ประยุทธ์ เมิน ทักษิณ สไกป์ ชี้ ฟังแต่คนในประเทศ ไม่ฟังคนอยู่ต่างประเทศ ประยุทธ์ ไม่สน ทักษิณ สไกป์ ชี้ ฟังแต่คนในประเทศ ไม่ฟังคนอยู่ต่างประเทศ ผู้สื่อข่าว MThai News รายงานจากกองบัญชาการกองทัพบก ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เปิดเผยถึงกรณีที่กองทัพบกมอบหมายให้พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รองผบ.ทบ. เป็นตัวแทนของกองทัพบกไปร่วมหารือเรื่องพ.ร.บ.นิรโทษกรรมกับนายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาฯ เมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า กองทัพบกในฐานะที่เป็นหน่วยงานในกระทรวงกลาโหม และได้รับคำสั่งจากรมว.กลาโหมให้จัดผู้แทนเข้าไปร่วมประชุม ทั้งนี้ตนได้รับรายงานจากรองผบ.ทบ.ว่า ได้หารือกันในหลายเรื่อง ซึ่งเป็นเพียงแค่การพูดคุยและยังไม่ได้ข้อยุติใดๆ เราจำเป็นต้องเข้าร่วมรับฟังในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่ เมื่อมีคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายมาเราก็ต้องปฏิบัติ ซึ่งเป็นเพียงการหารือเริ่มต้น เพื่อให้ทุกภาคส่วนหันหน้ามาพบปะกัน คิดว่า อย่าเพิ่งมองในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น ทั้งนี้กองทัพบกจำเป็นต้องทำหน้าที่ตรงนี้ เพราะมี 2 สถานะคือ 1 .การเป็นเจ้าหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย และ 2.คือเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติงานในช่วงที่ผ่านมา ทั้งเรื่องคดีความ และกรณีที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและสูญเสียจากการปฏิบัติหน้าที่ ถ้าเราไม่ไปฟังและไม่ไปดูว่า เขาทำอะไร คงไม่ได้ อีกทั้งตนก็คงตอบคำถามผู้ใต้บังคับบัญชาไม่ได้ ส่วนการหารือมีหลายฝ่ายปฏิเสธเข้าร่วมนั้น หากไม่มีผู้เข้าร่วมก็ต้องไปหากันต่อว่า จะทำอย่างไร ต่อไป คุยกันต่อหรือไม่ หรือจะเลิกคุย ตนมองว่า ต้องหาทางพูดคุยกันให้ได้ ประเทศไทยไม่เคยมีความขัดแย้งมากขนาดนี้มาก่อน ซึ่งไม่เป็นผลดีกับประเทศ ตนมองในฐานะฝ่ายความมั่นคง ประเทศเราแบ่งแยกกันไม่ได้ คนก็อย่าแบ่งแยกกัน อะไรที่แก้ไขได้โดยไม่เสียหายต้องช่วยกัน ส่วนทางกองทัพจะเสนอแนะฝ่ายการเมืองเรื่องอย่างไรนั้น อย่าใช้คำว่า กองทัพแนะนำฝ่ายการเมือง เพราะกองทัพอยู่ภายใต้อำนาจการบริหารของรัฐบาล มีหน้าที่ปฏิบัติตามนโยบายที่ชอบด้วยกฎหมาย ตราบใดที่รัฐบาลยังชอบด้วยกฎหมาย ขณะที่ กรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สไกป์สั่งให้รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยทำงานเข้มข้นและแข็งกร้าวมากขึ้น เพราะที่ผ่านมารัฐบาลยอมอ่อนข้อให้กับทหารมากเกินไปนั้น ตนไม่ได้ฟังพ.ต.ท.ทักษิณสไกป์ แต่คิดว่า ฟังคนในประเทศก็พอแล้ว ส่วนคนที่อยู่ต่างประเทศก็คือต่างประเทศ วันนี้เราอยู่ด้วยกัน คนในประเทศก็ต้องฟังคนในประเทศ ตนไปฟังคนอื่นไม่ได้ และจะนำอย่างอื่นมาตัดสินใจเองไม่ได้ วันนี้จะต้องตัดสินใจบนพื้นฐานของกฎหมายและรัฐธรรมนูญ รวมถึงพื้นฐานความเป็นเจ้าหน้าที่ อยากให้เข้าใจทหาร ทั้งนี้ตนไม่ได้ไปเกี่ยวข้องกับพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองและใครทั้งสิ้น ใครจะตำหนิหรือใครจะชมก็ว่ากันไป ตนเป็นกองทัพบก พร้อมกันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่า พรรคเพื่อไทยอ่อนข้อให้กับทหารมานานแล้วนั้น ตนขอย้อนถามว่า อ่อนข้ออะไร ตรงไหนและอย่างไร คงไม่ใช่รัฐบาลอ่อนข้อ แต่รัฐบาลต้องปฏิบัติตามกฎหมาย วันนี้ทำงานอยู่ด้วยกัน ตราบใดที่ยังไม่มีการทำผิดหรือถูกคงทำอย่างอื่นไม่ได้ มาถามตนทุกเรื่องเลย ทหารไม่ได้อยู่ในกลไกเลยทั้งการเมือง บริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการ ทหารเป็นผู้ปฏิบัติ ดังนั้นอย่าเอาเราไปตีกับใคร ขอให้เราทำหน้าที่เผชิญกับภัยคุกคามต่างๆดีกว่า เก็บเราไว้สู้กับโจรดีกว่า อย่าเอาเราไปสู้กันเอง MThai News   Create Date : 12 มีนาคม 2556     0 comment Last Update : 12 มีนาคม 2556 22:48:06 น.     Counter : 1948 Pageviews.   Share Tweet

ฮือฮา! ชาวนาเงินล้าน ใช้รถหรูแห่นาคลูกชาย ทนงค์ อ่วมคำ ชาวนาเงินล้าน สร้างความฮือฮา! ใช้รถหรูแห่นาคลูกชาย บอกไม่ได้อวดร่ำอวดรวย เพียงแต่อยากให้ลูกนั่งรถที่ตนมีอยู่เท่านั้น อึ้งพบในไทยมีเพียง 3คัน รายงานข่าวแจ้งว่า ที่จ.สุพรรณบุรี ได้เกิดเรื่องสุดฮือฮาขึ้น เมื่องานแห่นาคงานหนึ่งใน อ.ศรีประจันต์ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้แขกเหรื่อ และผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก หลังเจ้าภาพได้นำรถยนต์หรูราคากว่า 10ล้านบาท มาให้นาคนั่งแห่ไปอุปสมบท ณ พัทธสีมาของวัดในพื้นที่ ทราบชื่อเจ้าของงานต่อมาคือนายทนงค์ อ่วมคำ หรือที่ชาวบ้านเรียกติดปากว่า ชาวนาเงินล้าน โดยนายทนงค์ เล่าว่า สาเหตุที่ตนนำรถยนต์หรูมาใช้แห่นาคลูกชายในครั้งนี้นั้น ไม่ได้อวดร่ำอวดรวยอะไร เพียงแต่ทำตามประเพณีโบราณที่จะให้นาคขึ้นขี่คอคน กับขี่ม้า หรือไม่ก็ขี่ช้างเข้าโบสถ์ และตนมีรถยนต์หรูที่ซื้อมาด้วยน้ำพักน้ำแรงจากการทำนา จึงอยากให้ลูกชายได้นั่งรถหรูของตนเท่านั้น สำหรับรถยนต์หรูคันดังกล่าว เป็นรถยนต์นำเข้ายี่ห้อ CHRYSLER PLYMOUTH PROWLER ที่ผลิตในประเทศสหรัฐ และเป็นรถยนต์หรูสะสมของเศรษฐีในอเมริกา ซึ่งในประเทศไทยมีเพียง 3 คัน MThai News   Create Date : 12 มีนาคม 2556     0 comment Last Update : 12 มีนาคม 2556 22:47:27 น.     Counter : 1759 Pageviews.   Share Tweet

โหด!! เด็กป.1 รุมตื้บเด็กอนุบาล วัย 5 ขวบ อาการปางตาย MThainews: รายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้ (12มี.ค.) ที่มูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี มีการเปิดเผยเหตุสลดที่เกิดขึ้น เมื่อยายของเด็กชายวัย 5 ขวบ เล่าว่า หลานของตนซึ่งเรียนอยู่ระดับอนุบาล ในโรงเรียนแห่งหนึ่ง จ.สุพรรณบุรี  ถูกรุ่นพี่ที่เรียนอยู่ ป.1 โรงเรียนเดียวกัน รุมทุบตีทำร้ายร่างกายจนกระทั่งมีอาการ เลือดตก อาการสาหัส โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่1 มีนาคม ที่ผ่านมา  โดยเด็ก ป.1 ได้ถูกเด็ก ม.1 ยุมาให้มาทำร้ายร่างกายอีกทีหนึ่ง ซึ่งขณะนี้ อาการเด็กเริ่มทรุดลง เป็นตายเท่ากัน ทำให้โรงพยาบาลที่รักษาในจ.สุพรรณบุรี ไม่สามารถดูแลต่อได้ จึงจึงแจ้งมายังมูลนิธิปวีณาฯ ให้ช่วยเหลือในการรักษา พร้อมประสานโรงพยาบาลราชวิถี นำตัวส่งมารักษาโดยด่วน ส่วนเรื่องคดีความนั้น ทางยายของเด็กชาย 5 ขวบ มีการแจ้งความไว้แล้ว MThai News   Create Date : 12 มีนาคม 2556     0 comment Last Update : 12 มีนาคม 2556 22:46:55 น.     Counter : 1784 Pageviews.   Share Tweet

โผล่อีก! ภาพเณรสุดสวย สะเทือนวงการผ้าเหลือง หลังจากที่มีกระแสข่าวด้านลบของวงการพระสงฆ์และศาสนาพุทธปรากฎอยู่บนสังคมออนไลน์และเป็นข่าวครึกโครมในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาโดยมีทั้งภาพและคลิปความรุนแรง รวมถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเช่น ชกต่อย ทำร้ายร่างกาย ดื่มสุรา พูดจาหยาบคายและล่วงละเมิดทางเพศ ล่าสุดชาวสังคมออนไลน์แห่แชร์และรุมวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมของวงการพระสงฆ์อีกครั้ง เมื่อมีภาพที่ไม่เหมาะสมโผล่อีกภาพโดยรอบนี้เป็นภาพของสามเณรรูปหนึ่งที่กรีดอายไลน์เนอร์ แต่งหน้าทาปาก พร้อมใส่หมวกไหมพรมแฟชั่นโพสต์ขึ้นสื่อสังคมออนไลน์ พร้อมระบุใต้ภาพว่า “ไปเที่ยวมา”และใต้ภาพสามเณรรูปดังกล่าวยังได้มีการแสดงความคิดเห็นโต้ตอบกับเพื่อนและถามคำถามว่า”สวยมั้ยคะ”ด้วย โดยกรณีแบบนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วและได้มีการเงียบหายไปพักหนึ่ง ซึ่งชาวสังคมออนไลน์ได้รุมวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมของพฤติกรรมดังกล่าว MThai News   Create Date : 12 มีนาคม 2556     0 comment Last Update : 12 มีนาคม 2556 22:46:33 น.     Counter : 2102 Pageviews.   Share Tweet

ผู้โดยสารอึ้ง! ประตูรถไฟฟ้าเปิดออกเอง ขณะรถกำลังวิ่ง อึ้ง! ประตูรถไฟฟ้า BTS เปิดออก ขณะรถกำลังวิ่ง ด้านชาวเน็ตแห่แชร์ภาพ พร้อมตั้งคำถามความปลอดภัยอยู่ที่ไหน?? เกิดเป็นกระแสฮือฮาขึ้นในสังคมออนไลน์ เมื่อมีผู้คนต่างพากันแชร์ภาพสุดหวาดเสียวหลังประตูรถไฟฟ้าบีทีเอส เปิดเองอัตโนมัติขณะกำลังวิ่งอยู่ ซึ่งเมื่อภาพดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไปก็ทำให้มีคนเข้าไปแสดงความเห็นมากมาย โดยส่วนใหญ่ถามถึงมาตราการความปลอดภัยในการบริการรถไฟฟ้าบ้านเราที่มากแค่ไหน และเหตุใดประตูถึงเปิดเองได้เช่นนี้ ขณะที่ คุณ Mrseven Ning ในเพจเฟซบุ๊ก ได้เผยว่า “ภาพดังกล่าวเป็นขบวนที่เพิ่งออกจากสถานีสยามมุ่งหน้าไปราชเทวี ซึ่งประตูจะเปิดฝั่งนี้อยู่แล้ว เพราะในภาพอยู่ชั้นบนสุด ส่วนชั้นล่างจะเป็นฝั่งที่มุ่งหน้าไปแบริ่ง (สายสุขุมวิท) หรือวงเวียนใหญ่ (สายสีลม) และขบวนรถในภาพคือขบวนรถ 4 ตู้จากประเทศจีน ที่เคยวิ่งให้บริการในสายสีลมมาก่อน งานนี้ไม่รู้ระบบเกิดผิดพลาดหรืออะไรกันแน่ ถึงทำให้ประตูเปิดซะงั้น” อย่างไรก็ดีทาง MThai News หวังว่าเหตุการณ์นี้คงเป็นครั้งสุดท้าย ขออย่าเกิดขึ้นซ้ำอีก ไม่อย่างนั้นแล้วโศกนาฏกรรมที่ไม่คาดฝันอาจเกิดขึ้นก็เป็นได้ ทั้งนี้ข้อความคำเตือนที่เขียนไว้ “อย่ายืนพิงประตู” น่าจะเป็นทางออกที่สำคัญสุดในการดูแลความปลอดภัยเบื้องต้นของตัวเราเองในการโดยสารรถไฟฟ้า ภาพจาก Facebook @Newsmania MThai News   Create Date : 12 มีนาคม 2556     0 comment Last Update : 12 มีนาคม 2556 22:46:09 น.     Counter : 1311 Pageviews.   Share Tweet