The Barai & Hyatt Regency Hua Hin


"หัวหินไม่สิ้นมนต์สเน่หา"

เป็นคำที่ยากจะปฏิเสธจริง ทะเลทั่วไทยกระผมก็ไปมาเกือบหมดแล้วนะ แต่ก็ยังไม่มีที่ไหนเหมือนหัวหิน ทะเลหัวหินสวยกว่าเกาะตาชัย กว่าภูเก็ตมั้ย บอกเลยว่าไม่แน่นอน แต่ทะเลหัวหินก็ไม่ได้ขี้เหร่นะ ที่นี่มีบรรยากาศบางอย่างที่ ภูเก็ต  เขาหลัก พังงา พัทยา สมุย ไม่มี อาจจะเป็นความ รีโทรนิดๆ ความง่ายๆ สบายๆ หรืออะไรไม่รู้ที่ตอบไม่ได้ แต่ทุกอย่างที่มันรวมขึ้นมาเป็นหัวหิน มันมีเสนห์อย่างบอกไม่ถูกจริงๆ (ถึงแม้เดียวนี้ราคารข้าวของจะแพงเวอร์ก็ตามที T__T)



อีกอย่างนึงที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นกิจกรรมหนึ่งเดียวที่มีในประเทศไทยคือ "การใส่บาตรริมชายหาด" ผมเดินทางไปมาหลายที่แต่ก็ยังไม่มีที่ไหนมีแบบนี้ ผมอยากให้เพื่อนๆลองตื่นเช้ามาใส่บาตรริมทะเลกันดูสักครั้งฮะ หลังใส่เสร็จก็ยืนดูอรุณรุ่งริมทะเล เริ่มต้นวันใหม่ด้วยการทำสิ่งดีๆ กับบรรยากาศดีๆ รับพลังจากแสงแรกของวันใหม่กัน เรื่อง "ดีงาม" แบบนี้คงเหมาะกับวันดีๆอย่างไม่ต้องสงสัย





นอกจาก "การใส่บาตรริมชายหาด" "การขี้ม้าเล่นริมชายหาด" คือถือเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเมืองหัวหิน บอกเลยเห็นกี่ครั้งก็นึกถึงละครเรื่อง "ปริศนา" ทุกครั้งเลยจริงๆ ผมว่าอีกหน่อยถ้าหัวหินจะมีร้านให้เช่าชุดแต่งตัวย้อนยุคให้ใส่ไปที่ยวด้วยก็ไม่เลวนะ คงได้เห็นพริสซี่ เต็มชายหาดแน่ๆ 555555







เดินเล่นรับลมทะเลกันมาพอควรแล้ว มาๆ มาหลบร้อนหลบแดดกันที่รีสอร์ทกันดีกว่า  วันนี้ผมจะพาเพื่อนๆมาหลบร้อน กันที่รีสอร์ทแห่งนี้ครับ The Barai รีสอร์ทที่เนรมิตขึ้นด้วยแรงบรรดาลใจจากมนต์ขลังจากปราสาทขอม

ถ้าถามว่ารีสอร์ทแพงมั้ย ตอบตรงๆเลยว่าราคาเอาเรื่องอยู่นะ แต่ใช่ว่าคนรู้จักใช้เงินอย่างเราๆจะมาไม่ได้ และนี่คือไม้เด็ดที่ไม่ควรพลาด ต้องมาลอง กับ เซ็ตไฮที 599 สำหรับ 2 ท่าน พร้อมชากาแฟ บอกเลยฮะ คุ้มกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว กับบรรยากาศแบบนี้ อร่อยแบบนี้ ให้เยอะแบบนี้ เทียบกับโรงแรมที่เรียกว่า "More Than 5 stars" บอกเลยหาในกทมไม่ได้แน่นอน กราบบบบบ





ส่วนใครดูว่า แค่ขนมอาจไม่พอยาไส้ ก็ลองมาทานอาหารดูก็ได้ครับ อาหารที่นี่จะออกแนว กึ่งๆคลีนฟู้ดอยู่นะ ราคาเริ่มต้นจานล่ะประมาณ 200 กว่าๆไป รสชาติอาหารส่วนใหญ่จะออกแนวคลีนเป็นหลักนะครับ ไม่เน้นปรุงรสมากกกกก เน้นรสชาติของวัตถุดิบจริงๆ จานหลักส่วนใหญ่จะเเสริฟกับเมล็ดธัญพืชด้วย



จานนี้พิเศษ ไม่คลีนแต่อร่อย ปอเปี้ยะปู ธรรมดาเสริฟ 2 ชิ้น แต่อันนี้สั่งเพิ่มพิเศษเพราะอร่อยมว้ากกกกก กราบบบบบ





ขอดีของอาหารของที่นี่อีกอย่างคือ ซีฟู้ดที่นี่ใช้ของสดทั้งหมด ไม่มีใช้ของฟรีสครับ อาหารทะเลสดๆมันฟินนะคร้าบบบบบ







จบเรื่องกินเมามันกันไป  เรามาดูในส่าวนของตัวโรงแรมกันดีกว่า ในราคาหมื่นกว่าๆ / คืน (เห็นราคาแล้วรู้สึกแอบแรงใช่มั้ยครับ) เราจะได้อะไรกันบ้าง

1. สปาทรี้ดเม้นท์ 1 ชั่วโมง 2 ท่าน/วัน

สปาที่นี่ถือเป็นไฮไลท์ที่เลยก็ว่าได้ครับ ด้วยสถานที่ ที่แสนอล้าอลัง ได้แรงบรรดาลใจมาจาก ปราสาททางของ
The Barai ในภาษาขอมแปลว่าบ่อน้ำ ครับ ในหลายจุดของที่นี่จึงมีบ่อน้ำอยู่ ส่วนการนวดสปาในแพคเกจที่แถมฟรีมาในห้องพัก ราคาปกติน่าจะอยู่ที่ 2500/คนนะครับ (5000 บาท/2คน) การนวดบอกเลยว่าฝีมือไม่ธรรมดา ผมแนะนำเทเลปิดผู้ชายฮะ (จำชื่อไม่ได้เลย) มือเทพ หัตถ์พระเจ้าชัดๆ คือ ไม่เคยเจอ เทเลปิ๊ด ที่เทพได้ขนาดนี้ คนนี้ต้องกราบเลยครับ เอาล่ะครับผมพาชมบรรยากาศสปากันดีกว่าเนอะ











ห้องทรี้ดเม้นท์ครับ อล้า อลังได้อีกใช่มั้ย








อันนี้เป็นห้องรับรองครับ แขกที่มาใช้บริการสปาสามารถมาใช้บริการสตรีม และ ซาวน่าที่นี่ได้ก่อนจะทำทรี้ดเม้นท์ได้ฮะ





จุดนี้ถือเป็นอีกจุดถ่ายภาพอีกจุดที่งดงามมากครับ เรียกว่า "ทางเดินแห่งดวงดาว"



สำหรับคนที่ชอบถ่ายภาพ ผมบยอกเลยครับ The Barai ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอนครับ หลายๆจุดสปา นี่ถ่ายพรีเวดดิ้ง ถ่ายแบบได้สบายเลยครับ

ลองดูภาพจากคุณครูสอนทำขนมของผม (ขอบคุณมากที่มาเป็นแบบให้) ถือเป็นอีกโรงแรมที่ถ่ายรูปสวยไม่แพ้โรงแรมไหนๆ ผมคอนเฟิรืมเลยครับ











จาก โซนสปา เรากระโดด เข้าสูโซนที่พัก วิลล่ากันเถอะ สปาและโซนวิลล่าจะถูกเชื่อมกันด้วยสระว่ายน้ำของที่นี่  สระนี้ให้ความรู้สึกเหมือนลำธารเล็กๆที่อยู่ในป่า แขกที่สามารถใช้ได้คือแขกที่พักในวิลล่าบารายเท่านั้น







เมื่อเดินทะลุออกมาจากสระว่ายน้ำแล้ว สิ่งแรกที่จะเจอเมื่อมองออกไปยังทะเล คือห้องอาหาร แมคฟาเรนครับ

บ้านแมคฟาเรน คือบ้านเก่าแก่ สมัยรัชกาลที่ 5 ได้รับการดัดแปลงนิดหน่อยเพื่อให้เป็นห้องอาหาร แต่โดยรวมยังคงแบบบ้านแบบเดิมไว้ฮะ

บรรยากาศเรือนไทยทรงปั้นหยามาแบบจัดเต็มเลยฮะ







อาหารเช้าแบบอลาคาร์ตบุฟเฟ่ต์ และ คานาเป้เซ็ต และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่อั้น ที่ แมคฟาเลานเฮาส์

หรือจะเป็น อาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์ และบุฟฟ่ต์คานาเป้และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่อั้น ที่ รีเจนท์ซีคลับ


แขกที่เข้าพักที่นี่จะได้ อีเวนนิ่งคอกเทลเซ็ต พร้อมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แบบไม่อั้น ในช่วงเย็นๆของทุกวัน ใครชอบเมาจัดไปฮะ เอาให้คุ้ม

ส่วนใครไม่เน้นกินเหล้าแนะนำว่าไปทานที่ รีเจนซี่คลับครับ เครื่องดื่มแอลจะลดลง แต่เน้นเป็นบุฟเฟ่คานาเป้แบบหลากหลายมากกว่า



ส่วนอาหารอีกมื้อที่แถมให้แขกที่นี่คือ อาหารเช้าครับ อาหารเช้าจะเสริฟเป็นอลาคาร์ตแบบไม่อั้น อาหารส่วนใหญ่ก็จะเป็นอาหารสุขภาพ อาหารสุขภาพในที่นี้คืออาหารกึ่งคลีนฮะ รสชาติจะไม่ได้จัดอะไรมากมาย จืดๆ อ่อนๆ ใรชอบรสจัดอาจต้องรีเควสทางน้องพนักงานไปฮะ

อาหารเช้าจะมีทั้งแบบฝรั่งและแบบไทย ซึ่งแน่นอน ผมก็ลองมาทั้ง 2 แบบ บอกเลยฮะ ไม่ว่าแบบไหนก็รสชาติอ่อนๆคลีนๆทั้งคู่

เซ็ตแบบฝรั่ง รสชาติอ่อนๆคลีนๆ ก็พอได้น้าาา









ส่วนอาหารไทย ได้ลองไข่เจียวปูมาฮะ ทำมั้ยไม่เสริฟพร้อมข้าวสวยก็ไม่รู้ หลังจากที่ได้ชิมจึงเข้าใจ มันก็เหมือนไข่ดาว ออมเล็ต ที่เขาเสริฟตอนเช้าๆกันฮะ ก็ทานเพียวๆ ด้วยความที่ทานเพียว รสไข่เจียวก็อ่อนมากพอควร ใครทานกับข้าว คงจืดไม่รู้รสกันเลยแน่ๆ

ป.ล. แต่ปูสดหวานทีเดียวนะ



อิ่มหนำสำราญกันไปหลายมื้อ ถึงเวลาไปนอนเกลือกลิ้งในวิลล่ากันได้แล้วคร้าบบบบบบบ

ห้องพักขนาด  1 คืน ขนาด 126 - 149 ตารางเมตร พร้อม สตรีมในห้องพัก

วิลล่าที่นี่จะมีทั้งหมดแค่  8 ห้องเท่านั้น ชั้นบน 4 ชั้นล่าง 4  ห้องข้างล่างจะแพงกว่าชั้นบนครับ เพราะมี สระแช่ ไวให้ด้วยที่หน้าบ้าน



เอาล่ะครับครับเข้าไปดูห้องพักกันดีกว่าพื้นที่ใช้สอยภายในวิวล่า 1 ห้อง จะมีขนาด 126 - 149 ตารางเมตร

นอกจากส่วนด้านนอกที่เป็นห้องนั่งเล่นกลางแจ้งหรือระเบียงบ้านแล้ว ส่วนนี้จะเป็นห้องนั่งเล่นในห้องปรับอากาศที่สามารปรับเปลี่ยนเป็นห้องสปาส่วนตัวในวิลล่าได้ด้วย เพราะสำหรับคนที่จองห้องพักมาจะได้สปา คนล่ะ 1 ชั่วโมง 2 คน สามารถเลือกทรี้ดเม้นท์ได้ถึง 4 แบบ

ป.ล. ผมแนะนำว่า ไปทำที่สปาเถอะ บรรยากาศดีกว่าที่ห้องมากกกก แนะนำเลยฮะ





ถัดจากห้องนั่งเล่นเข้าไปก็จะเป็นห้องนอนฮะ เตียงจะใหญ่ไปไหนเนี้ยะ นอน 4 คนได้สบายๆ







ถัดจากห้องนอนเข้าไปจะเป็นห้องแต่งตัวครับ มีให้ด้วยกัน 2 ห้อง ใหญ่เวอร์วังไปนะบอกเลย



ถัดจากห้องแต่งตัวไปจึงเป็นห้องน้ำครับ ห้องน้ำจะถูกแบ่งเป็น 3 ส่วน ห้องสตรีมพร้อมห้องอาบน้ำ ห้องสุขา และ อ่างอาบน้ำ (ที่ใหญ่มว้ากกกกกกกกกกกกก)







มาสเตอร์มิลล์บาท วันล่ะ 1 ครั้ง

สำหรับแขกที่พัก ทุกๆคืนจะมีพนักงานมาทำ มาสเตอร์มิลล์บาธให้ทุกคืนครับ จะให้ทำเวลาไหนโทรบอกได้เลยฮะ แนะนำให้เข้าสตรีมก่อนแล้วค่อยลงมาแช่น้ำนมจะฟินที่สุด



ส่วนอเมนนิตี้ของที่นี่จะเป็นตัวนี้ฮะ กลิ่นก็จะอ่อนๆตามรสชาติอาหาร ไม่ผสมสารเคมี ใดๆเลย อาบแล้วออแกนนิคมว้ากกก (ไปรึเปล่า)



ผลไม้นี่ไม่ใช่เวลคัมฟรุ๊ตนะครับ แต่เป็นของทานเล่น มีมาเสริฟทุกวัน ส่วนขนมหวาน มาเสริฟก่อนนอน (กินของหวานก่อนนอนแล้วจะอารมณ์ดีชิมิ)



บัตเลอร์ส่วนตัวทุกห้องพัก

ปิดท้ายในส่วนของบาราย สำรับแขกทุกห้อง จะมีบัตเลอร์ส่วนตัวด้วยครับ บัตเลอร์คืออะไร สำหรับผมบัตเลอร์ไม่ใช่คนรับใช้นะครับ บัตเลอร์คือ พี่เลี้ยงนางงามครับ จะเอาอะไรขอให้บอก ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรง ขอให้บอกเดี๋ยวจัดมาให้



มาสรุปกัน ถ้าจองบาราย 1 คืน แล้วจะได้อะไรกันบ้าง คุ้มไม่คุ้มตัดสินกันเอาเองฮะ พูดมากไปเดี๋ยวจะหาว่าอวย

-ห้องพักขนาด  1 คืน ขนาด 126 - 149 ตารางเมตร พร้อม สตรีมในห้องพัก

-สปาทรี้ดเม้นท์ 1 ชม สำหรับแขก 2 ท่าน (เลือกทรี้ดเม้นท์ได้ 4 อย่าง)

-มาสเตอร์มิลล์บาท วันล่ะ 1 ครั้ง

-อาหารเช้าแบบอลาคาร์ตบุฟเฟ่ต์ และ คานาเป้เซ็ต และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่อั้น ที่ แมคฟาเลานเฮาส์

-หรือจะเป็น อาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์ และบุฟฟ่ต์คานาเป้และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่อั้น ที่ รีเจนท์ซีคลับ

-บัตเลอร์ส่วนตัวทุกห้องพัก

Hyatt Regency Hua Hin

ไหนๆก็ไหนๆล่ะมาถึงตรงนี้จะไม่พูดถึงไฮเอทก็คงไม่ได้ใช่มั้ย เพราะเอาจริงๆ 2 โรงแรมนี้ก็เหมือนเป็นโรงแรมเดียวกัน ในส่วนของบารายจะเป็น เอกคูซีฟสำหรับคู่รักฮันนี่มูน ส่วนของไฮเอทจะเป็นแฟมมิลี่แบบจ๋าๆเลย เรามาดูกันไอ้ที่เรียกว่า "แฟมมิลี่จ๋าๆ" จะมีอะไรที่น่าสนใจกว่าบารายกันบ้าง



สำหรับผมคำว่า "แฟมมิลี่จ๋าๆ" สำหรับผมแล้ว อันดับแรก คือ สระว่ายน้ำต้องใหญ่เป็นสวยน้ำ และมีสไลด์เดอร์ ซึ่งที่นี่ตีโจทย์ได้กระจายฮะ สระว่ายน้ำที่นี่ใหญ่เวอร์วังอล้าอลัง ไม่แพ้โรงแรมสวยน้ำที่พัทยาแน่นอน ส่วนสไลด์เดอร์ก็เร็วและแรงไม่แพ้กัน ถ้าพัทยามีเซนทาราแกรนด์มิราจเป็นโรงแรมสวนน้ำในฝันแล้วที่หัวหิน ก็มีที่นี่แหละฮะที่ ที่จะมีสวนน้ำพอฟัดพอเหวี่ยงกับที่มิราจ

ป.ล. ถ้าถามว่าใครอันไหนดีกว่ากัน ตอบเลยฮะว่ามิราจ ทีี่พัทยาดีกว่า แต่ที่นี่ก็ไม่ด้อยไปกว่ากันซักเท่าไหร่นะคร้าบบบบ









จริงๆที่นี่ยังมีสระว่ายน้ำอยู่อีกสระนึงครับ สระนี้จะอยู่ในโซนของคลับรีเจนซี่ เป็นโซนสำหรับผู้ที่ซื้อเบเนฟิตคลับเพิ่มมาครับ สระไม่ได้ใหญ่ แต่เงียบสงบกว่าฝั่งสวนน้ำพอควร ใครชอบอะไรที่เงียบๆ ก็ต้องมาว่ายโซนนี้ครับ

ป.ล. แต่สำหรับผม โซนสวนน้ำเท่านั้นฮะคือคำตอบที่ใช่





เมื่อกี้พูดถึง เบเนฟิตคลับ เรามาดูกันดีกว่า เบเนฟิตคลับ พิเศษที่เพิ่มมานั้นคืออะไร จริงๆก็มีหลายอย่างนะ แต่ไม่ค่อยจะเด่นชัดเท่าเรื่อง บุฟเฟ่ต์คานาเป้ และ เครื่องดื่ม (รวมแอลกอฮอล์)ไม่อั้น ในช่วง Happy Hour 5.00 - 7.00 PM









อีกเรื่องนึงที่ไม่น่าพลาด น่าจะเป็นเรื่องสำหรับแฟมมิลี่โฮเทล คือเรื่องอาหารฮะ อาหารสำหรับที่นี่ไม่ว่าจะเป็นห้องอาหารไหน ที่นี่ก็เลือกใช้อาหารทะเลสดๆ เลือกใช้อาหารแช่แข็งน้อยมากเลยล่ะครับ ห้องอาหารที่อยากแนะนำให้ชิมกันคือห้องอาหารไทยครับ รสจัดจ้านสไตล์ไทย โดยเฉพาะซีฟู้ดห้ามพลาดครับ เมนูแนะนำคือ หมึกนึ่งมะนาว ฮะ



ส่วนห้องอาหารเช้าก็บอกได้เลยครับว่าจัดเต็มสมกับเป็นแฟมมิลี่โฮเทลแน่นอน ไลน์บุฟเฟ่ต์ หลากหลายพอดูฮะ เมื่อเทียบกับโรงแรมอื่นๆ







กุ้งเป็นกุ้งฮะ เมื่อเช้าก็จัดกุ้งให้ทานกันเลย



ปีกไก่ บัฟโลวิงค์ ก็มีให้ทานกันแต่เช้า เอาใจเด็กๆกันไป (ไม่เผ็ดนะทีนี่)



หรือถ้าใครรักสุขภาพ ชอบทาสลัด จัดไปโลดดดดดด หลากหลายพอดู



เรามาดูห้องพักกันบ้าง ห้องพักที่นี่ผมว่าแอบเล็กไปนิด สำหรับ แฟมมิลี่โฮเทลนะ ซึ่งห้องพักที่นี่รีโนเวทใหม่แล้วล่ะครับ แต่สไตล์อาจจะไม่ใช่หวือหวา เหมือนโรงแรมสมัยใหม่ โดยรวมแล้วห้องของที่นี่ จะถูกแบ่งเป็นสามส่วนหลักๆ 1 ห้องน้ำ 2 ห้องนอน 3 ห้องนั่งเล่น

ห้องเริ่มต้น ของที่นี่จะมีลักษณะหน้าตาเป็นแบบนี้ฮะ บางคนอาจถามว่าไหนล่ะห้องนั่งเล่น ห้องนั่งเล่นของห้องพักระดับนี้จะอยู่ที่ระเบียงครับ เป็นโอเพ่นแอร์







ส่วนใครชอบห้องนั่งเล่นในห้องแอร์ต้อง ห้องระดับคลับรีเจนซี่ครับ ห้องถูกแบ่งเป็น 3 ส่วนเช่นกัน ห้องน้ำ ห้องนอน ห้องนั่งเล่น แต่ห้องนั่งเล่นที่นี่จะอยู่ในห้องแอร์ครับ ไม่มีระเบียงโอเพ่นแอร์

ป.ล. ห้องระดับคลับจะมีขนาดใหญ่กว่าห้องเริ่มต้นอยู่พอควรเลยฮะ





ส่วนห้องที่สวยที่สุดของที่นี่คือ ห้องนี้ครับ เพสซิเดนท์เชียล สวีท ใหญ่เวอร์วัง แถมราคาก็แพงตามความใหญ่ไปด้วย ห้องนี้ราคาเกินครึ่งแสนฮะ เอาเป็นว่าผมพาชมสวยๆล่ะกัน ใครสนใจก็เชิญฮะ  ส่วนผมขอวนไปพักห้องระดับแรกล่ะกัน 5555555













ปิดท้ายในส่วนของไฮเอทด้วยภาพจากลอบบี้กันสักรูปเนอะ ไทยได้อีกนะขอบอก ฝรั่งเห็นรักตายเลย ส่วนคนไทย ..... ก็เข้าใจตรงกันเนอะ 5555555



สรุปปิดท้ายกันสักนิด

สำหรับที่นี่ แล้วบอกตรงๆเลยครับ มันคือแฟมิลี่โฮเท ที่มีสวนน้ำขนาดใหญ่พอควรและสไล์เดอร์เป็นหลัก รวมๆแล้วจะคล้ายกับที่มิราจพัทยาฮะ แต่ธีมคอนเซ็ปไม่ได้ชัดเท่ามิราจ ใครเบื่อพาลูกไปเล่นน้ำที่พัทยา ก็ลองแวะมาเล่นสวนน้ำที่หัวหินดูล่ะกันฮะ


ของแถมๆๆ บีชคลับเปิดใหม่ อยู่ติดกับ The Barai ฮะ ขื่อ The Wave Beach Club ช่วงที่ไปเพิ่งเปิดเลยฮะ ยังไม่เรียบร้อยดีสักเท่าไหร่ อาหารส่วนใหญ่ เป็นอาหารทานเล่น ผมว่าบรรยากาศก็ดีนะครับ แต่น่าจะมีสระว่ายน้ำสักหน่อยจะฟินมว้ากกกกกก  ใครสนใจก็ลองหาข้อมูลดูนะฮะ











Create Date : 15 กรกฎาคม 2558
Last Update : 14 กันยายน 2558 9:14:22 น.
Counter : 12981 Pageviews.

43 comment
InterContinental Hua Hin Resort


หัวหิน หัวหิน ใครๆก็รักหัวหิน ถ้าจะผมเลือกไปพักผ่อน ไปชิลล์ ไปลั้นลากับทะเลใกล้ๆกรุงเทพ สักที่ คำตอบคงจะหนีไม่พ้นที่นี่แหละครับ หัวหิน สำหรับผมแล้ว หัวหินไม่เคยสิ้นมนต์สเน่หา มีมนต์สเนห์บางอย่างที่ผมไม่อาจบอกได้ ผมว่าเพื่อนๆก็คงรู้สึกอย่างนั้นเหมือนกัน



ถ้าถามว่าหาดหัวหินสวยเหมือนกันหมดทั้งหาดมั้ย ขอบอกเลยครับ ไม่ ในความคิดผม หาดหัวหินช่วงที่สวยที่สุดจะอยู่บริเวณตั้งแต่ หัวหินซอย 61 - หัวหินซอย 87  โรงแรมที่ติดหาดอยู่ระหว่างสองซอยนี้ ถือว่าสุดยอดแล้วครับ

จุดขายอีกหนึ่งอย่างของชายหาดหัวหินคือ การใส่บาตรริมชายหาดครับ ผมว่ามันคือสเน่ห์อีกอย่างของเมืองหัวหินเลยครับ ไปหัวหินทุกครั้งถ้าไม่ติดถ่ายงาน ผมไม่พลาดแน่นอน



เอาล่ะครับ วันนี้ผมจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับอีกหนึ่งโรงแรมสวยที่ตั้งอยู่บนหาดที่สวยที่สุดของเมืองหัวหินกันดีกว่า InterContinental  Hua Hin Resort ตั้งอยู่บริเวณซอยหัวหิน 79 ซึ่งชายหาดบริเวณนี้เรียกว่างามไม่แพ้ที่ไหนๆในเมืองหัวหินกันเลยล่ะครับ



เมื่อเราชื่นชมความงามจากหน้าหาดหัวหินกันแล้ว เราเดินเข้าไปในรีสอร์ทกันดีกว่า ผมจะพาเพื่อนๆไปดูกันครับว่ารีสอร์ทนี้ไม่ได้มีดีแค่ที่ชายหาด



นอกจากชายหาดแสนสวยแล้ว ด้วยความที่รีสอร์ทแห่งนี้ถือเป็นตัวแทนของรีสอร์ทโคโรเนียลวินเทจแห่งท้องทะเล สระว่ายน้ำของที่นี่จึงถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์เลยก็ว่าได้



สระว่ายน้ำที่นี่จึงรูสึกได้ถึงความกว้างใหญ่ มีหลายสระ และงดงามมากกกก













ตัวสระจะลากยาวจากกลางรีสอร์ทไปจนถึง ริมชายหาดกันเลยล่ะ 







ที่สุดปลายสระจะเป็นที่นั่งรับลมทะเลกับบรรยากาศริมชายทะเลสวยๆ ชิลล์ๆ



อีกช่วงเวลาของสระว่ายน้ำที่อยากแนะนำคือช่วงอรุณรุ่ง งดงามมากครับ ใครที่ตื่นมาใส่บาตรที่ชายหาด ก็ได้พบกับภาพแบบนี้แน่นอน (ถ้าฝนไม่ตกนะ)









จากสระว่ายน้ำ หนึ่งในไฮไลท์ของที่นี่ ผมขอพาเพื่อนๆไปชมอีกสุดยอดไฮไลท์กันนะครับ นั้นคือ วิลล่าริมทะเลของที่นี่ เลอ เรสซิเดนท์



ที่นี่คือบ้านเก่าสมัยโบราณที่ถูกดัดแปลงให้เป็นเรือนรับรองวินเทจสีขาวสะอาดตาพร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว





ถึงแม้จุดประสงค์หลักๆของที่นี่จะเป็นวิลล่าสำหรับพักอาศัย แต่ด้วยไอเดียวแสนเก๋ของที่นี่ เราสามารถปรับเปลี่ยนวิลล่าหลังนี้เป็นห้องฟั่งชั่นได้ด้วยครับ



ไม่ว่าจะเป็นพิธีหมั่น พิธีแต่งงาน งานเลี้ยงขนาดเล็ก หรืองานเปิดตัวสินค้า ที่นี่ก็รับรองได้หมด อย่างแพคเกจแต่งงานของที่นี่เริ่มต้นที่ 150,000 บาท ซึ่งถือว่าไม่แพงเลยสำหรับงานแต่งโรงแรมระดับนี้ บรรยากาศแบบนี้



ผมขอพาชมบรรยากาศ เลอ เรสซิเดนท์แห่งนี้กันดีกว่า  ในส่วนนี้คือห้องรับแขกที่ถือว่าจุดส่วนกลางของวิลล่าที่นี่ ห้องนี้เหมือนจะเป็นห้องหลักสำหรับการจัดงาน





ห้องรับประทานอาหารพร้อมครัวชุดใหญ่



ห้องทานอาหารขนาดใหญ่ สามารถประเปลี่ยนเป็นห้องประชุมหรือห้องสัมนาได้ด้วย



โถงส่วนกลางของบ้าน ที่สามารถปรับเปลี่ยนไปตามงานแบบต่างๆได้ ยิ่งพิธีแต่งงานด้วยแล้วจุดนี้ถือเป็นไฮไลท์เลยก็ว่าได้



เห็นแล้วนึกถึงห้องน้ำชาของโรงแรมริมแม่น้ำดังโรงแรมหนึ่งในกรุงเทพเลยครับ ฟีลลิ่งคล้ายๆกันเลย



ชั้นบนของวิลล่าจะเป็นห้องพักสองห้อง กับหนึ่งห้องนั่งเล่นครับ



ไฮไลท์สำหรับชั้นสองนี้ในความคิดผมคือ ระเบียงที่อยู่ติดห้องนั่งเล่นนี่แหละครับ สวยหวาน ชวนฝันดีจริงๆ



โดยเฉพาะกลางวันนะ บรรยากาศดีมากกกก



เอาล่ะครับเราไปดูห้องนอนกันดีกว่า ห้องพักจะสวยงามขนาดไหน ในสายตาผมห้องพักไม่ได้ว้าวหรืออลังการมากมายนะครับ เป็นสวยเรียบๆ ขรึมๆ แอบหวานด้วยลายฉลุแบบวินเทจ







แต่ห้องน้ำนี่สิ จะสวยหวานชวนฝันไปไหน งามมากกกก ขอกราบบบบบบ







เอาล่ะครับเราเดินชมสามไฮไลท์ที่ผมชอบมาสักพักแล้ว ทั้งหาด ทั้งสระว่ายน้ำ ทั้งวิลล่าเลอ เรสซิเดนท์ ท่าจะเหนื่อยกันแล้ว งั้นผมขอพาเพื่อนๆ มานั่งพักที่ห้องอาหารของโรงแรมกันดีกว่า



มีใคร ชอบอาหารไทยมั้ยครับ ถ้าชอบอาหารไทยแนะนำให้ห้องอาหารที่ห้องนี้เลยครับ ภิรมย์ ห้องอาหารนี้เน้นเป็นอาหารไทยรสจัดจ้าน มีหลายๆเมนูที่เป็นสไตล์อาหารไทยภาคใต้เลยล่ะครับ ผมพาชมบรรยากาศห้องอาหารก่อนเนอะ



ห้องอาหารไม่ได้ใหญ่โตอะไร มีทั้งบรรยากาศ อินดอร์ และเอาท์ดอร์ สำหรับผมๆชอบ บรรยากาศเอาท์ดอร์มากกว่า





ผมขอพาเพื่อนๆไปดูไฮไลท์ของห้องอาหารนี้ก่อน ไฮไลท์ของห้องอาหารนี้คือ บุฟเฟ่มื้อค่ำวันพุธครับ  ห้องอาหารภิรมย์จะเปิดบุฟเฟต์อาหารไทยแสนคุ้มที่ราคา 690 บาทเน็ต พร้อมน้ำดื่ม ที่ว่าคุ้มมันคุ้มยังไง ผมพาไปเซอเวย์ดีกว่า มามะ มามะ  ไลน์อาหารไม่ได้ใหญ่โตนะครับ มีเท่านี้แหละครับ  (แล้วมันคุ้มยังไงเนี้ยะ)



มันคุ้มที่อาหารครับ อาหารจะมีทั้งของว่าง ของหนัก และอาหารหวาน อาหารจาหลักแจะเป็นก๋วยเตี๋ยวหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็นผัดไทยกุ้งสด ราดหน้าทะเล เตี๋ยวผัดขี้เมา ฯ




ขนมหวานก็มีหลากหลายไม่ใช่มีแต่ขนมไทยนะครับ แต่ที่แนะนำเลยคือข้าวเหนียวมะม่วงครับ ชวนกราบมากกกก ข้าวเหนียวนี่ถ้าผมเดาไม่ผิด มันรสเดียวกับ ข้าวเหนียวมะม่วงของป้า จ. หน้าโรงแรมดังที่ขึ้นต้นด้วย ฮ. ส่วนไอศครีมกะทิสด ร้านไหนไม่รู้หวานมันรสโลคอลมากกกกก ขอกราบบบบบบบอีกเช่นกัน



ส่วนมื้ออื่นๆ ที่ได้ลองทานมา อาหารจะรสชาติไทยๆ มีหลายเมนูเป็นอาหารไทยชาวใต้ รสแซ่บจัดจ้าน อาหารจานใหญ่ ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 200 ก่าๆ อัพขึ้นไป

เริ่มต้นมื้อด้วยข้าวเกรียบกุ้งน้ำพริกเผาฟรีสำหรับทุกโต๊ะ ขอเติมได้ไม่อั้น ขอกราบให้ของฟรีจานนี้จะผิดมั้ย อร่อยทั้งข้าวเกรียบและน้ำพริกเผาเลย



เมนู ไม้ตายของโรงแรมส่วนใหญ่รวมถึงโรงแรมนี้ด้วย ผัดไทยกุ้งสด คร้าบบบบ รสชาติจัดจ้านไม่เอาใจฝรั่งเลยครับ



อีกหนึ่งเมนูไม้ตายที่แนะนำให้ลอง หมูผัดกะปิ รสขาติกลมกล่อมทีเดียว



เฟลิซิต้า ห้องอาหารอิตาเลี่ยน ที่อยู่ตรงข้ามอาหารไทย ภิรมย์



บรรยากาศห้องอาหารคล้ายๆ ห้องอาหารภิรมย์



อาหารไม้ตาย ห้องอาหาร ที่นี่คือสปาเก็ตตี้ที่ทำเองครับ อย่างจานนี้สปาเก็ตตี้เส้นดำกับเนื้อปู รสชาติอาจกลางๆ อ่อนๆ ไปนิดๆ ใครที่ชอบรสไม่จัดจ้านน่าจะชอบจานนี้ เพราะโชว์รสเนื้อปูเต็มๆ



พิซซ่า คือเมนูไม้ตายของอีกอย่างของห้องอาหารนี้  มีโอกาสต้องลองครับ ราคาต่อถาดก็ไม่ได้แพงมากมายอะไร ราคาประมาณ 300 กว่าบาทเท่านั้น



ส่วนบริเวณ ลีลาบาร์ จะเป็นอีกจุดที่ น่าสนใจไม่น้อยครับ บรรยากาศสบายๆ เหมาะกับการทาน Afternoon Tea เป็นยิ่งนัก







Afternoon Tea มีหลายเซ็ตให้เลือกเริ่มต้นที่ 750++ เรื่องรสชาติ โดยรวมก็ทั่วไปนะ แต่ที่อร่อยจริงคือ ข้าวเหนียวมะม่วง เอ้า!!! กราบบบบบบ



เอาล่ะครับเรามาพูดเรื่องอาหารเช้ากันบ้างดีกว่า



พอมาถึงช่วงเช้า ห้องอาหารทั้งสามห้องจะรวมเป็นห้องอาหารเดียวกันสำหรับอาหารเช้ามื้อพิเศษ



แนะนำเลยว่า ถ้าอากาศดีๆ ฟ้าฝนเป็นใจ นั่งข้างนอกโลดดด



ยังไงในความรู้สึกผม บรรยากาศข้างนอกบรรยากาศก็ฟินกว่าในห้องอาหารพอควรนะ



ไลน์อาหารเช้าจะถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนหลักๆ ห้องอาหารภิรมย์ไลน์อาหารจะเน้นที่ เบเกอรี่ เพรสตี้และ พวกสลัด ครับ ห้องอาหารเฟลิซิต้า จะเป็นไลน์ อาหารร้อนทั้งหมด และผลไม้ครับ



ส่วนที่ลีลาบาร์จะเปลี่ยนเป็นบาร์น้ำผลไม้และสมูตตี้



เอาล่ะครับเราไปดูภาพอาหารเช้ากันครับ ในความรู้สึกผมๆชอบอาหารเช้าที่เป็นอาหารร้อนแบบไทยๆและครัวซองครับ






ส่วนห้องอาหารสุดท้าย ห้องอาหารอาซัวร์ จะเป็นห้องอาหารริมทะเล บรรยากาศดีๆ ช่วงกลางวัน อาหารก็จะเป็นเมนูง่ายๆอย่างอาหารจานเดียวครับ เมนูจะคล้ายๆของภิรมย์ และ เฟลิซิต้า ผสมๆกัน มีผัดไท พิซซ่า ประมาณนี้



พอตกกลางคืน ห้องอาหารจะเปลี่ยนเป็นห้องอาหารแสนหรู เน้นกริลซีฟู้ดเป็นหลัก ราคาอาหารก็แอบแรงอยู่พอตัวเลยครับ





ขอเริ่มจากเมนูที่ได้ชิมมาบ้าง จานนี้ซุปร๊อกลอบเตอร์ หรือซุปกั้งหิน รสชาติเค็มๆมันๆเหมือนซุปกุ้ง ถามว่าอร่อยมั้ย ก็อร่อยนะ แต่ก็ไม่ได้มากอะไร



เมนูไม้ตายตอนเย็นก็จะเป็น กริลซีฟู้ดนี่แหละครับ เมนูนี้สำหรับสองคน ของคุณภาพดี สด และ พอชั่นใหญ่ น้ำจิ้มซีฟู้ดรสดีไม่อายเจ้เขียวน้องเปิ้ลเลยครับ แต่ราคาชวนกระเป๋าเบาทีเดียว



ส่วน เมนูนี้ เลม่อนชีสเค้ก รสชาติกลางๆนะครับ ผมเฉยๆ อ่ะ



เอาล่ะครับ เดินกันมาก็นาน กินกันมาเยอะ ได้เวลาเช็คอินกันแล้วล่ะครับ ไปครับ เราไปเช็คอินกันดีกว่า



ลอบบี้ของที่นี่จะถูกแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรกสำหรับแขกธรรมดาทั่วไปครับ



ฟีลลิ่งของลอบบี้เน้นการตกแต่งสไตล์วินเทจ ลายฉลุหวานๆและเฟอร์นิเจอร์สีคราม



แรงบันดาลใจของลอบบี้ดูเหมือนว่าบ่งบอกให้เรารับรู้ถึง ลอบบี้ใต้ท้องทะเล แจกันตรงกลางลอบบี้คือตัวแทนของปะการัง โมบายระย้าบนเพดานลอบบี้เป็น ปลาน้อยใหญ่ว่ายหมุนวนกัน 



และนี่คือของพิเศษที่เตรียมไว้ให้สำหรับแขกทุกห้องที่ต้องการใส่บาตรในตอนเช้า ทางโรงแรมจะเตรียมชุดใส่บาตรไว้ให้ฟรี ของในชะลอมส่วนใหญ่จะเป็นของจากโครงการหลวง อันนี้ขอกราบบบบ (ขอให้ผลบุญในเรื่องนี้ช่วยให้รีสอร์ทเจริญรุ่งเรืองขึ้นไปๆๆ)



ส่วนแขกระดับ Club benefit จะเช็คอินที่คลับเลาจน์ที่แยกตัวมาจากลอบบี้ แขกระดับพิเศษนี้จะได้รับสิทธิพิเศษมากมาย





เริ่มต้นด้วย เวลคัมดริ้งเป็นแชมเปญ และ น้ำผลไม้ (กระเจี้ยบผสมสัปะรด)



ต่อด้วยเซ็ต Afternoon tea 1 เซ็ต สำหรับ 1 ห้องพัก ( เซ็ตที่ให้จะเป็นเซ็ตที่ขายกันแบบปกติ แต่ล่ะวันไม่เหมือนกัน)







ส่วนข่วงเย็นจะเป็น Evening Cocktail และ คานาเป้หลากหลาย






ปิดท้ายช่วงค่ำจะมีการเตรียมเครื่องอาบน้ำบำรุงผิวให้ ไม่ว่าจะเป็นอาบน้ำนม เล่นโฟมบาธ หรือแบบอื่นๆ ซึ่งมีให้เลือกกันถึง 5 ชุด





และสุดท้ายปิดท้ายด้วยภายในตึกของลอบบี้และคลับเลาจน์นี้จะมีฟิตเนส และสปา อยู่ที่ชั้นสองด้วย ยอมรับเลยตอนแรก บ้านนอกมากกกก หาฟิตเนสไม่เจอ T__T



ส่วนสปาตอนนี้ ที่นี่จะมีโปรโมชั่น เกี่ยวกับการทำสปาเกี่ยวกับการบำรุงเล็บมือและเล็บเท้าจากช่างชาวฝรั่งเศส อยู่ด้วย ใครสนใจก็ลองสอบถามดูครับ





เอาล่ะครับ เช็คอินแล้ว ใครพักห้องแบบไหนกันบ้างครับ มามะ มามะ ผมจะพาไปเก็บของที่ห้องกันนะครับ  เริ่มจากห้องระดับเริ่มต้น ห้องคลาสสิคพื้นที่ 45 - 50 ตารางเมตร ห้องจะอยู่ตึกบนห้องอาหารภิรมย์และเฟลิซิต้า วิวจากตึกนี้จะเป็นวิวที่สวยที่สุดครับ ถ้าได้ห้องมุมดีๆ ชั้นสูงๆหน่อย เรียกว่าฟินไม้แพ้ห้องระดับแพงๆๆเลย







ผลิตภัณฑ์อาบน้ำตั้งแต่ห้องระดับเริ่มต้นจะใช้ ผลิตภัณฑ์ของ l'occitane จากประเทศฝรั่งเศส เรียกได้ว่าขอได้ไม่อั้น





ในตึกนี้จะมีห้อง ดีลักซ์สวีท และ พาเลซสวีท อยู่ด้วย สองไทพ์นี้มีขนาดพื้นที่และห้องน้ำที่ต่างกันเท่านั้น ที่ระเบียงจะมีอ่างจาร์ฯสำหรับแช่ชมวิวอยู่ด้วยครับ















ส่วนตึกที่ขนาบข้างรีสอร์ททั้งสองฝั่งจะเป็นห้องระดับพีเมียร์ ด้านบนจะเป็นระเบียง ด้านล่างจะเป็นพูลแอสเซส พื้นที่ 55 ตารางเมตรครับ











ส่วนห้องพีเมียร์พูลสวีท จะเป็นห้องพิเศษอยู่ตรงหัวมุมตึกด้านล่าง มีเพียงไม่กี่ห้องครับ ห้องมีพื้นที่ขนาดใหญ่มาก









พูลวิลล่าริมทะเล ห้องพักพร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัวครับ ข้อดีของห้องนี้นอกจากสระว่ายน้ำส่วนตัวขนาดใหญ่แล้ว คือห้องน้ำยังขนาดใหญ่และสวยหรูจริงๆ







สรุปปิดท้ายกันสักนิด

ถ้าถามผมว่าโรแรมเชนไหนที่แซ่บสุดในหัวหิน คำตอบคือที่นี่ครับ (เพราะที่หัวหินตอนนี้มีเชนใหญ่อยู่ไม่กี่ทีเอง 555555 ) แล้วถ้าเมื่อเทียบกับโรงแรมบูทิคต่างๆล่ะ คำตอบผมก็ยังคงเลือกให้ที่นี่ครับ

1 สระว่ายน้ำกว้างใหญ่มากกกกก เมื่อ เทียบกับโรงแรมแถบนี้
2 ชายหาดที่สวยไม่แพ้ชายหาดของรีสอร์ทไหนๆ
3 บริการ โรงแรมเชน ยังไงก็เอาอยู่เรื่องบริการครับ
4 ห้องพักสวยงามหวานแหวว ห้องน้ำหรูหรา ป๊อปปูล่ามากกกกแนวนี้

ข้อดีทั้งสี่ข้อที่กล่าวมา ถ้าจะเลือกรีสอร์ทไหนในหัวหินที่ราคาเท่ากัน ผมว่าที่นี่ก็น่าจะมีภาษีอยู่บ้างไม่มากก็น้อยนะครับ



Create Date : 12 สิงหาคม 2557
Last Update : 3 กันยายน 2557 23:55:52 น.
Counter : 13699 Pageviews.

318 comment
sheraton hua hin pranburi villas













































Create Date : 02 สิงหาคม 2557
Last Update : 2 สิงหาคม 2557 22:46:25 น.
Counter : 9675 Pageviews.

1276 comment
Rest Detail Hotel Hua Hin


Rest Detail Hua Hin อะไรคือ Rest Detail ? พักผ่อน รายละเอียด ? ทางรีสอร์ทให้คำจำกัดความของที่นี่ไว้ว่า "เวลาเราเดินทางไปไหนสักครั้ง เราอาจจะต้องเตรียมตัวอะไรมากมาย อาจต้องเตรียม หลายสิ่ง หลายอย่าง แต่ถ้าคุณจะมาหาเราที่นี่ Rest Detail คุณแค่เตรียมชุดโปรด ก็กล้องถ่ายรูปตัวเก่งของคุณมาเท่านั้น แล้วรายละเอียดที่เหลือ เราจะดูแลให้คุณเอง" "แล้วรายละเอียดที่เหลือ เราจะดูแลให้คุณเอง" นั้นคืออะไร งงมั้ยครับ  มาครับมากับผม เราไปหาคำตอบกัน ว่ารายละเอียดที่เหลือที่โรงแรมเตรียมไว้ให้เรานั้นมันคืออะไร

เรามาเริ่มจากแผนที่กันก่อน Rest Detail Hotel Hua Hin ตั้งอยู่ในซอยหัวหิน 19 ใกล้กับวัดไกลกังวล เรียกได้ว่า เข้าเมืองหัวหินไม่นานก็ถึงเลยครับ รีสอร์ทแห่งนี้เป็นรีสอร์ทติดชายทะเลเลยล่ะบ แล้วชายหาดที่นี่สวยมั้ย? ไปครับ ไปดูกันเลยดีกว่า พูดไปไม่เท่าสิบตาเห็น

ชายหาดที่ติดกับตัวรีสอร์ท อาจมีหินอยู่บ้าง แต่ถ้าเดินลึกเข้าไปสักนิด การันดีเลยครับ หาดสวยน้ำใสอย่างแน่นอน



เอาล่ะครับ จากที่เกริ่นไว้ตั้งแต่รูปแผนที่ เข้าซอย 19 สุดซอยเลี้ยวซ้ายครับ ขับมาสักนิดเดียวก็เจอโรงแรมแล้วล่ะ





เมื่อมาถึงหน้ารีสอร์ท เราจะพบกับ สัญลักษณ์ลิงสามตัวนี้ คืออะไรกันอ่ะ ปิดหู ปิดตา ปิดปาก หมายความว่าไงอ่ะ จะไม่ให้ผมเผือกเรื่องคนอื่นเหรอ ไม่ได้นะ ชาวพันทิพ ไม่กินเผือกไม่ใช่ชาวพันทิพอ้าาาา เอาจริงๆแล้ว ลิงสามตัวนี้ คือสัญลักษณ์ให้เราลืมเรื่องราวที่ไม่อยากฟัง เมินเรื่องที่ไม่อยากเห็น และอย่าสนใจเรื่องที่ไม่อยากพูด เมื่อคุณมายืนอยู่หน้าเจ้าลิงสามตัวนี้แล้วหมายความว่า ให้คุณลืมเรื่องราวราวต่างที่แสนรำคาญใจทิ้งไป กองมันไว้ที่หน้าเจ้าลิงนี่แหละ เพราะเวลาแห่งการพักผ่อนกำลังเริ่มต้นขึ้นแล้ว........



เมื่อเดินผ่านเจ้าลิงสามตัวเข้ามา ในโซนลอบบี้ เราจะพบกับ ลอบบี้ที่ขาวนวลตา ตกแต่งสไตล์วินเทจ หวานๆ ง่ายๆสบายๆดูไม่พิธีรีตรองเป็นทางการ ผมขอพาชมบรรยากาศกลางคืนชวนสวีทก่อนนะครับ



ใครที่ชอบอะไรหวานๆ ได้มีปลื้มกับลอบบี้ที่นี่แน่ๆ



ลอบบี้ที่นี่เปิดโล่ง ตามสไตล์รีสอร์ทเมืองร้อน เปิดรับลมทะเล ถ้าถามว่าร้อนมั้ย ขอตอบเลยยว่า "ไม่" เพราะอะไรไม่รู้ก็มันไม่ร้อนอ่ะ 



ผมจะปล่อยให้เพื่อนๆเดินซึมซับบรรยากาศกับลอบบี้ยามค่ำคืนกันสักนิด







มุมนี้จะมีบริการหนังสือดีวีดีให้ยืมด้วย ใครกลัวเหงาไม่ต้องกลัวเลยครับ หรือจะใช้อินเตอร์เน็ต ก็มีคอมพิวเตอร์บริการ ณ จุดนี้ด้วยครับ



เอาล่ะครับสวีทกันพอล่ะเดี๋ยวมดขึ้น มาดูบรรยากาศยามกลางวันกันบ้างดีกว่า



ชิลล์ สบายๆ กับแดดอ่อนๆ น่านอนเล่นมากกกกก ขอบอก



เดินกันมาพอประมาณแล้ว เรามาเช็คอินกันดีกว่า



เมื่อทำารเช็คอิน น้ำชามะนาวจะถูกนำมาเสริฟ พร้อมกับของที่ระทึกเป็นสายรัดข้อมือน่ารัก สายรัดข้อมือนี้เป็นเหมือนสายสร้อยแห่งสัญญาว่า จะดูแลเราให้เปรียบดั่งคนพิเศษเลยครับ

ป.ล. เหมือนจะเป็นของหมั่น ป่าวเนี้ยะ 555555



เมื่อเช็คอินรับของหมั่นแล้ว แล้วเราไปเก็นเป๋าที่ห้องพักกันดีกว่า ห้องนี้คือห้องไม้ตายของที่นี่ 241 จำให้มั่น



ห้องนี้คือห้อง Rest Horizon ที่สุดของความโรแมนติกแล้วครับ ห้องพักที่นี่ส่วนใหญ่จะถูกคุมอยู่ในโทนขาวครีมสบายตา การตกแต่งเน้นสไตล์วินเทจ



เตียงของห้องพักหันออกตรงๆปะทะกับวิวโดยตรง นอนไปก็ดูวิวทะเลไป ฟินแท้





ใครที่คิดว่านอนดูวิวบนเตียงมันไม่ฟินพอ ฉันต้องฟินมากกว่านี้ ฉันต้องการฟีลลิ่งของทะเลมากกว่านี้เข้าใจมั้ย งั้นขอกราบเรียนเชิญที่ระเบียงครับ มีอ่างจาฯบันเทิงใจให้ฟินผุดๆ กันไป



ไม่ว่าจะเวลาไหนถ้าได้ลงแช่ในอ่างนี้แล้ว ก็เหมือนต้องมนต์ทุกรายไป รับรอง ฟินทุกราย





มองกลับเข้าไปในห้องเราไปสำรวจ ห้องน้ำกันดีกว่า





ห้องน้ำหรูหรา ฟินนาเร่มากกกกกกกกกก







ผลิตภัณฑ์อาบน้ำใช้ของ erb spa ของดีมีราคาค่างวดทีเดียว



ตรงบริเวณอ่างอาบน้ำจะมีเกลือสปากลิ่น ยูคาลิปตัส กับ ลาเวนเดอร์ให้ด้วยครับ



ส่วนในตู้เสื้อผ้า ทางโรงแรมก็เตรียมชุดแบบสบายๆ ไว้ให้แขกผู้มีเกียรติ ได้สวมใส่เพื่อให้เข้ากับวันพักผ่อนแสนชิลล์กัน



ในห้องฟรีจะมีขนมอร่อยๆห้ทานด้วยครับ เป็นทอฟฟี่กระทิหอมมัน ส่วนใครหิว ทางโรงแรมก็มีนมกล่องของจิตรลดาไว้บริการเพื่อนๆให้ฟรี อีกด้วย ฟินแท้




ทอฟฟี่กะทิสำหรับช่วงกลางวัน และ คุกกี้ (บางวันจะเป็นขนมไทยนะครับ) สำหรับก่อนนอน น่ารักจริงๆสำหรับที่นี่

ป.ล.ขอบอกคุกกี้อร่อยมากกกกกกกกก มีขายมั้ยอ่ะ จะซื้อกลับบ้าน



เอาล่ะครับเราไปดูห้องแบบอื่นกันบ้างดีกว่า ห้องนี้ Rest Green ห้องเริ่มต้นของที่นี่ครับ



แค่ห้องเริ่มต้นก็ฟินแล้วล่ะคร้าบบบบบ เอาจริงๆไม่ต่างจาก Rest Horizon เท่าไหร่ครับ



ตัดแค่อ่างอาบน้ำ อ่างจาฯที่ระเบียง และวิวออกไปเท่านั้น  อย่างอื่นเหมือนกันหมด( อันนี้เรียกว่าตัดออกไปไม่เท่าไหร่แน่เหรอนายพัก...สบาย )



ไม่ว่าจะห้องแบบเตียงเดี่ยวเตียงคู่ก็ น่านอนทั้งคู่





ห้องน้ำของ ห้อง Rest Green น่ารักทีเดียวครับ โป้นิดๆ วับๆแวมๆ และโรแมนติก ผมชอบห้องพักโซนบนตึกจัง หวานชวนฝันละมุนละไม



เอาล่ะครับเก็บเป๋ากันเรียบร้อยหรือยางงงงง เราไปเล่นน้ำกันที่สระส่วนกลางกันดีกว่า



สระส่วนกลางที่นี่อยู่ใกล้กับบริเวณชายหาดเลยครับ พื้นสระลึก 1.2 เมตร (ถ้าความจำไม่เลอะเลือนไปซะก่อน)



บริเวณโซนนี้จะมีสระเด็กอยู่ด้วย สระเด็กน้อยขนาดไม่ใหญ่โตอะไรนะครับ





เราไปชมบรรยากาศยามหัวค่ำกันบ้าง ช่วงกลางคืนก็สวยไปอีกแบบ โรแมนติกดีจังเลย









บริเวณโซนสระว่ายน้ำนี้จะมีห้องพักที่mี่เรียกว่า Rest Pavilian อยู่ด้วยครับ จะมีทั้งแบบ สองห้องนอน สามห้องนอน  และใหญ่สุด 4 ห้องนอน Rest Pavilian จะเหมากับการมาพักผ่อนแบบครอบครัวใหญ่ หรือมาปาร์ตี้กันแบบหมู่คณะ



เราไปชม Rest Pavilian กันดีกว่า ห้องนี้ชื่อ North Pavilian ฟีลลิ่งของ Pavilian ของที่นี่ก็คือ บ้านนี่แหละครับ มีห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องนอน สองชั้น แยกสัดส่วน เรามาดูจากห้องรับแขกพร้อมครัวกันก่อน โอ่โถงใหญ่โต



มุมนั่งเล่น ชวนฟินนนนน เหมาะกับกิจกรรมสำหรับครอบครัว ดูหนัง เล่นเกมส์ ฟินกันไป





ห้องนั่งเล่นเล็ก ห้องนี้เหมาะสำหรับผู้ใหญ่ ให้นั่งทบทวนตัวเลขกันเป็นอย่างมาก



ชั้นนี้จะมีห้องน้ำเล็กให้หนึ่งห้องครับ



ส่วนห้องนอนจะอยู่ชั้นข้างล่าง  ห้องนี้เป็นห้องนอนใหญ่ (ซึ่งใหญ่แค่ชื่อนะครับ ขนาดไม่ได้ใหญ่ตามชื่อเลยยยยย) มีอ่างอาบน้ำในห้อง และเช่นเดิมครับ อ่างอาบน้ำเซ็กซี่อีกแล้ววววว







ห้องนอนเล็กสีหวาน ขนาดพื้นทีพอๆกับห้องนอนใหญ่เลย แต่ไม่มีอ่างอาบน้ำครับ





ห้อง North Pavilian จะมีสระว่ายน้ำให้ด้วยครับ สระไม่ได้ใหญ่โตนะครับ ขนาดพอเล่นสำหรับครอบครัว





ส่วนห้อง Pavilian ภายในก็จะไม่ต่างกันมาก ห้องนี้ชื่อว่า Beach Rest Pavilian ห้องนั่งเล่นและสระว่ายน้ำจะได้วิวทะเลไปกันแบบเต็มๆ


เอาล่ะครับเราไปต่อที่โซน ห้องพักกันต่อ สำหรับเพื่อนๆที่สนห้องแบบพูลแอสเซส ที่นี่ก็มีเอาไว้บริการด้วยครับ โซนนี้ชื่อ Pool Village



Pool Village จะมีด้วยกันแค่ 12 ห้องเท่านั้นรูปแบบ เป็นบังกะโลล้อมรอบสระว่ายน้ำ



ฟีลลิ่งของสระว่ายน้ำโซนนี้คือสระว่ายน้ำในสวนมะพร้าวริมทะเล สระนี้จึงไม่เหมาะกับนักกีฬาทีมชาติ ใครอยากว่ายเอาจริ เอาจัง เชิญที่สระโน้นเลยคร้าบบบบบ



ทุกห้องจะมี Deck หรือท่าเรือ มีไว้ให้นั่งชิลล์นอนชิลล์ หรือใครจะมายืนรอใครที่ท่าน้ำทั้งวันก็ตามสบายยยยย





เอาล่ะครับ ผมให้เพื่อนว่ายน้ำเล่นกันไปก่อน เดี๋ยวผมค่อยไปเอากุญแจมาเปิดห้องให้เพื่อนๆเข้าไปดูข้างในห้องพักกันกันดีกว่า















เอาล่ะครับ ผมได้กุญแจมาแล้ว มาเร็วๆๆ เข้ามาดูห้องกันดีกว่า



การตกแต่งมีหลุดธีมจากฝั่งตึก และพาวิเลี่ยนไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้มากมายอะไร



ห้องมีขนาดไม่ต่างจาก ทางโซนตึกเท่าไหร่ครับ มีพื้นที่เพิ่มขึ้นมานิดหน่อย แต่โปร่งโล่งสบายกว่าด้วยกระจก



ห้องน้ำเมื่อเทียบกับตึกบนแล้ว ขอบอกเลยครับ ผมชอบห้องน้ำที่ตึกบนมากกว่า ไม่ใช่ว่าห้องน้ำที่โซนนี้ไม่ดีนะครับ แต่ห้องน้ำที่ตึกข้างบนดูสวยมีสเน่ห์มากกว่า







ส่วนห้องที่อยู่หน้าหาด สองห้องชื่อ ฺBeach Village



ไม่มีอะไรต่างจาก Pool Village เลยยยย เอาจริงๆต่างกันแค่วิวเอง เพราะห้องนี้ระเบียงจะหันออกทะเล







ในโซนนี้นี้จะมีร้านกาแฟไว้บริการด้วยครับ Restpresso ร้านไม่ได้ใหญ่โตอะไร เท่าที่ชิมมา รสชาติใช้ได้เลยครับ ชมบรรยากาศเอากันก่อนล่ะกันนะครับ สั่งน้ำเปล่ากินลมชมวิวก็ฟินแล้วคร้าบบบบบ ที่ตรงนี้



Rest Scene ห้องอาหารกลางวัน และ มื้อค่ำแสนโรแมนติกของที่นี่ เสียดายผมยังไม่มีโอกาสได้ชิมอาหารของที่นี่เลยครับ

















ห้องอาหาร Rest Gasto ห้องอาหารเช้า ( และดินเนอร์บ้างเป็นบางครั้งบางคราว ) บรรยากาศสบายๆสไตล์รีสอร์ทวินเทจ ผมพาชมบรรยากาศภายนอกกันก่อน มีไม่กี่โต๊ะ แต่ฟินได้อีกนะ โรแมนติกมากกกก







ภายในห้องอาหารจะสว่างหน่อยครับ เหมาะกับทานอาหารแบบครอบครัว 



เดินชมบรรยากาศรอบๆกันก่อนนะครับ  เดี๋ยวผมขอตัวไปดูไลน์อาหารเช้าพร้อมหรือยัง เดี๋ยวกลับมาบอก





เอาล่ะครับเพื่อนๆไลน์อาหารเช้าเสร็จแล้วเราไปดูกันดีกว่ามีอะไรทานกันบ้าง ขอบอกว่าเลยว่าตั้งแต่ไปโรงแรมมา ร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ อาหารเช้าโรงแรมนี้ติดท๊อป 5 ในใจผมเลย

เริ่มจากไลน์อาหารเย็นกันก่อนพวกสลัด นม น้ำผลไม้ โยเกิร์ต





บริเวณ มุมขวาคือ ไลน์ขนมปัง มีมากมายหลากหลายและอร่อยมากกก โดยเฉพาะครัวซองอัลม่อน



ส่วนด้านนอกจะมีไลน์อาหารร้อน สารพัด สารเพ ให้ได้เลือกชิมกัน



อย่างที่บอกไปแล้วว่าอาหารเช้าดีมากกกกกกกกกกกกกก ไม่ใช่ดีแค่เยอะ แต่ดีตั้งแต่เมนู การเลือกใช้วัตถุดิบ รสชาติ และความหลากหลาย เอ้า!!!! กราบบบบบบบบบบบ



ขอเลือกบางส่วนจากที่ผมทานมามาให้ชมนะครับ เห็นแต่ล่ะเมนูแล้ว จะเห็นได้ว่า หาทานไม่ได้แน่ๆ ในหลายๆโรงแรม ไม่ว่าจะ 4 5 6 7 ดาวที่ไหน ทั้งของคาวของหวานและเครื่องดืม







ส่วนมื้ออื่นๆที่ได้ชิมไป รสชาติอาหารก็ไม่เลวเลยครับ มีเมนูใหม่ๆที่ไม่เคยทานอยู่หลายตัวเลย แต่ที่ประทับใจที่สุดคือเครื่องดื่ม ต้มยำโค้ก ครับ เอ้าท์!!!! กราบบบบบบบ (อีกแล้ว)



ปิดท้ายกันด้วย Rest Spa ของที่นี่



ขอพาชมห้องสปากันก่อนนครับ บรรยากาศจะคล้ายๆลอบบี้ ชิลล์สบายๆ ง่ายๆ





ถ้าถามว่า ที่นี่มีอะไรน่าสนใจนะเหรอครับ ก็ต้องทรี้ดเม้นท์ประคบฮอตเชลล์ อ้าาาาาา!!! ไม่เคยกันล่ะสิ ฟีลลิ่งจะคล้ายๆนวดประคบหินร้อน แต่จะไม่ร้อนเท่าครับ สบายตัวอย่าบอกใคร



ช่วงที่ผมไปเข้าพักมีโปรโมชั่นจัดสปาแถมอาฟเตอร์นูนทีด้วยครับ ทำสปาเสร็จก็จะเสริฟอาฟเตอร์นูนที ที่ห้องพักเลยคร้าบบบบ นวดเสร็จก็ไปนอนชิลล์กินขนม ฟินแท้เน้อออออ

ป.ล. ส่วนใครสนใจอาฟเตอร์นูนทีเซ็ตอย่างเดียว เซ็ตนี้สำหรับสองคน 500 กว่าๆ เรียกว่าไม่แพงอย่างที่คิดเลย ถึงไม่ได้พัก ก็เข้ามาทานได้ครับ  ครับผม



สรุปปิดท้ายกันสักนิด

"แล้วรายละเอียดที่เหลือ เราจะดูแลให้คุณเอง"  เพื่อนๆพบกับคำตอบ ของข้อความนี้หรือยังครับ สำหรับผม ผมว่าผมพบแล้ว Rest Detail สำหรับผมคือ โรงแรมที่คอยเติมเต็มความสุขในวันพักผ่อนให้สมบูรณ์แบบที่สุด ทุกอย่างไม่มีมากไปหรือน้อยไป ทุกอย่างดูลงตัว รายละเอียดหลายๆอย่างผมเชื่อว่าถูกวางไว้ตั้งแต่ตอนสร้างโรงแรมแล้วครับ ทุกอย่างมีการคิดเผื่อสำหรับแขกที่จะมาพักแน่นอน  จึงไม่แปลกใจเลยที่ใครๆที่เคยมาที่นี่ก็ต่างหลงรักที่นี่กันทั้งนั้น ส่วนรายละเอียดที่มาเติมรอยยิ้มให้กับแขกที่มาพักคือบริการที่แสนน่ารักของพนักกงานที่นี่ รวมไปถึงอาหารเช้า ที่เรียกว่าไม่เป็นสองรองที่ไหน ผมให้เทียบกับโรงแรม 5 ดาวไฮโซเลยก็ได้ ทุกอย่างถูกคัดพิเศษมาเพื่อเติมเต็มความสุขในวันหยุดพักผ่อนจริงๆ เอาล่ะซิ ทำไงดีล่ะ เหมือนผมจะหลงรักโรงแรมนี้เข้าให้แล้ว แล้วพบกันใหม่น้าาาาา  Rest Detail



Create Date : 23 มิถุนายน 2557
Last Update : 21 สิงหาคม 2557 19:42:42 น.
Counter : 34995 Pageviews.

912 comment
Le Bayburi Pranburi


พูลวิลล่า พูลวิลล่า ใครๆก็ชอบพูลวิลล่า ยิ่งถ้าเป็นพูลวิลล่าสวยๆ สระใหญ่ๆ ติดริมทะเล และไม่ไกลจากกรุงเทพด้วยแล้ว ผมเชื่อว่าเพื่อนๆหลายคนคงปลื้มแน่ๆๆ วันนี้ผมนายพัก...สบาย จะมาแนะนำพูลวิลล่า สวยเก๋มีสไตล์ ดูมีสกุลรุนช่อง เปรียบดังคุณค่าที่คุณและครอบครัวคู่ควร มามะ มามะ เรามาทำความรู้จักที่นี่กันดีกว่า Le Bayburi Pranburi

Le Bayburi Pranburi คือพูลวิลลาแสนหรู ที่อยู่ติดชายหาด คอนเซ็ปของที่นี่คือบ้านพักตากอากาศสำหรับครอบครัวใหญ่ หรือ เป็นบ้านพักสำหรับการเลี้ยงฉลองเนื่องในโอกาศพิเศษ



เชื่อว่าเพื่อนๆหลายคนคงเคยไปพักพูลวิลล่ากันมาแล้ว ส่วนใหญ่ก็ราคาเป็นหมื่นแต่นอนได้แค่สองคน บางทีราคาถูกหน่อย แต่สระก็เล็กเป็นบ่อปลาทอง แต่สำหรับที่นี่ไม่ใช่ครับ



ในราคาเริ่มต้นที่หมื่นกว่า จะมีห้องนอนด้วยกัน 3 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องเอนกประสงค์ ครัว พร้อมสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ และที่สำคัญติดริมทะเลเลย

บ้านพักของที่นี่จะมีด้วยกันสี่หลัง รูปแบบภายนอกอาจจะดูเหมือนๆกันคือเป็นบ้านพักตากอากาศสมัยใหม่ เน้นดีไซด์ที่ไม่ซ้ำใคร แต่การตกแต่งภายในสิครับ ไม่เหมือนกันเลยครับ สักนิด ทั้งสี่หลังจะฉีกแนวกันไป

อย่างหลังนี้ ชื่อ Mediterranean Retreat ได้รับแรงบรรดาลใจจากการการแต่งบ้านแบบสไตล์เมดิเตอเรเนียน ท้องทะเล เน้นสีขาว เป็นหลัก โดยทั้งสี่หลัง ส่วนตัวแล้วผมค่อนข้างปลื้มกับหลังนี้มากที่สุด  ใครชอบอะไรที่ขาวๆ ใสๆ  ชอบการตกแต่งที่สื่อถึงท้องทะเล ไม่ควรพลาดห้องนี้ครับ





Modern Tropical ห้องนี้ได้รับแรงบรรดาลใจจาก การตกแต่งที่ทันสมัยแบบใหม่บวกกับความการผสมผสานความเป็นธรรมชาติเข้าไปด้วย ใครชอบความเป็นโมเดิร์น ชอบการตกแต่งอะไรทันสมัยใหใหม่นิดๆ และสระสีดำ ต้องห้องนี้เลยครับ









ส่วนห้องนี้คือห้องที่ผมพัก Pacific Hideaway ได้รับแรงบรรดาลใจจาก การตกแต่งบ้านสมัยใหม่สไตล์หมู่เกาะแปซิฟิค มีความทันสมัยอยู่แต่ก็ไม่ได้ทิ้งกลิ่นอายของทะเลและความคลาสสิคไป







จากที่เกริ่นกันไปในตอนแรก ว่าที่นี่มี 3 ห้องนอน ผมขอเพื่อนๆมาสำรวจห้องนอนใหญ่กันก่อนนะครับ ห้องนอนหลักจะมีขนาดใหญ่โตที่สุด มีห้องนอนส่วนตัว และเห็นวิวทะเลชัดเจน







ห้องน้ำทั้งหมดในบ้านหลังนี้จะมี ห้องนี้ห้องเดียวที่มีอ่างอาบน้ำและเป็นอ่างจาฯเสียด้วย



ห้องน้ำเน้นโทนสีขาวสว่างๆ ตกแต่งทันสมัย



ห้องนอนที่สอง มีขนาดเล็กลงมา ห้องน้ำจะแชร์ร่วมกับ ห้องนอนที่สาม แต่ยังเห็นวิวทะเลชัดเจนอยู่ แต่ก็ไม่พาโนราม่าแบบห้องนอนหลัก



ห้องนอนที่สาม วิวหน้าบ้านห้องมีขนาดพอกับห้องนอนที่สอง



ห้องนอนที่สองกับที่สาม ห้องน้ำแชร์กันครับ



ห้องเอนกประสงค์อยู่ติดกับครัวด้านล่าง ห้องมีขนาดพอกับห้องนอนที่สองและสาม



แต่แซ่บกว่าตรงที่มีห้องน้ำในตัวเลยล่ะครับ



ที่หน้าห้องเอนกประสงค์ จะมีรถจักรยานจอดอยู่สามารถนำไปใช้ได้ฟรีครับ ปั่นไปซื้อของ ปั่นไปจีบสาวเมืองปราณ หรือปั่นไปแหล่หนุ่มบ้านข้างๆก็ตามแต่ใจจะไขว่ขว้าครับ



ส่วนครัวที่ติดกับห้องเอนกประสงค์จะเป็นครัวเปิดโล่ง อุปกรณ์ครบครับ ถ้วยโถ จาน ชาม ช้อน หม้อ ตะหลิว กะทะ สาก ครก โอ้ยยยย สารพัด สารพันที่แม่ครัวหัวป่าจะใช้ ที่นี่เตรียมไว้ให้แล้วครับ





ในตู้เย็นก็จะมีเวลคัมดริ้งให้ด้วย เป็นน้ำพันช์ ให้มาเป็นเหยือกเลยครับ ส่วนเวลคัมฟุ๊ตก็จะจัดมาเป็นถาดใหญ่เลยครับ



เอาล่ะครับไปดูไฮไลท์ ของที่นี่กันดีกว่า สระว่ายน้ำริมทะเล ผมเชื่อว่าคงมีหลายๆคนฝันกันไว้อยากมีบ้านที่มีสระว่ายน้ำแบบนี้ แต่ถ้าจะมีเป็นของตัวเองก็ใช่ว่าจะมีกันได้ทุกคน มันไม่ได้ถูกๆเลย



งั้นเช่าเขาเอาดีกว่าครับ อย่างน้อยฝันก็เป็นจริงเพียงแค่ข้ามคืน ในราคาหลักหมื่น 555555



สระว่ายน้ำที่นี่ มีสระใหญ่สำหรับผู้ใหญ่ลึก 1.2 เมตร สระเด็ก และพูลบาร์ เรียกว่าครบเครื่อง ครอบคลุมหมดทั้งแบบครอบครัว มาปารตี้ หรือมาสวีท



มีแถมอ่างจากุชชี่ในสระว่ายน้ำให้อีกด้วย สระนี้รองรับทุกรูปแบบจริงๆครับ









บริเวณหน้าหาดบ้านจะติดกันหมดเดินถึงกันหมดได้นะครับ



มองกลับเข้าไปในตัวบ้าน สระค่อนข้างยาวอยู่ ว่ายน้ำออกกำลังได้ครับ



เรามาดูจากมุมสูงกันบ้าง จะเห็นได้ชัดๆเลยว่าติดหาดจริงๆ ไม่มีถนนคั้น และหาดก็สวยสะอาดมากด้วยครับ



เราไปชมบรรยากาศกลางคืนกันบ้าง บอกตรงๆนะครับว่าเหมาะกับงานปาร์ตี้มากๆๆ









ในตอนนี้ ถ้าจองสองคืนกับที่นี่แล้ว ทางโรงแรมจะแถมเซ็ตบาบีคิวซีฟู้ดริมสระเพิ่มให้ด้วยครับ





ส่วนช่วงอรุณรุ่งยามเช้า ขอบอกเลยครับว่างดงามเกินบรรยาย กับบรรยากาศริมชายทะเลปราณแห่งนี้







ปิดท้ายกันด้วยภาพชายหาด กันสักนิด หาดที่นี่ค่อนข้างกว้าง ยาว สวย และสะอาดมากครับ เหมาะกับการทำกิจกรรมออนเดอะบีชมากๆๆ





สรุปปิดท้ายกันสักนิด

Le Bayburi ฟีลลิ่งของที่นี่อาจไม่ใช่โรงแรมสักทีเดียวนะครับ แต่ที่นี่ให้ฟีลลิ่งเหมือนบ้านพักตากอากาศมีสระว่ายน้ำริมทะเลที่เน้นการตกแต่งแบบทันสมัยซะมากกว่า ถึงแม้ที่นี่จะถูกสร้างมาหลายปีแล้ว แต่ก็ได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดี แม้จะมีบางจุดดูโทรมไปบ้าง แต่ก็พอเข้าใจได้เพราะอาจด้วยอยู่ริมทะเล การดูแลรักษาจึงยากลำบากสักนิด ใครที่กำลังมองหาบ้านพักตากกาศริมทะเลบรรยากาศดีๆสักหลังที่จะมาพักผ่อนแบบครอบครัวใหญ่ๆ หรือมาสังสรรแบบเพื่อนฝูง ผมเชื่อว่าว่าที่นี่จะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน

สุดท้ายนนี้ขอขอบคุณ ดารา นายแบบ น้องซัน เขมณัฐ ที่ร่วมมาเป็นกรรมการให้กับทาง TBA ด้วยครับ สำหรับที่นี่



ของแถมปิดท้าย มีโอกาศได้แวะไปชิมอาหารกับรีสอร์ทห้องใหม่ของเครือนี้ด้วยครับ อเวย์ปราณบุรี อาหารที่นี่ก็รสไทยๆ แอบติดรสหวานไปนิด แต่โดยรวมอร่อยหลายอย่างเลยครับ














Create Date : 12 มิถุนายน 2557
Last Update : 2 สิงหาคม 2557 20:38:08 น.
Counter : 8586 Pageviews.

2 comment
1  2  3  4  

Paksabuy
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 340 คน [?]



free counters
Free counters