หุ้นไทยบวกแรง 20.50 จุด มูลค่าซื้อขาย36,892.36 ลบ. ดัชนีหุ้นปิดตลาดวันนี้ (17 ก.พ.)บวกแรง 20.50 จุด  ดัชนีมาอยู่ที่ 1,332.37 จุด มูลค่าซื้อขาย36,892.36 ล้านบาท ภาวะตลาดหุ้นภาคบ่าย (17 ก.พ.) บรรยากาศเก็งกำไรคึกคัก แรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่หนุนดัชนีปรับขึ้นเกือบ 20 จุด ส่งผลให้ดัชนีทะลุไปยืนเหนือระดับ 1,300 จุด ได้สำเร็จ โดยหุ้นปิดตลาดวันนี้ (17 ก.พ.)บวกแรง 20.50 จุด  ดัชนีมาอยู่ที่ 1,332.37 จุด มูลค่าซื้อขาย36,892.36 ล้านบาท นักวิเคราะห์ ยอมรับว่า ตลาดช่วงบ่ายปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยบวกจากการประกาศตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ปี 2556 ที่ออกมาดี ไม่ติดลบตามที่ตลาดได้คาดการณ์เอาไว้ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยมองดัชนีสูงสุด (แนวต้าน)ในวันนี้ที่ระดับ 1,330 จุด สำหรับระยะกลางคาดว่า ดัชนีจะยังจะถูกกดดันจากการลดประมาณการจีดีพี ในปี 2557 ซึ่งเป็นผลจากประเด็นการเมืองยังยืดเยื้อ อย่างไรก็ตาม สภาพัฒน์ ระบุว่า ไตรมาส 4 ปี 2556 เศรษฐกิจไทยโตเพียง 0.6% และทั้งปี 2556 เติบโตแค่ 2.9% และคาดการณ์  จีดีพีทั้งปี 2557 โตเพียง 3-4% จากเดิมที่คาดโต 4-5% สาเหตุจากการบริโภคภายในประเทศที่อ่อนแอ หลังแผนการลงทุนของภาครัฐ-เอกชนล่าช้า และการบริโภคภายในประเทศอ่อนแอต่อเนื่อง 5อันดับ หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด AOT            มูลค่าการซื้อขาย 2,211.88 ล้านบาท     ปิดที่ 183.00 บาท     เพิ่มขึ้น  7.00 บาท KBANK      มูลค่าการซื้อขาย 1,929.86 ล้านบาท     ปิดที่ 171.00 บาท     เพิ่มขึ้น  3.00 บาท ADVANC    มูลค่าการซื้อขาย 1,836.92 ล้านบาท     ปิดที่ 222.00 บาท     เพิ่มขึ้น  7.00 บาท JAS             มูลค่าการซื้อขาย 1,541.80 ล้านบาท     ปิดที่   7.75 บาท     เพิ่มขึ้น  0.05 บาท SCB             มูลค่าการซื้อขาย 1,438.57 ล้านบาท     ปิดที่ 153.50 บาท     เพิ่มขึ้น  4.50 บาท MThai News   Create Date : 18 กุมภาพันธ์ 2557     0 comment Last Update : 18 กุมภาพันธ์ 2557 8:27:53 น.     Counter : 1076 Pageviews.   Share Tweet

ไม่รอด! รวบสาวแสบ ลวงขายไอโฟนผ่านเฟสบุ๊ก Mo May ตำรวจ ภาค 5 จับกุม สาววัย 18 หลอกขายโทรศัพท์มือถือราคาถูกผ่านเฟสบุ๊ก หลังได้รับเงินกลับส่งสินค้าอื่นอาทิ ข้าวซอยตัด ครีมนวดผม แก้วน้ำ ให้แทน วันนี้ (17 ก.พ.57) ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ต.ปชา รัตนพันธ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค  5 แถลงข่าวผลการจับกุมตัวสาวแสบหลอกขายโทรศัพท์มือถือทางอินเตอร์เน็ต แล้วส่งสินค้าอื่นให้กับลูกค้า โดยจับกุมตัวน.ส.เสาวลักษณ์ คำคุณ อายุ  18 ปี ชาวอ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ตามหมายศาลของหมายศาลจังหวัดเชียงใหม่ที่ จ.53/2557 โดยกล่าวหาว่า นำเข้าระบบคอมพิวเตอร์ซื้อข้อมูลคอมพิวเตอร์ ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ประชาชน และฉ้อโกง ซึ่งจับกุมตัวได้่ที่ร้านโดนัท อินเตอร์เน็ต ถนนบ้านท่อ-ป่าตัน ต.ป่าตัน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ สำหรับพฤติการณ์ของ น.ส.เสาวลักษณ์ เมื่อประมาณเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา มีผู้เสียหายหายรายเจ้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ถูกผู้ต้องหารายนี้หลอกลวงผ่านอินเตอร์เน็ต ผ่านโปรแกรมเฟสบุ๊กใช้ชื่อ Mo May ว่า มีโทรศัพท์ไอโฟนขายในราคาถูก โดยผู้เสียหายต้องโอนเงินค่าโทรศัพท์ให้ก่อนครึ่งหนึ่งของราคาซื้อ จากนั้นคนร้ายได้บรรจุสินค้าอื่นใส่กล่องพัสดุไปรษณีย์ส่งไปให้ผู้เสียหายทางไปรษณีย์ แล้วถ่ายรูปสลิปใบเสร็จยืนยันการส่งของทางไปรษณีย์ให้ผู้เสียหายดูผ่านระบบเฟสบุ๊ก ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าผู้ต้องหาส่งโทรศัพท์มาให้แล้ว ผู้เสียหายจึงโอนเงินค่าสินค้าที่เหลือไปให้กับผู้ต้องหา จนเมื่อได้รับพัสดุไปรษณีย์ จึงทราบความจริงว่า สินค้าที่คนร้ายส่งมานั้นไม่ใช่โทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟนที่สั่งไป แต่กลายเป็นสินค้าอื่นเช่น ข้าวซอยตัด ครีมนวดผม แก้วน้ำ จากนั้นผู้ต้องหาก็จะทำการบล็อกการติดต่อทางเฟสบุ๊กของผู้เสียหายรายนั้น เพื่อไม่ให้ติดต่อได้อีก เมื่อผู้เสียหายไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับพบบัญชีธนาคารที่คนร้ายนำมาใช้หลวงลวงผู้เสียหายนั้น คนร้ายได้เปิดบัญชีโดยการเอาบัตรประชาชนของบุคคลอื่นไปแอบเปิดบัญชีธนาคารเพื่อปกปิดชื่อของตัวเองในการหลอกลวงผู้เสียหาย แต่จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของธนาคารสามารถบันทึกภาพผู้ต้องหาไว้ได้ ขณะเข้ามาเปิดบัญชีธนาคาร ทำให้ทราบว่าคนร้ายคือน.ส.เสาวลักษณ์ หรือครีม คำคุณ อย่างไรก็ตามจากการตรวสอบมีผู้เสียหายที่ได้รับความเสียหายจากน.ส.เสาวลักษณ์กว่า 30 ราย และเงินที่ได้จากการหลอกเหยื่อก็จะนำมาเที่ยวกับเพื่อนๆ ซึ่งใช้จ่ายเงินวันละไม่ต่ำกว่า 10,000 บาท ข้อมูลจาก springnews online MThai news   Create Date : 18 กุมภาพันธ์ 2557     0 comment Last Update : 18 กุมภาพันธ์ 2557 8:26:31 น.     Counter : 1300 Pageviews.   Share Tweet

ชาวนายังปักหลักชุมนุมหน้าก.พาณิชย์ทวงเงินจำนำข้าว กลุ่มเกษตรกรชาวนา ยังปักหลักชุมนุม ที่กระทรวงพาณิชย์อย่างสงบ หลังเมื่อวานนี้ ทวงเงินจำนำข้าวไม่เป็นผล ขณะที่ ทหารและตำรวจ คอยประจำการรักษาความปลอดภัย บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มเกษตรกร ชาวนา ที่กระทรวงพาณิชย์ ในช่วงเช้าวันนี้ ยังคงดำเนินไปอย่างเรียบร้อย โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ คอยประจำการรักษาความปลอดภัย หลังจากเมื่อวานนี้ ทางกลุ่มชาวนาได้เคลื่อนขบวนไปกดดันทวงถามเงินจำนำข้าวจากนายกรัฐมนตรี ที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เมืองทองธานี แต่ไม่เป็นผล และได้ตัดสินใจกลับมาปักหลักพักค้างคืนที่กระทรวงพาณิชย์ แทนที่จะมีการชุมนุมกดดันที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เพื่อความปลอดภัย โดย ในวันนี้ แกนนำเครือข่ายชาวนาไทย จะมีการประชุมกำหนดท่าทีการเคลื่อนไหวใหญ่ ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ต่อไป ในขณะที่ ข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ ได้ทยอยเข้าทำงานตามปกติแล้ว ตั้งแต่เมื่อวานนี้ แต่ยังเปิดให้มีการเปิดให้นำรถยนต์เข้า – ออก ได้เพียงประตูเดียว เพื่อง่ายต่อการดูแลความเรียบร้อย   Create Date : 18 กุมภาพันธ์ 2557     0 comment Last Update : 18 กุมภาพันธ์ 2557 8:26:03 น.     Counter : 1048 Pageviews.   Share Tweet

ถาวรอ้างรัฐบีบทอท.ซื้อพันธบัตร4หมื่นล.ช่วยชาวนา แกนนำ กปปส. “ถาวร” ปูดรัฐบาลบีบการท่าอากาศยานไทย ซื้อพันธบัตร 4 หมื่นล้านบาท ระดมเงินใช้หนี้ชาวนา – คาด ศรส. หวังใช้กำลังปราบ ปชช. ก่อนศาลแพ่งตัดสิน นาย ถาวร เสนเนียม อดีต ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ หนึ่งในแกนนำ กปปส. เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ได้รับการแจ้งข่าวจากพนักงานของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ว่า บริษัทกำลังถูกรัฐบาลบีบบังคับให้นำเงินไปซื้อพันธบัตร มูลค่า 4 หมื่นล้านบาท เพื่อหวังระดมเงินทุน ไปใช้โครงการจำนำข้าว ซึ่งพนักงานคนดังกล่าว กังวลว่า บริษัทจะขาดสภาพคล่อง หากต้องนำเงินจำนวนดังกล่าวไปซื้อพันธบัตร รวมถึง อาจจะทำให้เพื่อพนักงานของบริษัทท่าอากาศยานไทย ไม่ได้รับโบนัส หากมีการดำเนินการดังกล่าว แม้ว่าจะอยากช่วยเหลือชาวนา แต่ก็ไม่อยากให้บริษัท นำเงินไปสนับสนุนการทุจริตในโครงการดังกล่าว   พร้อม กันนี้ นายถาวร ยังได้ตั้งข้อสังเกตการขอคืนพื้นที่ของ ศรส. ในวันนี้ ว่า อาจจะเป็นการพยายามใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อหวังปราบปรามประชาชน ก่อนที่ศาลแพ่ง จะตัดสิน เรื่องการออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มิชอบ ในวันที่ 19 ก.พ.นี้ แต่ กปปส. ก็ได้มีการเตรียมพร้อมรับมืออย่างเต็มที่แล้ว โดยตนจะนำมวลชนไปช่วยที่กระทรวงมหาดไทย และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ไปช่วยที่ทำเนียบรัฐบาล ส่วนในจุดอื่น ๆ หากมีการร้องขอกำลังเพิ่ม กปปส. ก็จะจัดมวลชนไปสนับสนุนเต็มที่ในทันทีเช่นกัน   Create Date : 18 กุมภาพันธ์ 2557     0 comment Last Update : 18 กุมภาพันธ์ 2557 8:25:31 น.     Counter : 1184 Pageviews.   Share Tweet

เหน็บไม่เลิก ชูวิทย์ ฉงน สุเทพ เดินยังไงได้เป็นล้าน นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสผ่านเฟซบุ๊คเกี่ยวกับกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส. เดินรับเงินบริจาคว่า ผมดูวิธีการเดินหาเงินของคุณสุเทพแล้วแปลกใจ เพราะอ้างว่าเดินเที่ยวหนึ่งได้เงินเป็นล้าน เช่นไปเดินที่สีลม เอกมัย ทองหล่อ ได้ถึง 19 ล้าน มีบริจาคที่เวทีอีก 6 ล้าน รวมเป็น 25 ล้าน ผมคนคิดมากเรื่องเงินเรื่องทองตามประสาพ่อค้า เงินเคยผ่านมือผมเป็นร้อยล้านพันล้านเพราะทำการค้ามาตั้งแต่เด็ก ถนนสีลมสั้นนิดเดียว แค่ 2กิโลกว่า ส่วนที่เอกมัยทองหล่อก็ไม่ได้ยาวอะไรมากมาย ผมจึงขอเปรียบเทียบให้ฟังถึงข้อสงสัยของผม ระยะทาง 1 กิโลเมตร เท่ากับ 1,000 เมตร หรือ 100,000 เซ็นติเมตร ธนบัตร 1,000 บาท หนึ่งใบ มีความยาว 16 เซ็นติเมตร หากนำเอาธนบัตร 1,000 บาท มาวางติดต่อกัน จะต้องใช้จำนวน 6,250 ใบ ถึงจะได้ความยาว 1 กิโลเมตร หรือเท่ากับจำนวน 6,250,000 บาทต่อระยะทาง 1 กิโลเมตร นั่นหมายความว่าคุณสุเทพจะต้องเดินได้แบงค์พันล้วนๆตลอดทุกฝีก้าว หรือคนบริจาคจะต้องเย็บแบงค์พันยาวติดต่อกัน 3 กิโลเมตร ถึงจะได้ 18.75 ล้านบาท โดยไม่มีแบงค์ร้อย แบงค์ห้าร้อย หรือแบงค์ยี่สิบ มาแซม ผมไม่ทราบว่าคุณสุเทพเดินกี่ก้าวถึงจะได้แบงค์พันสักใบ? จะไปดูถูกคุณสุเทพไม่ได้ มีประชาชนเขาเอาเงินให้ จึงคำนวณต่อว่าคุณสุเทพเดินก้าวละกี่เซ็นติเมตร โดยปกติคนธรรมดาเดินก้าวละ 60 เซ็นติเมตร แสดงว่าทุกๆก้าวของคุณสุเทพที่เดิน จะต้องได้แบงค์พันก้าวละ 3.75 ใบ หรือ 3,750 บาทต่อก้าว คุณสุเทพเดินก็ไม่ได้เงินทุกก้าว ระยะทางที่เอาแบงค์พันมาเย็บติดต่อกันเป็นกิโลก็ไม่มี ส่วนคนที่ให้เป็นปึก อย่างมากก็หมื่นถึงสองหมื่นบาท ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่คุณสุเทพจะได้เงินเป็นสิบล้านต่อการเดินหนึ่งครั้ง อีกทั้งคุณสุเทพก็ไม่เคยนำเงินที่ได้รับบริจาคมานับต่อสาธารณชนอย่างชัดเจนว่าได้เท่าไหร่ ประชาชนคนทั่วไปจะได้เห็น เพราะตอนบริจาคมีการถ่ายทอดออกข่าว แต่ตอนนับเงินไม่เห็นมี คนเขาจะติฉินนินทาได้ บัญชีรายรับรายจ่ายไม่มี รับมาเท่าไหร่ เอาไปจ่ายอะไรบ้าง? อาหาร การกิน ดนตรี ค่ารถ ค่าน้ำมัน รวมด้วยหรือเปล่า? หรือจะเอาไปช่วยชาวนาจ้างทนาย ค่าธรรมเนียมวางศาลล้วนๆ? ส่วนที่บริจาคก่อนหน้านั้นจะว่าอย่างไร? เอาแต่บอกว่าวันนี้เดินได้สิบกระสอบ ยี่สิบกระสอบ โดยไม่มีตัวเลขชี้แจงให้ชัดเจน ผมเคยชินกับการเย็บแบงค์เป็นพวงมาลัย ทั้งแขวนคอนักร้อง หรือทำบุญทอดกฐิน และผมเป็นคนเก่งคำนวณ ตัวเลขไม่เคยพลาด ประเมินได้ไม่เคยผิด ผมเกรงว่าจะทำเป็นเดินได้เงินสักหน่อย แล้วยัดไส้เงินที่ได้มาจากท่อน้ำเลี้ยง เงินใต้โต๊ะ เงินที่ไม่มีที่มาที่ไป แล้วอ้างว่าได้มาจากการบริจาค ผสมโรงให้สาธารณชนเขาเข้าใจผิด เพราะที่คุณสุเทพเดิน แม้จะเป็นย่านสีลม สุขุมวิท ดูแล้วที่ดินมันแพง แต่บรรดาเศรษฐีคนร่ำคนรวยเขาไม่ได้เดินอยู่ข้างถนนด้วย หากคุณสุเทพมีคอลเซ็นเตอร์ของ กปปส. มีเลขบัญชีให้เขาโอนเงินเข้ารับบริจาคมันก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่นี่เห็นเป็นเงินสดทั้งนั้น ไหนๆจะปฏิรูปแล้วทำให้ชัดเจนเถอะครับ เริ่มตั้งแต่เงินบริจาคเสียเลยเป็นไง? ทำให้เขาดูเป็นตัวอย่างเสียหน่อย MThai News   Create Date : 13 กุมภาพันธ์ 2557     0 comment Last Update : 13 กุมภาพันธ์ 2557 15:56:37 น.     Counter : 1189 Pageviews.   Share Tweet