ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

"ชีวิต ความฝัน เป็นของเรา เราเลือกได้"

สมัยที่ฉันยังเป็นเด็ก ...ความฝันของฉันคือ...วันหนึ่งฉันจะเติบโตเป็นลูกที่ดี ดูแล พ่อ และแม่ และนักเขียน นักเดินทางท่องเที่ยวไปในโลกอันกว้างใหญ่ ซึ่งมันเป็นความฝันใครบางคนก็อาจจะคิดก็ฝันเช่นเดียวกับกับฉันแต่...ทว่า ในโลกของความจริง...การเติบโตเป็นผู้ใหญ่นั้น มันอยากเย็นแสนเข็ญกว่าที่ความคิดความฝันของเราในสมัยเด็ก อาจเป็นเพราะว่าเมื่อเราเป็นเด็ก เรามี พ่อ แม่ และญาติพี่น้อง อีกทั้งเพื่อน ๆ อยู่รอบตัวเรา ทำให้เวลาที่เราเจ็บ เราเหนื่อย จนเราหลงลืมความเจ็บปวด และอ่อนล้า
มีหลาายครั้งที่ฉันเหนื่อยเหลือ.........เกินกับการวิ่งไล่ล่า หาความ สำเร็จ ซึ่งในแต่ล่ะครั้งก็จะมีคำตอบไม่เหมือนกัน และมีหลายที่ "ผิดหวัง" "ทดท้อ" แต่ก็มีอีกหลายครั้งที่ได้พบ กับคำว่า "ความสมหวัง " และเผชิญหน้ากับ คำว่า "ความสำเร็จ" ซึ่งกว่าจะได้มานั่นบ้างครั้งต้องแลกมาด้วยหยาดเหงื่อและน้ำตา บ่อยครั้งที่เฝ้าถามตัวเองอยู่เสมอว่า "ความฝันในวัยเด็กฉันหายไปไหน" ใครกันนะที่ขโมยความฝันของฉันไป
ทว่า...!!!! คำตอบที่ได้ก็คือ ตัวฉันเองต่างหาที่ละทิ้งความฝันของตัวเองไป "ฉันต่างหากที่ไขว่คว้าที่จะอยู่บนโลกใบนี้เหมือนปตุชนคนธรรมดา" ยินยอมและยินดี...ที่จะเสพวัตถุ ยอมที่จะปล่อยชีวิตไปตามกระแสสังคม ตัวของฉันเองที่วิ่งเข้าไปหากับดักและ วังวนของชีวิต แล้ววันหนึ่งฉันพบกับสัจธรรมเพราะฉันได้ดูรายการโทรทัศน์ช่องหนึ่งที่นำ ชีวิตของคุณยายท่านหนึ่งมาออกรายการ และบอกว่าคุณยายสามารถอยู่ได้ด้วยเงินเพียง 1000 บาทต่อดือน ฉันฟังแล้วรู้สึกสะท้อนชีวิตตัวเองเป็นอย่างมาก "เงิน 1000 บาท ฉันใช้ซื้อของที่ไม่จำเป็นเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็หมด" แต่กลับตรงกันข้าม 1000 บาท กลับมีคุณค่าอย่างมากกับคนอีกหลาย หลายชีวิต
จากวันนั้นมา "ฉันเฝ้าถามตัวเองเสมอว่า เรามีชีวิตอยู่เพื่ออะไร" เพราะ ตลอดเวลาที่ผ่านมาฉันไม่ได้กลับไปบ้านที่ต่างจังหวัดเลย จำได้ว่า เมื่อ 4 ปีที่แล้ว.....ฉันบอกพ่อและแม่เสมอว่างานยุ่งมากกลับบ้านเหนื่อยจัง....จำ ได้ว่า 1 ปี ฉันกลับบ้าน 2 ครั้ง ซึ่งน้อยมาก จนวันหนึ่งฉันสูญเสีย....แม่.....ซึ่งเป็นที่รักของฉันไป ตั้งแต่ นั้นจนวันนี้ฉันเฝ้าโทษตัวเองเสมอว่าฉัน ไม่ได้เป็นลูกที่ดีที่สุด หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา ฉันจะหาเวลากลับบ้านทุกครั้งที่สามารถทำได้ ทว่าด้วยหน้าที่การงานมันไม่สามารถทำได้ดั่งใจหวัง ฉันต้องถามตัวเองอีกครั้งว่า "ฉันยอมที่จะสูญเสียคนที่ฉันรักอีกหรือเปล่า" เพียงเพราะต้องการเติบโตในหน้าที่การงาน ต้องการมีทรัพย์สินเงินทองมากมาย แต่กลับต้องสูญเสียคนที่รักเราที่สุดไป ซึ่งฉันเองก็มีบทเรียน แน่นอนที่สุด...ฉันไม่มีวันให้ประวัติศาสตร์เกินขึ้นอีกครั้งในชีวิตนี้ อย่างแน่นอน
เพียงแต่คิดได้เท่านี้..... ฉันก็สามารถก้าว เดินออกมาจากพันธนาการต่างๆ ฉันสารมารถปดมันออกไปจากชีวิตของฉันได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการดำเนินชีวิต การทำงานฉันไม่ต้องเป็นมนุษย์อ๊อฟฟิต ฉันสามารถทำงานได้ และฉันก็มี "เวลา" ที่จะอยู่กับคนที่ฉันรัก เพราะฉันรู้ว่าเหลือเวลาที่เราพ่อ ลูก จะอยู่ด้วยกันอีกไม่นาน....เพราะพ่อก็อายุมากขึ้นทุกที ฉันจะไม่ปล่อยเวลาให้ดินจากฉันไปอีกแน่นอน ดังนั้น ฉันจึงเลือกทางของฉันเอง เพราะชีวิตเป็นของฉัน จากนี้ไปฉันบอกกับตัวเองเสมอว่า ฉันจะตามหาความฝันของฉัน" ฉันจะอยู่เพื่อคนที่ฉันรัก และรักฉัน
จากนี้ไปฉันจะมีเศรษฐกิจพอเพียง ในแบบฉบับของฉัน ฉันจะเดินตามรอยเท้าของพ่อ "พ่อของคนไทยทั้งประเทศ" หลายคนกำลังรู้สึกกลัวกับการตัดสินในเรื่องบางเรื่องขอให้คุณรู้เถอะว่า "ชีวิต ความฝัน เป็นของเรา เราเลือกได้" ฉันพร้อมจะเป็นกำลังใจให้ทุกคนเสมอที่จะก้าวออกมาจากสิ่งที่คุณกลัว....มอง ไปข้างหน้าสิ แสงสว่างรอคุณอยู่...
หลุด ___สาวข้างบ้าน
ขอบคุณเครดิต////www.jobpub.com/



Create Date : 17 พฤศจิกายน 2554
Last Update : 17 พฤศจิกายน 2554 21:59:10 น. 0 comments
Counter : 1657 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ข่าวดี
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add ข่าวดี's blog to your web]