ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

Chrome เขี่ย Firefox ตกอันดับ 3 แล้ว

Chrome เขี่ย Firefox ตกอันดับ 3 แล้ว

รายงาน ข่าวล่าสุด StatCounter และ Net Application เพิ่งจะรายงานสถิติการใช้เว็บบราวเซอร์ทั่วโลก ซึ่งผลปรากฎว่า สถิติการใช้งาน Chrome บราวเซอร์อายุแค่ 3 ปีของ Google สามารถเอาชนะ Firefox ได้แล้ว แม้ว่า Net Applications จะยังคงให้ Firefox นำอยู่ 4% แต่แนวโน้มชัดเจนว่า Chrome จะสามารถขึ้นแซง Firefox รั้งอันดับสองรองจาก IE ในอีกไม่นานนี้

StatCounter รายงานว่า Chrome สามารถครองส่วนแบ่งตลาดการใช้งานทั่วโลกมากถึง 25.7% เพิ่มขึ้นจากเมื่อสองเดือนที่แล้ว 4.66% ในขณะที่ Firefox อยู่ที 25.23% เรียกได้ว่า เฉือนกันแค่ปลายจมูกจริงๆ อย่างไรก็ตาม ทางด้าน Net Applications กล่าวว่า Chrome มีการเติบโตแค่ 0.7% ในเดือนพฤศจิกายน ขยับขึ้นเป็น 18.2% ในขณะที่ Firefox ลดลง 0.4% อยู่ที่ 22.1% โดยคาดการณ์กว่า Chrome จะสามารถเอาชนะ Firefox ได้ภายในเดือนมีนาคม 2012

ต้อง ถือว่า เป็นความสำเร็จที่รวดเร็วมากๆ ของ Google ทีใช้เวลาแค่ 3 ปีกว่าเท่านั้นในการเข้าสู่สมรภูมิบราวเซอร์ ซึ่งหากเทียบกับ Opera ที่อยู่ในตลาดนี้มาหลายปีแล้ว แต่ส่วนแบ่งยังคงน้อยนิด เพียงแค่ 2% เท่านั้น ทางด้าน Internet Explorer ของ Microsoft ในฐานะผู้นำตลาดก็ยังคงรักษาตำแหน่งไว้ได้ โดยมีส่วนแบ่งอยู่ระหว่าง 40.63% - 52.63% แต่ก็มีแนวโน้มที่จะลดลงมาเรื่อยๆ แต่ไม่เร็วมาก ทางด้าน Safari ของ Apple ก็ยังคงครองส่วนแบ่งตลาดเท่าๆ เดิมคือ ประมาณ 5-6% สำหรับบนเดสก์ทอป แต่หากเป็นโมบาย Net Applications รายงานว่า Safari ครองส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 55% (ต้องขอบคุณ iPhone, iPod Touch และ iPad) ในขณะเดียวกัน บราวเซอร์ Android บนโมบายกำลังเบียด Opera Mini โดยทิ้งห่างแค่ 4% เท่านั้น (Android : 16%, Opera mini: 201.%)

อย่าง ไรก็ตาม โมบายบราวเซอร์ยังเป็นตลาดที่ค่อนข้างเล็ก แต่ด้วยการเติบโตที่รวดเร็วของสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต อาจส่งผลให้ตัวเลขนี้มีนัยสำคัญมากขึ้นในปีหน้า โดย Net Applications รายงานว่า ปัจจุบันการใช้บราวเซอร์บนคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลครองส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 92% ในขณะที่อุปกรณ์โมบายจะอยู่ที่ 6.7%


แถมจ๊ะ

Credit By //www.airp.co.th




 

Create Date : 12 ธันวาคม 2554   
Last Update : 12 ธันวาคม 2554 14:06:00 น.   
Counter : 1396 Pageviews.  

ห้องน้ำ...ไม่ไหวน่ะ!!!

ห้องน้ำ...ไม่ไหวน่ะ




 

Create Date : 12 ธันวาคม 2554   
Last Update : 12 ธันวาคม 2554 14:04:57 น.   
Counter : 1198 Pageviews.  

ไทยติดอันดับ 2 "ประเทศที่เรียนหนักสุดในโลก" รองจากญี่ปุ่น

ไทยติดอันดับ 2 "ประเทศที่เรียนหนักสุดในโลก"
รองจากญี่ปุ่น

นักวิจัยนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ สนับสุนโดยสำนักงานกองทุนสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า ประเทศไทยถูกจัดลำดับที่มีเวลาเรียนที่เยอะที่สุดในโลก เมื่อรองมาจากประเทศญี่ปุ่น เหตุที่เรียนหนักจึงส่งผลทำให้มีเด็กไทยต้องออกกลางคันจำนวนปีละ 900.000 คน ต่อปีและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี และมีปัญหาตั้งครรภ์ ก่อนวัยอันควรจำนวน 1.500.000 คน ใน 2 ปีที่ผ่านมา และยังมีเยาวชนติดโรค HIV จำนวน 1.358.000 คนใน 3 ปี และจะเพิ่มขึ้นทุกปี และมีค่าเรียนที่แพงจนมีเด็กไทยหลายคนเลือกทำอาชีพที่ผิดกฎหมายกันมากขึ้น จำนวน 386.250 คนต่อปี
เด็กที่ประกอบอาชีพที่ผิดกฎหมาย เช่น ข่ายตัว ค้าขายเสพติด เป็นต้น สาเหตุที่เด็กทำผิด เฉพาะต้องการหาเงินเป็นค่าเรียน และการเรียนพบว่าเด็กไทยมีเวลาเรียนวันละ 8-10 คาบต่อวัน แต่มีเด็กจำนวนไม่น้อยไม่อยากเรียนหนังสือเพราะเบื่อหน่วย และที่น่าเป็นห่วงที่สุด เด็กจำนวนร้อยละ 87 มีเวลาพูดคุยกับพ่อแม่วันละ 10 นาทีจึงทำให้เด็กไม่มีเวลาได้บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ จึงทำให้พ่อแม่ไม่รู้ชีวิตความเป็นอยู่ในโงเรียนของเด็กเลย หรือน้อยมาก และพบอีกว่าเนื้อหารายวิชาต่างๆ มีแต่เนื้อหาที่มีความรู้แต่ไม่มีศิลธรรม จึงทำให้เด็กกลายเป็นคนขาดศิลธรรม ไม่รู้จักเสียสละ ไม่รู้จักทำเพื่อส่วนรวมเพื่อผู้อื่น และกลายเป็นคนเห็นแก่ตัวในที่สุด เมื่อเด็กจบไปเด็กอาจใช้ความรู้ที่มีมาก่อน นำไปใช้ในทางที่ผิดศิลธรรมในที่สุดได้เช่นกัน

และมีเด็กไทยตั้งแต่ 7 -20 ปีที่ต้องฆ่าตัวตายด้วยผลการเรียนตกตํ่า หรือสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ ที่น่าตกใจมีจำนวนที่เด็กไทยที่ฆ่าตัวตายปีละ 300.000 คนต่อ อีกปัญหาหนึ่งคือ จำนวนนักเรียนในห้องเรียนมากเกินไป ตามมาตรฐานการศึกษาจำนวนนักเรียนต่อห้องไม่ควรเกิน 30 คน

"คำพูดที่สรุปภาพของการศึกษาไทยได้อย่างเจ็บแสบว่าเป็นแบบ "ลู่วิ่งเดี่ยวปลายตีบ" เด็กทั้งประเทศเหมือนกำลังวิ่งอยู่บนลู่วิ่งที่แข่งขันด้านความเป็นเลิศทาง วิชาการ แต่ยิ่งวิ่ง ปลายลู่ยิ่งตีบ เด็กส่วนใหญ่พ่ายแพ้ ต้องหล่นออกจากลู่ มีน้อยคนเท่านั้นที่วิ่งชนะ สภาพเช่นนี้บั่นทอนคุณภาพชีวิตของเด็กๆ ทุกคน ถ้าวันนี้ถ้าระบบการศึกษาไทยยังไม่เปลี่ยน ก็เดินหน้าต่อไปไม่ได้"
ขอขอบคุณข้อมูลจาก หนังสือพิมพ์เดลินิวส์




 

Create Date : 12 ธันวาคม 2554   
Last Update : 12 ธันวาคม 2554 14:03:21 น.   
Counter : 1644 Pageviews.  

โมเดลโครงไก่ ร้านฟาสต์ฟู้ด ศิลปะจากเศษอาหาร














 

Create Date : 12 ธันวาคม 2554   
Last Update : 12 ธันวาคม 2554 14:00:48 น.   
Counter : 2004 Pageviews.  

ญี่ปุ่นเผยโฉมยานยนต์ในอนาคต ในงานโตเกียว มอเตอร์โชว์




























 

Create Date : 12 ธันวาคม 2554   
Last Update : 12 ธันวาคม 2554 13:59:53 น.   
Counter : 1628 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  

ข่าวดี
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add ข่าวดี's blog to your web]