* ขอคำแนะนำเรื่องรถค่ะ *



อยากจะได้ รถใหม่ ไว้ใช้งาน
ขอทุกท่าน แนะนำ ทำได้ไหม
มิวเซเว่น ฟอร์จูนเนอร์ หรือฮุนได
จะขับไป ท่องเที่ยว ทั่วแผ่นดิน

ด้วยรถเรา เริ่มเก่า ไม่เข้าที
จึงอยากมี คันใหม่ ไว้โผผิน
มีที่ว่าง เก็บสัมภาระ ยามโบยบิน
อยากได้ยิน คำชี้แนะ แค่นั้นเอง

รถอะไร ใช้ดี มีแรงส่ง
บอกตามตรง เด็กดอย ไม่ค่อยเก่ง
ขอเพียงมี ออฟชั่นบ้าง ดั่งเช่นเพลง
ไว้บรรเลง ยามเหงา เราได้ฟัง

ทั้งราคา พอควร ไม่ด่วนใช้
จะรอไป อีกนิด ด้วยจิตหวัง
ว่าคงมี ที่เหมาะ พอจ่ายตังค์
จะได้นั่ง รถใหม่ ไปทำงาน

ได้โปรดเถิด นึกว่า สงเคราะห์เด็ก
ตัวเล็กเล็ก สักคน ให้พ้นผ่าน
คำแนะนำ ขอสักนิด อย่าคิดนาน
ผู้ใดอ่าน กระทู้นี้ โปรดชี้นำ

จะเก็บคำ ชี้แนะ ที่แปะไว้
พิจารณา ตัดสินใจ ก่อนถลำ
ซื้อผิดคัน แล้วเสียใจ จะไม่ทำ
ก่อนเพลี่ยงพล้ำ ภายหน้า จึงมาวอน

ได้โปรดเถิด ทุกท่าน มาทางนี้
เข้ามาชี้ นำหน่อย ค่อยพักผ่อน
เสียสละ เวลานิด ก่อนปิดไฟนอน
หนุนหมอน หลับสนิท ตลอดคืน

เมี้ยวววววววววววววว คือว่า....
พี่สาวหนูหิ่ง ฯ จะดาวน์รถให้ แต่ไปผ่อนเองอ่ะค่ะ หนูหิ่ง ฯ ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องรถสักเท่าไหร่
จึงอยากขอคำแนะนำสักนิด เพื่อประกอบการตัดสินใจค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำแนะนำนะเจ้าคะ ^_^







Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2551
Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2551 16:58:43 น.
Counter : 442 Pageviews.

8 comment
* แทนคุณ..พ่อ *



วันนี้ไปงานพระราชทานเพลิงศพคุณพ่อของลูกค้า

เห็นลูก ๆ เขาร้องให้ ทำให้นึกถึงความหลังเมื่อครั้งที่สูญเสียคุณพ่อ

ก็เลยได้กลอนบทนี้มาเจ้าค่ะ


มีความหลังฝังใจเมื่อวัยเด็ก
แม้จะเล็กแต่แม่เราเล่าเสมอ
ว่าโชคดีเพียงใดแม่ได้เจอ
พ่อของเธอเป็นผู้นำทางชีวิน

สมัยนั้นยากจนอยู่บนเขา
บ้านก็เก่าขาดไร้ในทรัพย์สิน
มีสองมือสองเท้าเฝ้าทำกิน
บนแผ่นดินในหลวงของปวงชน

พ่อเป็นคนพลัดถิ่นแผ่นดินเกิด
พ่อเตลิดเข้าป่าพนาสณฑ์
พ่อต่อสู้อุปสรรคอย่างอดทน
จนล่วงพ้นถึงถิ่นแผ่นดินไทย

มาพบแม่ที่นี่จนมีลูก
ช่วยกันปลูกพืชผักเลี้ยงเป็ดไก่
เป็นสินค้าแลกเปลี่ยนเวียนกำไร
กลางพงไพรพ่อช่วยเหลือเอื้อเฟื้อทุกคน

พ่อเป็นหลักมั่นคงตรงใจมั่น
ไม่หวาดหวั่นเกรงใครไร้เหตุผล
แบ่งเบาความเดือดร้อนทุรายทุรน
เป็นผู้ช่วยให้พ้นทุกขเวทนา

เป็นตัวอย่างที่ดีสร้างชีวิต
สุจริตสัตย์ซื่อถือเป็นวาสนา
ที่ได้เกิดเป็นลูกของบิดร - มารดา
จึงปรารถนาให้ท่านเป็นสุขชั่วกาลนาน

เจ็ดสิบสี่ปีสร้างทางชีวิต
ฟ้าลิขิตให้พ่ออยู่ดูลูกหลาน
ถึงวันนี้ร่างกายได้อันตรธาน
ถูกเพลิงผลาญจนหมดรันทดใจ

สิ่งดีดีที่พ่อทำแต่กาลเก่า
เป็นเรื่องเล่าเป็นตำนานผ่านสมัย
พ่อก่อสร้างแนวทางเพื่อย่างไป
ลูกหลานได้รำรึกสำนึกคุณ

เขียนบทกลอนสะท้อนใจอาลัยนัก
พ่อที่รักจากไปขาดไออุ่น
ไร้คนคอยห่วงใยใจการุณ
สนับสนุนส่งเสริมเพิ่มพลัง

นับจากนี้ต่อไปในภายหน้า
ลูกสัญญาจะเดินทางสร้างความหวัง
เฉกเช่นพ่อทำไว้ให้อยู่ยัง
ชนรุ่นหลังจดจำไว้ในความดี

จะสืบต่อตำนานพ่อสานไว้
จะโยงใยเส้นทางสร้างสุขศรี
จะทำตามความเมตตาและปราณี
จะสร้างแต่กรรมดีสืบต่อไป

จะทดแทนคุณแผ่นดินแทนคุณพ่อ
จะสานต่อความหวังสร้างชีวิตใหม่
จะจงรักภักดีต่อพ่อของไทย
จนสิ้นอายุขัยของตัวเอง








หนูหิ่ง ฯ ตัวกลมบ็อกแบบนี้มาตั้งแต่เด็กแล้วเจ้าค่ะ







Create Date : 12 มกราคม 2551
Last Update : 12 มกราคม 2551 22:10:27 น.
Counter : 516 Pageviews.

2 comment
* ยิ่งทำดี ก็จะยิ่ง พบสิ่งดี *
ยิ่งทำดี ก็ยิ่งพบ สิ่งที่ดี
จะยิ่งมี ความสุข สุดหรรษา
อยู่แห่งหน ตำบลใด ไม่นำพา
สุดขอบฟ้า ก็ทำได้ ไม่ยากเย็น

หากแม้นมี ใครต้องการ พานความสุข
ปลดเปลื้องทุกข์ ทิ้งไป ไร้ยากเข็ญ
อาจลำบาก บางครั้ง ทั้งลำเค็ญ
จะแปรเป็น ความสุขได้ อีกไม่นาน

ความอดทน อดกลั้น แม้มันยาก
ต้องลำบาก ทำใจ ให้สนุกสนาน
น้ำตาอย่า ให้ใคร ได้พบพาน
วันหนึ่งจะ ผ่านพ้น จนลางเลือน

ทุกผู้คน บนโลก โชคต่างกัน
พานพบวัน ดี-ร้าย ได้เสมือน
เป็นของอยู่ คู่กัน ดั่งดาว-เดือน
แล้วค่อยเลื่อน ลาห่าง ระหว่างเวลา

เรื่องราวผ่าน เข้ามา ในชีวิต
ควรลิขิต เส้นทาง ห่างปัญหา
แม้จะมี ก็เป็นเรื่อง ธรรมดา
แสวงหา วิธี ที่บรรเทา

ให้คิดว่า ไม่ใช่เรา เพียงคนเดียว
ที่ข้องเกี่ยว เรื่องร้าย ใจหมองเศร้า
ผู้คนอีก มากมาย ในโลกเรา
ที่พวกเขา แย่กว่านี้ มีมากมาย

เราโชคดี มีครบ สามสิบสอง
หากยังร้อง ขอให้ ได้ดั่งหมาย
แต่ไม่ทำ กรรมดี มีแต่ทำลาย
สิ่งสุดท้าย ที่ได้คือ น้ำตา

เมื่อจะทำ สิ่งใด จงใคร่ครวญ
คอยทบทวน ก่อนก่อ เกิดปัญหา
ค่อยค่อยคิด ครวญไป ใช้ปัญญา
พิจารณา ผลลัพธ์ กับความพอใจ

จำไว้ว่า ทำดีจะ พบสิ่งดี
แล้วจะมี ความสุข สุดสดใส
วันข้างหน้า หนทาง แม้ห่างไกล
ก็อย่าได้ ท้อแท้ แค่เรื่องธรรมดา

เมื่อวานนี้ หลานสาวโทร.มาคร่ำครวญ *_~

หนูหิ่ง ฯ ก็ช่วยไม่ได้มากนัก เพราะตัวเองก็ยังเป็นหิ่งห้อยน้อยพเนจรอยู่

ก็เลยเขียนได้บทนี้มาปลอบใจหลาน หวังว่าคงจะช่วยให้หลานมีความอดทนที่จะก้าวเดินต่อไปค่ะ








Create Date : 05 มกราคม 2551
Last Update : 5 มกราคม 2551 18:54:08 น.
Counter : 398 Pageviews.

3 comment
* หวัง *


ไปแจมไว้ที่กระทู้เฮียพีทค่ะ ^_^

พักนี้กินแรงไปหลายขวด อาศัยแรงบันดาลใจจากชาวบ้าน

ชักจะเริ่มคิดเองไม่เป็นแล้วเจ้าค่ะ เมี้ยววววววววว

//www.pantip.com/cafe/writer/topic/W6189693/W6189693.html




* หนูหิ่ง ฯ *

คืนผันวันผ่าน
เนิ่นนานเกินไขว่คว้าถึง
ความฝันในจิตคิดคำนึง
รำพึงลำพังอย่างเหงาใจ

ค่ำคืนยืนเหม่อมองฟ้า
ดวงดาราส่องแสงสว่างไสว
กระพริบพรายระยับกับฟ้าไกล
แต่ในห้วงคำนึงยังมืดมน

หวังเพียงคืนวันผันผ่าน
จะเบิกบานตลอดไปไม่หมองหม่น
อนาคตไม่มีที่อับจน
เป็นคนธรรมดาที่ร่าเริง

* เฮียพีท *

ห้วงคำนึงถึงฝันนั้นชาชืด
ในความมืดหวิวว่างที่ค้างเติ่ง
พายุโหมโถมท้นจนกระเจิง
อยากขอเพิงพักฝัน...แค่นั้นพอ

* หนูหิ่ง ฯ *

เพียงเท่านี้ที่พร่ำรำพัน
สักวันคงได้ดังคำขอ
นานเพียงใดไม่หวั่นฉันจะรอ
แม้ใจท้อแต่ไม่ถอยคอยทุกคืน

* เฮียพีท *

ขอจงได้ดั่งฝัน
พักในความสงัดงันรอวันตื่น
เพื่อพร้อมปลอบปลุกลุกขึ้นยืน
สดชื่น แจ่มใส ในกลางวัน

* หนูหิ่ง ฯ *

หากแม้นเป็นไปได้ดังว่า
สัญญาจะไม่แปรผัน
จะเป็นเช่นนี้ที่เห็นกัน
มีฝันรออยู่จะสู้ต่อไป

* เฮียพีท *

ชอบแล้ว
ดวงจิตจึงผ่องแผ้วแจ่มใส
ยินดีที่พบฝันสัญญาใจ
ยินดีที่ได้เป็นเพื่อนกัน

* หนูหิ่ง ฯ *

ดีใจยิ่งที่ได้รู้จัก
มาคอยทักทายถึงซึ่งความฝัน
ขอให้เป็นเช่นนี้อีกนานวัน
จะยึดมั่นคำว่าเพื่อนเตือนจิตใจ

* เฮียพีท *

ระยะทางที่ห่างกัน
ก็ยังมิอาจกั้นจากกันได้
มิตรภาพสุกสว่างข้ามทางไกล
อีกไม่นานเท่าไหร่ คงได้เจอ

* หนูหิ่ง ฯ *

หวังเอาไว้สักวันพบกันหน่อย
จะรอคอยติดตามถามเสมอ
อย่าให้น้องฝันค้างนั่งละเมอ
หรือคอยเก้อเพียงลำพังอย่างเดียวดาย

* เฮียพีท *

อีกไม่นาน
คงพบพานอีกครั้งดังที่หมาย
แต่ถึงแม้ห่างไกลก็เพียงกาย
มิตรภาพมิคลายไปตามกาล

* หนูหิ่ง ฯ *

หนึ่งคำล้ำค่าคือเพื่อน
ไม่ลบเลือนแม้คืนวันผันผ่าน
อยู่ห่างสุดฟ้ายังพบพาน
จักพันธนาการไว้ตลอดไป

* เฮียพีท *

หากวันนี้ยังไม่ได้พบ
วันหน้าทางย่อมบรรจบกันจนได้
มิตรภาพเติบโตยาวไกล
เหมือนต้นไม้หยั่งยืนคู่ผืนดิน

* หนูหิ่ง ฯ *

ผูกสายสัมพันธ์
ต้องมีสักวันรื่นรมย์สมถวิล
ได้พบสบพักตร์พานชีวิน
จึงพร้อมยินดีรอต่อไป



















ปีใหม่ไม่ได้กลับบ้าน คิดถึงเหลนชะมัด ได้แต่ดูรูปงื้อ











Create Date : 05 มกราคม 2551
Last Update : 12 มกราคม 2551 21:50:59 น.
Counter : 387 Pageviews.

1 comment
* ถ้า *


เพราะโลกนี้ยังมีคำว่า * ถ้า *
ฉันจึงกล้าเดินไปตามไล่ฝัน
จุดมุ่งหมายภายหน้าว่าสักวัน
จะสร้างสรรอนาคตที่งดงาม

* ถ้า * ฉันเป็นคนหนึ่งซึ่งมีพร้อม
จะไม่ยอมใครให้ได้มาหยาม
แม้ไม่เขื่องเฟื่องยศปรากฎนาม
แต่คงความเป็นคนไร้มลทิน

แค่ฉันเป็นคนจนคงเพียงศักดิ์
จึงตระหนักคุณค่ากว่าทรัพย์สิน
มิเคยอ้อนร้องขอข้าวใครกิน
อย่าได้หมิ่นเพียงฉันมันไม่มี

* ถ้า * ฉันมีที่รักสักคนหนึ่ง
ผู้รู้ซึ้งสร้างใจให้สุขี
มีสัตย์ซื่อถือครองสองฤดี
ชั่วชีวีคงสุขสิ้นทุกข์ใจ

ทุกวันนี้มีแต่รำพันหา
สิ่งล้ำค่าความรักความสดใส
ความอบอุ่นอ่อนหวานละมุนละมัย
อยากจะได้จากคนรักที่ภักดี

ชีวิตฉันนั้นติดคำว่า * ถ้า *
ยากจะหาคำใดใส่แทนที่
* ถ้า * อย่างโน้น * ถ้า * อย่างนั้นมันทั้งปี
ชีวิตมีแต่ * ถ้า * จะบ้าตาย ๚ะ๛


แรงบันดาลใจจากกระทู้พี่ทิวลิป และไปแจมที่กระทู้พี่ชายพจน์ค่ะ

//www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5910677/W5910677.html





Create Date : 12 ตุลาคม 2550
Last Update : 12 ตุลาคม 2550 21:40:25 น.
Counter : 434 Pageviews.

12 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  

หิ่งห้อยน้อยใจ
Location :
นนทบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






Bloggang.com : หิ่งห้อยน้อย.... ใจ TreBle Tree หิ่งห้อยน้อยใจ บินไปทุกถิ่น ท่องทั่วแผ่นดิน กว่าสิ้นเรี่ยวแรง





แสงระยิบ กระพริบจากใจ

หิ่งห้อย T_T น้อยใจ

ใครหนอเปรียบ หิ่งห้อย ว่าด้อยค่า
อย่าได้มา หาญสู้ แสงอาทิตย์ส่อง
มีแสงเพียง น้อยนิด คิดลำพอง
มาผยอง เชิดหน้าอยู่ สู้ตะวัน

รู้ตัวดี มิบังอาจ ไปหาญสู้
ดำรงอยู เยี่ยงนี้ ไม่มีผัน
เหมือนดาวเดือน ที่ได้อยู่ เคียงคู่กัน
ดังเช่นฉัน รู้อยู่ คู่นภา

ก็ชื่อฉัน นั้นแปล ว่าหิ่งห้อย
ตัวน้อยน้อย น่ารัก เป็นนักหนา
ถูกเปรียบเทียบ ว่าด้อย ด้วยราคา
จากหน้าตา มิใช่ จากจิตใจ

ชีวิตหมุน เวียนตาม ธรรมชาติ
หิ่งห้อยพลาด หลงดอย คอยร่ำให้
ถูกเขาบ่น ว่าเรา จนเศร้าใจ
ทนเก็บไว้ ด้วยจิต คิดระทม

ชาตินี้มี กรรมมา บดบังไว้
ส่องแสงได้ ริบหรี่ สุดขื่นขม
ต้องทนอยู่ เชิดหน้าใส่ ในอกตรม
เกิดมามี ปมจาก ปากผู้คน

ไม่เป็นไร ตามใจ ใครจะคิด
ทุกชีวิต วันหนึ่ง ต้องหลุดพ้น
เกิดมาต้อง ต่อสู้ ! รู้ดิ้นรน !
ว่ายเวียนวน กลับสู่พื้น ปฐพี๚ะ๛



เสียงขาน จากบ้านป่า

สายลมหนาว พัดพา มาอีกแล้ว
ในโสตแว่ว ยินเสียง คล้ายเรียกขาน
จากพี่น้อง ผองเพื่อน เถื่อนลำธาร
ว่าถึงกาล โผผิน กลับถิ่นไพร

หวนคิดถึง วันเก่า รวดร้าวเหลือ
ยามเยาว์เมื่อ เหมันต์ พานสมัย
ช่างหนาวเหน็บ เจ็บลึก ถึงทรวงใน
กลางป่าใหญ่ ขาดแสง อุ่นกรุ่นตะวัน

แม่ขนี้ง โปรยปราย กระจายทั่ว
ท้องฟ้ามัว มืดมิด ปิดแนวสัน
สายลมยัง พัดซ้ำ กระหน่ำกัน
บ้างหนาวสั่น จับไข้ วายชีวี

กว่าจะพ้น ผ่านฤดู หฤโหด
ธาตุพิโรธ ชนบท สลดศรี
แทบมอดม้วย มรณา ลาพงพี
ชีวิตนี้ ไม่ลืมวัน ซึ่งผันไป

ชนชาวดอย คอยอยู่ หมู่ลูกหลาน
วันคืนผ่าน ด้วยจิต พิสมัย
ความคิดถึง ตรึงตรา และอาลัย
ท่านห่วงใย อยากรู้ ว่าอยู่ดี

รู้รักผืน แผ่นดิน ถิ่นก่อเกิด
ทั้งผู้ให้ กำเนิด นะบุตรศรี
หวนกลับไป ดูแล บุพการี
ท่านผู้มี พระคุณ การุณย์เรา

คงยังจำ กันได้ ใช่ไหมเพื่อน
ก่อนจะเคลื่อน กายา จากป่าเขา
เป็นความหวัง ของใคร เมื่อวัยเยาว์
อย่ามัวเมา ลืมเลือน เถื่อนที่มา๚ะ๛



คิดถึงบ้าน

ค่ำคืนฟ้า มืดมิด ดูเหงาเหงา
โอ้ตัวเรา นั่งคิดถึง คณึงหา
บ้านหลังน้อย ในป่า ที่จากมา
ผ่านเวลา จะเปลี่ยน เป็นเช่นไร

บ้านน้อย น้อยหลังนั้น ช่างอบอุ่น
ยามรุ่งอรุณ แดดส่อง สว่างไสว
มวลบุบผา ชูช่อ แตกหน่อใบ
หรีดหริ่งเรไร ส่งเสียงร้อง ก้องพนา

เหล่าแมลง ภู่ผึ้ง ผกโผผิน
กางปีกบิน วนเวียน กลางเวหา
ดอกหญ้าโผล่ พ้นพื้น พสุธา
ไหวไปมา ยามต้อง แรงลมโชย

เห็นสายฝน รินร่วง จากท้องฟ้า
ชุบชีวา ชีวิตให้ ไม่ระโหย
มวลดอกไม้ ชูช่อสวย ไม่ลาโรย
แผ่นดินโดย ธรรมชาติ สะอาดตา

กลิ่นพืชพรรณ นานา ขจรทั่ว
ทั้งดอกบัว ทั้งพรรณไม้ และใบหญ้า
ขึ้นผสม กลมกลืนไกล สุดสายตา
ภายใต้ฟ้า ผืนใหญ่ ใบเดียวกัน

ช่างห่างไกล กันนัก กับทางนี้
อยู่ที่นี่ พบแต่ การห้ำหั่น
ทั้งแก่งแย่ง แข่งขัน ประลองกัน
ทุกทุกวัน ต้องแข่ง แย่งความดี

มันช่างเหงา และล้า เป็นนักหนา
จะขอลา พักร้อน เช้าพรุ่งนี้
กลับคืนสู่ บ้านน้อย คอยนานปี
พักฤดี ให้หายเหมื่อย เหนื่อยใจกาย

จะชาร์ตแบต เพิ่มพลัง ให้เต็มที่
ความเหงามี จักลบทิ้ง ให้เหือดหาย
แทนด้วยความ สดใส ใจแพรวพราย
ทอประกาย กลับคืน สู่ตัวเรา

พักปัญหา ทุกอย่าง ของทางนี้
กลับไพรี ระหว่าง กลางหุบเขา
บ้านหลังน้อย ยังคอยอยู่ ซึ่งตัวเรา
ภูมลำเนา บ้านเกิด ที่จากมา

แล้วจะกลับ มาทำงาน สร้างฐานะ
ด้วยสัจจะ ของคน แห่งภูผา
จักทำงาน ให้ดีขึ้น ขอสัญญา
ด้วยหน้าตา สดใส ไร้กังวล

คงจะทน ทานได้ ในทุกสิ่ง
ชีวิตจริง เริ่มต้นใหม่ ได้อีกหน
จักต่อสู้ หมู่มารที่ มาผจญ
รวมถึงคน ปากร้าย ทั้งหลายเอย๚ะ๛



ลมหนาว กับชาวดอย

สายลมหนาวพัดผ่านมาอีกครั้ง
แผ่พลังแห่งฤดูสู่ขุนเขา
หวนคิดถึงแต่ก่อนตอนยังเยาว์
ผองพวกเราทนอยู่สู้สายลม

ยังจดจำคืนวันที่ผันผ่าน
ฤดูกาลนี้ให้ใจขื่นขม
พาความแล้งส่งไว้ได้ระทม
ยอดดอยจมอยู่ในสายเหมันต์

แม่ขนิ้งเกาะเล็มเต็มยอดหญ้า
บนท้องฟ้าไร้แสงแห่งสีสัน
ความเหน็บหนาวถาโถมถึงทั่วกัน
ต้องอดทนจนผ่านวันอันตราย

ถึงตอนนี้ยังคงโหมกระหน่ำ
แสงแดดล้ำเลือนลางจนจางหาย
ทั่วท้องฟ้าเมฆหม่นหล่นกระจาย
หนาวมากมายในยามนี้ที่ยอดภู

อยากจะส่งความอบอุ่นสู่ขุนเขา
เพื่อพ้องเราชาวไพรทุกชนหมู่
ได้อดทนจนผ่านพ้นฤดู
ร่วมกันสู้ความหนาวที่เข้ามา

ของส่งใจไปถึงซึ่งบนนั้น
ยอดดอยอันไกลห่างหว่างภูผา
ความห่วงใยแทรกใส่ให้ลมพา
ไปส่งหน้าบ้านเขาเราอาลัย

เพื่อให้ผู้อาศัยอยู่ในนั้น
มียิ้มอันพริ้มพรายใจสดใส
หนูหิ่ง ฯ จะได้มีกำลังใจ
ทำงานไปเพื่อเขาที่เฝ้ารอ๚ะ๛



สายลมหนาว

สายลมหนาว พัดแผ่ว แอ่วเมืองเหนือ
แสงแดดเรื่อ พลันเลือน ลางลับหาย
บนท้องฟ้า มีเมฆหมอก เกลื่อนกระจาย
หนาวมากมาย ในยามนี้ ที่ยอดดอย

เสียงหรีดหริ่ งเรไร วังเวงแว่ว
นกเค้าแมว บินลับ กลับถ้ำน้อย
ดอกไม้บาน ยามเช้า เฝ้ารอคอย
น้ำค้างผล็อย ร่วงลง ส่งความเย็น

แสงอาทิตย์ มองไม่เห็น ในยามนี้
ยอดดอยมี แต่หมอก เมฆลอยเด่น
บนยอดหญ้า ขนิ้งเกาะ ให้เห็นเป็น
ความเยือกเย็น ฤดูหนาว เวียนเข้ามา

จึงส่งความ อบอุ่น ละมุนฝัน
ถึงดอยอัน ไกลห่าง หว่างภูผา
ความคิดถึง ห่วงใย สายลมพา
พัดผ่านหน้า กระท่อมน้อย ปล่อยวางไว้

หวังเพียงผู้ อาศัยใน กระท่อมน้อย
แต่งแต้มรอย ยิ้มแย้ม ที่แจ่มใส
หิ่งห้อยน้อย จะได้ มีแรงใจ
ทำงานไป เพื่อเขา ที่เรารัก๚ะ๛



คืนเหงา

ในคืนเหงา แม้เดือนดาว เจ้าเป็นเพื่อน
ส่งแสงเลือน คอยกลบ ลบรอยเหงา
ความหม่นหมอง ครอบครอง ใจของเรา
รู้สึกเศร้า ในยามที่ ไม่มีใคร

อยู่แสนห่าง ขวางคั่น กั้นขอบฟ้า
ผ่านเวลา ฤดูกาล ผันสมัย
มิตรภาพ แต่ก่อนเก่า เราจริงใจ
เลือนแล้วหรือ อย่างไร สายสัมพันธ์

อยู่ทางนี้ แม้เห็น ดาวเด่นสวย
ก็ไม่ช่วย ให้ใจ ได้สุขสันต์
บนท้องฟ้า สว่างใส ไร้หมอกควัน
ในใจนั้น กลับมืดมิด ผิดที่เคย

สายลมหนาว พัดมา เวลานี้
ผืนพงพี ปกคลุม ด้วยกลุ่มเหมย
ทั้งมวลหมอก กลอกกลิ้ง ขนิ้งเชย
หนาวจังเลย ในยามนี้ ที่ยอดดอย

นั่งวิงวอน ดาวเดือน เกลื่อนเวหา
กระพริบพา ความคิดของ น้องหิ่งห้อย
ไปส่งไว้ หน้าบ้าน วานลมคอย
พัดไปปล่อย ในใจ ใครสักคน

ให้รับรู้ ว่าใคร ที่ในป่า
เขาห่วงหา ห่วงใย ใจสับสน
ความคิดถึง รุมเร้า เข้าเวียนวน
จำฝืนทน ฝืนอยู่ ไม่รู้ทำไม

นั่งรำพึง คอยอยู่ สู้ลมหนาว
มีเดือนดาว บนฟ้า นภาใส
อยู่เป็นเพื่อน ท่ามกลาง หว่างพงไพร
คอยคนไกล ตอบสาร นั้นกลับคืน๚ะ๛



รู้อย่างนี้...

ก่อนนั้นเรา คงมีพ่อ อยู่เคียงข้าง
ทุกทิศทาง พ่ออยู่ คู่เสมอ
อยากพบพ่อ เมื่อใหร่ ก็ได้เจอ
ไม่ต้องเพ้อ ละเมอถึง ซึ่งลวงตา

ยามเล็กเล็ก พ่อเฝ้า คอยสอนสั่ง
ตั้งความหวัง ไว้ที่ลูก สุขนักหนา
ลูกเติบใหญ่ ให้พ่อได้ ชื่นอุรา
วันนี้ลา จากลูกไป ไม่หวนคืน

รู้อย่างนี้... จะไม่ทำตัวเหมือนก่อน
รู้อย่างนี้... จะตั้งใจเรียนหนังสือ
จะตั้งหน้า ตั้งตา หมั่นฝึกปรือ
จะไม่ดื้อ ! ไม่ซน ! ไม่ถือดี !

เพิ่งรู้ซึ้ง ถึงความเศร้า ที่ยิ่งใหญ่
พ่อจากลา ไปลับ นับจากนี้
จะรำลึก ถึงคุณพ่อ ชั่วชีวี
ถึงความดี พ่อสร้างไว้ ให้ทบทวน

จากนี้ไป ไม่มีพ่อ คอยว่ากล่าว
พ่อจากเรา ไปแสนไกล ไม่อาจหวน
ถึงจะร่ำ ! ร้องให้ ! คร่ำครวญ !
ไม่อาจทวน คืนสู่เหย้า ที่เฝ้า... รอ...๚ะ๛



ซึ้งแล้ว...

ต่อแต่นี้ เหลือเพียงแม่ คอยเคียงข้าง
ทุกทิศทาง แม่เฝ้าดู ลูกเสมอ
อยากพบแม่ เรียกหา เป็นต้องเจอ
ไม่ใช่เพ้อ ละเมอถึง ซึ่งลวงตา

ตั้งแต่เล็ก แม่เจ้า เฝ้าถนอม
คอยเห่กล่อม ด้วยรัก ลูกนักหนา
ส่งเสียให้ เจ้าได้ มีวิชา
ด้วยกายา อ่อนล้า น่าเหนื่อยแทน

เฝ้ามองลูก ด้วยดวงตา อุ่นไอรัก
คอยพิทักษ์ ปกป้อง ด้วยหวงแหน
มีแต่ให้ ไม่เคยหวัง สิ่งตอบแทน
แม้ยากแค้น ลำเค็ญสู้ สุดทนทาน

สิบนิ้วมือ พนมกราบ อภิวาท
ลงแทบบาท แสดง กตัญญูท่าน
ทำตอนนี้ ใช่วันที่มี เพียงวิญญาณ
แล้วเรียกขาน ท่านให้มา ปรากฏกาย

รู้ซึ้งแล้ว… แสดงให้ ท่านรับรู้
รู้ซึ้งแล้ว… ท่านยังอยู่ ไม่หนีหาย
เคียงข้างเจ้า จวบจนชีพ สิ้นมลาย
ก่อนจะสาย กลับไปอยู่ ดูท่านเทอญ๚ะ๛








All Blog
MY VIP Friends