มาชวนกันอีกครั้งสำหรับผู้สนใจกิจกรรมท่องเที่ยวแดนกรุงเก่าที่ไม่น่าพลาดอย่างยิ่งในเดือนกันยายน 2558
กับวิทยากรพิเศษผู้มากด้วยความรู้และประสบการณ์ในการพาเที่ยวชมสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์
กรุงศรีอยุธยา : คุณ นิรุตต์ โลหะรังสีสุดยอดแฟนพันธ์ุแท้ประวัติศาสตร์กรุงศรีอยุธยา
และคุณจุลภัสสร พนมวัน ณ อยุธยาผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์
กำหนดการ"ชมโบราณสถานพระนครศรีอยุธยา"
วันเสาร์ที่ 12 กันยายน 2558
07.00 น. พร้อมกัน ณจุดนัดหมาย บริเวณทางลงรถไฟฟ้าBTS สถานีหมอชิต
08.30 ชมวัดมหาธาตุหนึ่งในอารามหลวงสำคัญที่ตั้งอยู่ในอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา
เป็นศูนย์กลางทางพระพุทธศาสนาที่สำคัญที่สุดในราชธานีเนื่องจากเป็นที่ประดิษฐาน
พระบรมสารีริกธาตุกลางเมืองและเป็นที่พำนักของสมเด็จพระสังฆราช ฝ่ายคามวาสีอีกด้วย
วัดแห่งนี้จึงได้รับการอุปถัมภ์จากพระมหากษัตริย์อยุธยาต่อเนื่องกันมาจวบจนกระทั่งเสียกรุง
ฟังเรื่องราวอันน่าสนใจเกี่ยวกับคติความเชื่อในพระบรมสารีริกธาตุและการสร้างธาตุเจดีย์สำคัญในแว่นแคว้นต่างๆรวมถึงการเดินทางจาริกไปสักการะธาตุเจดีย์เหล่านั้นสืบมาจวบจนปัจจุบันพร้อมชมวัดราชบูรณะ ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านทิศเหนือของวัดมหาธาตุมีฐานะเป็นพระอารามหลวง ในสมัยอยุธยา สร้างขึ้นในแผ่นดินสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2(เจ้าสามพระยา)ในปี พ.ศ.1967เพื่อเป็นอนุสรณ์ภายหลังจากสมเด็จพระนครินทราธิราชาพระราชบิดาของพระองค์เสด็จสวรรคตและพระเชษฐา 2พระองค์ได้สู้รบกันเพื่อชิงราชสมบัติจนสิ้นพระชนม์ทั้งสองฝ่ายฟังเรื่องราวการลักลอบขุดกรุปรางค์ประธานของวัดซึ่งได้สิ่งของมีค่าหลายชิ้นนำไปสู่การสำรวจเพิ่มเติม โดยกรมศิลปากรจนสามารถค้นพบเครื่องทองเครื่องมงคลราชูปโภค พระพุทธรูปและสิ่งของมีค่า อีกมากมายที่เหลือรอดจากการลักขโมยโดยได้มีการนำพระพิมพ์บางส่วนมาให้ประชาชนเช่าบูชาและนำรายได้มาสร้างพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยาและนำสิ่งของที่ขุดได้บางส่วนมาจัดแสดงให้ชมและศึกษา
10.30ชมวัดพระศรีสรรเพชญ สัญลักษณ์แห่งกรุงเก่า ที่บรรจุพระบรมอัฐิบูรพกษัตริยาธิราชเจ้าแห่งกรุงศรีอยุธยาวัดในพระราชฐาน ความงามของอยุธยา วัดพระศรีสรรเพชญ์เดิมในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 ใช้เป็นที่ประทับต่อมาสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ทรงสร้างพระราชมณเฑียรขึ้นใหม่ทางตอนเหนือแล้วจึงโปรดฯให้ยกเป็นเขตพุทธาวาส เพื่อประกอบพิธีสำคัญต่าง ๆ ของบ้านเมืองจึงเป็นวัดในเขตพระราชวังที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา แตกต่างกับวัดมหาธาตุสุโขทัยที่มีพระสงฆ์จำพรรษา ทั้งวัดมหาธาตุ สุโขทัย,วัดพระศรีสรรเพชญ์ อยุธยาและวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ต่างก็ถูกสถาปนาขึ้นในมูลเหตุการสร้างวัดเดียวกันนั่นคือ"สร้างเพื่อเป็นวัดประจำพระราชวัง"ต่อมาในปี พ.ศ. 2035รัชสมัยของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 พระองค์โปรดเกล้าฯให้สร้างพระสถูปเจดีย์องค์ตะวันออก เพื่อบรรจุพระอัฐิของพระราชบิดาสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถและพระสถูปเจดีย์องค์กลางเพื่อบรรจุพระอัฐิของสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 3 ผู้เป็นพระเชษฐา
หลังจากนั้นในปี พ.ศ. 2042พระองค์โปรดให้สร้างพระวิหารหลวงขึ้น ในปีต่อมา พ.ศ. 2043สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ทรงสร้างพระวิหาร ทรงหล่อพระพุทธรูป ยืนสูง 8 วา (ประมาณ 16 เมตร)หุ้มด้วยทองคำหนัก 286 ชั่ง (ประมาณ 171 กิโลกรัม) ประดิษฐานไว้ในวิหารถวายพระนามว่า พระศรีสรรเพชญดาญาณ ต่อมาในรัชสมัยรัชกาลที่ 1โปรดเกล้าฯให้ย้ายมาประดิษฐานวัดพระเชตุพน และบรรจุชิ้นส่วนซึ่งบูรณะไม่ได้เหล่านั้นไว้ในเจดีย์องค์ใหญ่ที่สร้างขึ้นแล้วพระราชทานชื่อเจดีย์ว่าเจดีย์ศรีสรรเพชญดาญาณ เจดีย์องค์ที่ 3 ถัดมาจากด้านทิศตะวันตกเป็นเจดีย์บรรจุพระอัฐิ ของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ซึ่งสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 4(พระหน่อพุทธางกูร)พระราชโอรสได้โปรดให้สร้างขึ้น เจดีย์ทั้งสามองค์นี้เป็นเจดีย์แบบลังกา
12.00 น.รับประทานอาหารกลางวันเลิศรส
13.15 น.ชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยาทัศนาศิลปกรรมอันล้ำค่าชั้นเลิศที่บรรจงสร้างสรรค์
จากฝีมือสกุลช่างสมัยอยุธยาหลายแขนงสักการะพระบรมสารีริกธาตุที่กรมศิลปากรขุดค้นพบ
ในกรุวัดมหาธาตุพร้อมตื่นตากับความงามวิจิตรของเครื่องทองอันเลื่องชื่อซึ่งขุดค้นพบจากกรุปรางค์
15.00น.เดินทางสู่วัดสุวรรณดาราราม ชมภาพจิตรกรรมฝาผนังพระราชประวัติสมเด็จพระนเรศวร
มหาราช ที่งดงามราวมีชีวิตในพระวิหารเขียนโดยพระยาอนุศาสตร์จิตรกร(จันทน์ จิตรกร) จิตรกรเลื่องชื่อสมัยรัชกาลที่ ๗พร้อมฟังเรื่องราววีรกรรมอันหาญกล้าแห่งมหาราชชาตินักรบ
16.00 น. ทัศนาความงามสง่าแห่งศิลปกรรมยุคพระเจ้าปราสาททองที่ออกแบบในลักษณะการจำลองผังจักรวาลตามคติไตรภูมิเยี่ยมชมเจดีย์ซึ่งเป็นที่บรรจุอัฐิของกวีเรืองนามเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์(เจ้าฟ้ากุ้ง)
พร้อมฟัง เรื่องราวที่มาของวรรณกรรม เรือนมยุรา ซึ่งผู้ประพันธ์ว.วินิจฉัยกุล(แก้วเก้า) ได้แรงบันดาลใจ
ในการประพันธ์จากสถานที่แห่งนี้ ณวัดไชยวัฒนาราม
17.30น.ออกเดินทางกลับกรุงเทพมหานครด้วยความรู้และความประทับใจเต็มเปี่ยม
****************************************************
* กำหนดการนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม
ค่าเข้าร่วมกิจกรรม 1,500บาท(หนึ่งพันห้าร้อยบาทถ้วน)
สอบถามเพิ่มเติมที่ คุณศิริพงศ์ จำปา โทร. 098-714-9981
การสำรองเข้าร่วมสัญจร
1.โอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ธนาคารกสิกรไทย (จำกัด) มหาชน สาขาสถานีขนส่งพุทธมณฑลสาย1 ในนามนายศิริพงศ์ จำปา เลขที่บัญชี 780-2-10914-2 ภายใน วันศุกร์ที่ 4 กันยายน 2558
2.เมื่อโอนเงินแล้วกรุณาโทรศัพท์หรือส่งSMS ยืนยันเข้าร่วมกิจกรรมที่โทร.098-714-9981
หรือทางกล่องข้อความ(inbox)ในเฟซบุ๊ค Siripong Champa ตามลิ้งก์https://www.facebook.com/siripong.champa
โดยระบุชื่อ-นามสกุล ชื่อเล่น หมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อสะดวก อีเมล์แอดเดรส และชื่อในเฟซบุ๊ค
3.หากท่านได้โอนเงินมาแล้วแต่ไม่สามารถมาร่วมกิจกรรมตามที่แจ้งไว้ได้ อาจมอบให้ผู้อื่นมาแทนได้
โดยแจ้งให้ผู้จัดทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 5 วันก่อนวันจัดกิจกรรม หากไม่แจ้งตามกำหนดดังกล่าวถือว่า
สละสิทธิ์ ผู้จัดขอสงวนสิทธิ์การคืนเงิน
4.รับเฉพาะผู้สนใจชาวไทย
รับจำนวนจำกัด
ระเบียบในการเข้าชมสถานที่
1.กรุณาแต่งกายสุภาพเพื่อเป็นการเคารพสถานที่ซึ่งไปเข้าเยี่ยมชมเป็นศาสนสถานและพิพิธภัณฑ์(งดกางเกงขาสั้น กระโปรงสั้นและเสื้อแขนกุด)
2.กรุณาปฏิบัติตามระเบียบของสถานที่ทุกแห่งที่เข้าไปเยี่ยมชมเช่น ไม่ล่วงล้ำและถ่ายภาพบางพื้นที่
ถ้าไม่ได้รับอนุญาต