กลกาล YURI ญรญ โดยผิงดาว บทที่ ๒๑
บทที่ ๒๑ ทาฬิดาสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะอัปสรมุดเข้ามาในเต็นท์ของเธออัปสรเห็นเธอกับมารีนอนกอดกันกลมอยู่ในถุงนอน จึงรีบมุดออกไป งานปักษ์ใต้เมืองเลยเราได้เจอะกันฝากสัมพันธ์รักแน่น อัปสรแหกปากร้องเพลงผิดๆถูกๆ ไปตามประสา งานปักษ์ใต้อะไรของตัวไปอยู่เมืองเลย เลยไม่ได้อยู่อีสานเหรอจิ๊ด พิมมาดาเอ่ยถามเพลงนี้เธอเคยได้ยินมาก่อน แต่เนื้อร้องไม่ใช่อย่างที่เธอได้ยินจากปากของอัปสร เออน่าเราอยากร้องอย่างนี้มีอะไรปะล่ะ หรือตัวจำเนื้อร้องได้ ตัวร้องเลยดิอัปสรโบ้ยให้อีกคนทันที ใครจะไปจำได้หมดเล่าเคยได้ยินพี่แม่บ้านเปิดวิทยุครั้งสองครั้งเท่านั้นแหละ พิมมาดาว่า เธอไม่ได้โกหกแค่เคยได้ยินเพลงนี้มาสองหรือสามครั้งเท่านั้น ตอนที่เธอเดินไปในห้องครัวเพื่อช่วยคุณยายปลอกผลไม้ เธอแทบฟังภาษาไม่ออกด้วยซ้ำไปว่านักร้องร้องเพลงอะไร เห็นปะล่ะฉะนั้นอย่ามาว่าเรา ถ้าเราจะร้องผิดๆ ถูกๆ เพราะเราร้องไม่เป็น แต่อยากร้องเฉยๆอัปสรแก้ตัวไปน้ำขุ่นๆ เธอแค่นึกไม่ออกเท่านั้นว่าจะร้องเพลงอะไรแซวทาฬิดากับมารีคิดถึงเพลงนี้ขึ้นมาจึงร้องเท่านั้น ภาพที่เธอเห็นสองคนกอดกันกลมอยู่ในเต็นท์ยิ่งกว่าคู่รักกันเสียอีก ถ้าไม่รู้มาก่อนว่าทั้งสองคนเพิ่งจะรู้จักกันเธอคงจะคิดไปว่าทั้งคู่เป็นคู่รักกันมานานแสนนาน คิดแล้วน่าอิจฉาจริงๆสักวันเธอจะต้องมีคนรักมานอนกอดยามอากาศหนาวๆ บ้าง ตอนนี้เธอคงต้องร้องเพลงต้องมีสักวันไปพลางๆ ก่อน ถามจริงๆเถอะร้องทำไมกัน ไม่เห็นเข้าท่าเลย พิมมาดา ส่ายหน้า อัปสรมักทำเรื่องประหลาดๆ ให้เธอเห็นบ่อยๆ จะร้องแซวพี่ทามเมื่อคืนคงฝากสัมพันธ์รักกับพี่มารีมาเยอะ ดูดิ ตาโหลเลยไม่มีทางเชื่อเด็ดขาดว่าจะนอนดูดาวกันทั้งคืน อัปสรบุ้ยปากไปทางทาฬิดาที่กำลังมุดออกมาจากเต็นท์พร้อมกับมารี ใครว่าล่ะหนาวจนนอนไม่หลับต่างหาก ต้องนอนซุกกันสองคน หนาวจะตายอยู่แล้ว อ้าวแล้วทำไมพี่ทามไม่กลับไปนอนในบ้านพักล่ะคะ มานอนหนาวอยาแถวนี้ทำไมกัน เรื่องของพี่เราอย่าถามมากเรื่องนักเลย ไปล้างหน้าก่อนดีกว่า อยากดื่มอะไรอุ่นๆ รองท้องจะแย่ นอนหิวกันทั้งคืนเลยเหรอพี่ ก็ใช่น่ะสิยะหล่อนทาฬิดาเขกไปที่ศีรษะของอัปสรโป๊กใหญ่ ก่อนที่จะเดินไปเข้าห้องน้ำ พร้อมกับมารี แปลกคนทนกันอยู่ทำไม หนาวก็กลับไปนอนในบ้าน หิวก็เดินไปโรงครัวได้นี่นาไม่มีใครห้ามเอาไว้สักหน่อย ตัวว่าปะลูกหนู พวกพี่ๆ ชอบทำอะไรประหลาดๆไม่เข้าใจเลยจริงๆ อัปสรพูดไปพร้อมกับเอามือจับบนศีรษะของตนเองไปด้วยโชคดีที่เธอฉลาด สวมหมวกเอาไว้ ไม่อย่างนั้นคนเจ็บกว่านี้แน่นอน ไม่ว่าล่ะพวกพี่ๆ ต้องมีอะไรสักอย่างที่ไม่บอกเด็กๆ อย่างเรา เฝ้าสมบัติแน่ๆเลย อัปสรคิดได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้นในเวลานี้ คืนนี้ถ้าพวกพี่ๆมานอนเต็นท์อีก พวกเราแอบย่องมาดูดีไหม อัปสรนึกเรื่องสนุกของเธอขึ้นมาได้ จะดีเหรอจิ๊ดพิมมาดากึ่งกล้ากึ่งกลัว อย่าบอกพวกคุณอาดิเรามาเดี๋ยวเดียวเราก็กลับ คงไม่มีอะไรหรอกน่า นะๆ มากับเรานะลูกหนู ก็ได้ๆไปปลุกเราด้วยก็แล้วกัน ได้ๆสัญญานะ อัปสรยกนิ้วก้อยยื่นให้กับพิมมาดา เป็นอันตกลงทำสัญญาเกี่ยวก้อยกัน สองคนนั่นต้องคิดทำอะไรกันอีกแน่ๆเลยมุจ นาลันทาเห็นท่าทางของอัปสรและพิมมาดาจึงเอ่ยกับคนรัก ปล่อยไปเถอะเด็กๆ จะมีอะไรนอกจากเล่นซนๆ ที่นี่ก็แปลกนะ จะสิบโมงแล้วแดดยังไม่ออกเลย เขาลูกนั้นสูงมากก็อย่างนี้แหละค่ะ กว่าจะโผล่พ้นยอดเขา คงเกือบสิบเอ็ดโมงนาลันทาชี้ไปที่ยอดเขาทาคา บนยอดนั้นสูงจนเกือบจะเสียดเมฆไม่แปลกอะไรที่พื้นดินด้านล่างจะไม่มีแสงแดดส่องผ่าน อย่าว่าแต่แสงแดดเลยเมฆบางก้อนยังปะทะกับยอดเขานั้นด้วยซ้ำ ถ้าไม่รู้ว่าเป็นเปรูมุจคงจินตนาการไปว่าที่นี่เป็นซัมบาลลาเลยนะคุณ ดูสิ เทือกเขาทอดยาวสุดลูกหูลูกตามองแทบไม่เห็นขอบฟ้า มุจลินทร์ชี้ให้นาลันทาดูเทือกเขาแห่งนี้เทือกเขาสูงลิบบนยอดเขายังมีหิมะปกคลุม แม้ฤดูนี้จะเป็นฤดูร้อน หิมะยังละลายไม่หมดและหิมะนี่แหละที่เป็นต้นกำเนิดลำน้ำสายเล็กๆ ที่กำลังไหลผ่านหมู่บ้านทาคานาลาหมู่บ้านในหุบเขาแห่งนี้ นั่นสิถ้าที่นี่มีตำนานเหมือนเทือกเขาคุนลุนตามจินตนาการของ เจมส์ฮิลตันคงน่าสนุกพิลึกเลยแหละ อย่าให้เหมือนเรื่องตำนานลึกลับใต้พิภพก็แล้วกันนั่นอะน่ากลัว มุจลินทร์คิดถึงภาพยนตร์ฝรั่งเรื่องหนึ่งเธอจำชื่อเรื่องได้ไม่แม่นยำนักเนื้อเรื่องนั้นพูดถึงโลกอีกโลกหนึ่งซึ่งอยู่ซ้อนกับโลกปัจจุบัน ลึกลงไป ใต้พิภพพระเอกบังเอิญร่วงลงไปในช่องเขาพร้อมกับพรรคพวกอีกสองหรือสามคน จากนั้นเขาต้องผจญภัยอยู่ในดินแดนแห่งนั้นซึ่งมีสัตว์หายสาบสูญไปจากพื้นโลกลงไปอาศัยอยู่ในดินแดนนั้นจำนวนมากเช่นสัตว์ยุคไดโนเสาครองโลก สุดท้ายเมื่อต้องผจญชะตากรรมเขาได้เพชรเม็ดเป้งกลับออกมาจากดินแดนนั้น กลายเป็นมหาเศรษฐีร่ำรวยไม่น่าเชื่อถ้าให้เธอต้องเข้าไปเสี่ยงอย่างกับพระเอกในหนังเรื่องนั้น แล้วกลับขึ้นมารวยเธอขอนั่งๆ เดินๆ ยืนๆ อยู่บนโลกนี้ดีกว่า แค่คิดยังรู้สึกปวดกระดูกขึ้นมาทันใด อะไรน่ากลัวคะอามุจ จู่ๆอัปสรโผล่ขึ้นมาทำเอามุจลินทร์อกสั่นขวัญหาย ไอ้บ้าจิ๊ดมาไม่บอกไม่กล่าว มุจลินทร์ดุ ใครว่าล่ะจิ๊ดเดินมายืนตั้งนานแล้ว อาสองคนไม่หันหลังมาดูจิ๊ดเองต่างหาก มาโทษกันอีกแล้วนะว่าแต่หนังเรื่องอะไรเหรออามุจ จิ๊ดจะได้กลับไปดูบ้าง ไม่รู้จำไม่ได้ไปถามอากลางของเราโน่น อาไม่เคยจำชื่อหนัง อ้าวตกลงซัมบาลลามีจริงหรือเปล่าล่ะคะ อัปสรเกาศีรษะพูดอยู่เมื่อสักครู่ไหงลืมได้ง่ายๆ ไม่รู้ คนแก่นี่นะ ความจำเสื่อมง่ายเหลือเกิน ซัมบาลลาอาจจะมีจริงหรือไม่มีก็ได้เป็นเพียงชื่อเมืองในตำนาน เท่านั้น ตำนานของชาวอาการ์ทาซึ่งอาศัยอยู่ใต้โลกตามทฤษฎีโลกกลวงลวงโลกของไซรัสรีทีดเมื่อหลายสิบปีก่อน พอมีคนอ่านเรื่องพวกนั้นบางคนก็เชื่อ บางคนก็ไม่เชื่อ นักสร้างหนังก็เลยเอาไปทำเป็นหนังออกมาฉายคนชอบเรื่องลี้ลับก็เลยชอบดู แค่นี้แหละไม่มีอะไร โหอย่างนี้น่าสนใจแฮะอากลาง อัปสรชักรู้สึกอยากดูขึ้นมาจับใจเรื่องสนุกๆ ลุ้นๆ ระทึกไม่มีผีอย่างนี้ขอให้บอกเถอะ เธอจะไปตามล่าเอามาดูให้ได้ โกกนทและพวกหมอไม่ยอมปล่อยให้เวลาผ่านไปเฉยๆพวกเธอเข้าไปตรวจรักษาคนไข้ตั้งแต่เช้าจนถึงช่วงบ่ายของวันนั้น คนไข้ต่อคิว ทำการรักษาเริ่มบางตาลง จนเหลือคนสุดท้าย หลังจากที่ไม่มีคนไข้แล้วโกกนทจึงไปหาภัทรมลและศรรักซึ่งนั่งพักอยู่ที่เพิงชั่วคราวไม่ไกลจากเพิงของเธอมากนัก หิวหรือยังโกกนทเอ่ยถาม จ้องไปที่ใบหน้าของศรรัก แกอย่ามามองฉันอย่างนี้นะไอ้นทฉันไม่ใช่กระสือนะยะหล่อน จะได้ร้องหิวข้าวตลอดเว ฉันว่าอะไรแกหรือยังหือไอ้ศร แกไม่ได้พูดแต่แกมองหน้าฉันอย่างนั้น หรือแกจะเถียง พอเลยๆทั้งสองคน เถียงกันตั้งแต่สมัยเรียน ทำงานแต่งงาน จนจะมีลูกยังจะเถียงกันอยู่นั่นแหละ พี่ปวดหัว จะไปกินข้าวก็รีบๆ ไปซะ บ่ายนี้หัวหน้าเผ่าจะจัดงานต้อนรับพวกเราอย่างเป็นทางการจะได้เตรียมตัวไปกินข้าวก่อน เดี๋ยวจะกินไม่ลง ปีที่แล้วก็จัดต้อนรับปีนี้ยังจะจัดอีกหรือคะพี่บิว เขาบอกว่าต้องจัดต้อนรับ ไม่อย่างนั้นผีป่าจะรบกวนพวกเรา เขาจะช่วยปัดเป่าผีร้ายให้พี่ไม่อยากขัดใจ ก็เลยต้องยอม ยังจะเชื่ออะไรงมงายอยู่อีกเนอะโลกถึงยุคสองพันเข้าไปแล้ว จัดงานแต่ละทีไก่ตาย แกะตาย ยังไม่รวมถึงสัตว์อื่นๆอีกตั้งเยอะ แกทนให้พวกนั้นทำกับสัตว์ได้ยังไงวะ ฉันไม่เข้าใจจริงๆ หรือแกจะตายแทนไก่แทนแกะล่ะไอ้ศร ไอ้บ้านทแกแช่งฉันหรือไง ศรรักส่งเสียงแหลมสูงปี๊ดจนคนรับฟังแสบแก้วหู เปล้าฉันแค่ถามเฉยๆ โกกนทเสียงสูงตามไปด้วยอีกคนเป็นการล้อเลียน ไปๆพี่หิวข้าว ใครจะฆ่าจะแกงกันเชิญตามสบาย ไปก่อนนะ ภัทรมลรีบเดินปลีกตัวออกไปจากการถกเถียงกันของรุ่นน้องเธอว่าต่อให้เถียงกันไปอีกวันเต็มๆ คงหาคนชนะได้ยาก หากจะจัดโต้วาทีให้กับรุ่นน้องทั้งสองคน เธอว่าต้องมีข้อจำกัดให้สองข้อ ข้อแรกคือสรุปความตรงประเด็น ไม่เช่นนั้นทั้งสองจะหาข้ออ้างแถไปได้เรื่อยๆข้อที่สองคือกำหนดเวลา ห้ามโต้กันเกินห้านาที ใครเกินให้ปรับแพ้ไปโดยปริยายเธอไม่อยากฟังเสียงสูงๆ ของศรรักให้ระคายแก้วหู ลานพิธีถูกจัดเอาไว้อย่างเป็นระเบียบสัตว์ที่จะนำมาบูชายัญเพื่อขับไล่ภูตผีถูกผูกติดเอาไว้กับหลักกลางลาน พิธีกรรมของที่นี่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นสัตว์ทั้งหมดสิบสามชนิด ถูกจับมามัดเอาไว้เมื่อถึงเวลาแสงแดดสุดท้ายส่องมายังหลักและเงาไปทาบทับที่สัตว์ตัวใดสัตว์ตัวนั้นจะถูกจับมาบูชายัญให้กับเทพเจ้า จะฆ่าพวกมันทั้งหมดนี่เลยหรือคะ ทาฬิดาเอ่ยถามเมื่อเห็นสัตว์สิบสามชนิดถูกผูกอยู่กลางลาน ไม่หรอกค่ะเทพเจ้าจะเป็นผู้เลือกว่าต้องการตัวไหน มารีหันไปตอบคำถามนั้น เลือกยังไงคะไม่เข้าใจ แล้วทำไมต้องมีสัตว์มากมายอย่างนี้ สัตว์ทั้งสิบสามตัวเป็นตัวแทนของราศีทั้งสิบสามของเผ่าเรา หากเงาสุดท้ายของหลักทาบทับไปบนสัตว์ตัวใดหมายความว่าเทพเจ้าจะเลือกสัตว์ตัวนั้น แล้วถ้าเงาไม่ทาบไปบนตัวสัตว์ล่ะคะ เท่ากันเทพเจ้าไม่ต้องการชีวิตพวกมันค่ะเราจะปล่อยพวกมัน ขอให้ไม่มีการตายเกิดขึ้นในครั้งนี้เถอะฉันไม่อยากให้อะไร ต้องมาตายแทนพวกเราไม่ว่าจะเป็นสัตว์หรือคน ทาฬิดาบอก ใกล้จะถึงเวลาแล้วเงาสุดท้ายของหลักไม่ได้ทาบทับสัตว์ตัวใดเลยแม้แต่ตัวเดียวงานในครั้งนี้จึงไม่จำเป็นต้องฆ่าอะไรเพื่อบูชาเทพเจ้า เหมือนทุกคนจะโล่งใจต่างพากันถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก สัตว์ทุกตัวโดนปล่อยให้เป็นอิสระพิธีกรรมอื่นจึงเริ่มต้นขึ้น หมอผีประจำหมู่บ้านเผากำยาน และนำมันมาวนรอบๆตัวของหมอและคนอื่นๆ กำยานส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่วลานไม่ใช่แต่เพียงกลุ่มคนต่างถิ่นเท่านั้น คนในหมู่บ้านทั้งหมดเข้าร่วมพิธีในครั้งนี้ด้วย หลังจากรมกำยานเสร็จหมอผีใช้ใบโคคาทั้งกิ่ง ปัดรังควานให้กับทุกคน เป็นอันเสร็จพิธีกรรมในครั้งนี้ งานรื่นเริงจึงเริ่มต้นขึ้น เสียงดนตรีจากนักดนตรีพื้นเมืองดังขึ้นทุกคนออกมาเต้นรำกันอย่างสนุกสนาน ไปเต้นด้วยกันไหมคะมารีเอ่ยชวน คนอื่นๆ นั้นออกไปเต้นกันจนหมดเหลือเพียงทาฬิดายังนั่งปรบมือไปตามจังหวะดนตรี ไมดีกว่าค่ะรู้สึกเหนื่อยๆ ยังไงไม่รู้ ทาฬิดาปฏิเสธ เธอไม่ได้หาข้ออ้างเธอเหนื่อยอย่างที่พูดจริงๆ อาการหายใจขัดๆ ราวกับหายใจไม่ทั่วปอดเกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อเช้า จนถึงเวลานี้อาการนั้น ยังไม่หายไปเธอคิดว่าหากยังมีอาการนี้อยู่ในวันรุ่งขึ้น เธอคงต้องปรึกษากับหมอคนใดคนหนึ่งในทีม บอกอาการฉันได้ไหมมารีถามด้วยความเป็นห่วง เหนื่อยค่ะเป็นอาการเดียวที่ฉันเป็น คุณคงแพ้ความกดอากาศแต่ก็น่าแปลกคุณน่าจะมีอาการตั้งแต่มาถึง ทำไมถึงเพิ่งจะเป็น นั่นสิคะหรือไม่เมื่อคืนคงจะหนาว ฉันอาจจะกำลังเป็นหวัดก็ได้ อาจจะใช่ค่ะคืนนี้คุณควรกินยากันเอาไว้ก่อน เลิกงานแล้วฉันจะไปขอที่คุณหมอค่ะไม่ต้องห่วง ทาฬิดายิ้มให้กับความหวังดีของมารีไม่บ่อยครั้งนักที่คนแปลกหน้าจะแสดงความห่วงใยในตัวเธอ อย่าลืมนะคะคืนนี้เราต้องนอนที่ลานนี้กันอีกคืน ถ้าคุณเป็นหวัดคงไม่ดีแน่ๆ มารีกำชับอีกครั้ง รับรองค่ะฉันกินยาง่ายอยู่แล้ว ดีแล้วค่ะฉันจะได้ไม่ติดหวัดจากคุณ อ้าว...ทาฬิดาหน้าเหวอ จากที่คิดว่ามารีเป็นห่วงเธอ ที่ไหนได้กลับกลายเป็นห่วงตัวเองกลัวว่าจะติดหวัดจากเธอซะงั้น คืนนี้มีเต็นท์เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งมีกองไฟก่อเอาไว้ด้านหน้า ทาฬิดากับมารีจึงออกมานั่งผิงไฟอยู่ข้างๆ กองไฟนั้นโดยมีมุจลินทร์ นาลันทาและอัปสรนั่งถัดไป อามุจเล่าเรื่องโลกซ้อนโลกให้ฟังหน่อยสิคะ อัปสรยังคงมีความอยากรู้ในเรื่องที่มุจลินทร์เล่าค้างเอาไว้เมื่อกลางวันสบโอกาสเธอจึงเอ่ยถาม ไม่มีอะไรหรอกเป็นแค่ทฤษฎีลวงโลกของผู้ชายคนหนึ่งเท่านั้นแหละ แต่ดันมีคนหลงเชื่อก็เลยเป็นเรื่องเล่าสนุกๆ กันเท่านั้น ลวงโลกแบบไหนล่ะคะอามุจเล่าครึ่งๆ กลางๆ จิ๊ดจะไปรู้ได้ยังไงกันเล่า อามุจต้องเล่าละเอียดๆ สิคะจิ๊ดจะได้คิดเองว่าลวงโลกจริงหรือเปล่า บอกแต่ลวงโลกๆ มันลวงตรงไหนยังไง ไม่ยอมบอกแย่ชะมัด อัปสรบ่นกระปอดกระแปดผู้ใหญ่มันชอบสรุปความเรื่องโน้นเรื่องนี้ แล้วบอกว่า ไม่ดี แต่ไม่ยอมอธิบายเด็กสมัยใหม่อย่างเธอมีหรือจะยอมเชื่ออะไรง่ายๆ เธอชอบคำโบราณอยู่คำหนึ่งสิบปากว่าไม่เท่ามือคลำ สิบมือคลำไม่เท่าลงมือทำด้วยตัวเอง แรงไปไหมแม่คุณเป็นเด็กเป็นเล็ก ไปว่าอามุจอย่างนั้นได้ยังไง ทาฬิดารีบออกปากปรามถึงจะรู้ว่ามุจลินทร์ไม่โกรธอัปสร เธอเป็นคนนอกยังมองว่าอัปสรพูดแรงไปนิดหากคนในห้ามไม่ได้ คนนอกคงต้องเป็นคนลงมือเอง แรงไปเหรอพี่จิ๊ดขอโทษค่ะอามุจ จิ๊ดแค่พูดไปตามที่จิ๊ดคิด ไม่เป็นไรอาชินแล้ว มุจลินทร์ยกมือขึ้นลูบผมของอัปสรด้วยความเอ็นดู เธอไม่เคยโกรธอัปสรเลยสักครั้งชอบด้วยซ้ำที่อัปสรเป็นเด็กช่างสงสัย เรื่องมันมีอยู่ว่าสมัยโบราณเราเคยเรียนมากันแล้วใช่ไหมว่ามนุษย์คิดว่าโลกเรานั้นแบนราบพระอาทิตย์พระจันทร์หมุนรอบโลก ต่อมาพอเรารู้ว่าโลกกลม เพราะมีการแล่นเรือรอบโลกได้จึงเกิดแนวความคิดขึ้นมาว่า โลกของเรานั้นไม่ได้ตันแต่มีโลกอีกโลกหนึ่งหมุนอยู่ในโลกของเราอีกทีถึงขนาดที่มีนักวิทยาศาสตร์ของโลกคนหนึ่งบอกว่า โลกเรามีสองชั้น ชั้นนอกกับชั้นในเขาให้เหตุผลว่าขั้วแม่เหล็กโลกเอียงไปทางตะวันตกปีละนิดละหน่อยจากนั้นก็มีคนเชื่อตามมาอีกมากมาย พยายามพิสูจน์ว่าโลกของเรานั้นกลวงโดยมีทางเข้าอยู่ที่ขั้วโลกเหนือทางออกอยู่ที่ขั้วโลกใต้ พอมนุษย์เรามีเครื่องบินนักบินคนหนึ่ง บินไปทางขั้วโลกเหนือ แต่พอมาอีกวันหนึ่งไปโผล่ที่ขั้วโลกใต้จึงมีคนบอกว่า เขาบินทะลุแกนกลางของโลกไปโผล่ขั้วโลกใต้หลังจากที่เขาตายไปสี่สิบกว่าปี มีคนเอาบันทึกของเขามาพิมพ์เผยแพร่ขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่า บางคนบอกว่าเขาโกหก ทุกอย่างในบันทึกเกี่ยวกับทางเข้าแกนกลางโลกเป็นเรื่องโกหกทั้งนั้นแต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครสามารถพูดได้ว่าโลกเรากลวงหรือตันยังไม่เคยมีใครขุดลงไปในโลกได้ถึงแกนกลางของโลกเลยสักคนหฤษฎีโลกกลวงจึงยังเป็นที่ถกเถียงกันต่อไป ต่อมาในสมัยใหม่ วิวัฒนาการก้าวหน้าสำรวจโลกด้วยการแผ่รังสีความร้อน โดยใช้ดาวเทียมถ่ายภาพ เราจึงรู้ว่าโลกของเราจริงๆ แล้วไม่ได้กลวง แต่มันเป็นเพียงแผ่นบางๆ ห่อหุ้มเอาไว้เมื่อเทียบกับปริมาณมหาศาลของแมกมาร้อนใต้แผ่นโลก พอเข้าใจหรือยัง อ๋อเป็นอย่างนี้นี่เอง เข้าใจแล้วค่ะ ละเอียดยิบเลยเชียวแหละแล้วหนังที่อามุจเล่าล่ะคะ เป็นยังไง ทำไมเขาถึงได้เพชรกลับขึ้นมาได้ เราเคยเรียนแล้วใช่ไหมว่าเพชรคืออัญมณีล้ำค่า ซึ่งก่อนหน้านั้นมันก็คือฟอสซิล ของสัตว์ดึกดำบรรพ์เมื่อมันโดนแรงดัน ความร้อน หรืออะไรก็ตามแต่ มันจะเปลี่ยนเป็นเพชร ทีนี้พอพ่อพระเอกเดินทางเข้าไปในแกนกลางของโลกเขาบังเอิญไปเห็นไอ้เพชรพวกนี่มันผุดขึ้นมาจากพื้น พอดีกับที่เขาวิ่งหนีไดโนเสาจึงหักมันมาเป็นอาวุธ ซึ่งจริงๆ ไม่น่าทำได้ เพราะว่าเพชรแข็งมากจากนั้นก็เลยใช้แท่งเพชรแทนมีดดาบ พกติดตัวมาตลอดเวลา จนกลับขึ้นมายังผิวโลก เข้าใจแล้ว เข้าใจก็ไปนอนได้แล้วดึกๆ น้ำค้างแรง จะไม่สบาย มุจลินทร์เป็นฝ่ายลุกขึ้นยืนเป็นคนแรกจากนั้นจึงหันมาบอกกับทาฬิดา ไปนอนก่อนนะคะฝันดีค่ะ ค่ะฝันดีค่ะทาฬิดาไม่อยากบอกเลยว่า เธอไม่อยากฝัน อยากจะนอนหลับโดยไม่ฝันอะไรสักวันจะได้ไหมเธอหันไปพยักหน้าให้กับมารี อีกคนเติมฟื้นไปอีกสองท่อนใหญ่จากนั้นจึงเดินตามทาฬิดาเข้าไปใน ที่พักของพวกเธอ
Create Date : 09 กันยายน 2557 |
Last Update : 9 กันยายน 2557 20:43:49 น. |
|
0 comments
|
Counter : 391 Pageviews. |
|
|