ที่มาข่าว ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ วันที่ 17 มกราคม 2559 ขอขอบพระคุณ มา ณที่นี้ครับ
ปลัดคมนาคมให้รฟม.ศึกษาโครงการรถรางไฟฟ้าบนเกาะภูเก็ต ระยะทาง 60 ก.ม. รวม 23 สถานี วิ่งเชื่อมสนามบิน-ขนส่ง และจุดสำคัญๆ คาดใช้วงเงินรวม 2 หมื่นล้านบาท แต่ต้องศึกษาปัญหาจุดตัดและสัญญาณจราจรให้ดี
นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี ปลัดกระทรวงคมนาคมกล่าวหลังประชุมติดตามความคืบหน้าในการดำเนินโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ตว่าสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) นำเสนอผลการศึกษาความเหมาะสมเบื้องต้นเห็นควรให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เป็นผู้ดำเนินโครงการจัดสร้างเป็นรถรางไฟฟ้าหรือแทรม
นำร่องเส้นทางท่าอากาศยานนานาชาติจังหวัดภูเก็ต-ห้าแยกฉลองก่อนระยะทาง 60 กิโลเมตร รวมจำนวน 23 สถานี โดยมีความเร็วสูงสุด 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
รูปแบบการเดินรถนั้นอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะก่อสร้างเป็นช่องทางพิเศษเฉพาะหรือจะใช้ช่องทางร่วมกับรถยนต์ปกติแต่จะใช้รูปแบบไหนก็ยังมีปัญหาเรื่องของจุดตัดซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมากคือจุดตัดทางแยกรวม 39 จุด และจุดตัดทางกลับรถ 37 จุด เบื้องต้นจึงมอบหมายให้ สนข. กรมทางหลวง(ทล.)และกรมทางหลวงชนบท(ทช.)ไปหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาจุดตัดให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน
โดยต้องกำหนดรายละเอียดให้ชัดเจนว่าจะก่อสร้างเป็นสะพานยกระดับหรือทางลอดบริเวณจุดตัดไหนหรือให้ใช้ทางร่วมกับรถยนต์ มีระบบสัญญาณจราจรควบคุมสับหลีกการเดินรถทั้ง 2 ระบบ ฯลฯ
ส่วนปัญหาจุดตัดบริเวณทางเข้าท่าอากาศยานภูเก็ตนั้นจะแก้ปัญหาด้วยการก่อสร้างเป็นทางยกระดับเชื่อมต่อเข้าสู่พื้นที่ภายในสนามบินมีระยะทางเดินเชื่อมจากสถานีและอาคารผู้โดยสารยาวประมาณ 150 เมตร
รฟม.จะเป็นเจ้าภาพในการดำเนินการโครงการ เบื้องต้นต้องแก้ปัญหาจุดตัดทั้งหมดให้แล้วเสร็จก่อนภายใน 1 เดือนหรือเดือนก.พ. จากนั้นจึงจะนำไปสู่การออกแบบก่อสร้างส่วนรูปแบบการลงทุน รฟม.ต้องกลับไปศึกษาความเหมาะสมเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียว่าจะเปิดให้เอกชนลงทุนทั้งหมดหรือให้เอกชนเข้าร่วมทุนในรูปแบบไหน
รายงานข่าวกล่าวว่าผลการศึกษาเบื้องต้นของสนข.ประมาณการเงินลงทุนไว้ไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นล้านบาท ระยะทาง 60 กิโลเมตร มีจำนวนสถานีให้บริการ 23 สถานี เช่นสถานีท่านุ่น สถานีท่าอากาศยานภูเก็ต สถานีถลางสถานีอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรีท้าวศรีสุนทร สถานีเกาะแก้ว สถานีขนส่งผู้โดยสารภูเก็ตแห่งที่2 เป็นต้น
ที่มาข่าว ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ วันที่ 17 มกราคม 2559 ขอขอบพระคุณ มา ณ ที่นี้ครับ
//www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1453034826