สีขาวดั่งดอกแก้ว...............งามตา
กุศลสั่งสร้างสมมา..............ชาติแล้ว
ละกรรมชั่วทุกครา...............ระลึกมั่น สติเฮย
บริสุทธิ์เปรียบดอกแก้ว.........ดอกนี้สดใส ๚

[ 14 มิ.ย. 2547 22:07:11 น. ]



ดอกแก้ว

คำร้อง/ทำนอง: ครูเอื้อ สุนทรสนาน
ขับร้อง: สุเทพ วงศ์กำแหง

แก้วดอกนี้ หอมยวนฤดี พี่อยู่ทุกวัน
กลิ่นเจ้านั้น สัมพันธ์ใจพี่ ปองภักดีเสมอ
น้องงามผ่องพันธ์ ทุกคืนพี่ฝัน ทุกวันพี่เพ้อ
พี่รักเธอ ด้วยวิญญาณ สะท้านใจ

แก้วใจจ๋า รู้ตัวไหมว่า งานน่าภิรมย์
โอ้ พระพรหม คงปั้น เสกสรรให้สดใส
สวยปนโศก หวานปนเศร้า ยั่วเย้าใจ
แก้วผ่องใส แม้นอยู่ในความมืดเอย

หยุดตรงนี้ที่นี้.............นานนาน
หยุดอยู่เช่นวันวาน...........ผ่านฟ้า (นึกถึงชื่อสะพานแถวบ้านคุณยายค่ะ)
คืนผ่านวันผ่านกาล............เคียงคู่ กันนอ
ขอแค่เธอหาญกล้า..............ร่วมท้าแดดฝน

[ 14 มิ.ย. 2547 , 22:09:16 น. ]



อยากอยู่ตรงนี้

ศิลปิน: ปนัดดา เรืองวุฒิ

จะมองฟ้า สักกี่ครั้ง
ฟ้ายังงดงามเรื่อยมา
แต่วันนี้ ดูเหมือนว่า จะจับใจยิ่งกว่าทุก ๆ คืน

* ค่ำคืน ที่เหมือนเดิม ดวงดาวบนฟ้าก็เหมือนเดิม
แต่พอมีเธอมาเพิ่มเติม
สิ่งเดิม ๆ ยิ่งดู ยิ่งสดใส

** อยากจะอยู่ตรงนี้ตลอดไป
ไม่คิดจะขอในสิ่งใด
แค่มีเธอคนนี้ที่ดีที่สุด
อยู่เคียงข้างกัน (ตลอดไป)

ก็คงเป็น ด้วยสายตา
ที่เธอส่งมา ไม่เหมือนใคร
ช่างอ่อนหวาน (ช่างอ่อนหวาน) จับหัวใจ (จับหัวใจ)
อยากสบตาเรื่อยไปนานเท่านาน

(ซ้ำ *, **)

ฟ้าลิขิตคู่แล้ว..............พรากไป
ได้รับรักจริงใจ..............มากล้น
แสนสุขกว่าใครใคร.............คุ้มสุด ยิ่งนา
เป็นเกียรติเกินท่วมท้น.......ที่ได้รักเธอ ๚

(เหมือนจะไม่ได้แต่งอะไรเลย ลอกจากเพลงมาเป๊ะ ๆ)

[ 14 มิ.ย. 2547 22:10:02 น. ]



เป็นเกียรติเกินพอ (Db)

ศิลปิน มาช่า
เพลงประกอบภาพยนตร์ "กุมภาพันธ์"

คงเป็น ที่ฟ้าเบื้องบน เป็นคนขีดโชคชะตา
สั่งฉันและเธอให้มา ให้ได้พบเจอกัน
ให้ฉันได้มีโอกาส ลิ้มรสในความชื่นบาน
ให้เรามีกัน มีวันเวลาที่ดี

และเป็นที่ฟ้าเบื้องบน เป็นคนพรากเราเช่นกัน
ให้เวลาเพียงแค่นั้น กลับต้องเสียเธอไป
ฉันรู้ว่าไม่มีหวัง จะเหนี่ยวและรั้งเธอไว้ข้างกาย
แต่รู้ใช่ไหม ว่าฉันไม่เคยเสียใจ

(*) แค่เธอรักฉันที่ผ่านมา ก็เป็นเกียรติเกินพอ
ไม่ขออะไรมากมาย แค่ได้รักเธอ
แค่มีเวลา ช่วงหนึ่ง ที่สมบูรณ์คือมีเธอ
ชีวิตของฉัน ก็คุ้มกว่าคนมากมาย

(**) แค่เพียงได้พบได้เจอะเธอ นั้นก็ดีเกินพอ
จากนี้ฉันจะไม่ร้อง จะไม่ขออะไร
ถึงเราจะต้องจากกัน ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด
แต่รู้ใช่ไหม ว่าฉันไม่เคยเสียใจ...ที่ได้รักเธอ.

ยามมีรักกลัดกลุ้ม.............เจียนตาย
ยามห่างเธอไกลกาย..............จิตใกล้
กังวลใจแทบหาย.................น้องคิด ใดฤๅ
น้องตอบวอนลมไซร้..............หนึ่งนี้ไยลืม ๚

[ 14 มิ.ย. 2547 22:10:53 น. ]



ข้องจิต

คำร้อง สุนทราภรณ์
ขับร้อง ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัฒน์ - พูลศรี เจริญพงษ์

(ชาย) รักเอยรักเคยชื่นเชยชูใจ
บัดนี้รักห่างร้างไกลให้คนึง
รักเป็นอย่างไรใฝ่ถึง
ข้ายังคนึง ข้องจิตไม่วาย

รักแรมร้างราจะพาใจนาง
ชื่นชืดจืดจางห่วงนางไม่หาย
ทิ้งให้ครวญคิดข้องจิตเศร้าอยู่ไม่วาย
แม้รักคลายเหมือนพี่ตายนะนาง

(หญิง) ฟังถ้อยคำพร่ำฝากลมมา
โอ้อนิจจา ข้องจิตกลัวผิดใจจาง
จิตน้องเฝ้าปองหนึ่งรักไม่ร้าง
ใจน้องนางรักไม่จางไม่ห่างเลย

ชอบใครขอบอกให้...............รู้กัน
ขออย่าทำนิ่งงัน..............เงียบเศร้า
โปรดบอกเถิดจอมขวัญ...........อย่าห่วง พี่นา
พี่หักใจเพื่อเจ้า............เผื่อน้องสุขสม ๚ะ

[ 14 มิ.ย. 2547 22:12:15 น. ]



แสนรัก

ศิลปิน: ดนุพล แก้วกาญจน์

จงใคร่ครวญหัวใจ ใครเล่าใครไหนกัน
แสนรักมั่น ห่วงใยเธอมากกว่าฉัน

มัวปิดบังฉันไย มีเรื่องใดพูดกัน
บอกกับฉัน อย่าทำเป็นเหินห่างไป

* สายตาเธอบ่งบอก เห็นใจกันอย่าหลอก
จะรักใคร ไม่ต้องห่วง อย่าลวงฉันเลย

** ถึงต้องช้ำใจตาย ฉันก็พร้อมยอมตาย
เพราะเป็นเธอ อย่างไรทนได้เสมอ

*** ร้อง อย่าร้องไห้เสียน้ำตา
หากจะรักเขาก็จงลืมฉัน
จะต้องหักใจ ปวดร้าวทำไม
ตัดใครสักคน มั่นในรักเดียว

(ซ้ำ * , ** , ***)

ตัดใครสักคน มั่นในรักเดียว

บางปะกงจรดถ้อย...............งามงด
อาทิตย์อัสดงลด-.....................เหลี่ยมฟ้า
สถานที่ยิ่งช้อยชด...................งามจับ จิตเฮย
ลืมยากจากใจข้าฯ.....................ฝั่งน้ำบางปะกง ๚ะ

[ 14 มิ.ย. 2547 22:12:48 น. ]



บางปะกง

คำร้อง ครูเอื้อ สุนทรสนาน
ขับร้อง เพ็ญศรี พุ่มชูศรี

ฝั่งชายน้ำบางปะกง ยามแสงอาทิตย์อัสดง
ใกล้จะค่ำลงแล้วหนา

แต่บางปะกงนั้น ยังคงสวยงามตา
คราใกล้สนธยา ยิ่งพาให้เราสุขสันต์

แดดจวนลับลงรำไร มองเห็นเรือน้อยล่องลอยไป
ตื่นใจดังยลสวรรค์

เยือกเย็นสายลม พริ้วพรมอย่างนี้ทุกวัน
ธรรมชาติยามสายัณห์ ได้เห็นแล้วลืมไม่ลง

(*) แม้จากไปอยู่ไกลแสน ก็ไม่ขอลืมแดน
ที่เคยปักใจลุ่มหลง

จะเฝ้าแต่ฝัน ถึงอาทิตย์อัสดง
ชายฝั่งบางปะกง นั้นลืมไม่ลงแน่เอย

โอ้ งามแท้บางปะกง ใครได้เห็นเมื่ออัสดง
ก็คงสุดกล่าวคำเฉลย

ยากจะกล่าวชม ให้สมความงามนั้นเลย
เพลงนี่กล่าวภิเปรย ไม่ถึงแม้เพียงครึ่งเดียว

จากลาเมื่อจากแล้ว...............จากเลย
วันก่อนเก่าร่วมเคย..............ล่วงพ้น
จากกันยากชินเฉย.................กาลช่วย ปลอบนา
เธอกลับด้นคว้าค้น...............ใช่ซ้ำแกล้งฉัน ๚ะ

[ 14 มิ.ย. 2547 22:13:23 น. ]



ปีศาจวสันต์ (F)

คำร้อง ครูเอื้อ สุนทรสนาน
ขับร้อง บุษยา รังษี

เราจากกันวันนั้นยังจำ จากกันวันฝนพรมพรำ
พรางม่านกรรมคล้ำครึ้มคลุมเวร

ลมครางฝนครวญ ไพรสั่นสวนรวนระเนน
ความกดดันขั้นเดน เหมือนจะเค้นฆ่าตาย

เราจากกันวันนั้นนานมา แต่เมื่อวสันต์ลีลา
ฤๅสร่างซาฝนฟ้าฟูมฟาย

ฤดูฤดีมันไม่มีวันคืนวาย มันสาปใจสาปกาย
เหมือนมนต์ร้ายพรายผี

ผีวสันต์มันหลอกมันหลอน ปีศาจวสันต์วันก่อน
ยังสังวรณ์เวรนี้

ฟังโถฟังฟังฝนตกสิ เหมือนนรกตกตี
ย้ำขยี้ใจตรม

ไปจากไปไปแล้วไปเลย อย่ามาชวนชิดชวนเชย
ปีศาจเอยร้างเลยอารมณ์

ลมมาฝนมาจงอย่ามาพาระทม เพียงโศกทรามเศร้าซม
ฉันจะล้มตายแล้ว

มีเธอคนนี้อยู่.................ข้างเคียง
เขาแค่คนมองเมียง...............ชิดใกล้
ครองคู่เลือกหนึ่งเสียง.........ช่างยาก เย็นนา
ใครช่วยตัดสินไซร้.............เก็บไว้ทั้งสอง..คนเอย ๚ะ

[ 14 มิ.ย. 2547 22:14:01 น. ]



อยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน

ศิลปิน ทาทา ยัง
อัลบั้ม Real TT

คนดีขอโทษที่ทำให้วุ่นวาย
ให้หวั่นไหว และต้องมาถามกัน
ว่าคนไหนที่เป็น คนสำคัญของฉัน
ที่นั่งในใจ คือเขาหรือเธอ

ไม่รู้จะบอกกับเธอได้ยังไง
จะผิดไหม ถ้าบอกว่าเท่ากัน
อาจจะเห็นแก่ตัว เมื่อเธอช่างดีกับฉัน
และเขาก็สำคัญ เป็นคนที่รู้ใจ

(*) หากฉันฝันถึงเธออย่างเขา
หรือถ้าเขาแสนดีอย่างเธอ
สิ่งที่ถามฉันคงไม่ลำบากใจ

อย่าเลยอย่าบอกให้ฉันเลือกเลย
เพราะฉันไม่เคยรู้เลย
ไม่รู้ว่าจะเลือกใคร

ขาดเธอก็เหงา ขาดเขาก็คงเสียใจ
ไม่อยากจะเลือกใคร
อยากเก็บเธอเอาไว้ทั้งสองคน

ฉันรู้ว่ามันก็คงไม่ดี
ทำอย่างนี้ที่สุดอาจไม่เหลือใคร
หากว่าเธอเกลียดฉัน ก็อยากขอโทษได้ไหม
เหตุการณ์ที่เป็นไป ใจฉันเองก็เจ็บ

ชมน้องเปรียบดอกไม้...........เบ่งบาน
อีกกลิ่นหอมสะคราญ............เทียบเจ้า
ฝูงผึ้งสนุกแลสนาน............ยามร่อน ดอมเฮย
เทียมพี่อยู่เคียงเฝ้า........ตราบเถ้านิรันดร์ (เท่า = โทโทษ)

[ 14 มิ.ย. 2547 22:15:34 น. ]



เพลงฟ้อนมาลัย หรือ เพลงลาวดวงดอกไม้

ชมดอกไม้เบ่งบานสลอน
ฝูงภมรวะว่อนใฝ่หา
ดอกพิกุลยี่สุ่นจำปา
ลมพัดมารำเพยขจร

เกดกระถินส่งกลิ่นหอมฟุ้ง
กำจายจรุงระรื่นเกสร
จันทร์กะพ้อช่างล่อภมร
ให้หลงเริงร่อนบินว่อนตอม

โอ้ดอกไม้ก็ได้ใช้กลิ่น
อวดประทินที่แสนสุดหอม
เร้าฤทัยเราให้ใฝ่ดอม
ช่างน่าถนอมจริงหนอ

พวกดอกไม้ก็ไม่งามเท่า
พักตร์แม่เจ้าแม่ท้าวค้าปิน
สำรวยเลิศช่างเฉิดโฉมฉิน
บ่มีมลทินทั่วสรรพางค์

กลิ่นดอกไม้ก็ไม่ระรื่น
หอมชุ่มชื่นเท่าคุณพระนาง
ข้าเจ้าภักดีบ่มีจืดจาง
จนชีวิตวางวายเนอ

น้องงามดั่งดอกไม้.............วันเพ็ญ
จันทร์ส่องเล็งแลเห็น..........เพริศแพร้ว
เมฆลอยเคลื่อนยามเย็น..........บังบด แม่เอย
ดอกกลับโรยราแล้ว..............ฤ สิ้นเยื่อไย

[ 14 มิ.ย. 2547 22:16:10 น. ]



ช่อมาลี-ยวนย่าเหล
วงสุนทราภรณ์

โอ้ช่อมาลี คนดีของพี่ก็มา
สวยจริงหนาเวลาค่ำคืน สวยจริงหนาเวลาค่ำคืน

โอ้จันทร์ไปไหน ทำไมจึงไม่ส่องแสง
เดือนมาแฝงแสงสว่าง
เมฆน้อยลอยมาบัง เมฆน้อยลอยมาบัง

ดอกฟ้าจะร่วง พวงพยอมโรยรา
ดอกฟ้าจะโรยเมื่อลมโชยมาถลาลงดิน
เมื่อรักเราสิ้นไม่มีเยื่อใย

ดอกฟ้าแต่ก่อน เคยส่งกลิ่นหอมสลักตรึงใจ
ยังไม่ทันไร ก็ร่วงโรยรา

ยวนยาเหล ยวนยาเหล่
หัวใจว้าเหว่ไม่รู้จะเห่ไปหาใคร
จะซื้อเปลยวนที่ด้ายหย่อนหย่อน
จะเอาน้องนอนไกวเช้าไกวเย็น

รำวงอนุรักษ์ไว้...........จงดี
รำเพื่อสามัคคี............ร่วมร้อง
รำวงเล่นรัวตี.............จังหวะ กลองเอย
โทนฉิ่งกรับสดับซร้อง......ย่ำเท้าสนุกสนาน

[ 14 มิ.ย. 2547 22:16:53 น. ]



รำวงมาตรฐาน


งามแสงเดือน

งามแสงเดือนมาเยือนส่องหล้า
งามใบหน้าเมื่ออยู่วงรำ

งามแสงเดือนมาเยือนส่องหล้า
งามใบหน้าเมื่ออยู่วงรำ

เราเล่นเพื่อสนุก เปลื้องทุกข์วายระกำ
ขอให้เล่นฟ้อนรำ เพื่อสามัคคีเอย



ใกล้เข้าไปอีกนิด

ใกล้เข้าไปอีกนิด
ชิดชิดเข้าไปอีกหน่อย
สวรรค์น้อยน้อย อยู่ในวงฟ้อนรำ
รูปหล่อขอเชิญมาเล่น
เนื้อเย็นขอเชิญมารำ
มองมานัยน์ตาหวานฉ่ำ มองมานัยน์ตาหวานฉ่ำ
มามารำกับพี่นี่เอย



เธอรำช่างน่าดู

(ช) เธอรำช่างน่าดู ถ้าแม้นรำคู่จะเป็นบุญตา
(ญ) อย่ามาทำ อย่ามาทำพูดจา ประเดี๋ยวจะว่าให้ได้อาย
(ช) หวานคารม คำคมแง่งอน
(ญ) รู้ว่างอน มาวอนทำไม
(ช) รับรักฉันหน่อยได้ไหม
(ญ) อุ๊ย ไม่ได้ หวานใจเธอมี



ยวน ยวน ยวน

ยวน ยวน ยวน กระบิดกระบวนยั่วยวนใจชาย
ยักท่ามาแต่ระบำ ฟ้อนรำหมุนเวียนเปลี่ยนไป
ยักคิ้วยักเอวยักไหล่ ตาชม้ายไม่วายแลมอง



ตามองตา

ตามองตา สายตาก็จ้องมองกัน
รู้สึกเสียวซ่านหัวใจ
จะว่ารักฉันก็ไม่รัก จะว่าหลงฉันก็ไม่หลง
ฉันยังอดโค้งเธอไม่ได้
เธอช่างงามวิไล เหมือนดอกไม้ที่เธอถือมา

บัวขาวงดงาม...............เมื่อยามใกล้รุ่ง
ปลาว่ายแหวกยุ้ง...........เรือน้อยกลอยใจ
ฝูงผึ้งวนเวียน............ท่าเตียนยักษ์ใหญ่
แจวเร่งเร็วไว.............กลัวยักษ์จับกิน

[20 มิ.ย. 2547 , 21:47:46 น.]



บัวขาว

คำร้อง พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า ภานุพันธ์ ยุคล
ทำนอง หม่อมหลวง พวงร้อย สนิทวงศ์ ณ อยุธยา

เห็นบัวขาวพราวอยู่ในบึงใหญ่
ดอกใบบุปผชาติสะอาดตา
น้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลา
ว่ายวนไปมาน่าเอ็นดู

หมู่ภุมรินบินเวียนว่อน
คอยร่อนดมกลิ่นกลิ่นเกสร
พายเรือน้อยคล้อยเคลื่อนในสาคร
ค่อยพาจรห่างไปในกลางน้ำ.

จามจุรีถิ่นนี้...................เคยเนาว์
ถิ่นร่ำเรียนครั้งเยาว์...........เร่งรู้
ถิ่นพบปะเพื่อนเรา................เก่าก่อน
ถิ่นที่สอนให้สู้.................จากแล้วคิดถึง.

[ 20 มิ.ย. 2547 21:48:50 น. ]



ลาแล้วจามจุรี

เนื้อร้อง แก้ว อัจฉริยะกุล
ทำนอง เอื้อ สุนทรสนาน


ลาแล้วจามจุรีที่เตือนใจ
เสียดายที่จากไป
เคยอยู่ใกล้ทุกสมัยมั่น

เจ้าเอยเคยชิดติดพัน
ต้องลาโศกศัลย์เศร้าใจ
นับแต่วันนี้ต่อไป

ลับลาจะห่างไกล
เหมือนดังจะขาดใจ
คร่ำครวญหวนไห้ก็ไม่คืนมา

ลาแล้วจามจุรีที่เคยเห็น
มิตรดีที่เจ้าเป็น
ได้ร่มเย็นทุกเสมอหน้า

จากไปใจหายจากลา
โอ้ใครจะมาปลอบใจ
มิใช่จะร้างห่างไกล

ถึงตัวจะจากไป
สัมพันธ์ทางจิตใจ
จะไกลหรือใกล้ใจอยู่ด้วยเอย

นาวีนี้เลือดเข้ม.......................รักเกียรติ
ใครใช่มาเบียนเบียด.....................ง่ายได้
พลีชีพเพียงแค่เจียด....................เสียสละ
ถิ่นทะเลนี้ไซร้........................ปกป้องหวงแหน.

[ 20 มิ.ย. 2547 21:49:29 น. ]



วอลซ์นาวี

คำร้อง สกนธ์ มิตรานนท์
ทำนอง สมยศ ทัศนพันธ์


ทะเลนั้นเป็นเหมือนถิ่นของเรา
จะขอเฝ้าตราบจนชีวิตเราสิ้น
ยามคลื่นซัดกระเซ็นเช้าเย็นสำเนียงเคยชิน
เลือดไหลรินเพื่อคงเกียรติของนาวี

ธงที่ถูกสายลมโบยสะบัดยังพัดพลิ้ว
ทิวท้องถิ่นทะเลมิยอมให้ใครย่ำยี
เรือแม้จะต้องจมเพื่อปกป้องเสรี
เราขอสละชีพพลีพร้อมกัน ทุกคน.

หน้าที่ควรปกป้อง.................ถิ่นไทย
มาตุภูมิเกรียงไกร................ทั่วหล้า
ยาวนานตราบอายุขัย................ชั่วลูก หลานเฮย
พิทักษ์ให้ค้ำฟ้า.................มั่นสู้รักษา.

[ 20 มิ.ย. 2547 21:50:44 น. ]



เราสู้

คำร้อง สมภพ จัยทรประภา
ทำนอง เพลงพระราชนิพนธ์การเมืองปี ๒๕๑๘-๒๕๑๙

บรรพบุรุษของไทยแต่โบราณ
ปกบ้านป้องเมืองคุ้มเย้า
เสียเลือดเสียเนื้อมิใช่เบา
หน้าที่เรารักษาสืบไป

ลูกหลานเหลนโหลนภายหน้า
จะได้มีพสุธาอาศัย
อนาคตจะต้องมีประเทศไทย
มิยอมให้ผู้ใดมาทำลาย

ถึงขู่ฆ่าล้างโคตรก็ไม่หวั่น
จะสู้กันไม่หลบหนีหาย
สู้ตรงนี้สู้ที่นี่สู้จนตาย
ถึงเป็นคนสุดท้ายก็ลองดู

บ้านเมืองเราเราต้องรักษา
อยากทำลายเชิญมาเราสู้
เกียรติศักดิ์ของเราเราเชิดชู
เราสู้ไม่ถอยจนก้าวเดียว.

ฟังเพลงแล้วเขียนอะไรไม่เคยได้เลยค่ะ มัวแต่จมไปกับเพลง


ชอบวอลซ์นาวี

โดยเฉพาะท่อนนี้
ฟังแล้วมองเห็นธงสะบัดจริง ๆ
ฮึกเหิมมากค่ะ : )



ธงที่ถูกสายลมโบยสะบัดยังพัดพลิ้ว
ทิวท้องถิ่นทะเลมิยอมให้ใครย่ำยี
เรือแม้จะต้องจมเพื่อปกป้องเสรี
เราขอสละชีพพลีพร้อมกัน ทุกคน.

คุณ totoh995 เป็นลูกหลานชาวนาวีเหมือนกัน หรือเปล่าคะ

คือคุณลุงของรสา เคยเป็นทหารเรือน่ะค่ะ
ก็เลยชอบเพลงนี้มาตั้งแต่เด็ก ๆ ค่ะ

เพลงส่วนมากก็เป็นเพลงที่คุณพ่อคุณแม่ชอบค่ะ
ท่านจะร้องให้ฟังบ่อย ๆ ก็เลยพลอยชอบไปด้วยค่ะ

ว่าแต่เพลงคงไม่ได้บอกว่าเรายุคไหนนะคะ

มาซึ้งกับเพลง มาซึ้งกับกลอน

ไม่ใช่ค่ะ แต่คิดว่าทำนองเพลงยุคนั้นและภาษาสวยดี
ฟังแล้วอ่อนโยน..

ยินดีค่ะคุณลำพูริมน้ำ
ที่สนใจในโคลงสี่สุภาพด้วยค่ะ

ไว้ว่าง ๆ รสาจะหาเพลงยุคนี้มาร้องกันอีกค่ะคุณ totoh995

พี่รสา รสา อัจริยะทางการแต่งกลอนจริงๆ

ตอนเด็กๆ ไม่เคยชอบเพลงเก่าๆ งี้เลย
แต่แม่ชอบฟังเวลาช่วยแม่ซักผ้าตอนเด็กๆ ก็เลยได้ฟังไปด้วย ที่ว่า ไม่ชอบๆ แต่ร้องได้เกือบทุกเพลง อิ อิ

ตอนนี้มาอ่านเนื้อเพลงดูอีกที เออ เพลงเก่าๆ ที่บรมครูท่านแต่งไว้นี่มีเนื้อหาลึกซึ้งกินใจดีนะคะ

ปล จำได้ว่าตอน ป หนึ่งเคยเต้นเพลงบัวขาวด้วย

เอ่อ เอ่อ น้อง Georinn อันนี้เขาเรียกว่าโคลงจ้า
โคลงสี่สุภาพค่ะ

แต่ก็ไม่ถึงกับอัจฉริยะหรอกค่ะ ยังมีคนเก่งอีกเยอะแยะค่ะ

อันนี้ก็ใช้ดูผังโคลง ดูคำบังคับ แล้วก็ว่าไปเรื่อย ๆ ค่ะ แต่งบ่อย ๆ เข้า ก็จะชำนาญไปเองค่ะ
ที่จริงของทุกอย่าง มันก็ต้องฝึกทั้งนั้นแหล่ะค่ะ

เพลงเก่า ๆ นะคะ ถ้าสังเกตดูจะแต่งแบบร้อยกรอง
คำพ้อง มีสัมผัส อ่านแล้วรื่นค่ะ
ไม่เหมือนเพลงสมัยนี้ ไม่มีสัมผัสอะไรเลยค่ะ
เหมือนคำพูดทั่วไป เอามาใส่ทำนองมากกว่าค่ะ
บางทีฟังแล้วยังงง ๆ ว่า มันแต่งออกมาได้ไงฟระ อะไรทำนองนี้น่ะค่ะ

เคยเต้นจินตลีลาเพลงบัวขาวเหมือนกันค่ะ
สงสัยโรงเรียนกระโปรงแดง หรือเปล่าคะ

ส่วนบทร้อยกรองในเพลงบัวขาวเป็นกาพย์ค่ะ

รู้สึกจะเป็นกาพย์สุรางคนางค์ ๓๒ ค่ะ ถ้าจำไม่ผิดนะคะ

แหะๆ เห็นภาษาคล้องจองกันงี้ ก็เรียก กลอน ไปซะหมดเยยย

โรงเรียนกระโปรงน้ำเงินเด้อค่ะ มะช่ายกระโปรงแดง

ค่าน้อง Georinn
อิ อิ

ที่บ้านน้ำท่วมเปล่าคะ
บ้านญาติพี่ไม่ท่วม
แต่บ้านเพื่อน ๆ ท่วมหมดเลยค่ะ

ไม่ท่วมค่ะ ปลอดภัยๆ บ้านเพื่อนๆ บางคนก็ท่วมเหมือนกันค่ะ แต่ตอนนี้เห็นว่าลดแล้ว กะลังทำความสะอาดกันยกใหญ่

เหตุการณ์มันเหมือนเป็นสัญญาณมาเตือนให้เรารีบเร่งทำความดี ว่าไหมคะ

เก่งจัง

ขอบคุณค่าคุณกาปุ้ย

สุดยอดดดดด

คิดถึงพี่ไหม....
เพลงนี้ได้ยินได้ฟังตอนเด็กๆนะคะ
มาเห็นอีกทีก็เลยนึกถึงสมัยโน้น
ยังมีเพลงอะไรนะ...ตชด.ย่อมาจากตำรวจชายแดน...อะไรทำนองนี้ค่ะ
แต่ตอนนี้ไม่ค่อยได้ฟังแนวลูกทุ่งนี้แล้ว เพราะที่ออฟฟิตก็เป็นแนวที่ฮิตกันอยู่ในปัจจุบันทั้งแกรมมี่ อาร์เอส ฯลฯ
ไม่ก็สากลไปเลย
ขอมาโม้แบบไม่ต้องแต่งโคลงก็แล้วกันนะคะ
ไม่งั้นกว่าจะได้หนึ่งบทอาจต้องรอกันนานนนนนนนน...

ขอบคุณค่าคุณ nut_cracker

โมเมว่าเป็นคำชมนะคะ

เพลงคิดถึงพี่ไหมนี้ คุณหญ้าหนวดแมวเชื่อไหมคะว่า
เพื่อนคนกัมพูชาที่นี่เป็นคนเอามาถามรสา
เราก็เลยได้โอกาสไปค้นหาให้เขา เลยได้ทบทวนเนื้อเพลงนี้เต็ม ๆ ไปในตัวค่ะ

ไม่น่าเชื่อว่าคนต่างชาติอย่างประเทศเพื่อนบ้านเราเสียอีก
ที่กลับคอยอนุรักษ์เพลงไทยเก่า ๆ มากกว่าคนประเทศเจ้าของเสียงเพลงนั้น ๆ นะคะ

สำหรับเพลงคิดถึงพี่ไหม เวอร์ชั่นใหม่ ขับร้องโดย คุณอ๊อด โอภาส ทศพร ค่ะ

เพลงลุกทุ่งอีกเพลงที่รสาชอบสมัยเด็ก ๆ ก็เพลง ปูไข่ไก่หลง ค่ะ ส่วนเพลง ตชด. ตอนนี้ Memory Empty ค่ะ แหะ แหะ

สวัสดีครับคุณ รสา รสา

ตามมาอ่านบทเพลงเก่าและโคลงที่แต่งครับ

ตามสบายเลยนะคะคุณคนเดินดินฯ
เชิญเม้นต์ได้เต็มที่ค่ะ

หวัดดีค่าคุณ ...