ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

รุมวิจารณ์ ตบแขนล้างพิษ ของ หนูดี บอกเป็นกรรมวิธีธรรมชาติที่น่าทึ่ง

ตบแขนล้างพิษ

รุมวิจารณ์  ตบแขนล้างพิษ ของ หนูดี บอกเป็นกรรมวิธีธรรมชาติที่น่าทึ่ง

MThainews: กำลังกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในเว็บไซต์สังคมออนไลน์ ถึงวิธีการล้างพิษ ของ หนูดี วนิษา ซึ่งในเพจ”อัจฉริยะสร้างได้” มีการอ้างว่า สามารถตบรอยจ้ำเลือดโดยการล้างพิษดังกล่าว พร้อมทั้งมีการโชว์ภาพก่อนและหลังแขนที่จะโดนล้างพิษ จนถูกตั้งคำถามว่าสามารถทำได้จริงหรือไม่

หนูดี ได้อธิบายภาพดังกล่าวว่า “แขนของหนูดีเอง หลังโดน “ตบหาพิษ” โดย คุณแม่ชี ที่เป็นผู้จัดคอร์สล้างพิษตับและถุงน้ำดีให้กลุ่มหนูดีและเพื่อน ๆ ใครคิดว่า เราทานอาหารดีแล้ว ทานวิตามินด้วย แล้วจะไม่มีพิษสะสมในร่างกาย…ดูแขนหนูดีเป็นตัวอย่างได้เลยค่ะ หนูดีทั้ง Detox ทั้งทำ Chelation หรือ การล้างพิษออกจากเลือด และอีก ฯลฯ แถมทานอาหารออร์กานิกสม่ำเสมอ แต่….ก็มีพิษตกค้างเพียบ ดังนั้น จัดไปค่ะ อดอาหาร 3 วัน พร้อมทานสมุนไพรถอนพิษ และล้างพิษตับ ไม่หิว ไม่เหนื่อย ไม่โทรม แถมพุงยุบค่ะ ใครยังไม่เคย อยากแนะนำให้ลองค่ะ ปล. ปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อนเสมอนะคะ”

ตบแขนล้างพิษ

โดย หนูดี วนิษา ยังได้โพสต์ข้อความอธิบายว่า “ใครที่ถามมาสำหรับการล้างพิษตับ และเรื่องของการตบหาพิษ ภาพนี้ คือ ภาพของหนูดีตอนที่โดนตบหาพิษค่ะ ขนาดทานอาหารสุขภาพ และระวังร่างกายสม่ำเสมอ แต่ก็ไม่รอด เพราะคนเมืองในปัจจุบัน จะให้หนีสารพิษคงเป็นไปไม่ได้ มันก็เลยขึ้นโชว์แบบที่เห็นค่ะ เป็นการตบด้วยมือเปล่า ๆ นะคะ …หลายคนอาจสงสัย อ้าว ก็ตบมันก็ต้องช้ำสิ คือ มันจะช้ำไม่เหมือนกันค่ะ เกิดจ้ำแดง เกิดรอยดำ เกิดเม็ดขาว ๆ ที่เช็ดไม่ออก ทุกอย่าง ทุกคน แตกต่างกันหมด มันหมายความถึง พิษมาก พิษสะสมน้อย มีไขมันในเส้นเลือด ฯลฯ เป็นกรรมวิธีธรรมชาติที่น่าทึ่ง และ ให้สติตัวเรามาก ใครอยากรู้…ต้องลองเอง”

มีการถกเถียงและตั้งข้อสงสัยกันว่า รอยช้ำหรือเป็นจ้ำเลือดในลักษณะนี้ จะตบล้างพิษได้จริงหรือ ซึ่งหลายคนต่างก็ไม่เชื่อว่าจะสามารถทำได้จริง และเป็นการเจ็บตัวอีกต่างหาก การตบให้เกิดรอยดังกล่าวอาจเกิดอันตรายต่อร่างกายได้

เครดิต....mthai.com




 

Create Date : 16 กุมภาพันธ์ 2556   
Last Update : 16 กุมภาพันธ์ 2556 21:36:26 น.   
Counter : 2555 Pageviews.  

ดราม่า Super Junior M! ดีเจเด ลืมปิดไมค์ ด่า พ่อมึงตาย



  กลายเป็นดราม่าล่าสุดที่สาวกเกาหลีกำลังวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมากในขณะนี้... เมื่อจู่ ๆ ดีเจเด  ดาวิเด โดริโก้ ดีเจตัวสูงหัวฟูชื่อดัง คลื่น Seed FM 97.5 เกิดลืมปิดไมค์ ระหว่างรอสัมภาษณ์สดวง Super Junior M (ซูเปอร์จูเนียร์ เอ็ม) ซึ่งเป็นยูนิตย่อยของ Super Junior ที่เดินทางมามีทแอนด์กรี๊ดแฟนสาวคลับชาวไทยเมื่อวานนี้ (15 กุมภาพันธ์)

            โดยดีเจเดพูดว่า.. "อันยองฮาเซโย พ่อ...ตาย นัดกี่โมงครับ พ่อ...ตาย" ทำให้แฟนคลับชาวเกาหลีแสดงความไม่พอใจเป็นอย่างมาก พร้อมตำหนิการกระทำของดีเจเดดังกล่าว

อนึ่ง เหตุผลที่วง Super Junior M มาช้า เนื่องจากประสบปัญหาเครื่องบินดีเลย์ อีกทั้งต้องไปขึ้นเวทีที่สยามพารากอน ซึ่งเมื่อวานนี้ ที่ห้างพารากอนเกิดไฟดับประมาณ 30 นาที ทำให้วงเกาหลีดังกล่าวไปสัมภาษณ์ที่คลื่นวิทยุล่าช้า

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Instagram or_watta, ELFICEZaa, dj_drevil




 

Create Date : 16 กุมภาพันธ์ 2556   
Last Update : 16 กุมภาพันธ์ 2556 21:35:01 น.   
Counter : 2680 Pageviews.  

วิจารณ์หนัก! จีนแต่งตั้งอดีตดาราหนังโป๊เข้าเป็นสมาชิกสภาฯ

วิจารณ์หนัก! จีนแต่งตั้งอดีตดาราหนังโป๊เข้าเป็นสมาชิกสภาฯ

วิจารณ์หนัก! จีนแต่งตั้งอดีตดาราหนังโป๊เข้าเป็นสมาชิกสภาฯ


เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2556 เว็บไซต์เทเลกราฟ รายงานว่า สื่อจีนได้วิพากษ์วิจารณ์ถึงกรณีที่ สภาที่ปรึกษาการเมืองประชาชนจีน ประจำมณฑลกานซู เตรียมแต่งตั้งให้ เผิงตัน หรือ ไดอาน่า เผิง ดาราอีโรติกวัย 40 ปี เข้าร่วมเป็นสมาชิก ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชน รวมถึงสื่อสำนักต่าง ๆ มากมาย
วิจารณ์หนัก! จีนแต่งตั้งอดีตดาราหนังโป๊เข้าเป็นสมาชิกสภาฯ


         สำหรับ เผิงตัน หรือ ไดอาน่า เผิง เป็นดาราอีโรติกเกรด 3 ชื่อดังของฮ่องกงเมื่อสิบกว่าปีก่อน ซึ่งเอกลักษณ์อันโดดเด่นที่หน้าอกหน้าใจขนาด 36F บวกกับผลงานเซ็กซี่วาบหวิวเปิดเผยเนื้อหนังในผลงานหลายเรื่อง จึงทำให้เกิดเสียงตำหนิไปยังสภาที่ปรึกษาการเมืองประชาชนจีนถึงความไม่เหมาะสมในการแต่งตั้งดาราอีโรติกมาเป็นสมาชิกสภาฯ ซึ่งอาจส่งผลให้การเมืองจีนถูกโจมตีและวิจารณ์เหมือนเป็นตัวตลก

         โดยปักกิ่งนิวส์ถึงกับจัดทำโพลสำรวจความเห็น และพบว่า 46% คิดว่าการแต่งตั้งเธอเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม ขณะที่ 37% บอกว่า ควรรอดูผลงานเธอก่อน ขณะที่เจ้าตัวเผยว่า เธอไม่คิดว่า การที่เธอเคยเป็นดาราหนังเซ็กซี่จะเป็นอุปสรรคปัญหาต่อการทำงานด้านการเมือง และยังหวังว่า การได้ตำแหน่งของเธอจะเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่ต้องการเข้ามาสู่วงการการเมืองด้วย

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก images.smh.com.au , globaltimes.cn , cdn03.cdnwp.thefrisky.com




 

Create Date : 15 กุมภาพันธ์ 2556   
Last Update : 15 กุมภาพันธ์ 2556 21:48:22 น.   
Counter : 2652 Pageviews.  

ด่วน! พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ถึงแก่อนิจกรรมแล้ว

เวลา 17.09 น.วันที่ 15 กุมภาพันธ์ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา ถึงอสัญกรรมด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือด

พล.ต.สนั่น ป่วยอยู่ในความดูแลของแพทย์ศิริราช  เข้ารับการรักษาที่ รพ.ศิริราช เมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา ด้วยปัญหาทางเดินหายใจ (ถุงลมโป่งพอง) โดยพักอยู่ที่หออภิบาลการหายใจ “บัญญัติ ปริชญานนท์” Respiratory Care Unit (RCU) ชั้น 2 ตึกอัษฎางค์ รพ.ศิริราช ซึ่งขณะนี้อยู่ในความดูแลของคณะแพทย์ แต่ยังไม่สามารถให้เข้าเยี่ยมได้ เนื่องจากต้องการให้ผู้ป่วยได้พักผ่อนอย่างเต็มที่

พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา เกิดเมื่อวันที่ 7 กันยายน พ.ศ.2478  เป็นชาวจังหวัดพิจิตร เป็นผู้ก่อตั้งพรรคมหาชน และเคยเป็นอดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ รวมถึงได้เคยดำรงตำแหน่งสำคัญในรัฐบาลมาแล้วมากมายอาทิ รองนายกรัฐมนตรี, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, รมว.กระทรวงอุตสาหกรรม, รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และถูกเรียกขานจากสื่อมวลชนและแวดวงการเมืองว่า"เสธ.หนั่น" 

 ประวัติทางครอบครัว พล.ต.สนั่น สมรสกับ นางฉวีวรรณ ขจรประศาสน์ มีบุตร-ธิดารวม 4 คน เป็นชาย 1 คน หญิง 3 คน โดยบุตรชายเข้าสู่วงการเมือง คือ นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ หรือ "ยอด" อดีต ส.ส.พิจิตร เขต 3 พรรคมหาชน ส่วนบุตรสาวอีก 3 คนคือ น.ส.บงกชรัตน์ ขจรประศาสน์, น.ส.ปัทมารัตน์ ขจรประศาสน์ และ น.ส.วัฒนีพร ขจรประศาสน์ ประวัติทางการศึกษา พล.ต.สนั่น สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าและโรงเรียนเสนาธิการทหารบก และศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีศิลปะศาสตร์บัณฑิต สาขารัฐศาสตร์การปกครอง มหาวิทยาลัยรามคำแหง,ปริญญาโทศิลปศาสตร์มหาบัณฑิตรัฐศาสตร์ สาขาบริหาร มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปริญญาเอกศิลปศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขารัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันราชภัฎจันทรเกษม พล.ต.สนั่น เคยรับราชการเป็นทหารบก เหล่าทหารม้า มียศทางทหารสุดท้ายเป็น พันโท ก่อนจะถูกให้ออกจากราชการ เมื่อ พ.ศ. 2520 เนื่องจากร่วมก่อการกบฏ 26 มีนาคม 2520 ที่มีความพยายามโค่นล้มรัฐบาลชุดที่มีนายธานินทร์ กรัยวิเชียร เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งมี พล.อ.ฉลาด หิรัญศิริเป็นหัวหน้า โดย พ.ท.สนั่น เป็นเลขาธิการคณะ พ.ท.สนั่น ถูกจำคุกที่ เรือนจำลาดยาว จากข้อหากบฏ ทำให้ได้พบและสนิทสนมกับ พ.อ.มนูญ รูปขจร (ปัจจุบันคือ พล.ต.มนูญกฤต รูปขจร) แต่หลังจากนั้นเมื่อ พ.ท.สนั่น ได้เข้าทำงานการเมือง และดำรงตำแหน่ง รมว.กระทรวงมหาดไทย พ.ท.สนั่นได้รับโปรดเกล้าฯ พระราชทานยศเป็น "พลตรี" ปลายปี พ.ศ. 2540 พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ นายกรัฐมนตรี ถูกแรงกดดันให้ลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากเกิดการลดค่าเงินบาทในวันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2540 และตัดสินใจลาออกเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540 ในเวลานั้นพรรคร่วมรัฐบาลที่ประกอบด้วย พรรคความหวังใหม่, พรรคชาติพัฒนา, พรรคชาติไทย, พรรคประชากรไทยและพรรคกิจสังคม ตกลงที่จะสนับสนุน พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่ทางพรรคฝ่ายค้านที่มีพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำ และมีจำนวนส.ส.น้อยกว่าพรรคความหวังใหม่เพียง 2 เสียง ก็มีความพยายามที่จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลด้วยเช่นกัน วันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540 นายเสนาะ เทียนทอง เลขาธิการพรรคความหวังใหม่ ได้จัดแถลงข่าวยืนยันการจัดตั้งรัฐบาล โดยมี พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นนายกรัฐมนตรี ที่ชั้นล่างของทำเนียบรัฐบาล แต่ในเวลาเดียวกัน พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ก็เปิดแถลงข่าว เรื่องการจัดตั้งรัฐบาลด้วยเช่นกัน โดยมีเสียงสนับสนุนจากพรรคกิจสังคมของ นายมนตรี พงษ์พานิช ที่ย้ายฟากมาจากพรรคร่วมรัฐบาลเดิมอย่างกะทันหัน และมีตัวแปรสำคัญคือ ส.ส. พรรคประชากรไทย จำนวน 12 คน นำโดย นายวัฒนา อัศวเหม และ นายฉลอง เรี่ยวแรง ที่เข้าร่วมสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ ทำให้สถานการณ์พลิกกลับอย่างรวดเร็ว กลายเป็นเสียงทางฝ่ายพรรคประชาธิปัตย์มีมากกว่า และทำให้นายชวน หลีกภัย ได้ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นสมัยที่ 2 ในที่สุด หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น สื่อมวลชนได้เรียก ส.ส.ทั้ง 12 คนนั้น ว่า "กลุ่มงูเห่า" เพราะนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคประชากรไทย ได้เปรียบเทียบตนเองไว้ว่า เหมือนชาวนาในนิทานอีสป เรื่อง "ชาวนากับงูเห่า" เพราะแกนนำของ ส.ส. ทั้ง 12 คน โดยเฉพาะ ส.ส.กลุ่มปากน้ำ ของนายวัฒนา อัศวเหม ซึ่งเดิมสังกัดพรรคสามัคคีธรรม แต่ภายหลังเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ไม่มีพรรคใดรับเข้าสังกัด จนในที่สุดเข้ามาสังกัดพรรคประชากรไทย ที่นายสมัครเป็นหัวหน้าพรรค การถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี ของพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ โดยนายอดิศร เพียงเกษ ส.ส.จังหวัดขอนแก่น พรรคความหวังใหม่ ได้เปิดเผยข้อมูลระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า พล.ต.สนั่น แสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเป็นเท็จต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยระบุว่ามีการกู้ยืมเงินจำนวน 45 ล้านบาท จากบริษัท เอเอเอส ออโต้เซอร์วิส ทั้งที่ไม่มีการกู้ยืมจริง และนายวีระ สมความคิด ประธานกลุ่มพิทักษ์สิทธิเสรีภาพประชาชน ได้ยื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช. ให้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง จนคดีเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย จนกระทั่งศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยเป็นเอกฉันท์ว่า พล.ต.สนั่น มีความผิด ฐานจงใจแสดงบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 มาตรา 295 ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี ทำให้ พล.ต.สนั่น ต้องลาออกจากตำแหน่ง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นมายาวนานถึง 13 ปี หลังการถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง พล.ต.สนั่น ได้ก่อตั้ง พรรคมหาชน ขึ้นมาโดยมี ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ เป็นหัวหน้าพรรคคนแรก ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งในการเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ. 2548 และต่อมา พล.ต.สนั่น ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรคคนต่อมา แต่หลังจากนั้นเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2550 พล.ต.สนั่น พร้อมด้วย นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ บุตรชาย และสมาชิกพรรคมหาชน เดินทางไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคชาติไทย โดยให้เหตุผลว่ากฎหมายพรรคการเมืองปัจจุบันไม่เอื้อต่อการดำเนินงานของพรรคการเมืองขนาดเล็ก ถือเป็นการสิ้นสุดการดำเนินงานของพรรคมหาชนไปโดยบริยาย ต่อมาพล.ต.สนั่น ได้เข้าสู่วงการเมืองอีกครั้ง โดยได้ร่วมรัฐบาลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 โดยดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช, รัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และรัฐบาลนายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ และจากเหตุการณ์ความขัดแย้งในประเทศในช่วงปี 2552-2553 ทำให้พล.ต.สนั่น ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรีแห่งชาติ เพื่อสร้างความปรองดองกับทุกฝ่าย เนื่องจากพล.ต.สนั่น เป็นคนที่มีความสนิทใกล้ชิดเคยทำงานร่วมกับกลุ่มการเมืองทั้งมีสีและไม่มีสี จนได้รับฉายาว่า "มือประสานสิบทิศ" เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.2553 ผู้สื่อข่าวสายทำเนียบรัฐบาล ได้มีการตั้งฉายารัฐบาลและรัฐมนตรีประจำปี ซึ่งถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติสืบเนื่องกันมา เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของสื่อมวลชนต่อการทำงานของรัฐบาล โดยในปีนี้ผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาลได้ประชุม และมีมติให้ตั้งฉายารัฐบาลและรัฐมนตรีประจำปี 2553 ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี โดย พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรีด้านสังคม ได้รับฉายาว่า "ลิ้นชาละวัน" เพราะผลงานในตำแหน่งรองนายกฯ ไม่เป็นที่ประจักษ์และเป็นรูปธรรม แต่บทบาทที่ชัดเจนคือการเดินสายเจรจาสร้างความปรองดองกับทุกพรรคการเมือง และกลุ่มผลประโยชน์ทางการเมืองทุกสี แต่ก็ไม่เป็นผล เปรียบเหมือนการใช้ลิ้นจระเข้ที่ไม่มีต่อมรับรส กินอะไรก็ไม่รู้รสชาติ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ยังได้รับฉายาจากสถานีประชาชน (พีเพิลชาแนล) ด้วยอีกว่าเป็น “สิงห์ไวน์ส่งไม้ต่อ” เนื่องจากชั่วหลังๆ เสธ.หนั่นมีแนวคิดที่จะสละเก้าอี้ ซึ่งหากลงจากตำแหน่งจริง จึงต้องการให้ลูกชายได้สัมผัสเก้าอี้รัฐมนตรีด้วยในคราวนี้ และในวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2555 พล.ต.สนั่น ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา ได้ประกาศยุติบทบาททางการเมือง โดยขอยุติการทำหน้าที่ในฐานะ ส.ส. แต่ยังคงพร้อมที่จะช่วยงานในส่วนของพรรค และงานการเมืองของประเทศต่อไป

(โปรดคอมเม้นต์ด้วยความสุภาพ)

ที่มา: //news.thaipbs.or.th/content/เจ้าของฉายา-ชาละวันการเมืองเปิดแฟ้มชีวิต-พลตสนั่น-ขจรประศาสน์




 

Create Date : 15 กุมภาพันธ์ 2556   
Last Update : 15 กุมภาพันธ์ 2556 21:47:51 น.   
Counter : 2252 Pageviews.  

สิ้นชื่อ มะรอโซ จันทรวดี แกนนำโจรใต้หมายเลข 1 แห่งบาเจาะ

มะรอโซ จันทรวดี
มะรอโซ จันทรวดี




เหตุการณ์ ที่กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบกว่า 50 คน แต่งกายเลียนแบบทหารบุกเข้าโจมตีฐานปฏิบัติการ กองร้อยปืนเล็กที่ 2 สังกัดหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 32 กองทัพเรือ ซึ่งตั้งอยู่ในสวนยางพารา ริมถนนบ้านยือลอ หมู่ที่ 3 ต.บาเร๊ะเหนือ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส เมื่อช่วงเวลา 01.00 น. ของวันที่ 13 กุมภาพันธ์ กลายเป็นข่าวใหญ่ไปในบัดดล เนื่องจากเหตุปะทะครั้งนี้มีผู้ก่อการร้ายถูกปลิดชีพมากถึง 16 ศพ ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไม่มีใครได้รับบาดเจ็บแม้แต่นายเดียว นั่นเพราะ เจ้าหน้าที่ล่วงรู้ถึงแผนการการลอบโจมตีครั้งนี้ล่วงหน้า จึงวางกลยุทธตั้งรับอย่างเต็มที่ และสามารถปกป้องฐานที่มั่นเอาไว้ได้สำเร็จ

ทั้งนี้ ใน จำนวนผู้เสียชีวิต 16 ศพ หนึ่งในนั้นคือ นายมะรอโซ จันทรวดี แกนนำอาร์เคเค ที่ถือว่าเป็นคนสำคัญของการก่อเหตุความไม่สงบใน อ.บาเจาะ ถึงขนาดที่ทหารหลายนายเคยออกปากว่า "ถ้าพื้นที่นี้สิ้นนายมะรอโซแล้ว รับรองว่าสันติสุขเกิดแน่"

         นั่นเพราะที่ผ่านมา มะ รอโซ จันทรวดี คือ ผู้นำเบอร์ 1 ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่อำเภอบาเจาะ และเคยปะทะกับเจ้าหน้าที่หลายครั้ง แต่ก็หนีรอดการจับกุมไปได้เสียทุกครั้ง ทำให้ มะรอโซ ยิ่งฮึกเหิม และบาเจาะก็ยังไม่สงบสุขจริง ๆ เสียที

หากลอง พลิกแฟ้มประวัติของ นายมะรอโซ จันทรวดี จะทราบว่า เขาอยู่บ้านเลขที่ 162 หมู่ที่ 7 ต.บาเจาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ถือเป็นชาวบาเจาะโดยกำเนิด และกำลังจะมีอายุครบ 31 ปี ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2556 หากไม่ถูกวิสามัญไปเสียก่อน

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าแกนนำเบอร์ 1 ของบาเจาะรายนี้จะมีอายุยังไม่มากนัก แต่เขากลับมีประวัติการก่อเหตุความไม่สงบมาอย่างโชกโชน จน มีหมายจับ ป.วิอาญา (ออกตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา) จำนวน 11 หมาย และหมาย พ.ร.ก. (ออกโดยอาศัยอำนาจตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548) อีก 3 หมาย

         คดีใหญ่ ๆ หลายคดีในพื้นที่ อ.บาเจาะ ล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องกับ มะรอโซ จันทรวดี ทั้งสิ้น อย่างเช่น คดีพยายามลอบวางระเบิดหน้าธนาคารกสิกรไทย สาขานราธิวาส เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2553 เวลา 08.05 น. รวมทั้งเหตุการณ์ที่ 4 คนร้ายบุกยิง ครูชลธี เจริญชล ครูโรงเรียนบ้านตันหยง ต.บาเระใต้ อ.บาเจาะ เสียชีวิตภายในโรงอาหารต่อหน้านักเรียนนับร้อย เมื่อวันพุธที่ 23 มกราคม 2556 มะรอโซ ก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย

      เมื่อเกี่ยวข้องกับคดีสำคัญ ๆ มากมาย ทำให้ชื่อของ มะรอโซ จันทรวดี สร้างความหวาดผวาให้ชาวบ้านบาเจาะเป็นอย่างยิ่ง สิ่งที่น่ากลัวก็คือ หากใครให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัว มะรอโซ จันทรวดี ต่อเจ้าหน้าที่ก็จะถูกมะรอโซจัดการอย่างเด็ดขาดเสียทุกราย โดยมีข้อมูล ระบุว่า มะรอโซ จันทรวดี เคยทำทีเป็นชาวบ้านเข้าไปนั่งร้านน้ำชาแล้วโพล่งเสียงดังว่า หากใครพาไปหามะรอโซจะมีรางวัลให้ สิ้นเสียงนั้นผลลัพธ์ก็คือ ชาวบ้านต่างแตกฮือกระจัดกระจายกันไปคนละทิศคนละทาง เพราะกลัวจะถูกปลิดชีพ แสดงให้เห็นว่า แค่ชื่อ "มะรอโซ" นั้น ก็ยังน่ากลัวขนาดนี้

เมื่อ "มะรอโซ" กลายเป็นผู้มีอิทธิพลเช่นนี้ ก็ยิ่งทำให้เขากระหยิ่มยิ้มย่อง ยิ่งปฏิบัติการรุนแรงขึ้นโดยไม่กลัวเกรงเจ้าหน้าที่ และหนึ่งในแผนปฏิบัติการของเขาก็คือ การลอบโจมตีฐานปฏิบัติการ กองร้อยปืนเล็กที่ 2 สังกัดหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 32 กองทัพเรือ เพื่อแก้แค้นให้กับ นายสุไฮดี ตาเห สมุนคนสนิทที่ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญเสียชีวิตที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

  และในที่สุด เมื่อ เช้ามืดของวันที่ 13 กุมภาพันธ์ นายมะรอโซ ก็ได้นำกำลังบุกโจมตีฐานทหาร แต่โชคดีที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่รู้ข่าวมาก่อนแล้ว จึงสามารถรับมือกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบได้ และสังหารคนร้ายเสียชีวิตถึง 16 ศพ รวมตัวนายมะรอโซด้วย โดยนายทหารนาวิกโยธินให้ข้อมูลว่า นายมะรอโซ คือผู้ที่เดินอยู่แถวหน้า และเป็นผู้ผลักประตูฐานปฏิบัติการเพื่อเข้าโจมตีด้วยตัวเอง แต่สุดท้ายก็ต้องสิ้นชื่อในครั้งนี้

         ที่น่าแปลกใจก็คือ นายมะรอโซ ถือเป็นแกนนำก่อการร้ายเบอร์ 1 ของพื้นที่บาเจาะ แต่ชาวบ้านในบ้านเกิดของนายมะรอโซกลับไม่รู้เรื่องนี้เลย โดย นายมูฮำหมัดนุ โต๊ะเล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ต.บาเจาะ บอกว่า มะรอโซหายออกไปจากหมู่บ้านนานหลายปีแล้ว และไม่ทราบข่าวคราว รวมทั้งยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า นายมะรอโซเกี่ยวข้องกับคดีก่อความไม่สงบที่เกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้ง เพิ่งมารู้ก็ตอนที่เจ้าหน้าที่มาแจ้งว่า นายมะรอโซเสียชีวิตแล้วจากเหตุปะทะดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ก็ยังตรึงกำลังเข้ม เพื่อเฝ้าระวังเหตุความไม่สงบที่อาจจะเกิดขึ้นในพื้นที่บาเจาะ แม้ว่า นายมะรอโซ จันทรวดี แกนนำเบอร์ 1 แห่งบาเจาะจะสิ้นชีพไปแล้วก็ตาม...



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก




 

Create Date : 14 กุมภาพันธ์ 2556   
Last Update : 14 กุมภาพันธ์ 2556 21:50:27 น.   
Counter : 2429 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  110  111  112  113  114  115  116  117  118  119  120  121  122  123  124  125  126  127  128  129  130  131  132  133  134  135  136  137  138  139  140  141  142  143  144  145  146  147  148  149  150  151  152  153  154  155  156  157  158  159  160  161  162  163  164  165  166  167  168  169  170  171  172  173  174  175  176  177  178  179  180  181  182  183  184  185  186  187  188  189  190  191  192  193  194  195  196  197  198  199  200  201  202  203  204  205  206  207  208  209  210  211  212  

zulander
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 77 คน [?]




หวยซอง เลขเด็ด
หวยซอง เลขเด็ด หวยซองแม่นๆ หวยซองดัง รวมหวยซอง






ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add zulander's blog to your web]