It's not easy to be me
Group Blog
 
All blogs
 
กลกาล YURI ญรญ โดยผิงดาว บทที่ ๘/๑

บทที่ ๘

หลังจากที่ได้เตรียมซื้อเสบียงจนเสร็จเรียบร้อยทั้งสามคน มุ่งหน้าเดินเท้าขึ้นไปตามทางเดินบนไหล่เขาดูเหมือนคนที่ออกอาการจะเป็นอัปสรคนเดียวเท่านั้น

“เหนื่อยแล้วเหรอจิ๊ด”ทาฬิดาหันไปถามด้วยความเป็นห่วง

“เกือบตายแล้วพี่หายใจไม่ทัน”

“พักก่อนดีไหม”

“ทนอีกนิดได้ไหมคะด้านหน้ามีที่พักคนเดินทาง”

มารีชี้ไปข้างหน้าทั้งสองคนที่เหลือไม่เห็นว่าจะมีที่พักอะไรตรงไหน ในเมื่อเจ้าถิ่นบอกอย่างนั้นพวกเธอคงต้องเชื่อสินะ

อัปสรแข็งใจกัดฟันเดินต่อไปอีกเรื่อยๆลับเหลี่ยมเขาเลี้ยวซ้ายไปนิดหนึ่ง พวกเธอเห็นศาลาที่พักอยู่ไม่ไกลนักบริเวณนั้นมีที่ราบพอให้สร้างที่พักได้ เมื่อเห็นอย่างนั้นอัปสรมีแรงเดินเพิ่มขึ้นเธอหวังว่าจะได้นั่งพัก ให้หายเหนื่อยแล้วจึงค่อนเดินทางต่อ

ที่พักบริเวณนี้เป็นของเผ่าทาคานาคามาทำเอาไว้ให้ผู้ที่เดินทางแวะเข้ามาพักมีร้านขายของกินอยู่เพียงร้านเดียว ไม่มีอะไรนอกจากเมนูซึ่งทำมาจากมันฝรั่งหากไม่มีคนสั่ง เจ้าของร้านจะไม่นำมันฝรั่งของเขามาทำจึงทำให้พวกของทาฬิดาต้องนั่งรออาหารที่พวกเธอเพิ่งจะสั่งไปเมื่อหลายนาทีก่อน

“มันทอดน่าอร่อยเนอะ”อัปสรว่า เมื่อมันทอดถูกนำมาวางตรงหน้าพวกเธอ พร้อมกับน้ำชาคนละแก้ว

“หิวแล้วล่ะสิ”ทาฬิดาถามเด็กน้อยของเธอ

“หิวจนจะเป็นลมเลยพี่หิวหายใจไม่ออก”

“บนนี้คงสูงน่ะก็เลยทำให้หายใจไม่สะดวก ค่อยๆ กินนะ เดี๋ยวจะจุกไปอีก”

จากการเอาใจใส่กันและกันของสองคนทำให้มารีต้องเอ่ยถาม

“พวกคุณเป็นพี่น้องกันหรือคะ”

“เปล่าค่ะจิ๊ดเป็นหลานของคุณนาลันทาค่ะ”

ทาฬิดาเป็นฝ่ายตอบอัปสรคงปากไม่ว่างพอที่จะพูดอะไรได้ก่อนหน้าคำถามนี้อัปสรหยิบมันทอดเข้าปากไปหลายชิ้น

“ทำไมหรือคะ”

“คุณดูห่วงน้องเหมือนเป็นน้องของคุณ”

“เราคนไทยค่ะมีน้ำใจให้แก่กันไม่ผิดอะไร”

“ค่ะฉันพอจะรู้ ที่หมู่บ้านของฉันมีหมอคนไทยอยู่หนึ่งคนเธอมาอยู่ที่นี่ทุกครั้งที่เธอว่าง”

“เหรอคะแล้วตอนนี้เธออยู่หรือเปล่าคะ”

“อยู่ค่ะมากับลูกของเธอ เพิ่งจะมาก่อนหน้าคุณสักสามวัน”

“ดีจังจะได้เจอคนไทยด้วย ว่าแต่คุณหมอมาทำอะไรที่นี่หรือคะ”

“เธอเป็นหมออาสาค่ะจะมาช่วยฉีดยา รักษาโรคให้กับพวกเรา”

“ใจดีจัง”

“ค่ะเธอใจดีมาก ครั้งนี้เธอมากับเพื่อนหมออีกสองคนค่ะ”

“แสดงว่าตอนนี้ที่หมู่บ้านของคุณมีคนไทยอยู่สี่คนหรือคะ”

“คะสี่คน หมอสามคน เด็กอีกหนึ่ง”

“งี้เราก็มีเพื่อนเล่นแล้วสิจิ๊ด”ทาฬิดาหันไปมองหน้าอัปสร

“จิ๊ดไม่เล่นกับเด็กหรอกน่าจิ๊ดโตแล้ว” อัปสรตอบโดยไม่ต้องคิด

เจ้าของร้านนำอาหารที่สั่งมาวางเอาไว้อีกสองอย่างทำให้การสนทนาของทุกคนต้องจบลงไปโดยปริยาย ครั้งแรกคิดว่าไม่หิวทำไมไม่รู้เมื่อเห็นของกินวางอยู่ตรงหน้า ท้องกลับร้องขึ้นมาเสียงดัง

หมู่บ้านทาคานาคาเห็นอยู่ไม่ไกลนัก ตัวบ้านทำจากหิน ส่วนหลังคานั้นมุงด้วยใบหญ้า น่าจะเป็นหญ้าอะไรสักอย่างทาฬิดาไม่สามารถเดาได้ ลักษณะคล้ายๆ กับหญ้าคาของเมืองไทยแต่ไม่ได้มัดเป็นตับเหมือนที่เมืองไทยนิยมทำกัน หลังคาบ้านพวกนั้นเหมือนโดนใบหญ้าเป็นมัดๆนำมาถมๆ ทับๆ กันฝน

อัปสรดีใจเป็นที่สุดที่พวกเธอเดินทางมาถึงสักทีใกล้จะค่ำแล้ว หากต้องเดินทางมืดๆ พวกเธอคงลำบากเพราะไม่ชินเส้นทาง

มารีพาทั้งสองคนมาถึงบ้านพักและให้ทั้งสองนั่งพักอยู่ในนั้น อัปสรรีบเข้าไปจองเตียงทันที ยิ่งใกล้เวลากลางคืนอากาศที่นี่ยิ่งเย็นขึ้น ทุกขณะ

“ไม่ต้องเลยเดินมาเหงื่อท่วมไปอาบน้ำก่อน”

ทาฬิดาทำตัวเป็นผู้ปกครองอีกคนของอัปสร

“โอ๊ยอากาศเย็นจะตายไป ขืนให้จิ๊ดไปอาบน้ำมีหวังจิ๊ดแข็งตายดิพี่ทาม”

“ไม่รู้ล่ะถ้าเราไม่อาบ พี่ไม่ให้เรานอนเด็ดขาด แล้วอย่ามาทำอย่างตอนที่เราอยู่บ้านพักนะน้ำมีค่า ห้ามเอาไปสาดฝาผนังเด็ดขาด”

ทาฬิดารู้แกว

“ก็ได้ๆอาบก็ได้ ห้องน้ำอยู่ไหนล่ะ”

“ลองเดินๆดูสิ พี่ไม่รู้เหมือนกันลืมถาม”

ทาฬิดาลืมไปด้วยซ้ำเธอไม่ได้สอบถามจากมารีเรื่องห้องน้ำห้องท่า มัวแต่ดีใจที่ได้เข้าที่พักสักทีขาทั้งสองข้างของเธอแทบจะหลุดออกไป จากร่าง นานๆ ได้เดินไกลๆ อย่างนี้สักครั้ง เล่นเอาเธอปวดเมื่อยไปทั้งตัว

“คนเรานะแทนที่จะถามให้น้อง” อัปสรบ่นพร้อมกับหยิบเสื้อผ้าออกมาจากเป้ของเธอ ถึงทาฬิดาไม่บอกให้อาบเธอจะไปอาบอยู่แล้ว ที่บ่นเธอบ่นไปอย่างนั้นแหละขืนนอนทั้งอย่างนี้มีหวังเธอเป็นโรคผิวหนัง

ทาฬิดาเดินตามอัปสรออกไปจากบ้านพักในบ้านพักไม่มีห้องน้ำหรือห้องสุขา คงเหมือนกับบ้านพักหลังเก่าในตัวเมืองของพวกเธอ

“จะไปไหนกันหรือคะ”มารีถาม ในมือของเธอมีถาดอาหารที่กำลังจะเอามาให้กับสองสาว

“พวกเราอยากอาบน้ำค่ะ”ทาฬิดาบอก

“ต้องไปอาบที่โรงอาบน้ำค่ะทานกันก่อนดีไหมคะแล้วค่อยไป”

“กลัวจะหนาวสิคะ”

“เรามีน้ำพุร้อนค่ะไม่ต้องห่วง มาเถอะค่ะ ทานให้เสร็จก่อนจะดีกว่า จะได้เก็บกลับไปที่โรงครัว”มารีนำถาดอาหารเข้าไปวางในบ้าน

“จริงหรือคะพี่ดีจัง จิ๊ดจะได้ไม่ต้องกลัวหนาว มีอะไรกินบ้างคะ เห็นแล้วหิว”อัปสรรีบเดินตามเข้าไปทันที ไม่ต้องรอคำตอบจากทาฬิดาอีก

อาหารง่ายๆอร่อยขึ้นมาเพราะความหิว อัปสรไม่ได้สนใจอะไรนอกจากอาหารตรงหน้าส่วนทาฬิดาไม่ได้รีบเร่งในการกินของเธอมากนัก เธอค่อยๆ กินจนหมดแล้วจึงดื่มน้ำชาตาม

“กินเร็วอย่างนั้นเดี๋ยวก็จุกหรอกจิ๊ด”

“กินช้าพี่ก็แย่งของจิ๊ดสิ”

“พี่เคยทำหรือไงล่ะ”

“ไม่เคยหรอกแต่ไอ้รสเพื่อนจิ๊ดมันทำบ่อยอะพี่”

“พี่ไม่ใช่เพื่อนเราฉะนั้นเราค่อยๆ กิน ไม่ต้องรีบ”

“พูดเหมือนอากลางเลยสงสัยจะแก่”

“เราว่าอะไรนะเดี๋ยวเถอะมาหาว่าพี่แก่”

“หรือไม่จริงล่ะพี่ทามทำตัวแก่ยิ่งกว่าอามุจอีกอามุจไม่เคยบ่นอะไรจิ๊ดอย่างที่พี่ทามทำเลยนะขอบอก”

“ถ้าไม่อยากให้พี่บ่นเราต้องทำตัวดีๆ หน่อย”

“ก็ได้ๆทำตัวดีๆ” แม้ปากจะบอกว่าจะทำตัวดีๆ อัปสรยังคงรีบกินในส่วนของเธอต่อไป

“ห้องอาบน้ำอยู่อีกไกลไหมคะ”

“ไม่ไกลค่ะถ้าพวกคุณจะไปฉันจะพาไป”

“เพิ่งกินอิ่มๆอาบน้ำไม่ได้หรอกนะพี่ทาม” อัปสรว่า

“เราไปเดินเล่นกันก่อนดึกๆ ค่อยไปอาบดีไหมคะ” มารีเสนอ

“ดีเหมือนกันค่ะเออใช่ คุณหมอคนไทยพักที่ไหนคะ”

“พักอยู่อีกฝั่งของหมู่บ้านค่ะอยากพบหรือคะ”

“ค่ะทามอยากไปทักทาย เผื่อจะมีเพื่อน”

“ตามมาสิคะ”มารีเดินนำทั้งสองคนออกไปจากบ้านพัก ในมือของเธอถือถาดอาหารเปล่า ติดกลับออกไปด้วย

ระหว่างทางอัปสรเห็นผู้หญิงบางคนนั่งอยู่หน้าบ้านกำลังถักหมวกลักษณะเดียวกับที่เธอเห็นมารีสวมอยู่ แสงไฟจากหลอดไฟดวงเล็กๆสว่างไม่มากนัก เธอคิดว่ายังดีกว่าใช้ไฟจากตะเกียง

“ที่นี่มีไฟฟ้าใช้แต่ทำไมไม่เห็นสายไปล่ะคะ”

“ไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ค่ะ”

“อ๋อค่ะ”ทาฬิดาพยักหน้าเข้าใจ





Create Date : 09 กันยายน 2557
Last Update : 9 กันยายน 2557 20:30:44 น. 0 comments
Counter : 522 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

รันหณ์
Location :
ปทุมธานี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





ฉันคือฉัน
ฉันรักเสียงเพลง
ฉันรักสายลม
ฉันรักท้องฟ้า
ฉันรักอิสระ
ฉันคนไร้ราก
ผิงดาวยามไร้เดือน

คืนนี้ถ้าเธอหนาว ร่วมผิงดาวบนท้องฟ้า
จากรักจากศรัทธา....ของเรา

เป็นอะไรก็ได้มิใช่หรือ
แค่เป็นคนดีก็คงเีพียงพอ
[Add รันหณ์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.