สวัสดีค่ะ วันนี้ปุ้ยจะมาแนะนำคู่หูบำรุงผิวในช่วงกลางคืน ที่ปุ้ยได้ทดลองใช้ จากโอเลย์ รีเจนเนอร์ริสท์ มีชื่อว่า โอเวอร์ไนท์ มิราเคิล (Overnight Miracle) ซึ่งทั้งคู่นี้จะทำงานส่งเสริมกันและช่วยเพิ่มการซ่อมแซมเซลล์ผิวตามธรรมชาติของเราในช่วงที่เรานอนหลับตอนกลางคืน ผลลัพธ์ที่เราคาดหวังก็คือ ให้ผิวกลับมามีสุขภาพดีได้อย่างตอนสาวๆ อีกครั้งค่ะ Olay Regenerist Overnight Miracle ประกอบไปด้วย Olay Regenerist Miracle Boost Youth Pre-Essence และ Olay Regenerist Micro-Sculpting Night Cream ก่อนจะพูดถึงการรีวิวผลิตภัณฑ์ ปุ้ยจะขอเล่าถึงความสำคัญของการดูแลผิวในช่วงเวลากลางคืนกันก่อนค่ะ หลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมเราต้องเน้นการบำรุงในช่วงเวลากลางคืนเป็นพิเศษ?? ก็อย่างที่รู้กันดีว่า พอเราก้าวเข้าสู่วัย 30++ อย่างปุ้ยนี่ก็ 30 กลางๆ เข้าไปแล้ว ร่างกายของเราก็ไม่ได้แข็งแรงเท่ากับตอนวัยรุ่น ผิวพรรณของเราก็เช่นเดียวกันค่ะ สังเกตเห็นได้ชัดเลยว่า ผิวเริ่มจะ “งอแง” ง่ายขึ้นกว่าเมื่อก่อนมากๆ ดังนั้นถ้าเราไม่อยากที่จะร่วงโรย เหี่ยวห้อยไปตามวัยหละก็ เราจะต้องดูแลเอาใจใส่ตัวเองมากขึ้นกว่าตอนสาวๆ หลายเท่าค่ะ ปุ้ยได้อ่านงานวิจัยของโอเลย์เกี่ยวกับการซ่อมแซมฟื้นฟูผิว ซึ่งน่าสนใจมาก เค้าพบว่า DNA ของผิวจะทำงานเป็นกะ เหมือนพนักงานประจำเลย มีกะกลางวันและกะกลางคืน ซึ่งในการทำงานกะกลางคืนเนี่ยแหละ ผิวจะมีการซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์ผิวค่ะ จากผลการวิจัยพบว่า สารตัวหนึ่ง ที่มีชื่อว่า “เมลาโทนิน” จะมีปริมาณน้อยในช่วงกลางวัน แต่จะเพิ่มขึ้นในเวลากลางคืน ซึ่งเมลลาโทนิน เรารู้จักกันว่าเป็นตัวที่ช่วยกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนการเจิรญเติบโต (Growth Hormone) นอกจากนั้นแล้ว เมลาโทนินก็ยังทำหน้าที่เปรียบเสมือนสารต้านอนุมูลอิสระในการซ่อมแซมผิว และด้วยอีกหนึ่งเหตุผลที่ ในช่วงเวลานอนนั้น ผิวไม่ต้องเผชิญกับมลภาวะแวดล้อมที่เป็นศัตรูต่อการฟื้นฟูผิว เช่น แสงยูวี ฝุ่นควันต่างๆ และการรบกวนจากเมกอัพอื่นๆ จึงทำให้สรุปได้ว่า ช่วงกลางคืนเป็น ช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการซ่อมแซมเซลล์ผิว นั่นเองค่ะ และพออ่านงานวิจัยแล้ว ก็เป็นเหตุชวนให้ปุ้ยอยากทดลองใช้ โอเวอร์ไนท์มิราเคิล ในการฟื้นฟูผิวในช่วงกลางคืนบ้างค่ะ พอปุ้ยได้อ่านคุณสมบัติของ Olay Regenerist Overnight Miracle จากเว็บไซต์โอเลย์ เค้าบอกว่า ช่วยผลัดเซลล์ผิวใหม่ได้นับล้าน ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์อย่างน่ามหัศรรย์ใน 5 คืน โดย เพิ่มการผลัดเซลล์ผิวใหม่ได้ถึง 60%* ส่วนผสมต่อต้านริ้วรอยเข้มข้นขึ้น 2 เท่า** ซึมซาบได้ลึกถึง 10 ชั้นผิว ชุ่มชิ้นกว่าถึง 1.5 เท่า*** *อ้างอิงจากการผลศึกษาการผลัดเซลล์ผิวโดยหน่วยงานวิจัยอิสระ ในผู้หญิงจำนวน 60 คน ในเดือนมิถุนายน 2011 ประเทศสหรัฐอเมริกา แนะนำให้ใช้ต่อเนื่องเป็นประจำ **เปรียบเทียบกับการใช้โอเลย์ รีเจนเนอร์ริสท์ ไมโครสกัลปติ้ง ไนท์ครีม เพียงอย่างเดียว ***เปรียบเทียบกับผิวที่ปราศจากการบำรุง จากผลการทดลองความชุ่มชิ้นของผิวในผู้หญิงจำนวน 56 คน ในเดือนธันวาคม 2013 ประเทศจีน ผลลัพท์ที่ได้แตกต่างขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล พอได้ศึกษาข้อมูลมาระดับนึง ปุ้ยรู้สึกว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจมาก ทีนี้เราก็มาทดลองใช้และเจาะลึกรายละเอียดไปพร้อมๆ กันเลยค่ะ มาดูผลการรีวิวของปุ้ย หลังทดลองใช้งานเป็นเวลา 5 วันกันบ้างค่ะ 2 ขั้นตอนของ Olay Regenerist Overnight Miracle หลังใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าแล้ว ก็เริ่มบำรุงผิวด้วย โอเลย์ รีเจเนอร์ริสท์ มิราเคิล บูสท์ ยูธ พรี-เอสเซ็นส์ ก่อนแล้วตามด้วย ผลิตภัณฑ์ โอเลย์ รีเจนเนอร์ริสท์ ไมโคร-สกัลป์ติ้ง ไนท์ครีม ซึ่งโอเลย์แนะนำว่าควรใช้สองทรีตเมนท์นี้ร่วมกันจะช่วยฟื้นบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึกด้วยสารต่อต้านริ้วรอยที่เพิ่มเป็น 2 เท่า และเพิ่มการซึมซาบสารบำรุงเข้าสู่ชั้นเซลล์ผิวได้ลึกถึง 10 ชั้นผิว ผลที่ได้คือผิวที่ดูอ่อนเยาว์อย่างน่ามหัศจรรย์ นั่นเองค่ะ เริ่มที่ “ขั้นตอนแรก” ก่อน Olay Regenerist Miracle Boost Youth Pre-Essence เป็นขั้นตอนของการเตรียมผิว ที่ปุ้ยได้เคยรีวิวไว้ก่อนหน้านี้ (สามารถอ่านอย่างละเอียดได้ที่ >> Link) ขั้นตอนการเตรียมผิวนั้นคืออะไร ขั้นตอน “การเตรียมผิว” นั่นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดยิ่งกว่าการบำรุงผิวในขั้นตอนอื่นๆ เสียอีกนะคะ เพราะว่าผลิตภัณฑ์บำรุงผิวตัวแรกที่สัมผัสผิวหน้าของเรา จะเป็นตัวเสริมประสิทธิภาพของการบำรุงผิวในทุกขั้นตอนที่เหลือ ดังนั้นถ้าเราปรารถนาจะได้เป็นเจ้าของผิวสวยเด้ง หน้าดูเด็กอ่อนเยาว์ไร้ริ้วรอยเหี่ยวย่น ก็อย่าละเลยขั้นตอนแรกของการบำรุงผิวเป็นอันขาด เริ่มจากวิเคราะห์ส่วนผสม เมื่อดูจากข้างกล่องแล้ว จะมีส่วนผสมดังนี้ INGREDIENTS Water, Niacinamide, Glycerin, Butylene Glycol, Hexylene Glycol, Dimethicone, Acrylates/C10-30 Alkyl Acrylate Crosspolymer, Peg-32, Phenoxyethanol, Benzyl Alcohol, Sodium Hydroxide, Methylparaben, Dimethiconol, Disodium Edta, Inositol, Isopropyl Isostearate, Sodium Metabisulfite, Sodium Metabisulfite, PEG-100 Stearate, Fragrance, Sodium Ascorbyl Phosphate, Morus Alba Root Extract,Glyceryl Acrylate/Acrylic Acid Copolymer, PVM/MA Copolymer, Sodium PEG-7 Olive Oil Carboxylate, Lilium Candidum Flower Extract, Palmitoyl Pentapeptide-4, Lonicera Japonica (Honeysuckle) Flower Extract. ปุ้ยได้ไฮไลท์ส่วนผสมสำคัญที่มีส่งประสิทธิภาพในการบำรุงผิว ไว้ด้วย ตัวอักษรสีแดง ซึ่งตัวหลักเลยก็คือ Niacinamide ซึ่งเป็นแอนติออกซิแดนท์ที่ช่วยในการกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ เพื่อผิวดูอ่อนเยาว์ กระจ่างใสขึ้น ริ้วรอยดูลดเลือนและยังช่วยเรื่องสิว ได้อีกด้วยค่ะ Hyaluronic Acid + Glycerol – เติมความชุ่มชื้นให้ผิวกลับมาอิ่มฟู นุ่มเด้ง เต่งตึง Sodium PEG-7 Olive Oil Carboxylate สารสกัดจากผลมะกอก ช่วยปกป้องผิวจากการถูกทำร้ายจากมลภาวะภายนอกและช่วยฟื้นบำรุงให้ผิวแข็งแรง Lilium Candidum Flower Extract สารสกัดจากดอกลิลลี่สีขาว มีฤทธิ์ช่วยในการป้องกันและลดเลือนจุดด่างดำปรับสีผิวให้สม่ำเสมอมากขึ้น ช่วยในการผลัดเซลล์ที่เสื่อมสภาพและลดเลือนริ้วรอยให้จางลง Palmitoyl Pentapeptide-4 คือ ที่เค้าบอกว่าเป็น Amino Peptide ช่วยให้ผิวดูตึงกระชับและริ้วรอยดูลดเลือน Lonicera Japonica (Honeysuckle) Flower Extract สารสกัดจากดอกโลนิเซอร่า จาโปนิกา ช่วยในการกำจัดพิษโดยไปดึงเอาท๊อกซินออกมาและระบาย ความร้อนจากร่างกายสารสกัดนี้จะมีฤทธิ์ในการต้านการอักเสบของผิว ต้านเชื้อแบคทีเรีย ในเครื่องสำอางได้ถูกใช้ในการต้านริ้วรอยเหี่ยวย่นและช่วยในเรื่องการฟื้นฟู เซลล์ผิว เนื่องจากมีสารอาหารธรรมชาติสูง นักวิทยาศาสตร์จีนค้าพบว่ามีคุณสมบัติในการต้านแสงยูวีจากแสงแดดได้สูงอีกด้วย (High UV protection factor) ส่วนประกอบอื่นๆ ส่วนใหญ่จะเป็นพวกประทินผิว ให้ความชุ่มชื้น ประโลมผิว ปรับค่า PH ตัวทำละลาย สารกันเสีย เป็นต้น แล้วก็ตบท้ายด้วย สารแอนติออกซิแดนท์ ที่เรียงแถวกันมาช่วยบำรุงผิว ในแง่ของการใช้งาน ______ ลักษณะภายนอก (Appearance) ______ บรรจุภัณฑ์ (Package): 9/10 || บรรจุภัณฑ์เป็นขวดพลาสติกอย่างดี กึ่งโปร่งแสงสีแดงเข้ม ฝาเป็นหลอดหยดอัตโนมัติ (Auto-dropper) ที่จะดูดเนื้อเอสเซ็นส์ขึ้นมาให้เราโดยที่เราไม่ต้องปั้มเอง ซึ่งปริมาณที่ถูกดูดขึ้นมานั้น เป็นปริมาณที่เหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละครั้ง ปุ้ยคิดว่าถ้าหากออกแบบเป็นขวดปั้มเลย อาจจะใช้งานง่ายกว่าค่ะ แต่ที่ต้องออกแบบเป็นหลอดหยดเพราะเนื้อเอสเซ็นส์ค่อนข้างเหลว เวลาใช้งานจะได้ง่ายกว่า หัวปั้มที่บางทีอาจจะพุ่งออกมาแรงเกิน หรือไม่ทันระวังจะทำให้เนื้อเอสเซ็นส์หกเลอะได้ กลิ่น (Scent): 8/10 || มีกลิ่นน้ำหอมที่ค่อนข้างชัดเจนค่ะ ความเข้มข้นของเนื้อครีม (Ointment): 9/10 || เนื้อของผลิตภัณฑ์เป็น เอสเซ็นส์ลักษณะเหลวๆ ใสๆ แต่เนื้อมีวอลุ่ม ไม่เหลวเหมือนน้ำค่ะ ______ การใช้งาน (Application) ___________ ความชุ่มชื้น (Moisture): 7/10 || เอสเซ็นส์ให้ความชุ่มชื้นในระดับที่ทำให้ผิวสดชื้นขึ้น แต่ไม่ได้รู้สึกว่าชุ่มชื้นตลอดทั้งวัน เพราะว่าเค้าเป็นพรีเอสเซ็นส์ ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวในแง่การให้ความชุ่มชื้นโดยตรง เนื้อบางเบา (Light Texture): 10/10 || เนื้อของเอสเซ็นส์บางเบามาก เมื่อทาลงสู่ผิวแล้ว ซึมเข้าไปกับผิวเลยค่ะ การเกลี่ยง่าย (Smooth Applying): 10/10 || ผลิตภัณฑ์เหลวจึงเกลี่ยง่าย แต่ก็ไม่เหลวเหมือนน้ำ จึงไม่ทำให้ไหลเร็วตามแรงโน้มถ่วงจนทาไม่ทัน คือว่าง่ายๆ ก็เหลวกำลังใช้งานสะดวกค่ะ การซึมเข้าสู่ผิว (Fast Absorption): 10/10 || การซึมเข้าผิวได้รวดเร็วมาก ประมาณ 1 นาทีในอุณหภูมิปกติ แต่ถ้าอยู่ในห้องแอร์ก็ประมาณ 20- 30 วินาทีค่ะ ใช้แล้วไม่เหนียวเหนอะหนะ (non-Sticky): 10/10 || เมื่อเนื้อเอสเซ็นส์ซึมเข้าสู่ผิวเรียบร้อยแล้ว ผิวจะไม่แห้งตึงเหมือนเวลาเพิ่งล้างหน้า แต่จะรู้สึกว่าสดชื่นขึ้น แต่ไม่รู้เหนียวเหนอะเลยแม้แต่น้อยค่ะ ใช้แล้วผิวไม่มัน (Anti-Oily Skin): 10/10 || เมื่อทดสอบด้วยฟิล์มซับมัน ก็ไม่พบคราบมันทิ้งอยู่บนฟิล์มเลย และระหว่างวัน ไม่ได้ทำให้ผิวเราผลิตน้ำมันมากขึ้นค่ะ ไม่ทิ้งคราบขาว (Stainless): 10/10 || เมื่อใช้เอสเซ็นส์แล้วพอแห้งปุ๊บก็ทาครีมกันแดดและเมกอัพได้เลย โดยที่ไม่เกิดเป็นคราบขาวใดๆ ค่ะ ความคุ้มค่ากับราคา (Reasonable Price): 7/10 || (ขนาด 40 มล. ราคา 899 บาท) ราคาอาจจะเป็นเรื่องที่หลายคนพิจารณาชั่งใจที่จะเพิ่มขั้นตอนนี้ลงไปก่อนการบำรุงผิว แต่ว่าถ้าเค้าจะช่วยให้เราเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลผิวได้ดียิ่งขึ้น ก็น่าที่จะลองค่ะ คะแนนรวม ปุ้ยให้ : 9.1 /10 คำแนะนำ: ควรทดสอบอาการแพ้ ก่อนทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ที่ใบหน้า สามารถทดลองผลิตภัณฑ์ได้ที่เคาน์เตอร์โอเลย์ในห้างสรรพสินค้าแผนกเครื่องสำอางค่ะ หรือหากทาลงบนผิวหน้าแล้วรู้สึกเกิดอาการคันหรือแดง ให้รีบล้างออก วิธีการใช้งาน 1] จากที่ปิดฝาอยู่ 2] หมุนเปิดฝา หลอดหยดอัตโนมัติ (auto-dropper) 3] หัวปั้มก็จะดูดเนื้อผลิตภัณฑ์ขึ้นมาให้เราโดยที่เราไม่ต้องปั้มเอง ซึ่งปริมาณที่ถูกดูดขึ้นมานั้น จะเป็นปริมาณที่เหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละครั้งพอดี 4] กดปุ่มที่ฝาด้านบนเพื่อปล่อยเนื้อผลิตภัณฑ์ออกมาจากหลอดหยด พร้อมที่จะใช้ทาผิวหน้าได้ทันที แต้มเอสเซ็นส์ลงที่ผิว และเกลี่ยให้ทั่ว รอประมาณ 1 นาทีให้ผลิตภัณฑ์ซึมเข้าสู่ผิว จากนั้นก็บำรุงผิวในขั้นตอนต่อไปได้เลย มาดูผลิตภัณฑ์ใน “ขั้นตอนที่ 2” กันบ้าง Olay Regenerist Micro-Sculpting Night Cream คุณประโยชน์ของผลิตภัณฑ์สูตรนี้ช่วยทำให้ • ฟื้นฟูผิวชั้นนอกให้เนียนนุ่มและกระชับรูขุมขนให้เล็กลง • ช่วยลดเลือนรอยเล็กๆ และริ้วรอยเหี่ยวย่นด้วยความชุ่มชื่น • ขจัดเซลล์ผิวเก่าเพื่อผิวเนียนนุ่ม • ให้ความชุ่มชื่นช่วยให้ผิวตึงกระชับ เมื่อดูจากข้างกล่องแล้ว จะมีส่วนผสมดังนี้ INGREDENTS Water, Cyclopentasiloxane, Glycerin, Niacinamide, Aluminum Starch Octenylsuccinate, Dimethicone, Dimethicone Crosspolymer, Panthenol, Polyethylene, Polyacrylamide, Tocopheryl Acetate, C13-14 Isoparaffin, DMDM Hydantoin, Allantoin, Laureth-4, Dimethiconol, Laureth-7, Acrylates/C10-30 Alkyl Acrylate Crosspolymer, Sodium Hyaluronate, Sodium PEG-7 Olive Oil Carboxylate, Disodium EDTA, Peucedanum Graveolens (Dill) Extract, Citric Acid, PEG-100 Stearate, Camellia Sinensis Leaf Extract, Iodopropynyl Butylcarbamate, Palmitoyl Pentapeptide-4. ส่วนผสมสำคัญ (ตัวอักษรสีแดง) ที่มีส่งประสิทธิภาพในการบำรุงผิว ก็คือ Niacinamide ซึ่งเป็นแอนติออกซิแดนท์ที่ช่วยในการกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ เพื่อผิวดูอ่อนเยาว์ กระจ่างใสขึ้น ริ้วรอยดูลดเลือนและยังช่วยเรื่องสิว ได้อีกด้วยค่ะ Hyaluronic Acid + Glycerol – เติมความชุ่มชื้นให้ผิวกลับมาอิ่มฟู นุ่มเด้ง เต่งตึง Sodium PEG-7 Olive Oil Carboxylate สารสกัดจากผลมะกอก มีฤทธิ์เป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ช่วยปกป้องผิวจากการถูกทำร้ายจากมลภาวะภายนอก พร้อมช่วยให้ส่วนผสมต่อต้านริ้วรอยซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น Peucedanum Graveolens (Dill) Extract - Lys’lastine (natural extract of Dill seeds):สารสกัดจากเมล็ดผักชีลาว มีฤทธิ์ช่วยในการเพิ่มความนุ่มเด้งยืดหยุ่นให้ผิว Palmitoyl Pentapeptide-4 เป็น Amino Peptide (Pro-Collagen molecules): สารบำรุงสำคัญที่ช่วยซ่อมแซมให้ผิวกลับดูตึงกระชับและริ้วรอยดูลดเลือน ในแง่ของการใช้งาน ______ ลักษณะภายนอก (Appearance) ______ บรรจุภัณฑ์ (Package): 8/10 || บรรจุภัณฑ์เป็นกระปุกพลาสติกเนื้อหนา สีแดงเข้ม ฝาหมุนเปิด มีฝากันหกอีกชั้นด้านใน กลิ่น (Scent): 10/10 || ชอบกลิ่นมากกกกก เป็นกลิ่นที่มีความหอมละมุน ถึงแม้จะไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม เวลาใช้มีความสุขมากค่ะ ความเข้มข้นของเนื้อครีม (Ointment): 8/10 || เนื้อครีมเข้มข้นและยืดหยุ่นดี ______ การใช้งาน (Application) ___________ ความชุ่มชื้น (Moisture): 10/10 || ผลิตภัณฑ์ให้ความชุ่มชื้นดีมาก รู้สึกเลยทันทีที่เนื้อครีมซึมหมด ว่าผิวนุ่ม ฟูและชุ่มชื้นขึ้น การเกลี่ยง่าย (Smooth Applying): 10/10 || ผลิตภัณฑ์มีความยืดหยุ่นจึงเกลี่ยง่าย การซึมเข้าสู่ผิว (Fast Absorption): 8/10 || การซึมเข้าผิวได้ดี ประมาณ 2 นาทีในอุณหภูมิปกติ แต่ถ้าอยู่ในห้องแอร์ก็ประมาณ 1.5 นาทีค่ะ ใช้แล้วไม่เหนียวเหนอะหนะ (non-Sticky): 8/10 || เมื่อเนื้อครีมซึมเข้าสู่ผิวเรียบร้อยแล้ว ผิวนุ่มชุ่มชื้น แต่ไม่รู้สึกเหนียวเหนอะ ใช้แล้วผิวไม่มัน (Anti-Oily Skin): 8/10 || เมื่อทดสอบด้วยฟิล์มซับมัน ก็ไม่พบคราบมันทิ้งอยู่บนฟิล์มเลย และระหว่างวัน ไม่ได้ทำให้ผิวเราผลิตน้ำมันมากขึ้นค่ะ ไม่ทิ้งคราบขาว (Stainless): 9/10 || ไม่ทิ้งคราบขาว เมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ในปริมาณที่พอเหมาะไม่มากเกินไปค่ะ อาจจะใช้การนวดเข้าช่วยผลักให้เนื้อครีมเข้าสุ่ผิวได้ดีขึ้น แต่หากใช้ผลิตภัณฑ์ในปริมาณที่มากไป ทาแล้วให้กองอยู่บนผิวก็มีโอกาสเกิดคราบได้ค่ะ ความคุ้มค่ากับราคา (Reasonable Price): 7/10 || (ขนาด 50 กรัม ราคา 999 บาท) ราคาไม่น้อยแต่ถ้าคำนึงถึงประสิทธิภาพการฟื้นฟูดูแลผิวแล้ว ก็น่าสนใจมากเลยค่ะ คะแนนรวม: 8.6 /10 คำแนะนำ: ควรทดสอบอาการแพ้ ก่อนทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ที่ใบหน้า สามารถทดลองผลิตภัณฑ์ได้ที่เคาน์เตอร์โอเลย์ในห้างสรรพสินค้าแผนกเครื่องสำอางค่ะ หรือหากทาลงบนผิวหน้าแล้วรู้สึกเกิดอาการคันหรือแดง ให้รีบล้างออก วิธีการใช้งาน แต้มเนื้อครีมลงที่ใบหน้า 5 จุด แล้วเกลี่ยให้ทั่วใบหน้า จากนั้นใช้นิ้วมือนวดเป็นวงกลม โดยเน้นที่บริเวณขมับและขากรรไกรเป็นพิเศษ แล้วใช้ฝ่ามือประคบลงเบาๆ ที่ผิว ช่วยให้ผิวอบอุ่นและให้เนื้อครีมซึมเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้นค่ะ ความประทับใจหลังจากที่ปุ้ยทดลองใช้ ก็รู้สึกว่าผิวสดชื่น นุ่มและชุ่มชื้นขึ้น เอสเซ็นส์ช่วยให้ผิวมีสมดุลที่ดีขึ้น ผิวดูแข็งแรงและสดใสขึ้นค่ะ ส่วนไนท์ครีม ช่วยให้ผิวนุ่มมากๆ ซึ่งทำให้ริ้วรอยใต้ตาที่เคยเห็นชัด ดูจางลงด้วยความที่ผิวเราแข็งแรงและชุ่มชื้นขึ้นด้วย ถือว่าเป็นคู่หูที่ทำงานประสานกันได้ดีเลยทีเดียวค่ะ สำหรับสาวๆ วัย 30 อัพ ที่กังวลเรื่องริ้วรอย ปุ้ยคิดว่า โอเวอร์ไนท์มิราเคิล นี่เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เราควรจะเริ่มดูแลผิว อย่างจริงจังกันได้แล้วค่ะ ส่วนใครที่เลยเวลาไปแล้ว ก็อย่างเพิ่งถอดใจ เพราะผิวของเราสามารถที่จะฟื้นฟูได้ เพียงแต่เราใส่ใจและให้ความสำคัญในการดูแลเค้าให้มากๆ ลองดูแล้วจะรู้ว่าปาฏิหาริย์ เราสร้างได้ในข้ามคืน ของทุกวันค่ะ วันนี้ปุ้ยต้องไปแล้วค่ะ พบกันใหม่ในบล็อกหน้า กุ๊ดไนท์ค่าาา สถานที่จัดจำหน่าย Overnight Miracle มีจำหน่ายที่บิวตี้สโตร์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต และห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป ราคา โอเลย์ รีเจนเนอร์ริสท์ มิราเคิล บูสท์ ยูธ พรี-เอสเซ็นส์ ขนาด 40 มล. ราคา 899 บาท โอเลย์รีเจนเนอร์ริสท์ ไมโครสกัลปติ้ง ไนท์ครีม ขนาด 50 กรัม ราคา 999 บาท ข้อมูลเพิ่มเติม //www.olay.co.th | //www.facebook.com/olaythailand | olay.lazada.co.th

ติดตาม Mini-Review อื่นๆ และ Lifestyle ของปุ้ยได้ ที่ Facebook page: www.facebook.com/likePuYisme
Instagram: @puyisme

สวัสดีค่ะ วันนี้ปุ้ยจะมาแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด ของแบรนด์โอเลย์ ในไลน์ รีเจนเนอร์ริสท์ มีชื่อว่า มิราเคิล บูสท์ ยูธ พรี-เอสเซ็นส์ (Olay Regenerist Miracle Boost Youth Pre-Essence) ซึ่งเป็นสุดยอดนวัตกรรมที่ช่วยเร่งการสร้างเซลล์ผิวใหม่ เพื่อผิวดูอ่อนเยาว์อย่างน่าอัศจรรย์ในขั้นตอนของการเตรียมผิวที่สาวๆ ไม่ควรพลาด หลายคนอาจจะสงสัยว่าขั้นตอนการเตรียมผิวนั้นคืออะไร ขั้นตอน “การเตรียมผิว” นั่นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดยิ่งกว่าการบำรุงผิวในขั้นตอนอื่นๆ เสียอีกนะคะ เพราะว่าผลิตภัณฑ์บำรุงผิวตัวแรกที่สัมผัสผิวหน้าของเรา จะเป็นตัวเสริมประสิทธิภาพของการบำรุงผิวในทุกขั้นตอนที่เหลือ ดังนั้นถ้าเราปรารถนาจะได้เป็นเจ้าของผิวสวยเด้ง อ่อนเยาว์ไร้ริ้วรอย ก็อย่าละเลยขั้นตอนแรกของการบำรุงผิวเป็นอันขาด Olay Regenerist Miracle Boost Youth Pre-Essence ต่างจาก พรีโลชั่น/พรีเอสเซ็นส์ทั่วไป เพราะสามารถให้ผิวเราได้มากกว่าความชุ่มชื้น ผิวจะได้การฟื้นบำรุงด้วยสารอาหารบำรุงผิวอันทรงพลังเพื่อปลอบประโลมผิวให้ผิวดูอ่อนเยาว์ได้อย่างยั่งยืน ------ ข้อมูลจากแบรนด์ --------------------------------------------------------------------- โอเลย์ รังสรรค์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าที่มีคุณสมบัติพิเศษที่ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่เพื่อฟื้นบำรุงความอ่อนเยาว์ของผิวให้มีชีวิตชีวาอีกครั้ง จากศึกษาเกี่ยวกับส่วนประกอบหลักที่สำคัญที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ใหม่ โอเลย์ รีเจนเนอร์รีสท์ มิราเคิล บูสท์ ยูธ พรี-เอสเซ้นส์ โดยนักวิทยาศาสตร์จากโอเลย์กว่า 100 คน พบว่ามีส่วนในการช่วยเร่งการสร้างเซลล์ผิวใหม่ได้ถึง 35% ซึ่งการค้นคว้าวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ชีวภาพในครั้งนี้ใช้เวลากว่า 10 ปี โดยทดลองกับเซลล์ผิวหลายร้อยล้านเซลล์ของผู้หญิงในภูมิภาคอาเซียน นอกจากนี้ ผลการวิจัยของโอเลย์ชิ้นนี้ได้รับการตีพิมพ์กว่า 10 บทความทางวิชาการด้านวิทยาศาสตร์จากนานาประเทศทั่วโลกอีกด้วย ทั้งนี้ โอเลย์ มีความมุ่งมั่นที่จะมอบความสวยที่เป็นที่สุดให้กับผู้หญิงอย่างต่อเนื่อง จึงได้คิดค้นส่วนผสมอันทรงพลังที่ช่วยลดเลือนสัญญาณแห่งผิวร่วงโรยเพื่อให้ผิวดูอ่อนเยาว์ เส้นริ้วรอยแลดูลดลง ผิวกลับดูเปล่งปลั่งสุขภาพดี ชุ่มชื่นขึ้น พร้อมปกป้องผิวจากการถูกทำร้ายในแต่ละวัน  ในรูปของเนื้อสัมผัสแบบน้ำอันบางเบา และรังสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ โอเลย์ รีเจนเนอร์ริสท์ มิราเคิล บูสท์ ยูธ พรี-เอสเซ็นส์ ซึ่งถือได้ว่าเป็นสุดยอดผลิตภัณฑ์ที่ผู้หญิงทุกคนไม่ควรพลาดในการบำรุงผิว โดยผลิตภัณฑ์นี้จะใช้ในขั้นตอนการเตรียมผิวซึ่งเป็นขั้นตอนก่อนการบำรุงผิวหน้า ซึ่งจะสามารถช่วยสร้างเซลล์ผิวใหม่ได้นับล้าน* ตั้งแต่หยดแรกที่ใช้ อีกทั้งยังช่วยลดเลือนริ้วรอยและจุดด่างดำอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ผิวของเรากลับมาดูเปล่งปลั่ง เนียนละเอียดได้ดั่งผิวแรกแย้มอีกครั้ง และด้วยคุณสมบัติพิเศษที่สามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็วและล้ำลึกถึง 2 เท่า^ จึงทำให้ผิวของคุณชุ่มชื้น เต่งตึง และดูมีชีวิตชีวา อีกทั้งยังช่วยเสริมคุณประโยชน์ของการบำรุงผิวในขั้นตอนต่อไปให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและซึมซาบล้ำลึกยิ่งขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ นวัตกรรมล้ำสมัยของบรรจุภัณฑ์ที่โอเลย์ได้คิดค้นและออกแบบให้อยู่ในรูปของหลอดหยดอัตโนมัติ (auto-dropper) ทำให้ควบคุมปริมาณต่อการใช้แต่ละครั้งได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมอีกด้วย ส่วนผสมอันทรงพลังของผลิตภัณฑ์โอเลย์ รีเจนเนอร์ริสท์ มิราเคิล บูสท์ ยูธ พรี-เอสเซ็นส์: Niacinamide (Vitamin B3):– ช่วยในการกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ (ผิวหนังชั้นอพิเดอร์มิส) เพื่อผิวดูอ่อนเยาว์ เนียนละเอียด และริ้วรอยดูลดเลือน Amino Peptide (Pro-Collagen molecules):- สารบำรุงสำคัญเพื่อผิวดูตึงกระชับและริ้วรอยดูลดเลือน OliveM (Antioxidant from Olive Extract):- สารสกัดจากผลมะกอก มีฤทธิ์เป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ช่วยปกป้องผิวจากการถูกทำร้ายจากมลภาวะภายนอก พร้อมช่วยฟื้นบำรุงให้ผิวแข็งแรง Product Claims/Benefits: Regenerist Miracle Boost Youth Pre-Essence : คุณประโยชน์ ของโอเลย์ รีเจนเนอร์ริสท์ มิราเคิล บูสท์ ยูธ พรี-เอสเซ็นส์ เพียงหยดแรกก็เริ่มสร้างเซลล์ผิวใหม่ได้นับล้าน (ผิวหนังชั้นอพิเดอร์มิส คือ ชั้นนอกสุดหรือหนังกำพร้า) ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ลึกถึง 2 เท่า (เมื่อใช้ร่วมกับโอเลย์ รีเจนเนอร์ริสท์ ไมโคร-สกัลปติ้ง ครีม) พรีเอสเซ็นส์ เนื้อสัมผัสแบบน้ำอันบางเบา ซึมซาบลงสู่ผิวได้ล้ำลึกรวดเร็ว ไม่ทิ้งความมันหรือความเหนียวเหนอะหนะ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ช่วยกระตุ้นให้รู้สึกผ่อนคลาย ใช้ในขั้นตอนแรกสุดหลังจากทำความสะอาดผิวหน้า/โทนเนอร์ เรียกขั้นตอนนี้ว่า ‘การเตรียมผิว’ (Skin Preparation Step) 1st application starts regeneration of a million cells เพียงหยดแรกก็ตรงเข้าฟื้นบำรุงเซลล์ผิวได้นับล้าน 2X bio-active penetration into skin ซึมซาบลงสู่ผิวได้ลึกกว่าถึง 2 เท่า Skin looks up to 10 years younger ผิวแลดูอ่อนเยาว์ขึ้นถึง 10 ปี ผลลัพธ์ที่ใด้ : ผิวดูเปล่งปลั่งมีชีวิตชีวา ตึงกระชับนุ่มเด้ง เนียนละเอียดขึ้น และดูเปล่งประกายมีสุขภาพดีจนรู้สึกได้ อ้างอิงจากการศึกษาทางคลินิกโดยหน่วยงานวิจัยอิสระ ในกลุ่มผู้หญิง 30 คน ระหว่างเดือน พ.ค.– มิ.ย. 2006 ในประเทศเยอรมัน ------------------------------------------------------------------------------------------ มาดูผลการรีวิวหลังทดลองใช้งาน 1 สัปดาห์ของปุ้ยกันบ้างค่ะ เริ่มจากวิเคราะห์ส่วนผสม เมื่อดูจากข้างกล่องแล้ว จะมีส่วนผสมดังนี้ INGREDIENTS Water, Niacinamide, Glycerin, Butylene Glycol, Hexylene Glycol, Dimethicone, Acrylates/C10-30 Alkyl Acrylate Crosspolymer, Peg-32, Phenoxyethanol, Benzyl Alcohol, Sodium Hydroxide, Methylparaben, Dimethiconol,  Disodium Edta, Inositol, Isopropyl Isostearate,  Sodium Metabisulfite, Sodium Metabisulfite, PEG-100 Stearate,  Fragrance,  Sodium Ascorbyl Phosphate, Morus Alba Root Extract, Glyceryl Acrylate/Acrylic Acid Copolymer, PVM/MA Copolymer, Sodium Peg-7 Olive Oil Carboxylate, Lilium Candidum Flower Extract, Palmitoyl Pentapeptide-4, Lonicera Japonica (Honeysuckle) Flower Extract. ปุ้ยได้ไฮไลท์ส่วนผสมสำคัญที่มีส่งประสิทธิภาพในการบำรุงผิว ไว้้ด้วย ตัวอักษรสีแดง ซึ่งตัวหลักเลยก็คือ Niacinamide ซึ่งเป็นแอนติออกซิแดนท์ที่ช่วยในการกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ เพื่อผิวดูอ่อนเยาว์ กระจ่างใสขึ้น ริ้วรอยดูลดเลือนและยังช่วยเรื่องสิว ได้อีกด้วยค่ะ ส่วนประกอบอื่นๆ ส่วนใหญ่จะเป็นพวกประทินผิว ให้ความชุ่มชื้น ประโลมผิว ปรับค่า PH ตัวทำละลาย สารกันเสีย เป็นต้น แล้วก็ตบท้ายด้วย สารแอนติออกซิแดนท์ ที่เรียงแถวกันมาช่วยบำรุงผิว Sodium Peg-7 Olive Oil Carboxylate สารสกัดจากผลมะกอก ช่วยปกป้องผิวจากการถูกทำร้ายจากมลภาวะภายนอกและช่วยฟื้นบำรุงให้ผิวแข็งแรง Lilium Candidum Flower Extract สารสกัดจากดอกลิลลี่สีขาว มีฤทธิ์ช่วยในการป้องกันและลดเลือนจุดด่างดำปรับสีผิวให้สม่ำเสมอมากขึ้น ช่วยในการผลัดเซลล์ที่เสื่อมสภาพและลดเลือนริ้วรอยให้จางลง Palmitoyl Pentapeptide-4 คือ ที่เค้าบอกว่าเป็น Amino Peptide ช่วยให้ผิวดูตึงกระชับและริ้วรอยดูลดเลือน Lonicera Japonica (Honeysuckle) Flower Extract สารสกัดจากดอกโลนิเซอร่า จาโปนิกา ช่วยในการกำจัดพิษโดยไปดึงเอาท๊อกซินออกมาและระบาย ความร้อนจากร่างกายสารสกัดนี้จะมีฤทธิ์ในการต้านการอักเสบของผิว ต้านเชื้อแบคทีเรีย ในเครื่องสำอางได้ถูกใช้ในการต้านริ้วรอยเหี่ยวย่นและช่วยในเรื่องการฟื้นฟู เซลล์ผิว เนื่องจากมีสารอาหารธรรมชาติสูง นักวิทยาศาสตร์จีนค้าพบว่ามีคุณสมบัติในการต้านแสงยูวีจากแสงแดดได้สูงอีกด้วย (High UV protection factor) ในแง่ของการใช้งาน ______ ลักษณะภายนอก (Appearance) ____________ บรรจุภัณฑ์ (Package): 9/10 || บรรจุภัณฑ์เป็นขวดพลาสติกอย่างดี กึ่งโปร่งแสงสีแดงเข้ม ฝาเป็นหลอดหยดอัตโนมัติ (Auto-dropper) ที่จะดูดเนื้อผลิตภัณฑ์ขึ้นมาให้เราโดยที่เราไม่ต้องปั้มเอง ซึ่งปริมาณที่ถูกดูดขึ้นมานั้น เป็นปริมาณที่เหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละครั้ง ปุ้ยคิดว่าถ้าหากออกแบบเป็นขวดปั้มเลย อาจจะใช้งานง่ายกว่าค่ะ แต่ที่ต้องออกแบบเป็นหลอดหยดเพราะเนื้อผลิตภัณฑ์ค่อนข้างเหลว เวลาใช้งานจะได้ง่ายกว่า หัวปั้มที่บางทีอาจจะพุ่งออกมาแรงเกิน หรือไม่ทันระวังจะทำให้เนื้อผลิตภัณฑ์หกเลอะได้ กลิ่น (Scent): 8/10 || มีกลิ่นน้ำหอมที่ค่อนข้างชัดเจนค่ะ ความเข้มข้นของเนื้อครีม (Ointment): 9/10 || เนื้อของผลิตภัณฑ์เป็น เอสเซ็นส์ลักษณะเหลวๆ ใสๆ แต่เนื้อมีวอลุ่ม ไม่เหลวเหมือนน้ำค่ะ ______ การใช้งาน (Application) ______________________ ความชุ่มชื้น (Moisture): 7/10 || ผลิตภัณฑ์ให้ความชุ่มชื้นในระดับที่ทำให้ผิวสดชื้นขึ้น แต่ไม่ได้รู้สึกว่าชุ่มชื้นตลอดทั้งวัน เพราะว่าเค้าเป็นพรีเอสเซ็นส์ ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวในแง่การให้ความชุ่มชื้นโดยตรง เนื้อบางเบา (Light Texture): 10/10 || เนื้อของผลิตภัณฑ์บางเบามาก เมื่อทาลงสู่ผิวแล้ว ซึมเข้าไปกับผิวเลยค่ะ การเกลี่ยง่าย (Smooth Applying): 10/10 || ผลิตภัณฑ์เหลวจึงเกลี่ยง่าย แต่ก็ไม่เหลวเหมือนน้ำ จึงไม่ทำให้ไหลเร็วตามแรงโน้มถ่วงจนทาไม่ทัน คือว่าง่ายๆ ก็เหลวกำลังใช้งานสะดวกค่ะ การซึมเข้าสู่ผิว (Fast Absorption): 10/10 || การซึมเข้าผิวได้รวดเร็วมาก ประมาณ 1 นาทีในอุณหภูมิปกติ แต่ถ้าอยู่ในห้องแอร์ก็ประมาณ 20- 30 วินาทีค่ะ ใช้แล้วไม่เหนียวเหนอะหนะ (non-Sticky): 10/10 || เมื่อเนื้อเอสเซ็นส์ซึมเข้าสู่ผิวเรียบร้อยแล้ว ผิวจะไม่แห้งตึงเหมือนเวลาเพิ่งล้างหน้า แต่จะรู้สึกว่าสดชื่นขึ้น แต่ไม่รู้เหนียวเหนอะเลยแม้แต่น้อยค่ะ ใช้แล้วผิวไม่มัน (Anti-Oily Skin): 10/10 || เมื่อทดสอบด้วยฟิล์มซับมัน ก็ไม่พบคราบมันทิ้งอยู่บนฟิล์มเลย และระหว่างวัน ไม่ได้ทำให้ผิวเราผลิตน้ำมันมากขึ้นค่ะ ไม่ทิ้งคราบขาว (Stainless): 10/10 || เมื่อใช้เอสเซ็นส์แล้วพอแห้งปุ๊บก็ทาครีมกันแดดและเมกอัพได้เลย โดยที่ไม่เกิดเป็นคราบขาวใดๆ ค่ะ ความคุ้มค่ากับราคา (Reasonable Price): 7/10 || ราคาอาจจะเป็นเรื่องที่หลายคนพิจารณาชั่งใจที่จะเพิ่มขั้นตอนนี้ลงไปก่อนการบำรุงผิว แต่ว่าถ้าเค้าจะช่วยให้เราเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลผิวได้ดียิ่งขึ้น ก็น่าที่จะลองค่ะ คะแนนรวม: 9.1 /10 วิธีการใช้งาน 1] จากที่ปิดฝาอยู่ 2] หมุนเปิดฝา หลอดหยดอัตโนมัติ (auto-dropper) 3] หัวปั้มก็จะดูดเนื้อผลิตภัณฑ์ขึ้นมาให้เราโดยที่เราไม่ต้องปั้มเอง ซึ่งปริมาณที่ถูกดูดขึ้นมานั้น จะเป็นปริมาณที่เหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละครั้งพอดี 4] กดปุ่มที่ฝาด้านบนเพื่อปล่อยเนื้อผลิตภัณฑ์ออกมาจากหลอดหยด พร้อมที่จะใช้ทาผิวหน้าได้ทันที แต้มเนื้อผลิตภัณฑ์ลงที่ผิว และเกลี่ยให้ทั่ว รอประมาณ 1 นาทีให้ผลิตภัณฑ์ซึมเข้าสู่ผิว จากนั้นก็บำรุงผิวในขั้นตอนต่อไปได้เลย หลังจากที่ปุ้ยทดลองใช้มา 1 สัปดาห์ ก็รู้สึกว่าผิวสดชื้นขึ้น อาจจะยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงที่เป็นนัยยะ แต่ลองใช้กับหน้าฝั่งหนึ่ง อีกฝั่งหนึ่งไม่ใช้ ก็รู้สึกว่าผิวมีสมดุลที่ดีขึ้น ในเรื่องการรักษาความมัน และผิวไม่แห้งตึง มีชีวิตชีวาขึ้นกว่าฝั่งที่ไม่ได้ใช้เยอะเลยค่ะ ถือว่าเป็นสัญญาณเริ่มต้นที่ดีสำหรับการเพิ่มขั้นตอนเตรียมผิวค่ะ [ปล. ในรูปที่เป็น ​Face-Shot เป็นผิวจริง ไม่ได้เมกอัพผิว แต่เขียนคิ้ว เขียนตา ติดขนตาปลอมและใส่คอนแท็คเลนส์ค่ะ] สำหรับคำแนะนำตามที่แบรนด์เค้าวิจัยและทดลองใช้กับกลุ่มตัวอย่าง ให้ใช้เป็นคู่ คือ มิราเคิล ดูโอ (Miracle Duo): 2 ขั้นตอนสู่ผิวดูอ่อนเยาว์อย่างน่าอัศจรรย์ แนะนำให้ใช้ โอเลย์ รีเจนเนอร์ริสท์ มิราเคิล บูสท์ ยูธ พรี-เอสเซ็นส์ หลังใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าและก่อนใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าอื่นๆ โดยแนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ โอเลย์ รีเจนเนอร์ริสท์ มิราเคิล บูสท์ ยูธ พรี-เอสเซ็นส์ และ ผลิตภัณฑ์ โอเลย์ รีเจนเนอร์ริสท์ ไมโคร-สกัลป์ติ้ง ครีม ร่วมกัน จะช่วยฟื้นบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึกและเพิ่มการซึมซาบสารบำรุงเข้าสู่ชั้นเซลล์ผิวได้ถึงสองเท่า ผลที่ได้คือผิวพรรณที่ดูอ่อนเยาว์อย่างน่าอัศจจรย์ และได้รับการพิสูจน์แล้วทำให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์ขึ้นถึง 10 ปี คุณประโยชน์ของมิราเคิล ดูโอ ผิวแลดูอ่อนเยาว์ขึ้นถึง 10 ปี (เปรียบเทียบกับการใช้โอเลย์ รีเจนเนอร์ริสท์ ไมโคร-สกัลปติ้ง ครีม เพียงอย่างเดียว) สถานที่จัดจำหน่าย โอเลย์ รีเจนเนอร์ริสท์ มิราเคิล บูสท์ ยูธ พรี-เอสเซ็นส์ มีจำหน่ายที่บิวตี้สโตร์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต และห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป ราคา โอเลย์ รีเจนเนอร์ริสท์ มิราเคิล บูสท์ ยูธ พรี-เอสเซ็นส์ ขนาด  40 มล.  ราคา 899 บาท โอเลย์ รีเจนเนอร์ริสท์ ไมโคร-สกัลปติ้ง ครีม ขนาด  50 มล. ราคา 999 บาท วันนี้ขอจบบล็อกเพียงเท่านี้ พบกันใหม่ในบล็อกหน้า บั้ยบายค่ะ ขอบคุณ โอเลย์ ประเทศไทย มากๆ ค่าาาา ข้อมูลเพิ่มเติม //www.olay.co.th   |  //www.facebook.com/olaythailand  |  olay.lazada.co.th #OlayThailand #OlayRegenerist #MiracleBoost ติดตาม Mini-Review อื่นๆ และ Lifestyle ของปุ้ยได้ ที่ Facebook page: www.facebook.com/likePuYisme Instagram: @puyisme

สวัสดีค่ะ วันนี้ปุ้ยจะมารีวิวกันต่อกับผลิตภัณฑ์นำเข้าจากญี่ปุ่นของ “อัยเซ็น” (Aizen) ซึ่งเมื่อบล็อกที่แล้วปุ้ยได้พูดถึง ชุดดูแลทำความสะอาดผิวและเส้นผม ส่วนในบล็อกนี้ปุ้ยจะมาพูดถึงพื้นฐานการดูแลผิวหน้า ในแบบฉบับของสาวญี่ปุ่นค่ะ ผลิตภัณฑ์ที่จะนำมาแนะนำกันก็คือ ชุดผลิตภัณฑ์รีไวแท็ค(REVITAQ) ซึ่งนวัตกรรมใหม่ในการบำรุงผิวจากญี่ปุ่นที่ผสมผสานน้ำใต้ทะเลลึกกับส่วนผสมในการบำรุงผิวที่กำลังเป็นที่นิยมในตลาดเข้าด้วยกัน ทำให้เกิดเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพในการบำรุงและปกป้องผิวสูง น้ำใต้ทะเลลึกที่ได้มาได้มาจากไหน? น้ำใต้ทะเลลึกที่เค้านำมาใช้เป็นส่วนผสมหลักนั้น มีต้นกำเนิดมาจากน้ำแข็งขั้วโลกที่ละลายลงสู่ทะเลด้วยแร่ธาตุเข้มข้น ที่อัดแน่นในน้ำจึงทำให้น้ำดำดิ่งลงสู่ใต้ทะเลลึก 4,000 เมตร และไหลเวียนไปตามกระแสน้ำใต้ทะเลลึกผ่าน 3 คาบมหาสมุทร เป็นระยะทางกว่า 50,000 กิโลเมตร ใช้เวลาโคจรทั้งสิ้นร่วม 2,000 ปี จนกระทั่งกระทบกับโขดหินใต้ทะเล ทำให้กระแสน้ำใต้ทะเลลึกผุดขึ้นด้านบน 3,000 เมตร บริเวณเกาะโคน่า มลรัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา ประจวบเหมาะกับการขุดเจาะท่อที่ลึกจากพื้นผิวลงไป 1,000 เมตร ทำให้เราได้น้ำใต้ทะเลลึกบริสุทธิ์ที่ไม่มีสิ่งใดเจือปนและอุดมไปด้วยแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อการบำรุงผิวค่ะ **โดยน้ำใต้ทะเลลึกในผลิตภัณฑ์นี้ ได้ผ่านการทดสอบจากสถาบันวิจัยพลังงานธรรมชาติ มลรัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา (NATURAL ENERGY LABORATORY OF HAWAII AUTHORITY) ว่าเป็นน้ำใต้ทะเลลึกที่มีคุณภาพ** แล้วทำไมต้องน้ำใต้ทะเลลึก? เพราะน้ำใต้ทะเลลึกที่เค้านำมาใช้มีแร่ธาตุและสมดุลอุณหภูมิที่ผิวต้องการ  ทำหน้าที่เพิ่มประสิทธิภายในการซึมซับและทำหน้าที่เป็นตัวนำพาสารที่มีประโยชน์เข้าสู่ผิวอย่างดี มีความบริสุทธิ์สูง อุดมด้วยแร่ธาตุ สมดุลอุณหภูมิที่เหมาะสม คุณภาพของน้ำคงที่อย่างสม่ำเสมอ ในซีรีย์ของเค้าจะมีผลิตภัณฑ์ 2 ตัวค่ะ รีไวแท็ค เอ็สเซ็นส์ โลชั่น REVITAQ Essence Lotion Hyaluron | Collagen | Q10 | Placenta เอ็สเซ็นส์ โลชั่นชนิดน้ำ ซึมลึกเข้าสู่ผิวอย่างรวดเร็ว บํารุงล้ำลึก เตรียมผิวให้พร้อม รับการฟื้นฟูลำดับถัดไป ขนาด 120 มิลลิลิตร ราคาปกติ 4,000 บาท สมาชิก 3,200 บาท รีไวแท็ค ครีม REVITAQ Cream Hyaluron | Collagen | Q10 | Placenta ครีมบํารุงผิวหน้า ปกป้องร้ิวรอย และมลภาวะ พร้อมฟื้นฟูให้ผิว แข็งแรงจากภายใน ขนาด 40 กรัม ราคาปกติ 6,000 บาท สมาชิก 4,800 บาท ส่วนผสม: Water, Butylene Glycol,Glycerin, Hippophae Rhamnoides Oil, Magnesium Ascorbyl Phosphate, Atelocollagen, Sodium Hyaluronate, Glucosyl Ceramide, Allantoin, Dipotassium Glycyrrhizate, Citrus Junos Fruit Extract, Lavandula Angustifolia (Lavender) Flower Water, Dextrin, Placental Protein, Methylparaben, Squalane, Peg-60 Hydrogenated Castor Oil, Ubiquinone, Cellulose Gum (วางเมาส์บนลิงค์ส่วนผสมเพื่อดูคำอธิบาย) ส่วนผสม: Water, Oryza Sativa (Rice) Germ Oil, Octyldodecyl Myristate, Butylene Glycol, Glyceryl Stearate, Arbutin, Squalane, Rosa Centifolia Flower Water, Glycerin, Citrus Junos Fruit Extract, Acetyl Hexapeptide-8, Sodium Hyaluronate, Atelocollagen, Allantoin, Hippophae Rhamnoides Oil, Carbomer, Elaeis Guineensis (Palm) Oil, Dipotassium Glycyrrhizate, Betaine, Potassium Hydroxide, Methylparaben, Dipropylene Glycol, Xanthan Gum, Placental Protein, Ubiquinone, Astaxanthin, Glucosyl Ceramide, Alpha-Glucan, Hydrogenated Palm Glycerides Citrate, Sucrose Stearate, Peg-60 Hydrogenated Castor Oil, Ppg-4-Ceteth-20, Sodium Hexametaphosphate เปรียบเทียบส่วนผสมจากข้างกล่องค่ะ ส่วนประกอบหลัก (Active Ingredient) ที่ทำหน้าที่ต่อผิว ของทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์จะเหมือนกัน ก็คือ Atelocollagen อเทโลคอลลาเจน คอลลาเจนอณูละเอียดกว่าคอลลาเจนปกติ สามารถแทรกซึมเข้าสู่ผิวได้ดี และสามารถเติมเต็มผิวที่หย่อนคล้อยให้กลับดูมีชีวิตชีวา Q10 คิวเท็น ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย ลบเลือนร่องริ้วรอยลึกให้ดูตื้นขึ้น เสมือนผิวได้รับการฟื้นฟูอย่างดี Placental Protein โปรตีนพลาเซนต้า โปรตีนบริสุทธิ์ ช่วยลดเลือนริ้วรอย กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ปรับผิวให้ดูขาวกระจ่างใส Hyaluron ไฮยาลูรอน มอยส์เจอร์ไรเซอร์เข้มข้น ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพกักเก็บความชุ่มชื้นแก่ผิว ให้สัมผัสผิวอ่อนนุ่ม และยังช่วยลบเลือนริ้วรอยอีกด้วย Squalane สควาเลน เสริมสร้างความแข็งแรง โดยการเพิ่มออกซิเจนให้แก่ผิว และช่วยผลัดเซลล์ผิว ให้ผิวสะอาดสดใหม่อยู่เสมอ Lavender ลาเวนเดอร์ ลดการละคายเคืองและอาการอักเสบของผิว ในส่วนของราคาจะสูงกว่าเอ็สเซ็นส์ เพราะว่ามีส่วนผสมที่มากกว่า และมีปริมาณมากกว่า โดยเฉพาะ Squalane อีกส่วนผสมที่เพิ่มเข้ามา ซึ่งที่น่าสนใจก็คือ Arbutin เป็นส่วนผสมอันดับต้นๆ ของผลิตภัณฑ์นี้เลย ซึ่งเป็นส่วนผสมที่ช่วยในเรื่องของความขาวใส แต่อย่างไรก็ตามเค้าไม่ได้บอกว่าเป็น Alpha หรือ Beta-Arbutin ค่ะ และอีกหนึ่งส่วนผสมที่ดีก็คือ Astaxanthin เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่เก่งมากๆ ตัวนึง ช่วยในเรื่องการต้านอนุมูลอิสระค่ะ สรุปคุณสมบัติสำคัญของรีไวแท็ค บำรุงผิวล้ำลึกด้วยส่วนผสมที่มีประสิทธิภาพในการแทรกซึม เติมเต็มความชุ่มชื่นเข้าสู่ชั้นผิวได้โดยตรง กำจัดปัญหาผิว 5 ประการ 1)ซ่อมบำรุงผิวหยาบกร้าน  2)ยกกระชับ ผิวหย่อนคล้อย  3)ลดจุดด่างดำให้ดูจางลง  4)ปรับผิวหมองคล้ำให้กระจ่างใส  5)ลบเลือนร่องริ้วรอย แล้วในเมื่อส่วนผสมเหมือนกัน ทำไมต้องใช้ทั้ง Essence และ Cream คู่กัน? เพราะประสิทธิภาพในการบำรุงและปกป้องผิวของเนื้อผลิตภัณฑ์ทั้งสองแตกต่างกัน กล่าวคือ Essence เรียกได้ว่าเป็นขั้นแรกของการบำรุงผิว เพราะเนื้อของ Essence เป็นน้ำที่มีความสามารถในการแทรกซึมและนำพาคุณประโยชน์เข้าสู่ผิวชั้นในได้อย่างดี ซึ่งทำให้ผิวชั้นในสามารถดูดซับการบำรุงได้เต็มที่ ถือเป็นการเตรียมผิวให้พร้อมในการบำรุงขั้นถัดไป ส่วน Cream เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นครีมที่บำรุงผิวชั้นนอกให้แข็งแรง โดยทำให้ผิวอุดมไปด้วยความชุ่มชื้น พร้อมเคลือบปกป้องให้ผิวไม่ให้ได้รับการทำร้ายจากมลภาวะที่ต้องเผชิญในแต่ละวัน นั่นเอง ถ้าถามความคิดเห็นส่วนตัวของปุ้ย สำหรับสาวๆ ที่มีบัดเจ็ดจำกัด ปุ้ยแนะนำให้เลือกใช้ตัวได้ตัวหนึ่งได้ค่ะ สำหรับสาวผิวมัน-ผิวสผม แนะนำให้ใช้ REVITAQ Essence แล้วลองจับคู่ใช้กับผลิตภัณฑ์ครีมที่บ้านดูก็ได้ค่ะ แต่ถ้าเป็นสาวผิวแห้งก็ใช้โลชั่นปรับความพร้อมของผิวที่เรามี แล้วใช้ REVITAQ Cream จะช่วยให้ความชุ่มชื้นกับผิวได้ดีค่ะ (ปุ้ยมีรีวิวเปรียบเทียบกันให้ดูตอนท้าย) ในบล็อกนี้ปุ้ยจะเน้นรีวิวที่ รีไวแท็ค เอ็สเซ็นส์ โลชั่น เพราะปุ้ยคิดว่าน่าสนใจและอยู่ในงบประมาณที่สาวๆ โดยส่วนใหญ่สามารถเจียดบัดเจ็ดให้ผิวสวยๆ ได้ รีไวแท็ค เอ็สเซ็นส์ โลชั่น REVITAQ Essence Lotion Hyaluron | Collagen | Q10 | Placenta เอ็สเซ็นส์ โลชั่นชนิดน้ำ ซึมลึกเข้าสู่ผิวอย่างรวดเร็ว บํารุงล้ำลึก เตรียมผิวให้พร้อม รับการฟื้นฟูลำดับถัดไป ขนาด 120 มล. ราคาปกติ 4,000 บาท สมาชิก 3,200 บาท บรรจุภัณฑ์ (Package): 8/10 ― บรรจุภัณฑ์เป็นขวดแก้วกึ่งโปร่งแสงสีน้ำเงิน ขวดทรงกระบอกผอมสูงจับได้ขนาดเท่ากำมือพอดี ฝาเป็นแบบหมุนเปิด ปากขวดมีแผ่นกั้นหก เวลาใช้ก็เหยาะขวดนิดนึง (เขย่าเบาๆ) โลชั่นจะไหลออกมา กลิ่น (Scent): 9/10 ― กลิ่นหอมอ่อนมากๆ เวลาใช้ปกติเทลงฝ่ามือแล้วตบที่ผิวหน้าแทบไม่ได้กลิ่นค่ะ แต่ถ้าประยุกต์ไปใส่ขวดเสปรย์ฉีดลงที่ผิวหน้าจะได้กลิ่นหอมอ่อนๆ มีกลิ่นคล้ายๆ พิเทร่าด้วย ความเข้มข้นของเนื้อครีม (Ointment): 8/10 ― เนื้อของผลิตภัณฑ์เป็นโลชั่นเหลวใสๆ แต่ก็ไม่ใช่ว่าเบาใสเหมือนน้ำเปล่า คือ จะรู้สึกว่ามีส่วนผสมของสารสกัดจำพวกน้ำมันและสารอิมัลติไฟเออร์ที่ช่วยประสานผิว ปริมาณที่ใช้ต่อครั้ง (Amount) : 9/10 — ใช้แค่เหยาะเดียว (ประมาณเหรียญบาท) ก็เกลี่ยได้ทั่วใบหน้า ความชุ่มชื้น (Moisture): 8/10 ― ผลิตภัณฑ์ให้ความชุ่มชื้นในระดับที่มากเลยค่ะ พอทาลงไปผิวรู้สึกชุ่มชื้นตื่นตัวขึ้นมาทันทีเลย เนื้อบางเบา (Light Texture): 10/10 ― ข้อดีของเนื้อของผลิตภัณฑ์ที่เป็นโลชั่นเหลว คือ ได้ความบางเบาหลังจากทาและซึมเข้าผิวแล้ว การเกลี่ยง่าย (Smooth Applying): 10/10 ― ด้วยเหตุผลเดียวกันผลิตภัณฑ์ที่เป็นโลชั่นเหลวจึงเกลี่ยง่าย การซึมเข้าสู่ผิว (Fast Absorption): 9/10 ― การซึมเข้าผิวใช้เวลาประมาณ ครึ่งนาทีค่ะ ใช้แล้วไม่เหนียวเหนอะหนะ (non-Sticky) 9/10 ― พอซึมเข้าสู่ผิวแล้ว ผิวชุ่มชื้นดี ไม่เหนอะหนะ แต่ไม่ถึงกับเหมือนไม่ได้ทาอะไรเลย คือรู้สึกมีสารให้ความชุ่มชื้นผิวอยู่แม้จะผ่านไปหลายชม. ใช้แล้วผิวไม่มัน (Anti-Oily Skin): 9/10 ― พอผ่านไปหลายชม. ไม่รู้สึกว่าผิวมันหรือเหนียวเหนอะหนะ แต่ถ้าลองใช้ฟิล์มซับมัน ก็จะมีคราบความมันปรากฏนิดหน่อยเท่านั้น (ดังที่เห็นในรูปรีวิว) ไม่ทิ้งคราบขาว (Stainless): 10/10 ― ไม่ทิ้งคราบขาว ไม่เป็นคราบใคล เมื่อใช้ผลิตภัณฑ์เมกอัพอื่นๆ ในขั้นตอนถัดไปค่ะ ความคุ้มค่ากับราคา (Reasonable Price): 8/10 ― ใช้ในปริมาณแค่ 2-3 หยดก็ชโลมได้ทั่วผิวหน้า ขวดนึงใช้ได้หลายเดือนเลยค่ะ คุณสมบัติในการช่วยบำรุง ฟื้นฟูผิวก็น่าสนใจมากเลยทีเดียว ถ้าเทียบคุณสมบัติกับราคาค่าตัวแล้วถือว่าค่อนข้างมีเหตุมีผลกันอยู่ค่ะ เป็นการลงทุนที่สูงแต่ก็คุ้มค่านะคะ คะแนนรวม 8.92/10 ขั้นตอนการใช้งาน ขั้นตอน 1 หลังจากทำความสะอาดผิวหน้าเสร็จ เทผลิตภัณฑ์ REVITAQ Essence Lotion ลงบนฝ่ามือปริมาณประมาณเหรียญบาท ขั้นตอน 2 ชโลม REVITAQ Essence Lotion ให้ทั่วฝ่ามือทั้ง 2 ข้าง ขั้นตอน 3 ประคบฝ่ามือทั้ง 2 ข้าง ลงให้ทั่วใบหน้าและลำคอ ขั้นตอน 4 นวดเบาๆ เป็นเวลา 1 นาที หรือปล่อยให้เนื้อเอ็สเซ็นส์ซึมเข้าสู่ผิวหน้า 3 นาที แล้วจึงบำรุงผิวในขั้นตอนต่อไป *เคล็ดลับให้ REVITAQ Essence บำรุงได้ล้ำลึกขึ้น ฉีดสเปรย์โคโยมิสท์ หรือสเปรย์น้ำแร่ บนผิวหน้าก่อนที่จะชโลมด้วย REVITAQ Essence จากนั้นรอให้แห้ง แล้วจึงบำรุงในขั้นตอนต่อไป **เคล็ดลับเพิ่มความสดชื้นระหว่างวัน ผสม REVITAQ Essence ลงในขวดเสปรย์น้ำแร่ อัตราส่วน 1/10 (หรือมากตามความต้องการ) แล้วฉีดสเปรย์ระหว่างวัน ให้ความชุ่มชื้นและสดชื่นมากๆ ค่ะ ทิ้งท้ายบล็อกด้วยภาพเปรียบเทียบการทดสอบความชุ่มชื้น ด้วยการใช้ฟิล์มซับมัน ระหว่าง REVITAQ Essence และ REVITAQ Cream ค่ะ เนื้อครีมจะเป็นสีส้มๆ ค่ะ เกลี่ยง่าย ลื่น และให้ความชุ่มชื้นมาก ไม่เหนียวเหนอะ และไม่เป็นคราบ ใช้แค่ปั้มเดียวก็ทาได้ทั้งใบหน้าค่ะ ในแง่ของการใช้งานอย่างที่กล่าวในตอนต้น REVITAQ Cream จะเหมาะกับคนที่ผิวแห้ง หรืออยู่ในภาวะอากาศแห้ง เพราะให้ความชุ่มชื้นมาก หรือหากสาวไทยอย่างเราๆ ที่มีผิวมัน-ผิวผสม ก็ใช้ได้นะคะ ปุ้ยแนะนำให้ใช้เฉพาะตอนกลางคืนก่อนนอนค่ะ [รูปเปรียบเทียบการใช้งานของ REVITAQ Cream และ REVITAQ Essence โดยทดสอบด้วยฟิล์มซับมัน หลังจากเนื้อผลิตภัณฑ์ซึมเข้าผิวแล้ว] วันนี้ต้องลาไปก่อนนะคะ พบกันใหม่ในบล็อกหน้า จะมารีวิวผลิตภัณฑ์ดีๆ กันต่อ บั้ยบายค่ะ รีไวแท็ค เอ็สเซ็นส์ โลชั่น REVITAQ Essence Lotion Hyaluron | Collagen | Q10 | Placenta ขนาด 120 มิลลิลิตร ราคาปกติ 4,000 บาท สมาชิก 3,200 บาท รีไวแท็ค ครีม REVITAQ Cream  Hyaluron | Collagen | Q10 | Placenta ขนาด 40 กรัม ราคาปกติ 6,000 บาท สมาชิก 4,800 บาท สมัครสมาชิกฟรี แถมประสบการณ์การใช้ผลิตภัณฑ์ดีๆ อีกด้วยนะคะ ศึกษาข้อมูลและเงื่อนไขเพิ่มเติมที่ www.aizenconnect.com www.facebook.com/aizenconnect

สวัสดีค่ะ วันนี้ปุ้ยมีเรื่องเล่าดีๆ จากแบรนด์นำเข้าผลิตภัณฑ์จากญี่ปุ่น ชื่อแบรนด์ว่า อัยเซ็น (Aizen) ซึ่งนำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามจากญี่ปุ่น ซึ่งพอปุ้ยได้ยินคำว่าญี่ปุ่นก็รู้เลยว่าต้องมีคุณภาพแน่นอน ก็เลยลองใช้ดู แล้วก็ไม่ผิดหวังจริงๆ ค่ะ ซึ่งจะนำมารีวิวให้ดูกันในบล็อกนี้ ก่อนอื่นขอเล่าถึงที่มาของผลิตภัณฑ์ก่อนค่ะ ผลิตภัณฑ์ของอัยเซ็นนำเข้ามาจากบริษัทโคโยชะ (Koyosha Co., Ltd.) ด้วยปรัชาแห่งสมดุลของโคโยชะ คือให้ความสำคัญกับการรักษาสมดุลของร่างกาย และผลิตภัณฑ์จะถูกผลิตขึ้นด้วย ส่วนผสมจากธรรมชาติ ผนวกกับแนวความคิด "ความปรารถนา เหนือสิ่งอื่นใดของทุกคน คือ ร่ำรวยในความสุข สุขภาพ และความงาม" ซึ่งผลิตภัณฑ์มีความโดดเด่นในเรื่องความประณีตในการคัดสรรผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดมาจากธรรมชาติและสารสำคัญที่มีคุณภาพจากแหล่งธรรมชาติในประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งยังปลอดภัย มั่นใจด้วยเอกสารรับรองและสิทธิบัตรต่างๆ รวมถึงการผลิตที่ได้มาตรฐานทำให้ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้มาตลอด มาดูผลิตภัณฑ์กันค่ะ ปุ้ยเริ่มใช้จากเซ็ทพื้นฐานของเค้าก่อน ก็คือ เท็นจูเซ ซีรี่ส์ (Tenjusei Series) ซึ่งจะมีเจลอาบน้ำ แชมพูและโลชั่นบำรุงผม เท็นจูเซ เฟซ วอช แอนด์ บอด้ี โซพ Tenjusei Face Wash & Body Soap ส่วนผสมสำคัญ Collagen | Hyaluron | Ryokucha Green Tea เจลทําความสะอาดผิวหน้า และผิวกาย ขจัดสิ่งสกปรกล้ำลึกแม้คราบเครื่องสำอาง บํารุงผิว อิ่มน้ํา ชุ่มชื้นตลอดวัน ขนาด 400 มล. ราคาปกติ 2,400 บาท ราคาสมาชิก 1,920 บาท พอดูที่ฉลากข้างหล่องจะเห็นรายการส่วนประกอบดังนี้ค่ะ ส่วนประกอบ: Water, Cocamidopropyl Betaine, Cocamide DEA, Propanediol, Citrus Aurantium Dulcis (Orange) Oil, Glyceryl Caprate, Polyglyceryl-2 Laurate, Polyglycery1-10 Laurate, Humus Extract,Caprylyl Glycol, Algae Extract, Hibiscus Rosa-Sinensis Leaf Extract, Sodium Hyaluronate, Soluble Collagen, Diospyros Kaki Fruit Extract, Ryoku-Cha Ekisu (JTN),Cholesterol, Quatemium-33, Ceramide 1, Ceramide 2, Ceramide 3, Ceramide 5, Ceramide 6 II, Alba (Willow) Bark Extract, Cocos Nucifera (Coconut) Oil, Vanilla Planifolia Fruit Oil,Hydroxypropylcellulose, Butylene Glycol ส่วนประกอบสำคัญ (Active Ingredient) ที่ปุ้ยไฮไลท์เอาไว้ เป็นสารสกัดที่น่าสนใจมาก เรามาดูกันว่ามีหน้าที่อะไรบ้างค่ะ ทีนี้เราจะมาพูดถึงในแง่การใช้งานบ้าง รีวิวการใช้งานจากประสบการณ์ที่ทดลองใช้ 3 สัปดาห์ [วันนี้เรามีแขกรับเชิญ มาร่วมรีวิวกับเราด้วย สาวน้อย “ยูกิ” หลานสาวของปุ้ยเองค่ะ] บรรจุภัณฑ์ (Package): 9/10 — บรรจุภัณฑ์อยู่ในขวดพลาสติกเนื้อหนาดีมาก สีแดงเข้มกึ่งโปร่งแสง ช่วยให้เห็นว่าใช้ไปเท่าไหร่แล้ว มีหัวปั้มให้ใช้งานสะดวก ดีไซน์เป็นแนวสปาญี่ปุ่น ซึ่งดีไซน์ไม่ค่อยเข้ากับห้องน้ำที่บ้านปุ้ย (อันนี้ส่วนตัวนะคะ)ถ้าทำเป็นซองรีฟีลเทใส่ขวดสวยๆ ที่บ้านก็จะเวิร์คเลย กะใช้ระยะยาว กลิ่น (Scent): 10/10 — กลิ่นหอมมาก เป็นกลิ่นอ่อนๆ ใช้แล้วรู้สึกถึงสุขภาพความสดชื่นและความสะอาดค่ะ ฟอง (Bubble): 8/10 — เนื้อเจลจะเหลวๆ ลื่นๆ ฟองไม่มาก ดังนั้นถ้าใครถนัดใช้ผลิตภัณฑ์ที่ฟองมากๆ ตรงนี้ต้องปรับตัวนิดหน่อยค่ะ ปริมาณ ที่ใช้ต่อครั้ง (Amount) : 8/10 — ล้างหน้าและอาบทั้งตัวปุ้ยใช้ 2 หัวปั้มครึ่งค่ะ ถ้าอาบน้ำวันละ 2 ครั้ง ขวดนึงก็จะใช้ได้ประมาณ 2-3 เดือน การใช้งานง่าย (Application): 8/10 — ด้วยความที่เนื้อเจลเหลวมาก กดออกมาแล้วต้องรีบถูที่ผิวให้เกิดฟอง แล้วจึงถูไปให้ทั่วๆ ทั้งตัวค่ะ ทำให้เราใช้เวลาอาบน้ำน้อยลงไปในตัว ล้างออกง่าย (Wash off): 10/10 — เนื้อเจลลื่น ฟองน้อย ล้างออกง่ายมาก ช่วยลดเวลาในการอาบน้ำไปได้เยอะเลย ความสะอาด (Clean): 9/10 — ความสะอาดดีมากค่ะ ใช้ได้ทั้งผิวกายและใช้ล้างหน้าในขั้นตอนเดียว สะดวกเลยค่ะ ปุ้ยลองใช้ล้างเมกอัพ แล้วทดสอบความสะอาดด้วย Cleansing Lotion ปรากฏว่าแทบไม่หลงเหลือคราบเมกอัพเลยค่ะ ปุ้ยว่าผลิตภัณฑ์นี้เหมาะกับสาวๆ ที่ทาผิวกายด้วยโลชั่นกันแดดที่มีส่วนผสมของเมกอัพที่ทำให้ผิวขาว มันจะช่วยให้ล้างออกได้สะอาด ผิวก็จะไม่สะสมสารตกค้างที่จะส่งผลต่อปัญหาผิวในอนาคตค่ะ รวมถึงคนที่ต้องการลดขั้นตอนการล้างหน้าและอาบน้ำเป็นขั้นตอนเดียวเลย ** สำหรับสาวๆ ที่ใช้เมกอัพแบบกันน้ำ ควรเพิ่มการทำความสะอาดด้วย Cleansing Lotion หรือ Cleansing Oil ก่อนนะคะ** ความชุ่มชื้น ไม่แห้งตึง (Moisture): 9/10 — ผลิตภัณฑ์ให้ความชุ่มชื้นในระดับที่ค่อนข้างมากเลย หลังจากอาบน้ำเสร็จ ผิวจะนุ่มลื่น จากที่ปกติปุ้ยต้องทาครีมหลังอาบน้ำทุกครั้งเพราะผิวแห้ง แต่พอใช้ผลิตภัณฑ์นี้แล้ว บางทีก็ลืมทาครีมหลังอาบน้ำไปเลย ฟื้นบำรุง (Repair): 8/10 — ผิวนุ่ม ลื่น ไม่แห้งเพราะมีคอนลาเจนและไฮยาลูลอน ความคุ้มค่ากับราคา (Reasonable Price): 8/10 — ราคาดูจากค่าตัวแล้วถือว่าราคาค่อนข้างแรงเลย สำหรับเจลอาบน้ำ แต่ถ้าเทียบคุณสมบัติแล้วก็สู้กับเคาน์เตอร์แบรนด์ได้สบายๆ ราคานี้ก็มีเหตุมีผลค่ะ คะแนนรวม (Total Point): 8.7/10 เท็นจูเซ แชมพู แอนด์ ทรีทเม้นท์ Tenjusei Shampoo & Treatment ส่วนผสมสำคัญ Collagen | Keratin | Orange Oil แชมพู และทรีทเม้นท์ในขวดเดียว ทําความสะอาดพร้อมบํารุง เส้นผมและหนังศีรษะให้สุขภาพดี จากภายใน ช่วยขจัดสารพิษ  ขนาด 300 มล. ราคาปกติ 2,400 บาท ราคาสมาชิก 1,920 บาท ส่วนประกอบ: Water, Tea-Cocoyl Glutamate, Glycerin, Cocamide DEA, Propanediol, Sodium Cocoyl Methyl Beta-Alanine, Potassium Cocoyl Hydorlyzed Collagen. Sodium Dilauramidoglutamide Lysine, Betaine, Hydroxypropyltrimonium Hydrolyzed Keratin, Humus Extract, Hibiscus Rosa-Sinensis Leaf Extract, Citrus Aurantium DuIcis (Orange) Oil, Caprylyl Glycol, Polyquaternium-10, Polyglyceryl-10 Laurate, Polyglycery-2 Laurate, Glycerly Caprate, Xanthan Gum, Lecithin, Inositol, Cocos Nucifera (Coconut) Oil, Eriobotrya Japonica Leaf Extract, Acetyl Tetrapeptide-3, Trifolium Pratense (Clover) Flower Extract, Dextran, Malus Domeslica Fruit Cell Culture Extract, Hematin, Cnidium Officinale Rhizome Extract, Cholesterol, Quaternium-33,  Ceramide 1, Ceramide 2, Ceramide 3, Ceramide 5, Ceramide 6 II, Laminaria Ochotensis Extract, Hydrolyzed Elastin, Vanilla Pianifolia Fruit OiI, Butylene Glycol รีวิวการใช้งานจากประสบการณ์ที่ทดลองใช้ 3 สัปดาห์ บรรจุภัณฑ์ (Package): 9/10 — บรรจุภัณฑ์คล้ายกันกับเจลอาบน้ำค่ะ อยู่ในขวดพลาสติกเนื้อหนาดีมาก สีเขียวเข้มกึ่งโปร่งแสง ช่วยให้เห็นว่าใช้ไปเท่าไหร่แล้ว มีหัวปั้มให้ใช้งานสะดวก กลิ่น (Scent): 10/10 — กลิ่นหอมอ่อนๆ ได้กลิ่นสดชื่นของน้ำมันสกัดจากส้มนิดๆ กลิ่นแบบนี้ปุ้ยชอบมาก มีความสุขเวลาใช้ค่ะ ฟอง (Bubble): 7/10 — ฟองไม่เยอะค่ะ เนื้อแชมพูเป็นเจลลื่นๆ ฟองบางๆ ปริมาณที่ใช้ต่อครั้ง (Amount) : 8/10 — 2 หัวปั้มสำหรับผมยาวค่ะ สระรอบเดียวก็สะอาด ผมนุ่มลื่นเลย การใช้งานง่าย (Application): 9/10 — เนื้อแชมพูลื่น ใช้ง่าย ขยี้นิดหน่อยก็ทั่วหนังศรีษะ ไม่เหนียวไม่หนืด แม้ฟองจะน้อย แต่ก็ขยี้ให้เกิดฟองง่ายค่ะ ล้างออกง่าย (Wash off): 10/10 — ล้างออกง่ายมาก เนื่องจากเป็นเนื้อเจลลื่น จึงล้างง่ายแล้วก็รู้สึกสะอาด (ไม่รู้สึกว่าลื่นแบบล้างยังไงก็ไม่สะอาด) ทำให้ใช้เวลาสระผมน้อยลงมาก ความสะอาด (Clean): 10/10 — หนังศรีษะและเส้นผมสะอาดมาก ถ้าจัดแต่งทรงผมด้วยเจลหรือผลิตภัณฑ์แต่งผม ก็จะล้างออกได้หมดค่ะ ความชุ่มชื้น ไม่แห้งตึง (Moisture): 8/10 — ผลิตภัณฑ์ให้ความชุ่มชื้นในระดับที่ค่อนข้างมาก เส้นผมจะลื่น นุ่ม สามารถหวีได้ไม่พันกัน ฟื้นบำรุง (Repair): 8/10 — รู้สึกหลังจากใช้ครั้งแรกเลยว่า เส้นผมลื่นขึ้น นุ่มขึ้น เงาแล้วก็มีวอลุ่มขึ้น ตั้งแต่โคนผมจนถึงปลาย ส่วนตรงปลายมปุ้ยมีปัญหาแห้งมากเพราะเคยทำดัดน้อมมาก่อน ตรงปลายผมที่มีปัญหามากๆ แชมพูจะช่วยได้ไม่มากนัก ส่วนช่วงโคนผมถึงปลายตรงที่ไม่มีปัญหา ผมก็นุ่มลื่นดีมาก ชอบเลยค่ะ ใช้แล้วผิว/ผมไม่มัน (Oil-Control): 9/10 — ปกติปุ้ยเป็นคนสระผมสัปดาห์ละครั้ง (ไม่ใช่สกปรกนะคะ แต่เป็นคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านผมค่ะ) เพราะถ้าผมสุขภาพดี บำรุงดี หนังศรีษะจะไม่มันไม่คันค่ะ สำหรับแชมพูนี้ ก็ประมาณ 5-6 วันก็เริ่มรู้สึกว่าโคนผมมันละ ต้องสระละ **แนะนำให้ใช้น้ำธรรมดาสระผม หลีกเลี้ยงน้ำอุ่นค่ะและไม่ควรสระผมตอนกลางคืน เพราะผมจะชื้นทำให้เกิดปัญหาหนังศรีษะและผมบาง ผมร่วงเนื่องจากเชื้อราทำลายรากผมนั่นเองค่ะ** ความคุ้มค่ากับราคา (Reasonable Price): 7/10 —  ถ้าเทียบคุณสมบัติกับราคาค่าตัวแล้วถือว่าค่อนข้างสมเหตุสมผลอยู่ค่ะ แต่ว่าแชมพูขวดเล็กกว่าเจลอาบน้ำอยู่นิดนึงค่ะ ถ้าผมยาวก็ต้องใช้เยอะด้วยจะหมดเร็วกว่าค่ะ แต่ถ้าไม่ได้สระผมทุกวัน ขวดนึงก็น่าจะใช้ได้ประมาณ 2-3 เดือนเช่นกันค่ะ คะแนนรวม (Total Point): 8.64/10 เท็นจูเซ แฮร์ แคร์ โลชั่น Tenjusei Hair Care Lotion ส่วนผสมสำคัญ Argan Oil | Tsubaki | Ceramide 1, 2, 3, 5, 6 โลชั่นเข้มข้นในรูปแบบสเปรย์ บํารุงล้ำลึกและปกป้องเส้นผมจากความร้อนและรังสียูวี ขนาด 120 มล. ราคาปกติ 2,400 บาท ราคาสมาชิก 1,920 บาท ส่วนประกอบ: Cyclopentasiloxane, Ethylhexyl Palmitate, Dimethicone, Camellia Japonica Seed Oil, Diethylamino Hydroxybenzoyl Hexyl Benzoate, Ethylhexyl Methoxycinnamate, Argania Spinosa Kernel Oil, Retinyl PaImitate, Tocopherol, Butyrospermum Parkii (Shea) Butter, Glucosyl Ceramide, Oryza Sativa (Rice) Bran Oil, Cyclodextrin, Hydrogenated Lecithin, Glycine Soja (Soybean) Oil, Ceramide 1, Ceramide 2, Ceramide 3, Ceramide 5, Ceramide 6 II รีวิวการใช้งานจากประสบการณ์ที่ทดลองใช้ 3 สัปดาห์ บรรจุภัณฑ์ (Package): 9/10 — บรรจุภัณฑ์เป็นขวดพลาสติกหนาๆ สีดำกึ่งโปร่งแสง มีหัวสเปรย์แบบก้านฉีด แข็งแรง กดฉีดง่าย และมีที่ล็อคป้องกันการกดโดยไม่ตั้งใจด้วย (กรณีพกพาไปนอกสถานที่) กลิ่น (Scent): 8/10 — ปุ้ยไม่ได้กลิ่นของผลิตภัณฑ์เลยค่ะ คิดว่าไม่มีกลิ่น แต่แปลกมาที่มีส่วนผสมของน้ำมัน แต่ไม่มีกลิ่นเลยค่ะ ปริมาณที่ใช้ต่อครั้ง (Amount) : 9/10 — คนผมยาวใช้แค่ 3-4 สเปรย์ต่อครั้งเฉพาะบริเวณปลายผมค่ะ การใช้งานง่าย (Application): 8/10 — วิธีใช้แนะนำให้รวมผมทั้งหมดมาด้านหน้าแล้วก้มศรีษะลง จากนั้นสเปรย์ลงไป 3-4 ทีบริเวณปลายผมค่ะ เพราะถ้้าสเปรย์ลงที่ปลายผมโดยตรง จะโดนปลายผมน้อย ส่วนใหญ่จะหล่นลงไปที่พื้น หรืออีกวิธีคือ สเปรย์ลงที่ฝ่ามือ แล้วค่อยนำไปลูบลงบนเส้นผมอีกที ล้างออกง่าย (Wash off): 9/10 — ล้างออกง่ายแค่แชมพูค่ะ  จริงๆ แล้วตัวแฮร์โลชั่นจะซึมเข้าบำรุงเส้นผม ไม่ค่อยเหลือให้เป็นภาระตอนสระเท่าไหร่ นอกเสียจากว่าใช้ในปริมาณที่มากเกินไปค่ะ ความชุ่มชื้น (Moisture): 10/10 — ผลิตภัณฑ์ให้ความชุ่มชื้นกับเส้นผมมากๆ จากปลายผมที่แห้งกรอบ พอใช้แฮร์โลชั่นตัวนี้ ฉีดลงไป นวดๆ ปล่อยให้ซึมซักพัก ผมก็ชุ่มชื้นขึ้นเลยค่ะ นอกจากนั้นแล้วยังมีส่วนผสมที่ช่วยปกป้องเส้นผมจากความร้อนและแสงยูวีด้วยค่ะ ฟื้นบำรุง (Repair): 7/10 — อาจจะใช้เวลานานหน่อย แต่ถ้าใช้ทุกวันเช้า-เย็น ประมาณ 3 สัปดาห์สภาพผมจะดีขึ้นค่ะ ใช้แล้วผิว/ผมไม่มัน (Oil-Control): 8/10 — ถ้าใช้ในปริมาณที่ไม่มากเกินไป ผมก็จะไม่มันค่ะ แม้ว่าเนื้อของแฮร์โลชั่นจะมีน้ำมันเป็นส่วนผสมแต่ว่าก็จะซึมเข้าสู่เส้นผมไปในที่สุดค่ะ ความคุ้มค่ากับราคา (Reasonable Price): 8/10 — ถ้าดูจากราคาแล้วเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างมาก แต่หากเทียบคุณสมบัติกับราคาค่าตัวแล้วถือว่าค่อนข้างสมเหตุสมผลค่ะ คะแนนรวม (Total Point): 8.44/10 รีวิวกันพอหอมปากหอมคอนะคะ โดยสรุปแล้ว ผลิตภัณฑ์ทั้ง 3 ตัวในเท็นจูเซ ซีรีย์ ถือว่าใช้งานได้ดีและมีคุณภาพมากค่ะ หวังว่าใครที่หลงใหลผลิตภัณฑ์ญี่ปุ่น หรือกำลังมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ เพื่อสุขภาพความงามที่ใช้แล้วมีความสุข ก็น่าจะหาโอกาสลองผลิตภัณฑ์ในเท็นจูเซ ซีีรีย์นี้ดูนะคะ วันนี้ปุ้ยต้องไปก่อนแล้ว พบกันในบล็อกหน้าค่าาาา เท็นจูเซ เฟซ วอช แอนด์ บอด้ี โซพ Tenjusei Face Wash & Body Soap  400 มล. ราคาปกติ 2,400 บาท ราคาสมาชิก 1,920 บาท เท็นจูเซ แชมพู แอนด์ ทรีทเม้นท์ Tenjusei Shampoo & Treatment 300 มล. ราคาปกติ 2,400 บาท ราคาสมาชิก 1,920 บาท เท็นจูเซ แฮร์ แคร์ โลชั่น Tenjusei Hair Care Lotion 120 มล. ราคาปกติ 2,400 บาท ราคาสมาชิก 1,920 บาท สมัครสมาชิกฟรี แถมประสบการณ์การใช้ผลิตภัณฑ์ดีๆ อีกด้วยนะคะ ศึกษาข้อมูลและเงื่อนไขเพิ่มเติมที่ www.aizenconnect.com www.facebook.com/aizenconnect

ติดตาม Mini-Review อื่นๆ และ Lifestyle ของปุ้ยได้ ที่ Facebook page: www.facebook.com/likePuYisme
Instagram: @puyisme

สวัสดีค่ะสาวๆ วันนี้จะมาเล่าถึงผลิตภัณฑ์ที่ได้ลองใช้มาเมื่อไม่นานมานี้ เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ PURE BEAUTY ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มีผลิตจากประเทศเกาหลี และวางจำหน่ายเฉพาะในวัตสันค่ะ ในกลุ่มผลิตภัณฑ์หรือในเซ็ทของ Youth Restore Lift & Nourish (เพียว บิวตี้ ยูธ รีสโตร์ ลิฟท์ & นอริช)ซึ่งจุดเด่นของเซ็ทนี้ จะเน้นในเรื่องการฟื้นความมีชีวิตชีวาให้แก่ผิว ชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัย และคืนความกระจ่างใส ให้ผิวเปล่งปลั่ง แลดูสุขภาพดี ที่ปุ้ยได้ลองใช้มีทั้งหมด 4 ชิ้น คือ เฟิร์มมิ่ง เอสเซ้นส์ 30 มล.เอสเซ้นส์ เนื้อบางเบา ขั้นตอนแรกในการบำรุงผิว ปรับสภาพผิวเพื่อรับสารบำรุงแก่ผิวได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ รีแพร์ ไนท์ ครีม 50 มล.สำหรับกลางคืนเนื้อเข้มข้น ช่วยฟื้นบำรุงผิวในยามค่ำคืน เฟิร์มมิ่ง อาย ครีม 15 มล.สำหรับผิวรอบดวงตาสูตรเข้มข้น ช่วยลดเลือนรอยคล้ำรอบดวงตา มอยซ์เจอร์ เดย์ ครีม เอสพีเอฟ 20 50 มล.โลชั่นสำหรับกลางวัน เนื้อบางเบา พร้อมปกป้องผิวจากรังสียูวีด้วยค่าเอสพีเอฟ 20 ส่วนประกอบสำคัญ ลิฟโทนิน คอมเพล็กซ์ (Liftonin™ Complex) เพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ผิว พร้อมลดเลือนริ้วรอย ล็อคความชุ่มชื้นให้แก่ผิวด้วยสารสกัดธรรมชาติ ทรงคุณค่าจากโสมเกาหลีแดงสกัด (Red Ginseng Peptide) กรีนคาร์เวียร์ (Green Carviar)และ บลู โลตัส (Blue Lotus) ผ่านการรับรองแล้วว่า มีส่วนผสมจากสารสกัดแบบออร์แกนิค (Contains Certified Organic Ingredients) ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระอย่างล้ำลึก ที่สำคัญคือ ปราศจากสารกันเสียชนิดพาราเบน ปราศจากไขมันลาโนลิน และปราศจากแอลกอฮอลล์ค่ะ สำหรับบล็อกนี้ปุ้ยเลือกรีวิว เพียว บิวตี้ ยูธ รีสโตร์ ลิฟท์ & นอริช มอยซ์เจอร์ เดย์ ครีม เอสพีเอฟ 20 (Pure Beauty Youth Restore Lift & Nourish Moisture Day Cream SPF20)เพราะปุ้ยชอบผลิตภัณฑ์ตัวนี้มากๆ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังว่าประทับใจเค้าตรงไหนค่ะ เรามาดูรีวิวกันเลยค่ะ (ใช้หลักเกณฑ์+ประสบการณ์ส่วนตัวในการรีวิวและให้คะแนนค่ะ) ______ ลักษณะภายนอก (Appearance) ______ บรรจุภัณฑ์ (Package): 7/10 || บรรจุภัณฑ์เป็นขวดพลาสติกสีทอง หัวปั้มง่าย และมีฝาครอบปิดให้อีกชั้น กลิ่น (Scent): 7/10 || กลิ่นโสมเกาหลีแบบอ่อนๆ ค่ะ ไม่ฉุนมากนัก ______ การใช้งาน (Application) ___________ เนื้อโลชั่นบางเบา (Light Texture): 9/10 || เนื้อของผลิตภัณฑ์มีความบางเบา แต่ให้เทคเจอร์ที่นุ่มฟู ชอบจุดนี้ของเค้ามากเลยค่ะ หลังจากที่ลองใช้ รู้สึกผิวนุ่มขึ้นทันที ราวกับว่าผิวได้รับการเติมเต็มให้เรียบเนียนด้วยคะ และที่สำคัญ หลังจากที่ใช้ไปสักพัก รู้สึกว่าผิวดูเปล่งประกายขึ้นด้วย อารมณ์แบบผิวของสาวเกาหลีเลยอะ เนื้อโลชั่นเกลี่ยง่าย (Smooth Applying): 9/10 || โลชั่นเนื้อลื่น บางเบา แต่แต้มลงบนผิวแล้วไม่ไหลเยิ้ม เพราะเนื้อโลชั่นมีวอลุ่มและมีความยืดหยุ่นพอสมควร ที่สำคัญลื่น เบา เกลี่ยง่าย ได้ใจสุดๆ ทำให้ลดเวลาในขั้นตอนนี้ได้เยอะเลย แค่แต้ม 5 จุด แล้วใช้ฝ่ามือลูบให้ทั่วหน้า ไวมากๆ การซึมเข้าสู่ผิว (Fast Absorption): 9/10 || การซึมเข้าผิวเร็วมากค่ะ ประมาณ 1 นาทีก็เมกอัพหรือทาแป้งได้เลย ใช้แล้วไม่เหนียวเหนอะหนะ (non-Sticky) 9/10 || ผิวชุ่มชื้น แต่ไม่รู้สึกเหนอะเลย ชอบจริงๆ ค่ะ ใช้แล้วผิวไม่มัน (Anti-Oily Skin): 8/10 || ไม่ทำให้ผิวมันเพิ่ม ในกรณีที่ใช้ในปริมาณที่พอเหมาะค่ะ ไม่ทิ้งคราบขาว (Stainless): 10/10 || สามารถซึมเข้าผิวและไม่ทิ้งคราบขาวใดๆ บนผิวค่ะ ความคุ้มค่ากับราคา (Reasonable Price): 8/10 || ขนาด 50 มล. ราคา 450 บาท ถ้าเทียบคุณสมบัติกับราคาค่าตัวแล้วถือว่าค่อนข้างสมเหตุสมผลและคุ้มค่ามาก เพราะได้ทั้งการบำรุงฟื้นฟู ให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น ผิวดูกระจ่างใส แล้วยังช่วยป้องกันแสงแดด ด้วย SPF 20 ที่กำลังดี ปกป้องผิวจากรังสียูวีเอและยูวีบีค่ะ คะแนนรวม: 8.44/10 สรุปแล้ว ความรู้สึกของปุ้ย กับเพียว บิวตี้ ยูธ รีสโตร์ ลิฟท์ & นอริช มอยซ์เจอร์ เดย์ ครีม เอสพีเอฟ 20  ปุ้ยประทับใจพอสมควรเลยค่ะ จากประสบการณ์ที่ทดลองผลิตภัณฑ์กันแดดมาก็มาก บอกเลยว่าผลิตภัณฑ์เดย์ครีมผสมกันแดดตัวนี้ มีคาแร็กเตอร์ที่เด่นชัดในเรื่องการให้ความชุ่มชื้นกับผิว เติมเติมให้ผิวนุ่ม ฟูขึ้น รู้สึกสบายผิว และไม่รู้สึกเหนียวเหนอะหนะเลยค่ะ แนะนำสำหรับใครที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์ที่ให้ทั้งการบำรุง ฟื้นฟูผิว ลดเลือนริ้วรอย ผิวสุขภาพดีและยังช่วยปกป้องแสงแดดในตัวอีกด้วย ถ้าได้ลองใช้ผลิตภัณฑ์นี้ต้องชอบแน่ๆ ค่ะ วันนี้ต้องจบบล็อกแต่เพียงเท่านี้ พบกันบล็อกหน้า บั้ยบายค่าาาา ติดตาม Mini-Review อื่นๆ และ Lifestyle ของปุ้ยได้ ที่ Facebook page: www.facebook.com/likePuYisme Instagram: @puyisme ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่สนใจค่ะ ข้อมูลแบรนด์ Pure Beauty Pure Beauty Youth Restore Lift & Nourish Firming Essence 30ml. 450 Baht Pure Beauty Youth Restore Lift & Nourish Repair Night Cream 50ml. 550 Baht Pure Beauty Youth Restore Lift & Nourish Firming Eye Cream 15ml. 450 Baht Pure Beauty Youth Restore Lift & Nourish Moisture Day Cream SPF20 50ml. 450 Baht