวใจ


๓๑ ในเมื่อเห็น ว่าเป็น คนไร้ค่า

ก็อย่ามา วอแว ให้หวั่นไหว

อย่ามาพูด ซ้ำซาก ว่าห่วงใย

ปล่อยทิ้งให้ อยู่ตาม ยถากรรม


๓๒ หยดน้ำใส ไหลลง เปียกตรงแก้ม

ตกแต่งแต้ม ขอบตา ด้วยรอยช้ำ

จากแผลรัก ฝากไว้ ให้ระกำ

ทุกคืนค่ำ ฝืนจิต ไม่คิดตรม


๓๓ หวังเวลา จะช่วย รักษาใจ

ลิขิตให้ ลืมหมด ลดขื่นขม

อนาคต กลับคืน ความรื่นรมย์

อย่าได้ซม ซานซ่อน เหมือนก่อนเคย


๓๔ ในเมื่อไม่ ได้ดี ดังที่คาด

เธอหมายมาด เอาไว้ ได้เฉลย

เปรียบกันแล้ว เสียหมด ทุกเรื่องเลย

โอ้น้องเอ๋ย เขาไม่รัก ต้องหักใจ


๓๕ ความจริงใจ ที่ให้ ดูไร้ค่า

ส่งคืนมา ให้หน่อย จะได้ไหม

อย่าโยนทิ้ง ให้ปวด ร้าวทรวงใน

จะเก็บใส่ กล่องน้อย ร้อยใจดู


๓๖ ขอโทษที ที่ทำ ให้รำคาญ

เช่นวันวาน ว่าไห้ ได้อดสู

ต่อไปนี้ ไม้ต้อง มามองดู

จะเก็บสู่ บทเรียน เพียรจดจำ


๓๗ ทิ้งร่องรอย ของแผล ที่ลางเลือน

เข้ามาเยือน ในอก ให้พกช้ำ

จากความรัก ชักพา มากระทำ

ใจเจ็บช้ำ จนร่วง น้ำตาริน


๓๘ คงอาลัย อาทร อาวรณ์อยู่

ยังรับรู้ เก็บใว้ ใส่หมดสิ้น

แต่อย่าไป บอกให้ เขาได้ยิน

แค่ตัดสิน รับรู้ อยู่ภายใน


๓๙ ทั้งหมดของ เรื่องราว ที่พานพบ

ปิดฉากจบ ลงแล้ว อย่าสงสัย

ต่อไปนี้ น้ำตา จะลาไกล

รักษาใจ ดวงน้อย ค่อยฟื้นฟู


๔๐ จงจดจำ ทุกเรื่อง เป็นบทเรียน

ไว้ปรับเปลี่ยน แก้ไข ไร้อดสู

อนาคต ข้างหน้า เข้ามาดู

ตราบใจสู้ จะไม่แพ้ แก่วังวน


๔๑ มีวันนี้ พรุ่งนี้ และพรุ่งนี้

จะต้องมี สักครั้ง มีสักหน

จะต้องพบ เจอแน่ แค่หนึ่งคน

ยามหมองหม่น มีเขา ที่เข้าใจ


๔๒ ยามนี้เหนื่อย ก็พัก ให้หายก่อน

หลับตานอน ทิ้งกังวล ไม่หวั่นไหว

ตื่นขึ้นมา หยัดอยู่ สู้ต่อไป

ฟื้นความใส สุขสม ถมดวงแด


๔๓ ตอนนี้ถึง ซึ่งจุด สุดวิกฤติ

ทำใจคิด อย่างเดียว อย่าท้อแท้

ยังมีพี่ คอยใส่ ใจดูแล

จะยอมแพ้ ทำไม เรื่องธรรมดา ๚ะ๛





เมื่อเช้าตื่นขึ้นมางัวเงีย
ไม่อยากจะลุกเอาเสียเลย.................. หนาวค่ะ
สมองไม่ยอมทำงาน
มัวแต่พาลคิดถึง คิดถึง คิดถึง
ไม่รู้ทำไมห้ามเท่าไหร่ก็ไม่ฟัง
จะลุกจะนอนจะนั่ง
สมองก็สั่งว่าคิดถึง คิดถึง คิดถึง

เย็นนี้ขอหลานเราเข้าเล่นเน็ท
โอ้โห......... เช็คเมลล์......... ล้นบ็อกซ์
แต่.......... เป็นเมลล์ที่ไม่รู้จักเลย
เอ้า......... หายไปไหนหมดคนคุ้นเคย
ไม่คิดถึงกันเลยเชียวหรือว่าลืมกันไปเสียแล้ว

เข้าไปเช็คหลังไมค์พันทิป
ดีจริงที่ยังมีใครคิดถึง ^_^



แต่ก่อนเคยตามกวนป่วนไปทั่ว
ตอนนี้มัวมุ่งงานทั้งราษฎร์หลวง
จึงถูกพี่ชายเราเขาตามทวง
อาจด้วยห่วงว่าห่างหายไปไหนนาน

หนูหิ่ง ฯ จึงเข้ามาตามคำ “สั่ง”
ทรุดลงนั่งหน้าจอคอมของหลาน
แย่งเด็กเล่นออนไลน์ใส่กลอนกานต์
ส่งข่าวสารถึงพี่ที่แสนไกล

จะขอเล่าเรื่องภูมิใจในชีวิต
หนูหิ่ง ฯ ติดคุณวุฒิทุกสมัย
ยังมุ่งมั่นปั่นงานการเรื่อยไป
ด้วยจริงใจสัตย์ซื่อคือคนดอย

ทุกทุกวันตั้งใจทำหน้าที่
การงานมีทำไปไม่มีถอย
ความหวังมีความฝันนั้นคงคอย
หิ่งห้อยน้อยจะขยันมั่นสัญญา

ในปีนี้พิชิตฝันอีกอันหนึ่ง
คือหนูพึ่งบินลับกลับภูผา
สู่ถิ่นฐานแหล่งเกิดกำเนิดมา
ช่วยมารดาสร้างบ้านกลางพงไพร

ทำเป็นล็อคสามห้องนอนสามห้องน้ำ
สองห้องทำให้เขาเช่าอาศัย
อีกห้องหนึ่งแม่อยู่ดูแลไป
ทุกเดือนได้ค่าเช่าเขาจ่ายมา

เมื่อวันเด็กที่ผ่านมาหาของใช้
แล้วส่งไปยังเด็กน้อยด้อยศึกษา
โรงเรียนนั้นถูกทุบยุบอีกครา
เนื่องจากว่ามีเด็กน้อยเกินไป

น่าสงสารเด็กเด็กยังเล็กอยู่
ขาดคุณครูจึงต้องคลาไปอาศัย
โรงเรียนอื่นซึ่งตั้งอยู่ห่างไกล
หวังจะได้ความรู้คู่กายา

เป็นบางเรื่องที่ดีในชีวิต
จึงลิขิตเขียนไปใส่ภาษา
สิ่งดีดีภูมิใจได้ทำมา
จึงล้ำค่าภูมิใจที่ได้ทำ

ขอเล่าเรียงเพียงนี้นะพี่จ๋า
หิ่งห้อยลาไปนอนก่อนถลำ
เขียนถึงเรื่องที่ไม่น่าจะจำ
เช่นเรื่องช้ำเรื่องเศร้าเรื่องเหงาใจ

เอาเป็นว่ามีเวลาว่างกว่านี้
คงจะมีเรื่องเอามาเล่าไข
ตอนนี้ยังคงบินทั่วถิ่นไทย
ขอจบไว้ก่อนนะคะจะเข้านอน ^_^



Create Date : 20 กันยายน 2549
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2550 21:26:51 น.
Counter : 3062 Pageviews.

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  

หิ่งห้อยน้อยใจ
Location :
นนทบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






Bloggang.com : หิ่งห้อยน้อย.... ใจ TreBle Tree หิ่งห้อยน้อยใจ บินไปทุกถิ่น ท่องทั่วแผ่นดิน กว่าสิ้นเรี่ยวแรง





แสงระยิบ กระพริบจากใจ

หิ่งห้อย T_T น้อยใจ

ใครหนอเปรียบ หิ่งห้อย ว่าด้อยค่า
อย่าได้มา หาญสู้ แสงอาทิตย์ส่อง
มีแสงเพียง น้อยนิด คิดลำพอง
มาผยอง เชิดหน้าอยู่ สู้ตะวัน

รู้ตัวดี มิบังอาจ ไปหาญสู้
ดำรงอยู เยี่ยงนี้ ไม่มีผัน
เหมือนดาวเดือน ที่ได้อยู่ เคียงคู่กัน
ดังเช่นฉัน รู้อยู่ คู่นภา

ก็ชื่อฉัน นั้นแปล ว่าหิ่งห้อย
ตัวน้อยน้อย น่ารัก เป็นนักหนา
ถูกเปรียบเทียบ ว่าด้อย ด้วยราคา
จากหน้าตา มิใช่ จากจิตใจ

ชีวิตหมุน เวียนตาม ธรรมชาติ
หิ่งห้อยพลาด หลงดอย คอยร่ำให้
ถูกเขาบ่น ว่าเรา จนเศร้าใจ
ทนเก็บไว้ ด้วยจิต คิดระทม

ชาตินี้มี กรรมมา บดบังไว้
ส่องแสงได้ ริบหรี่ สุดขื่นขม
ต้องทนอยู่ เชิดหน้าใส่ ในอกตรม
เกิดมามี ปมจาก ปากผู้คน

ไม่เป็นไร ตามใจ ใครจะคิด
ทุกชีวิต วันหนึ่ง ต้องหลุดพ้น
เกิดมาต้อง ต่อสู้ ! รู้ดิ้นรน !
ว่ายเวียนวน กลับสู่พื้น ปฐพี๚ะ๛



เสียงขาน จากบ้านป่า

สายลมหนาว พัดพา มาอีกแล้ว
ในโสตแว่ว ยินเสียง คล้ายเรียกขาน
จากพี่น้อง ผองเพื่อน เถื่อนลำธาร
ว่าถึงกาล โผผิน กลับถิ่นไพร

หวนคิดถึง วันเก่า รวดร้าวเหลือ
ยามเยาว์เมื่อ เหมันต์ พานสมัย
ช่างหนาวเหน็บ เจ็บลึก ถึงทรวงใน
กลางป่าใหญ่ ขาดแสง อุ่นกรุ่นตะวัน

แม่ขนี้ง โปรยปราย กระจายทั่ว
ท้องฟ้ามัว มืดมิด ปิดแนวสัน
สายลมยัง พัดซ้ำ กระหน่ำกัน
บ้างหนาวสั่น จับไข้ วายชีวี

กว่าจะพ้น ผ่านฤดู หฤโหด
ธาตุพิโรธ ชนบท สลดศรี
แทบมอดม้วย มรณา ลาพงพี
ชีวิตนี้ ไม่ลืมวัน ซึ่งผันไป

ชนชาวดอย คอยอยู่ หมู่ลูกหลาน
วันคืนผ่าน ด้วยจิต พิสมัย
ความคิดถึง ตรึงตรา และอาลัย
ท่านห่วงใย อยากรู้ ว่าอยู่ดี

รู้รักผืน แผ่นดิน ถิ่นก่อเกิด
ทั้งผู้ให้ กำเนิด นะบุตรศรี
หวนกลับไป ดูแล บุพการี
ท่านผู้มี พระคุณ การุณย์เรา

คงยังจำ กันได้ ใช่ไหมเพื่อน
ก่อนจะเคลื่อน กายา จากป่าเขา
เป็นความหวัง ของใคร เมื่อวัยเยาว์
อย่ามัวเมา ลืมเลือน เถื่อนที่มา๚ะ๛



คิดถึงบ้าน

ค่ำคืนฟ้า มืดมิด ดูเหงาเหงา
โอ้ตัวเรา นั่งคิดถึง คณึงหา
บ้านหลังน้อย ในป่า ที่จากมา
ผ่านเวลา จะเปลี่ยน เป็นเช่นไร

บ้านน้อย น้อยหลังนั้น ช่างอบอุ่น
ยามรุ่งอรุณ แดดส่อง สว่างไสว
มวลบุบผา ชูช่อ แตกหน่อใบ
หรีดหริ่งเรไร ส่งเสียงร้อง ก้องพนา

เหล่าแมลง ภู่ผึ้ง ผกโผผิน
กางปีกบิน วนเวียน กลางเวหา
ดอกหญ้าโผล่ พ้นพื้น พสุธา
ไหวไปมา ยามต้อง แรงลมโชย

เห็นสายฝน รินร่วง จากท้องฟ้า
ชุบชีวา ชีวิตให้ ไม่ระโหย
มวลดอกไม้ ชูช่อสวย ไม่ลาโรย
แผ่นดินโดย ธรรมชาติ สะอาดตา

กลิ่นพืชพรรณ นานา ขจรทั่ว
ทั้งดอกบัว ทั้งพรรณไม้ และใบหญ้า
ขึ้นผสม กลมกลืนไกล สุดสายตา
ภายใต้ฟ้า ผืนใหญ่ ใบเดียวกัน

ช่างห่างไกล กันนัก กับทางนี้
อยู่ที่นี่ พบแต่ การห้ำหั่น
ทั้งแก่งแย่ง แข่งขัน ประลองกัน
ทุกทุกวัน ต้องแข่ง แย่งความดี

มันช่างเหงา และล้า เป็นนักหนา
จะขอลา พักร้อน เช้าพรุ่งนี้
กลับคืนสู่ บ้านน้อย คอยนานปี
พักฤดี ให้หายเหมื่อย เหนื่อยใจกาย

จะชาร์ตแบต เพิ่มพลัง ให้เต็มที่
ความเหงามี จักลบทิ้ง ให้เหือดหาย
แทนด้วยความ สดใส ใจแพรวพราย
ทอประกาย กลับคืน สู่ตัวเรา

พักปัญหา ทุกอย่าง ของทางนี้
กลับไพรี ระหว่าง กลางหุบเขา
บ้านหลังน้อย ยังคอยอยู่ ซึ่งตัวเรา
ภูมลำเนา บ้านเกิด ที่จากมา

แล้วจะกลับ มาทำงาน สร้างฐานะ
ด้วยสัจจะ ของคน แห่งภูผา
จักทำงาน ให้ดีขึ้น ขอสัญญา
ด้วยหน้าตา สดใส ไร้กังวล

คงจะทน ทานได้ ในทุกสิ่ง
ชีวิตจริง เริ่มต้นใหม่ ได้อีกหน
จักต่อสู้ หมู่มารที่ มาผจญ
รวมถึงคน ปากร้าย ทั้งหลายเอย๚ะ๛



ลมหนาว กับชาวดอย

สายลมหนาวพัดผ่านมาอีกครั้ง
แผ่พลังแห่งฤดูสู่ขุนเขา
หวนคิดถึงแต่ก่อนตอนยังเยาว์
ผองพวกเราทนอยู่สู้สายลม

ยังจดจำคืนวันที่ผันผ่าน
ฤดูกาลนี้ให้ใจขื่นขม
พาความแล้งส่งไว้ได้ระทม
ยอดดอยจมอยู่ในสายเหมันต์

แม่ขนิ้งเกาะเล็มเต็มยอดหญ้า
บนท้องฟ้าไร้แสงแห่งสีสัน
ความเหน็บหนาวถาโถมถึงทั่วกัน
ต้องอดทนจนผ่านวันอันตราย

ถึงตอนนี้ยังคงโหมกระหน่ำ
แสงแดดล้ำเลือนลางจนจางหาย
ทั่วท้องฟ้าเมฆหม่นหล่นกระจาย
หนาวมากมายในยามนี้ที่ยอดภู

อยากจะส่งความอบอุ่นสู่ขุนเขา
เพื่อพ้องเราชาวไพรทุกชนหมู่
ได้อดทนจนผ่านพ้นฤดู
ร่วมกันสู้ความหนาวที่เข้ามา

ของส่งใจไปถึงซึ่งบนนั้น
ยอดดอยอันไกลห่างหว่างภูผา
ความห่วงใยแทรกใส่ให้ลมพา
ไปส่งหน้าบ้านเขาเราอาลัย

เพื่อให้ผู้อาศัยอยู่ในนั้น
มียิ้มอันพริ้มพรายใจสดใส
หนูหิ่ง ฯ จะได้มีกำลังใจ
ทำงานไปเพื่อเขาที่เฝ้ารอ๚ะ๛



สายลมหนาว

สายลมหนาว พัดแผ่ว แอ่วเมืองเหนือ
แสงแดดเรื่อ พลันเลือน ลางลับหาย
บนท้องฟ้า มีเมฆหมอก เกลื่อนกระจาย
หนาวมากมาย ในยามนี้ ที่ยอดดอย

เสียงหรีดหริ่ งเรไร วังเวงแว่ว
นกเค้าแมว บินลับ กลับถ้ำน้อย
ดอกไม้บาน ยามเช้า เฝ้ารอคอย
น้ำค้างผล็อย ร่วงลง ส่งความเย็น

แสงอาทิตย์ มองไม่เห็น ในยามนี้
ยอดดอยมี แต่หมอก เมฆลอยเด่น
บนยอดหญ้า ขนิ้งเกาะ ให้เห็นเป็น
ความเยือกเย็น ฤดูหนาว เวียนเข้ามา

จึงส่งความ อบอุ่น ละมุนฝัน
ถึงดอยอัน ไกลห่าง หว่างภูผา
ความคิดถึง ห่วงใย สายลมพา
พัดผ่านหน้า กระท่อมน้อย ปล่อยวางไว้

หวังเพียงผู้ อาศัยใน กระท่อมน้อย
แต่งแต้มรอย ยิ้มแย้ม ที่แจ่มใส
หิ่งห้อยน้อย จะได้ มีแรงใจ
ทำงานไป เพื่อเขา ที่เรารัก๚ะ๛



คืนเหงา

ในคืนเหงา แม้เดือนดาว เจ้าเป็นเพื่อน
ส่งแสงเลือน คอยกลบ ลบรอยเหงา
ความหม่นหมอง ครอบครอง ใจของเรา
รู้สึกเศร้า ในยามที่ ไม่มีใคร

อยู่แสนห่าง ขวางคั่น กั้นขอบฟ้า
ผ่านเวลา ฤดูกาล ผันสมัย
มิตรภาพ แต่ก่อนเก่า เราจริงใจ
เลือนแล้วหรือ อย่างไร สายสัมพันธ์

อยู่ทางนี้ แม้เห็น ดาวเด่นสวย
ก็ไม่ช่วย ให้ใจ ได้สุขสันต์
บนท้องฟ้า สว่างใส ไร้หมอกควัน
ในใจนั้น กลับมืดมิด ผิดที่เคย

สายลมหนาว พัดมา เวลานี้
ผืนพงพี ปกคลุม ด้วยกลุ่มเหมย
ทั้งมวลหมอก กลอกกลิ้ง ขนิ้งเชย
หนาวจังเลย ในยามนี้ ที่ยอดดอย

นั่งวิงวอน ดาวเดือน เกลื่อนเวหา
กระพริบพา ความคิดของ น้องหิ่งห้อย
ไปส่งไว้ หน้าบ้าน วานลมคอย
พัดไปปล่อย ในใจ ใครสักคน

ให้รับรู้ ว่าใคร ที่ในป่า
เขาห่วงหา ห่วงใย ใจสับสน
ความคิดถึง รุมเร้า เข้าเวียนวน
จำฝืนทน ฝืนอยู่ ไม่รู้ทำไม

นั่งรำพึง คอยอยู่ สู้ลมหนาว
มีเดือนดาว บนฟ้า นภาใส
อยู่เป็นเพื่อน ท่ามกลาง หว่างพงไพร
คอยคนไกล ตอบสาร นั้นกลับคืน๚ะ๛



รู้อย่างนี้...

ก่อนนั้นเรา คงมีพ่อ อยู่เคียงข้าง
ทุกทิศทาง พ่ออยู่ คู่เสมอ
อยากพบพ่อ เมื่อใหร่ ก็ได้เจอ
ไม่ต้องเพ้อ ละเมอถึง ซึ่งลวงตา

ยามเล็กเล็ก พ่อเฝ้า คอยสอนสั่ง
ตั้งความหวัง ไว้ที่ลูก สุขนักหนา
ลูกเติบใหญ่ ให้พ่อได้ ชื่นอุรา
วันนี้ลา จากลูกไป ไม่หวนคืน

รู้อย่างนี้... จะไม่ทำตัวเหมือนก่อน
รู้อย่างนี้... จะตั้งใจเรียนหนังสือ
จะตั้งหน้า ตั้งตา หมั่นฝึกปรือ
จะไม่ดื้อ ! ไม่ซน ! ไม่ถือดี !

เพิ่งรู้ซึ้ง ถึงความเศร้า ที่ยิ่งใหญ่
พ่อจากลา ไปลับ นับจากนี้
จะรำลึก ถึงคุณพ่อ ชั่วชีวี
ถึงความดี พ่อสร้างไว้ ให้ทบทวน

จากนี้ไป ไม่มีพ่อ คอยว่ากล่าว
พ่อจากเรา ไปแสนไกล ไม่อาจหวน
ถึงจะร่ำ ! ร้องให้ ! คร่ำครวญ !
ไม่อาจทวน คืนสู่เหย้า ที่เฝ้า... รอ...๚ะ๛



ซึ้งแล้ว...

ต่อแต่นี้ เหลือเพียงแม่ คอยเคียงข้าง
ทุกทิศทาง แม่เฝ้าดู ลูกเสมอ
อยากพบแม่ เรียกหา เป็นต้องเจอ
ไม่ใช่เพ้อ ละเมอถึง ซึ่งลวงตา

ตั้งแต่เล็ก แม่เจ้า เฝ้าถนอม
คอยเห่กล่อม ด้วยรัก ลูกนักหนา
ส่งเสียให้ เจ้าได้ มีวิชา
ด้วยกายา อ่อนล้า น่าเหนื่อยแทน

เฝ้ามองลูก ด้วยดวงตา อุ่นไอรัก
คอยพิทักษ์ ปกป้อง ด้วยหวงแหน
มีแต่ให้ ไม่เคยหวัง สิ่งตอบแทน
แม้ยากแค้น ลำเค็ญสู้ สุดทนทาน

สิบนิ้วมือ พนมกราบ อภิวาท
ลงแทบบาท แสดง กตัญญูท่าน
ทำตอนนี้ ใช่วันที่มี เพียงวิญญาณ
แล้วเรียกขาน ท่านให้มา ปรากฏกาย

รู้ซึ้งแล้ว… แสดงให้ ท่านรับรู้
รู้ซึ้งแล้ว… ท่านยังอยู่ ไม่หนีหาย
เคียงข้างเจ้า จวบจนชีพ สิ้นมลาย
ก่อนจะสาย กลับไปอยู่ ดูท่านเทอญ๚ะ๛








All Blog
MY VIP Friends