ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

Boi fair 2012 นี่มันงานรวมเด็ดรถไฟฟ้านี่หว่า ...

ในช่วงนี้ถ้าใครว่างจากการทำงานอยากหาอะไรผ่อนคลายและชอบเรื่องราวของนวัตกรรมใหม่ที่เกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ งาน BOI Fair 2012 นับ
ว่าเป้นปลายทางที่น่าสนใจ ยิ่งกับคนรักรถอย่างเราๆท่านๆนั้น
มีเรื่องต่างๆมากมายมาให้เราได้เรียนรู้
และดูเหมือนที่ใกล้ตัวสุดนั้นจะเป็นรถไฟฟ้า



ไม่รู้ว่าคนอื่นที่ไปด^งานจะว่าอย่างไร แต่สำหรับเรา Sanook!
นี่เป็นงานที่รวบรวมนวัตกรรมสำคัญ
โดยเฉพาะรถไฟฟ้าเข้ามาไว้อย่างครบครันหลายรุ่นจำหน่ายแล้วในต่างประเทศ
ส่วนบ้านเราคงต้องรอกันต่อไปในอนาคตข้างหน้าที่วันนี้เราจะพาไปชมกันพลางๆ
ก่อน





Chevrolet Volt ไฟฟ้าตัวจริงวิ่งไกลกว่าทึคิด





เข้ามาตั้งแต่เมื่อช่วงปีที่แล้ว แต่นี่คือไม้เด็ดจากค่ายรถยนต์
Chevrolet ที่ตั้งใจพาทุกท่านท่องไปยังโลกรถไฟฟ้าด้วย Chevrolet Volt
ที่สามารถขับเคลื่อนได้จริง แถมยังได้คุยกับการตลาดใหญ่ของค่ายบอกว่า
พร้อมขายจริงด้วยถ้ารัฐมีความชัดเจนเรื่องอัตราภาษีที่แน่นอนสำหรับรถยนต์
กลุ่มพลังเขียว



รถไฟฟ้า Boi fair 2012

Chevrolet Volt นั้น เป็นรถที่ถูกพูดถึงมาตั้งแต่ปีที่แล้ว
นำเสนอด้วยการขับเคลื่อนไฟฟ้า แต่ก็ยังมีเครื่องยนต์พกมาไว้ให้ปั่นไฟ
ซึ่งทำให้รถคันนี้ลบข้อจำกัดของรถไฟฟ้าออกไปได้ด้วยระยะทางสูงสุดรวมการใช้
เครื่องยนต์มาปั่นไฟสามารถไปได้ไกลกว่า 570 กิโลเมตร
หรือถ้าขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวมันก็สามารถเดินทางได้ไกลถึง 35
ไมล์ หรือ ราวๆ 56 กิโลเมตร





Mitsubishi I-Miev เปิดให้นั่งฟรี ถ้าคุณอยากลองสัมผัสไฟฟ้า





ผ่านไปผ่านมาในงานถ้าคุณมีเวลา อยากรูว่าประสบการณ์รถไฟฟ้า เป็นอย่างไร
เราขอแนะนำให้ตบเท้าเข้าบูธ Mitsubishi ที่เปิดโอกาสให้ลองนั่ง Mitsubishi
I-Miev รถซิตี้คาร์ไฟฟ้าที่เริ่มโครงการมาตั้งแต่ปี 2006
และเริ่มวางจำหน่ายในหลายประเทศ


Mitsubishi I-Miev เข้ามาในบ้านเราได้พักใหญ่ ในฐานะที่นำมาศึกษาทดลอง
ทั้งจาก Mitsubishi เอง และการร่วมมือกับการไฟฟ้านครหลวง
ไปจนถึงบิ๊กพลังงาน ปตท. ที่ร่วมมือกันในการทดลองทำระบบชาร์จเร็วให้กับรถ



รถไฟฟ้า Boi fair 2012

เรือนร่างที่เล็กน่ารัก ทำให้ Mitsubishi I-Miev
นั้นเหมาะมากต่อการใช้งานในเมือง โดยในการชาร์จไฟ 1 ครั้ง จะสามารถวิ่งได้
160 กิโลเมตร และสามารถทำความเร็วสูงสุด 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งในงาน
BOI fair 2012 นั้น เดินๆอยู่ก็ระวังซ้ายขวาบ้นงเพราะ Mitsubishi I-Miev
อาจจะเข้ามาทักทายคุณเงียบๆ ก็ได้ เวลาเดินชมในงาน Boi Fair





Nissan Leaf เข้ามาในไทยพร้อมเปิดให้สัมผัสเร็วๆนี้





ด้านค่ายรถยต์พันธมิตร Mitsubishi อย่าง Nissan
ที่ต้องถือว่าเป็นเจ้ายุทธจักรรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในยุคปัจจุบัน ในงาน boi
fair 2012 นี้ก็จัด Nissan Pavilion ในคอนเซปต์ Zero Emission
ที่รณรงค์โลกไร้มลพิษเป็นคำตอบสุดท้าย



รถไฟฟ้า Boi fair 2012

ในบูธของ Nissan
นั้นมีการจัดแสดงที่มุ่งเน้นในส่วนยานยนต์ประหยัดพลังงานแต่พระเอกของงาน
นั้นเป็น Nissan Leaf ที่จะได้เห็นตัวจริงๆกันในโรงภาพยนต์ 4มิติในบูธ
แถมจบการแสดงเพียงตอบแบบความคิดเห็นก็มีสิทธิ์อาจจะได้ไปขับ Nissan Leaf
กันฟรีๆเลย





Nissan Townpod Concept



รถไฟฟ้า Boi fair 2012

ต้นแบบไฟฟ้าที่มาให้ได้ชมตัวจริงกันในงาน Boi Fair 2012
อีกหนึ่งที่อยู่ใน Nissan Pavilion
ด้วยแนวคิดยานยนต์อนาคตที่ให้ชมกันตัวเป็นๆ Nissan Townpod
เป็นการรวทเอาเส้นสายของความเป็นซิตี้คาร์ และรถอเนกประสงค์มาอยู่ด้วยกัน
ด้วยการออกแบบให้มันเหมือนหมวกกันน๊อกวิ่งได้ มีความสปอร์ตลงตัว
โครงสร้างรถนั้นไร้เสา B ช่วยเพิ่มพื้นที่ในการโดยสาร
และยังมีความอเนกประสงค์ในการออกแบบ
ส่วนเรื่องขุมพลังนั้นจะใช้ลักษณะเดียวกับ Nissan Leaf
โดยมีหลายกระแสในต่างประเทศกล่าวว่านี่คือ Nissan Cube ในอนาคต





แค่เพียงรถ 4คัน
ที่เรากล่าวถึงนี้
ก็นับว่าเป็นก้าวสำคัญของวิทยาการทางด้านยานยนต์ที่ในอนาคตเราคงจะได้สัมผัส
กันอย่างแน่นอน แต่นอกจากรถไฟฟ้าชั้นนำแล้วยังมีรถยนต์ไฮบริดหลายรุ่นเช่น
Toyota Prius C และ Prius Plug-in รวมถึง Honda CR-Z ที่พร้อมยืนหยัดในงาน Boi Fair 2012 ว่าเรากำลังมุ่งสู่อนาคตวันหน้าที่การเดินทางอาจจะเป็นไฟฟ้าก็ได้




 

Create Date : 10 มกราคม 2555   
Last Update : 10 มกราคม 2555 15:03:42 น.   
Counter : 1191 Pageviews.  

จีนทำอึ้ง! สร้างตึก 30ชั้น ใน 15 วัน !!



ผมไม่รู้ว่ามังกรนั้นมีจริงหรือเปล่า แต่ต้องยอมรับว่าประเทศนี้สมควรกับสมญานามว่า "พญามังกร" ยิ่งนักเมื่อพี่จีนโชว์พาวในการสร้างตึก 30 ชั้นภายในเวลา 15 วัน(0.5 เดือน) หลายคนอาจจะคิดว่ามันแปลกหรือน่าทึ่งหรือ สำหรับผมที่จบวิศวโยธา และทำงานมา 10 กว่าปี ต้องบอกว่า แม้แค่คิดผมยังไม่กล้าคิดว่ามันทำได้เลยถ้ามีคนบอกว่าทำได้ก็ต้องบอกว่าไอ้ขี้โม้ เพราะตึก 30 ชั้นอย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาซัก ปีครึ่ง ถึง 2 ปี อย่ามาโม้ว่าสร้างได้ 15 วัน

รายละเอียด

--------------------------------------------------------------------------------
•ต้องบอกว่าทึ่งมาก แต่มันอาจจะไม่เชิงที่ว่าก่อสร้างตึกเบ็ดเสร็จภายใน 15 วัน เนื่องจากระยะเวลา 15 วันนั้นเป็นเพียงเวลาในการนำชิ้นส่วนสำเร็จรูปที่สร้างจากโรงงานมาประกอบเป็นตัวอาคาร ซึ่งก่อนระยะเวลา 15 วันในการประกอบอาคารนั้นจำเป็นจะต้องมีขั้นตอนเตรียมงาน สร้างชิ้นส่วนอาคารชั้นต่างจากโรงงานภายนอกเตรียมการไว้ก่อน
•เทคนิคก่อสร้างที่ใช้ชิ้นส่วนสำเร็จรูปมาประกอบกันนี้มีชื่อเรียกว่าสั้นว่า พรีแฟบ(Prefabricated modular) คือการสร้างชิ้นส่วนต่างของอาคารจากโรงงานเตรียมไว้ก่อนที่จะนำมาประกอบที่สถานที่ก่อสร้าง ซึ่งวิธีก่อสร้างแบบนี้จะทำลายข้อจำกัดเรื่องระยะเวลาก่อสร้างอาคารในแนวดิ่งสูงลงได้เนื่องจาก ถ้าใช้วิธีก่อสร้างแบบเดิมยังไงเราก็ต้องสร้างชั้น 1 ก่อนชั้น 2 และถึงจะตามด้วยชั้น 3 ไป 4 เรื่อยๆจนถึงชั้น 30 ทำให้ต้องทำงานเป็นขั้นๆำไป
•แต่การก่อสร้างด้วยเทคนิคพรีแฟบ เราสามารถสร้างชิ้นส่วนอาคารชั้น1ที่โรงงาน A พร้อมกับสร้างชิ้นส่วนอาคารชั้น2ที่โรงงานB พร้อมกับสร้างชิ้นส่วนอาคารชั้น3ที่โรงงานC เตรียมการไว้ก่อนที่โรงงานต่างพร้อมๆกันในเวลาเดียวกัน และจัดส่งมายังสถานที่ก่อสร้างเพื่อยกขึ้นติดตั้งด้วยทาวเวอร์เครน
•ที่น่าทึ่งขึ้นไปอีกระยะเวลา 15 วันนี้ไม่ใชแค่งานโครงสร้างแล้วเสร็จแต่มันรวมถึงงานสภาปัตยกรรม(คืองานตกแต่งภายในที่ไม่ใช่โครงสร้างอาคาร เช่น งานผนัง ประตู หน้าต่าง ฝ้าเพดาน สุขภัณฑ์ฯ)
•ที่น่าทึ่งอีกคือโครงการนี้ไม่มีใครตาย และต้องตบมือให้อย่างยิ่งแม้แต่คนบาดเจ็บสาหัสยังไม่มี(ถ้าของไทยทุกตึกต้องมีผีคนงานเฝ้าแน่นอนฟันธง)
•สุดท้ายอาคารนี้ ชื่อโรงแรม Ark Hotel ตั้งอยู่ที่ทะเลสาบ Dongting ในมณฑลหูนาน(Hunan) มีพื้นที่ใช้สอย 17,000 ตารางเมตร ที่จะลืมไม่ได้บริษัทรับเหมาก่อสร้างคือ บริษัท Broad Group โดยโรงแรมแห่งนี้เริ่มก่อสร้างในช่วงคริสต์มาสปี2011 และแล้วเสร็จตอนปีใหม่ 2012



คลิปจาก youtube โพสท์โดย โพสท์โดย: RazBerrY




 

Create Date : 10 มกราคม 2555   
Last Update : 10 มกราคม 2555 15:02:08 น.   
Counter : 1449 Pageviews.  

มาเล่น Angry Birds นอกจอกัน!!




 

Create Date : 10 มกราคม 2555   
Last Update : 10 มกราคม 2555 15:00:49 น.   
Counter : 800 Pageviews.  

"บึงบอระเพ็ด" ทะเลเหนือแห่งนครสวรรค์








การ
ท่องเที่ยวบึงบอระเพ็ด
อีกหนึ่งกิจกรรมท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของตำบลแควใหญ่ อำเภอเมือง
จังหวัดนครสวรรค์ เป็นบึงน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีเนื้อที่ประมาณ
132,737 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครสวรรค์
อำเภอท่าตะโก และอำเภอชุมแสง ในอดีตบึงบอระเพ็ดได้ชื่อว่าเป็น "ทะเลเหนือ"
หรือ "จอมบึง" เพราะมีสัตว์และพันธุ์พืชน้ำอยู่มากมาย
    
จากการสำรวจพบว่ามีสัตว์อาศัยอยู่ประมาณ 148 ชนิด พืช 44 ชนิด
เคยพบสัตว์หายากที่นี่ ได้แก่ นกเจ้าฟ้าหญิงสิรินธร ปลาเสือตอ
ในเดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคมจะมีนกเป็ดน้ำจำนวนมากอพยพมาที่บึงแห่งนี้
มีนกประจำถิ่นหลายชนิด อาทิ นกเป็ดน้ำ นกอีโก้ง นกอีแจว
นกปากห่างซึ่งจะวางไข่ในเดือนกรกฎาคม-มีนาคม
พื้นที่บางส่วนได้รับการประกาศให้เป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่า
บึงบอระเพ็ดอยู่ในความดูแลของกองอนุรักษ์สัตว์ป่า
และยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลา
โดยกรมประมงได้มาตั้งสถานีพัฒนาประมงบึงบอระเพ็ดไว้ด้วย

    
จุดที่น่าสนใจ คืออาคารแสดงพันธุ์สัตว์น้ำบึงบอระเพ็ดเฉลิมพระเกียรติ 80
พรรษา เป็นอาคารรูปทรงเรือกระแชงแห่งเดียวในประเทศไทย กว้าง 37 เมตร ยาว 49
เมตร มีอุโมงค์ปลายาว 24 เมตร แสดงพันธุ์ปลาน้ำจืดกว่า 100 ชนิด
พร้อมพันธุ์ปลาน้ำเค็มอีกหลายพันธุ์ มีบ่อปลา Touch Pool
ให้สัมผัสใกล้กับปลาฉลามกบ เม่นทะเลฯ เปิดทุกวันเวลา 10.00-18.00 น.
ชมการดำน้ำให้อาหารปลาวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 11.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา
11.00 น. และ 15.00 น. อัตราค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 20 บาท
นักเรียนในเครื่องแบบและพระภิกษุ 20 บาท

    
นอกจากนี้ยังมีการแสดงจระเข้ ละครลิงคุณประกิต การล่องเรือชมทัศนียภาพ
ดูนกนานาชนิดซึ่งเช่าเรือที่ท่าเรือบึงบอระเพ็ด
มีหาดทรายเทียมสำหรับเล่นน้ำ บานานาโบท เจ็ทสกี ศูนย์สินค้า OTOP
และบริการบ้านพัก เต็นท์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงบอระเพ็ด
หรือสถานีพัฒนาและส่งเสริมการอนุรักษ์สัตว์ป่าบึงบอระเพ็ด
ซึ่งเป็นที่ตั้งของชมรมดูนกจังหวัดนครสวรรค์ โทร. 0 5630 0040 เปิดทุกวัน
เวลา 08.30-16.30 น. หรือศูนย์บริการนักท่องเที่ยวบึงบอระเพ็ด โทร. 0 5627
4525 //www.buengboraphet.com

     การเดินทาง
จากตัวเมืองนครสวรรค์ไปบึงบอระเพ็ด สามารถไปได้หลายเส้นทาง ทางเรือ
จากตลาดท่าน้ำเทศบาลเมืองนครสวรรค์ไปตามลำน้ำน่านผ่านขึ้นไปทางเหนือ ประมาณ
6 กิโลเมตร ถึงปากคลองหนองดุก เมื่อลอดใต้สะพานรถไฟเข้าไปก็จะถึงบริเวณบึง

     ทางรถยนต์
สามารถเข้าถึงบึงบอระเพ็ดได้ 2 ด้าน คือ

     1) ด้านเหนือ
ไปตามเส้นทางสายนครสวรรค์-ชุมแสง ทางหลวงหมายเลข 225 ประมาณ 9 กิโลเมตร
จะมีทางแยกขวาอีก 2 กิโลเมตร เข้าไปยัง สถานีพัฒนาประมงน้ำจืดบึงบอระเพ็ด
ในบริเวณมี ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด จัดแสดงตู้ปลาน้ำจืดชนิดต่าง ๆ
เช่น ปลากระโห้ ปลากระเบนขาว ปลากะพงขาว ปลาเทโพ ปลายี่สก ฯลฯ เปิดให้ชมฟรี
ทุกวัน เวลา 08.30-16.30 น. ยกเว้น วันพุธ

    
นอกจากนี้ยังมีบ่อเพาะพันธุ์จระเข้ มีเรือหางยาวนำชมบึง เรือลำเล็กจุได้ 5
คน ไม่รวมคนขับ ราคา 400 บาท เรือลำใหญ่จุได้ 10 คน ราคา 500 บาท
เรือจะล่องไปถึงเกาะลัดและกลับใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
สามารถนำอาหารไปรับประทานบนเรือได้ มีเรือบริการระหว่างเวลา 09.00-17.00 น.
แต่ถ้าล่องในช่วงแปดถึงเก้าโมงเช้าจะพบนกได้ง่ายกว่า
สอบถามรายละเอียดได้ที่สถานีพัฒนาประมงน้ำจืดบึงบอระเพ็ด โทร. 0 5627 4501,
0 5623 0183

     2) ด้านทิศใต้ของบึงบอระเพ็ด
จากตัวเมืองใช้ทางหลวงหมายเลข 3001 สายนครสวรรค์-ท่าตะโก ประมาณ 20
กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายตามป้ายอีก 4 กิโลเมตร ถึง อุทยานนกน้ำ หรือ
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าบึงบอระเพ็ด จัดทำเส้นทางศึกษาธรรมชาติ
ในบริเวณที่ตั้งสำนักงานมีสวนพักผ่อน มีนกหลายชนิดให้ชม

ข้อมูลโดย :
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สำนักงานใหญ่) / thaiza




 

Create Date : 10 มกราคม 2555   
Last Update : 10 มกราคม 2555 14:59:49 น.   
Counter : 1191 Pageviews.  

คุมข้าวกะเพรา-ไข่เจียว






การค้าภายในสั่งคุมราคาอาหาร เน้นเมนูทั่วไป ทั้งข้าวกะเพรา ข้าวไข่พะโล้ ข้าวไข่เจียว 25-35 บาทต่อจาน

ชี้เหตุสภาพอากาศผันผวน ส่งผลระบบการผลิตสินค้ากลุ่มอาหาร ยิ่งช่วงนี้ไข่ไก่มากขึ้น ราคาเริ่มอ่อนตัว แต่ละพื้นที่ราคาต่อจาน จะไม่เท่ากัน เพราะต้นทุนการผลิต วัตถุดิบ กับค่าสถานที่แตกต่างกัน ชี้แจงเหตุต้องกำหนดราคาแนะนำ จะได้เป็นข้อมูลให้ประชาชนเลือกบริโภค พร้อมทั้งฟื้นโครงการรถเข็นธงฟ้า อีกทางเลือกลดค่าครองชีพ

เมื่อวันที่ 9 ม.ค. นางผุสดี กำปั่นทอง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า

ใน
การประชุมผู้บริหารของกรมการค้าภายใน เมื่อวันที่ 9 ม.ค. นี้
กรมการค้าภายในเตรียมออกมาตรการดูแลราคาอาหารอย่างใกล้ชิดมากขึ้น
เนื่องจากสภาพภูมิอากาศในปีนี้จะ มีความผันผวนมากขึ้น จะส่งผลกระทบต่อระบบการผลิตสินค้าในกลุ่มอาหาร โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มปศุสัตว์ ที่ราคาเปลี่ยนแปลงมากที่สุดจากสภาพภูมิอากาศ เช่น ไข่ไก่ ที่ขณะนี้ผล ผลิตเริ่มมากขึ้น ทำให้ราคาเริ่มอ่อนตัวลง

นาง
ผุสดีกล่าวว่า ดังนั้น
ทางกรมการค้าภายในจะจับตาสินค้าในกลุ่มอาหารเหล่านี้อย่างใกล้ชิด
ด้วยการเข้ามาดูแลต้นทุน การผลิตอาหารสำเร็จรูป


โดยจะพิจารณากำหนดราคาแนะนำอาหารปรุงสุก ที่เน้นเมนูทั่วๆ ไป และใช้วัตถุดิบในระบบคุณภาพปานกลาง ในเบื้องต้นจะมีประมาณ 20 เมนู เช่น ข้าวผัดกะเพรา ข้าวไข่พะโล้ และข้าวไข่เจียว ภายในเดือนม.ค.นี้ ราคาจะอยู่ประมาณ 25-35 บาทต่อจาน
ราคาจะแตกต่างกันตามพื้นที่จำหน่าย
เนื่องจากจะพิจารณาต้นทุนค่าใช้จ่ายในการผลิตที่แตกต่างกัน และค่าสถานที่
เช่น ค่าเช่าในโมเดิร์นเทรด ค่าเช่าสถานที่ราชการ หรือในตลาดสด
และต้นทุนวัตถุดิบในแต่ละภาคที่แตกต่างกัน

"การกำหนดราคาแนะนำ จะเป็นทางเลือกให้ประชาชนใช้เป็นข้อมูลในการเลือกบริโภค ส่วนจะเริ่มดำเนินการกำหนดราคาแนะนำเมื่อไหร่จะพิจารณาอีกครั้ง และกรมจะฟื้นโครงการรถเข็นธงฟ้าขึ้นมาใหม่ เพื่อเป็นทางเลือกลดค่าครองชีพให้แก่ประชาชน" รองอธิบดีกรมการค้าภายในกล่าว

รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่รัฐบาลจะทยอยปรับขึ้นราคาก๊าซ เอ็นจีวีอีก 6 บาทต่อลิตร

โดย
ปรับเดือนละ 50 ส.ต.ต่อกิโลกรัม รวม 12 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค.
นั้น จากการศึกษาพบว่า จะมีผลต่อการปรับขึ้นราคาสินค้าน้อยมาก
แทบจะไม่กระทบต่อต้นทุนการผลิตเลย ไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์
อาจจะมีบ้างในสินค้ากลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่มีน้ำหนักมากในการขนส่ง เช่น
ปูนซิเมนต์ เหล็ก และกระเบื้อง ส่วนการปรับปรุงบัญชีรายการสินค้าควบคุมใหม่นั้น จะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมครม.ก่อนสิ้นเดือนม.ค.นี้
โดยจะต้องรอให้ผ่านการประชุมคณะกรรมการว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ
ที่นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์
เป็นประธานพิจารณาเสียก่อน

นางผุสดีกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังหารือแนวทางปรับปรุงโครงการรับจำนำข้าว ในส่วนที่ยังมีปัญหา

เช่น
การออกใบรับรองเกษตรกร การออกใบประทวน เนื่องจากพบว่าในโครง
การรับจำนำข้าวนาปี จากการที่รัฐบาลประกาศว่าจะรับจำนำข้าวเปลือกทุกเม็ด ทำให้เกิดปัญหาในบางพื้นที่ที่เกษตรกรนำข้าวเปลือกมาจำนำมากกว่าผลผลิตข้าว ที่แจ้งขึ้นทะเบียนไว้
และสูงกว่าเกณฑ์เฉลี่ยของจังหวัดที่กำหนดไว้ ดังนั้น
ในโครงการรับจำนำข้าวนาปรัง จะต้องดูว่า รัฐบาลจะยังรับจำนำทุกเม็ด
และการกำหนดราคาจะเป็นอย่างไร เท่ากับโครงการรับจำนำข้าวนาปีหรือไม่

รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวด้วยว่า กรมการค้าภายในจะออกประกาศในสัปดาห์หน้า

ภาย
ใต้มาตรา 25 ของกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ
ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในวงการค้าข้าว เช่น โรงสีข้าว ผู้ส่งออกข้าว
และตลาดกลางค้าข้าว จะต้องแจ้งปริมาณการครอบครองข้าว
ทั้งข้าวเปลือกและข้าวสาร
โดยในปัจจุบันกรมการค้าภายในให้แจ้งเฉพาะปริมาณข้าวเปลือก
แต่ของใหม่ให้แจ้งปริมาณครอบครองข้าวสารด้วย
เมื่อประกาศออกมาแล้วจะต้องแจ้งให้ทราบภายใน 7-10 วัน
เพื่อจะได้นำมาใช้เป็นข้อมูลในการบริหารจัดการข้าว ทั้งในส่วนของส่งออก
และสต๊อกข้าวในประเทศ เพื่อไม่ให้มีปัญหาขาดแคลน


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด




 

Create Date : 10 มกราคม 2555   
Last Update : 10 มกราคม 2555 14:58:26 น.   
Counter : 939 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  

ข่าวดี
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add ข่าวดี's blog to your web]