ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

เคล็ดลับการถนอมดวงตาเวลาใช้คอมพิวเตอร์

ปัจจุบันอาการทางสายตาที่เกิดจากการใช้คอมพิวเตอร์มีเพิ่มขึ้น จากสถิติพบว่า ผู้ใช้คอมพิวเตอร์จำนวนมากกว่า 50% มีอาการปวดตา ตามัว ตาแห้ง สายตาล้า และปวดศีรษะ รวมทั้งมีอาการอื่นๆ เช่น ปวดเหมื่อยคอและหลัง ซึ่งอาการเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นกับผู้ที่ใช้คอมพิวเตอร์มากกว่า 2 ชั่วโมงต่อวัน และยังมีตัวแปรอีกหลายประการที่ทำร้ายสายตาของเรา เช่น ชนิดของจอคอมพิวเตอร์ แสงสะท้อนจากจอคอมพิวเตอร์ ความสว่างของห้อง ท่านั่ง ฯลฯ


เคล็ดลับเพื่อถนอมดวงตาเวลาใช้คอมพิวเตอร์

1. กะพริบตาให้ถี่ขึ้น อาการตาแห้ง เกิดจากการที่เรากะพริบตาน้อยลง เนื่องจากมีสมาธิขณะทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ อัตราการกะพริบตาจะลดลงจาก 20 - 22 ครั้งต่อนาที เหลือเพียง 6 - 8 ครั้งต่อนาที ถ้าไม่อยากตาแห้ง ควรจะกะพริบตาให้ถี่ขึ้น หรืออาจใช้น้ำตาเทียมหยอดตา เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น

2. จัดวางคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสม ให้บริเวณหน้าต่างอยู่ทางด้านข้างของจอคอมพิวเตอร์ เพื่อลดแสงตกสะท้อนบนหน้าจอ ควรจัดให้มีระยะห่างระหว่างจอภาพกับตัวเราประมาณ 50 - 70 ซ.ม. จัดระดับจอภาพจากจุดศูนย์กลางของจอคอมพิวเตอร์ ให้อยู่ต่ำกว่าระดับสายตาประมาณ 4 - 9 นิ้ว ไม่ควรให้จอภาพอยู่สูงหรือต่ำเกินไป

3. ปรับความสว่างของห้อง ควรปิดไฟบางดวงที่ทำการรบกวนการทำงาน เพราะปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากความสว่างที่มากเกินไป ถ้ามีแสงจ้าจากหน้าต่าง ควรใช้มูลี่เพื่อปรับแสงให้ผ่านได้เพียงบางส่วน และไม่เข้าตาโดยตรง หลีกเลี่ยงการใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีผิวสะท้อน เช่น โต๊ะสีขาว ควรใช้วัสดุที่มีผิวด้าน ที่สะท้อนแสงไม่มากจะดีกว่า


4. เลือกใช้ตัวอักษรขนาดใหญ่ เวลาพิมพ์งาน ควรเลือกใช้ขนาดของตัวอักษรที่ใหญ่พอ และปรับความเข้มของตัวอักษรให้มากขึ้น ซึ่งขนาดตัวอักษรและความเข้มที่เหมาะสมจะสังเกตได้จากการที่เราอ่านตัวอักษรได้ในระยะห่างเป็น 3 เท่าของระยะที่นั่งทำงาน หรือเลือกใช้จอคอมพวิเตอร์ชนิด LCD (จอแบน) ซึ่งจะช่วยถนอนสายตาได้ดีกว่าจอแบบเก่า (CRT)

5. เลือกใช้แว่นที่เหมาะสมกับการใช้คอมพิวเตอร์ ควรเลือกใช้เลนส์สีเขียวอ่อน ที่ช่วยให้สบายตาภายใต้แสงจากหลอดไฟฟ้าฟลูออเรสเซนต์ และเพื่อลดแสงสะท้อนจากจอภาพ โดยเลือกแว่นตาที่มีกำลังขยายสำหรับระยะ 50 - 70 ซ.ม. (ระยะกลาง) ซึ่งค่ากำลังของเลนส์ดังกล่าวจะแตกต่างจากเลนส์อ่านหนังสือ หรือเลนส์มองใกล้ทั่วไป

6. พักสายตา ทุกๆ ชั่วโมง ควรเปลี่ยนอิริยาบถ หรือลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายบ้าง เพื่อพักสายตาและป้องกันอาการปวดเมื่อยจากการใช้คอมพิวเตอร์ติดต่อกันเป็นเวลานาน

credit:เอกสารเผยแพร่ ศูนย์เลสิคและรักษาสายตารัตนิน - กิมเบล (โรงพยาบาลจักษุ รัตนิน)




 

Create Date : 15 พฤศจิกายน 2554   
Last Update : 15 พฤศจิกายน 2554 22:11:09 น.   
Counter : 1221 Pageviews.  

โอว์ลิ่ง (Owling) ท่าถ่ายรูปท่านี้ ยังฮิตอยู่

โอว์ลิ่ง (Owling) ท่าถ่ายรูปท่านี้ ยังฮิตอยู่
ไม่เชื่อ ดูภาพด้านล่างนี้ ...


ตัวสุดท้ายนี้ ท่าทางจะทำยากหน่อย 55

(จริงๆ แล้วเป็นภาพสัตว์อ้วน น้ำหนักเกินพิกัดจ้า ไม่ได้เกี่ยวกับท่าฮิตถ่ายรูปแต่อย่างไร อิอิ)

ส่วนเจ้าสองตัวนี้ ก็อยากทำมั่ง


พยายามแล้วนะฮัพ .. แต่นั่งไม่ได้

สาวน้อยตัวนี้ก็อยากลอง

ได้แค่นี้อ่ะค่า
(แต่ปลายเล็บเธอ จิกซะ เซ็กซี่มากเลยนะตัว)

--------------------------------

โอว์ลิ่ง (Owling)

owling with pooh

สงสัยการทำท่าแพลงกิ้งถ่ายรูป จะล้าสมัยเสียแล้ว เพราะตอนนี้ท่าเลียนแบบ "นกฮูก" ที่เรียกว่า โอว์ลิ่ง (Owling) กำลังมาแรงแซงโค้ง นักเล่นเน็ตทั้งในสหรัฐ ออสเตรเลีย และอังกฤษ ต่างฮิตแอ๊กท่าดังกล่าวกันเอิกเกริก เพราะทำได้ง่ายในหลายสถานที่ ไม่น่าจะสกปรกเท่านอนกับพื้นอย่าง "แพลงกิ้ง" ไม่ต้องใช้แรงกระโดดเหมือน "เลวิเทติ้ง" ไม่ต้องนั่งลงทั้งตัวอย่าง "พับเพียบไทย" เพราะแค่นั่งยองๆ ลงไป คุณก็อินเทรนด์ได้ทันที

และประเมินว่าขณะนี้มีคนเล่นท่าโอวลิ่งไปแล้วกว่า 1,000 พันราย หลังจากที่ท่านี้เพิ่งเกิดขึ้นไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ต้นกำเนิดเชื่อว่ามาจากออสเตรเลีย

ยังไงก็ระวังอย่าปีนไปทำท่า โอว์ลิ่ง ในที่สูงนักล่ะ เดี๋ยวตกลงมา จะหาว่าฮูกไม่เตือน กรู้ๆ

ป.ล. สาวๆ จะทำท่านี้ก็ระวังกันด้วยจ๊ะ เดี๋ยวโป๊ อิอิ




 

Create Date : 15 พฤศจิกายน 2554   
Last Update : 15 พฤศจิกายน 2554 22:10:36 น.   
Counter : 1657 Pageviews.  

iPad 2จากเอไอเอสวางขายวันที่ 18 พ.ย.นี้พร้อมโปรฯแพ็คเกจสุดคุ้มจากเครือข่าย Wifi และ 3G



ประเทศไทย, กรุงเทพฯ 15 พฤศจิกายน 2554 : บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส ประกาศการเริ่มวางจำหน่าย iPad 2 ในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2554 พร้อมโปรโมชั่นแพ็คเกจสุดคุ้มจากเครือข่าย Wifi และ 3G

iPad 2 ถือเป็นอีกขั้นของการพัฒนาสุดยอด Device จาก Apple ใน Generation ที่ 2 ด้วยดีไซน์ใหม่ที่โดดเด่น บางเบากว่าเดิมถึง 33% และเบากว่าถึง 15% เมื่อเทียบกับ iPad รุ่นแรก ในขณะที่คุณภาพและขนาดของหน้าจอยังคงสุดยอดเช่นเดิม ด้วยคุณสมบัติของหน้าจอที่แสดงผลขนาด 9.7 นิ้ว iPad 2 มาพร้อมด้วยระบบประมวลผล New Dual Core A5 เพื่อทำให้สามารถใช้งาน Multi Media อย่างรวดเร็ว คมชัด ผ่านกล้องทั้ง 2 ด้าน

โดยกล้องด้านหน้าเป็น VGA ส่วนกล้องด้านหลังคมชัดสุดๆด้วยสเป็ค 720 p HD Video ที่จะทำให้การใช้งาน Facetime และถ่ายภาพได้แบบไร้ข้อจำกัด ตรงใจในแบบคุณ
ทั้งนี้ด้วยคุณสมบัติทั้งหมดดังกล่าวของ iPad 2 ที่บางกว่า , เบากว่า และเร็วกว่า iPad 2 จากเอไอเอสจะทำให้ลูกค้าใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพแน่นอน

"เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่วันนี้เอไอเอสได้นำเอาสุดยอดนวัตกรรมอย่าง iPad 2 มามอบให้แก่ลูกค้า พร้อมแพ็คเกจการใช้งาน Data สุดคุ้มเพื่อลูกค้าทั้งแบบเติมเงิน และรายเดือน" นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการตลาด เอไอเอส กล่าว

ลูกค้าเอไอเอสสนใจสัมผัสและซื้อ iPad 2 จากเอไอเอส ได้ตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน ศกนี้ เป็นต้นไป ผ่านทาง AIS Shop, ร้านเทเลวิซที่ร่วมรายการ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ais.co.th/iPad ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ iPad ชมได้ที่ www.apple.com/iPad


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน




 

Create Date : 15 พฤศจิกายน 2554   
Last Update : 15 พฤศจิกายน 2554 22:06:55 น.   
Counter : 916 Pageviews.  

ทรงผมแนวๆที่เกาหลีต้องชิดซ้าย
















 

Create Date : 15 พฤศจิกายน 2554   
Last Update : 15 พฤศจิกายน 2554 22:06:18 น.   
Counter : 3262 Pageviews.  

มาปลูกข้าวไทยลอยน้ำกันเถอะ

เราต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัวให้เข้ากับธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา อย่างสภาพดินฟ้าอากาศที่ปรับปรวนของประเทศไทยทำให้เกษตกรทำงานได้ลำบาก ปลูกข้าวตามฤดูกาลไม่ได้ ลองมาดูการปรับตัวของเกษตกรไทยที่เรานำมาฝากกัน


การปลูกข้าวลอยน้ำ
คุณสุพรรณ เมธสาร เกษตรกร แห่งบ้านสามชุก อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี ที่ทดลองไว้ได้ผลผลิตจริง และประหยัดต้นทุน วิธีการปลูกข้าวแบบลอยน้ำ ทำให้เกษตรกรสามารถลดต้นทุนเรื่องการเตรียมดิน น้ำมันเชื้อเพลิงและตัดปัญหาการดูแลเรื่องน้ำไปเลย จากการคำนวณของคุณสุพรรณ หากทำแพปลูกข้าวในพื้นที่ 1 ไร่ ผลผลิตที่ได้รับ เฉลี่ย 70 ถัง /ไร่ ซึ่งวิธีนี้จะไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม จากการเผาและลดการใช้สารเคมีต่าง ๆ ทำให้ลดต้นทุนได้มากวัสดุอุปกรณ์ยังสามารถนำมาใช้ครั้งต่อไปได้ คุณสุพรรณได้เตรียมการขยายผล เรื่องการปลูกข้าวบนน้ำ โดยจะใช้ผักตบชวาเป็นฐานซึ่งจะนำมาเผยแพร่ในครั้งต่อไป

วัสดุอุปกรณ์ที่ต้องใช้
1.ฝากล่องโฟมเก่า ( กล่องโฟมใส่ผลไม้)
2.กระฐางพลาสติกสำหรับปลูก
3.ดินเลนสำหรับปลูก
4.เมล็ดพันธุ์ข้าว
5.ลำไม้ไผ่สำหรับทำแพ
6.เชือกฟาง
วิธีการปลูกข้าวลอยน้ำ
1.นำเมล็ดพันธุ์ข้าวไปเพาะในแปลงเพาะ เหมือนกับการเตรียมกล้าพันธุ์สำหรับดำนาทั่วไป
2.นำลำไม้ไผ่มาทำเป็นกรอบ 4 เหลี่ยม เพื่อทำเป็นแพ ในพื้นที่ๆจะปลูกข้าวลอยน้ำ
3.นำฝากล่องผลไม้( ฝากล่องโฟม ) มาเจาะรูให้มีขนาดเท่ากระถางพลาสติก แต่ให้อุ้มตัวกระถางไว้ได้
4.นำกระถางปลูกใส่ดินเลนให้เต็ม
5.เมื่อต้นกล้ามีอายุ 10 – 15 วันจึงแยกกล้ามาปลูกในกระถางที่เตรียมไว้ ประมาณ 4-5 กอต่อกระถาง
6.นำกระถางเพาะกล้าใส่ในฝากล่องโฟม แล้วจึงนำไปลอยน้ำ ในกรอบไม้ไผ่ที่เตรียมไว้
7.ใช้เชือกผูกกล่องโฟมกับแพไม้ไผ่ เพื่อป้องกันการพัดพาของน้ำ ไม่ให้ไหลไปที่อื่น
การดูแลและการใส่ปุ๋ย
คุณสุพรรณเน้นให้เกษตรกรที่ ทำแบบเกษตรอินทรีย์และอนุรักษ์ศัตรูธรรมชาติ ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพบำรุงข้าว ช่วงที่ข้าวมีอายุ 30และ 55 วัน หลังการปลูก ใส่ปุ๋ยอินทรีย์อัตรา 1 กำมือ/กระถาง / ครั้ง หากมีแมลงศัตรูพืช ก็ใช้น้ำหมักสมุนไพรฉีดพ่น วิธีนี้เกษตรกรไม่ต้องเสียเวลาดูแลเรื่องน้ำเลย เพราะข้าวจะได้รับน้ำตลอดในช่วง ระยะเวลาการปลูก



credit : www.kasetorganic.com

รายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ //www.iurban.in.th/highlight/plantrice




 

Create Date : 14 พฤศจิกายน 2554   
Last Update : 14 พฤศจิกายน 2554 21:46:50 น.   
Counter : 3509 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  

ข่าวดี
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add ข่าวดี's blog to your web]